“พี่จื่อจู๋พูดไม่ผิด แกมันไอ้ไร้น้ำยา ไร้ยางอายกล้าไปประจบคุณหนูกงซุน ครั้งนี้มาร่วมงานเลี้ยงใหญ่ของตระกูลนิ่ง คิดจะทำอะไรอีก? อยากประจบคุณหนูตระกูลเศรษฐีเพื่อเกาะผู้หญิงกิน? หรือไม่ก็ไปเป็นแมงดาเกาะเศรษฐีคนไหน แล้วตามมาเบิกหูเบิกตา?” โจยู่ถานพูดจาเสียดสี ดูถูกหลินอิ่งจากใจ
“ฉันว่านะ หลินอิ่ง ไอ้หมาไร้น้ำยาอย่างแก ครั้งที่แล้วที่เมืองชิงหยูนก็ให้บอดี้การ์ดมาลงมือกับพวกเรา แล้วไปซ่อนที่ไหน? ฉันจะจัดการกับแก แกกลับทำเป็นหายตัวไป ตกใจจนกลัวเหรอ?” โจตงพูดและหัวเราะเย็นชา
“คิดไม่ถึง จะได้ตัวแกที่ตี้จิง ครั้งนี้ ฉันจะดูซิว่าแกจะหนีไปไหนได้อีก” โจตงสายตาโหดเหี้ยม “พี่จู๋ ไอ้ไร้น้ำยาคนนี้แหละ ต้องรบกวนพี่ใช้ความสัมพันธ์หน่อย จัดการสั่งสอนมันหน่อย”
พูดจบ โจตงก็ทำหน้าได้ใจ ท่าทางเหนือชั้นกว่า
เขาติดตามกงซุนจื่อจู๋คุณชายใหญ่แห่งตระกูลกงซุนท่านนี้มาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลนิ่ง ฐานะตำแหน่งก็ต้องสูงกว่าหลินอิ่งอยู่แล้ว
กับหลินอิ่งที่เป็นเพียงลูกเขยไร้น้ำยาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ร่วมงานเลี้ยงใหญ่โตแบบนี้ด้วยซ้ำ ต้องใช้วิธีที่ตกต่ำเพื่อเข้ามาแน่นอน
ส่วนกงซุนจื่อจู๋นั้นเป็นถึงตัวแทนของตระกูลกงซุนแห่งตี้จิง มาเพื่อร่วมงานของตระกูลนิ่ง แค่บอกกับคนของตระกูลนิ่งหน่อยเดียว ก็มีคนมาโยนหลินอิ่งออกจากงานแน่
รอถึงตอนนั้น ค่อยให้กงซุนจื่อจู๋ช่วย ในดินแดนตี้จิงแห่งนี้ จะสั่งสอนหลินอิ่งยังไง ก็สั่งสอนจัดการได้อย่างง่ายดาย กับไอ้ไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่งนี่ เป็นตัวอะไรในตี้จิงแห่งนี้? ไม่มีแม้แต่ความสามารถในการต่อสู้กลับ
“เรื่องเล็ก กับคนไร้น้ำยาไร้ยางอายแบบนี้ ฉันจะจัดการมันยังไงก็ได้ทั้งนั้น” กงซุนจื่อจู๋พูดอย่างสบายใจ ไม่มีลูกเขยไร้น้ำยาที่มาจากต่างจังหวัดแบบนี้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
หลินอิ่งสีหน้านิ่งเฉย มองกงซุนจื่อจู๋ไปทีหนึ่ง
“คุณเป็นคนของตระกูลกงซุน?”
เขาคิดไม่ถึง ตระกูลนิ่งจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ จะได้เจอกับไอ้หน้าโง่ของตระกูลโจสองคนนี้ อีกอย่างยังประจบคนของตระกูลกงซุนมาด้วย
ยังคิดว่า ประจบคนรุ่นหลังของตระกูลกงซุนคนหนึ่ง ก็ได้เกาะองค์พระแล้วหรือ?
“พวกนายสองคน นึกว่าเกาะตระกูลกงซุน ก็มาอวดดีกับฉันได้เหรอ?” หลินอิ่งหัวเราะ “ลืมแล้วใช่ไหม ที่เมืองชิงหยูน ถูกคนลากตัวออกจากงานยังไง?”
พูดถึงเรื่องที่ถูกโยนออกจากงาน โจยู่ถานกับโจตงสีหน้าแดงก่ำ ทั้งอายทั้งโกรธ
“แก แกมันไอ้ไร้น้ำยายังกล้าอวดดีเหรอ?” โจยู่ถานพูดอย่างโมโห รู้สึกว่าถูกไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งดูถูก ในใจก็รู้สึกโมโห
“แกยังกล้าพูดเรื่องนี้เหรอ? ยังมีหน้ามาพูด? แกมันไอ้คนไร้ยางอาย ครั้งที่แล้วหลังจากกลับไปแล้ว ฉันก็หาแกทั่วเมืองชิงหยูน ก็หาไม่เจอ ไม่ใช่กลัวจนฉี่ลาดกางเกง? แล้วไปซ่อนตัวเหรอ?” โจตงถามอย่างโมโห
เท่าที่เขาดูแล้ว หลินอิ่งก็เป็นเพียงไอ้ไร้น้ำยาที่ไร้ยางอายคนหนึ่ง ก็ทำได้เพียงพูดจาอวดดี หลังจากเกิดเรื่องพาคนไปหาเขา แต่ไม่รู้ไปซ่อนตัวไว้ไหน
ยังกล้ามาพูดอวดดีตรงนี้ คิดว่าอยู่ในงานของตระกูลนิ่ง ดังนั้น เลยคิดว่าตัวเองทำอะไรเขาไม่ได้?
“แกคิดว่า ฉันทำอะไรแกไม่ได้เหรอ?” โจตงพูดเสียงเย็นชา “ตอนอยู่เมืองชิงหยูน ได้ไร้น้ำยาอย่างแกก็ไปเกาะตระกูลหวาง มีคุณหนูใหญ่ของตระกูลหวางคอยคุ้มหัวแก ก็คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า”
“แกก็ไม่รู้จักดูบ้าง ที่นี่คือตี้จิง กับแค่ความสัมพันธ์เล็กน้อยในเมืองชิงหยูนของแก จะทำอะไรได้? ไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว” โจตงพูดอย่างสีหน้ามั่นใจ “คนที่ยืนข้างฉันคนนี้ ก็คือคุณชายของตระกูลกงซุนแห่งตี้จิง กงซุนจื่อจู๋”
หลินอิ่งส่ายหัว ยิ้มเย็นชาที่มุมปาก
“ทำไม? ว่าแกแล้วไม่พอใจหรือไง? ไอ้ไร้น้ำยาไม่รู้จักเจียมตัว” กงซุนจื่อจู๋ต่อว่าเสียงเย็นชา
สำหรับลูกเขยไร้น้ำยาที่มาจากเมืองตงไห่อย่างหลินอิ่งแบบนี้ เห็นคุณชายตระกูลกงซุนแห่งตี้จิงอย่างเขาแล้ว ทำไมถึงยังมีท่าทางแบบนี้?
สำหรับฐานะของเขาแล้ว ควรต้องเรียกเขาว่าคุณชายกงซุนอย่างเคารพ แล้วรีบเข้ามาประจบ แบบนี้ถึงจะถูก
“หลินอิ่ง ก่อนหน้านี้แกก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยประจบคุณหนูกงซุนชิวอวี่ของตระกูลกงซุนไม่ใช้เหรอ? ถ้าอย่างนั้นแกก็ต้องรู้ว่าตระกูลกงซุนเป็นตระกูลยังไงในตี้จิง” โจยู่ถานพูดและยิ้มอย่างเย็นชา “และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านายคนนี้ กงซุนจื่อจู๋ ก็คือคนที่กงซุนชิวอวี่ต้องเรียกว่าพี่ชาย”
“ตอนนี้ แกรู้ว่าไอ้หมาไร้น้ำยาอย่างแก กำลังพูดกับคนระดับไหนแล้วใช่ไหม?” โจยู่ถานพูดจาเสียดสี
พวกเขาดูถูกหลินอิ่งแต่แรกแล้ว ยังอยากหาเรื่องหลินอิ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดว่าตอนนี้มีกงซุนจื่อจู๋คอยหนุนหลังอยู่ ยิ่งมั่นใจเต็มที่
กงซุนจื่อจู๋สายตามีแววแห่งความได้ใจ ยังคงรักษารอยยิ้ม สำหรับคำพูดยกย่องแบบนี้ รู้สึกพอใจอย่างยิ่ง
“หลินอิ่ง ได้ยินว่าครั้งที่แล้วแกให้บอดี้การ์ดจัดการกับโจตงสองพี่น้อง กล้ามากนัก แม้แต่เพื่อนฉันแกยังกล้าทำ? ตอนนี้ แกก้มหัวขอโทษเดี๋ยวนี้ จากนั้น ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ดีๆ” กงซุนจื่อจู๋พูดด้วยน้ำเสียงโอหังอย่างคนที่อยู่เหนือกว่า
หลินอิ่งกำลังจะส่งสายตาให้ฮาเดสลงมือ จัดการกับแมลงวันกวนใจคนนี้
ทันใดนั้น อูหยางก็พอบอดี้การ์ดสองคนเดินมา เห็นพวกหลินอิ่งพอดี จึงเข้ามาทักทาย
อูหยางเป็นพ่อบ้านคนสนิทของนิ่งซวน เมื่อนิ่งซวนขึ้นตำแหน่งผู้ถืออำนาจของตระกูลนิ่งแล้ว ตำแหน่งในตระกูลนิ่งก็สูงขึ้น งานเลี้ยงขึ้นตำแหน่งครั้งนี้ เขาเป็นคนคอยช่วยเหลือนิ่งซวนในการจัดงาน ทำหน้าที่ดูแลงานทั้งหมด
“ประธานหลิน ทางนี้ มีเรื่องอะไรให้ช่วยไหมครับ? สั่งผมได้ตลอดนะครับ” อูหยางพูดอย่างเคารพ
กงซุนจื่อจู๋ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่พอใจ เปิดปากพูดต่อว่า “แกเป็นใครกัน? ไม่เห็นหรือว่าฉันกำลังพูดอยู่ กล้าเข้ามาพูดแทรก?”
“ผมเป็นคนรับผิดชอบดูแลงานขึ้นตำแหน่งของตระกูลนิ่งในครั้งนี้ อูหยาง” อูหยางมองกงซุนจื่อจู๋สายตาเย็นชา “คุณชายท่านนี้ ขอให้ท่านหุบปาก รักษาความสงบ อย่ารบกวนผมรายงานเรื่องงานกับประธานหลิน เข้าใจไหม?”
“นี่มัน หมายความว่ายังไง?” กงซุนจื่อจู๋สีหน้าลังเล ฟังความหมายในคำพูดของอูหยางไม่เข้าใจ
ก่อนมาร่วมงานตระกูลนิ่ง เขาได้ยินว่าคนดูแลงานทั้งหมดคืออูหยาง เป็นคนสนิทของนิ่งซวน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฐานะตำแหน่งของนิ่งซวน ยังห่างกับเขาอีกไกล เลขาของนิ่งซวนกล้าพูดแบบนี้กับเขา เขาต้องเข้าไปตบหน้าแน่นอน
แต่วันนี้ไม่เหมือนกันแล้ว นิ่งซวนก็ไม่รู้ไปได้โชคมาจากไหน แค่หันตัวก็กลายเป็นผู้ถืออำนาจของตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงไปแล้ว ทะยานขึ้นฟ้าทันที อำนาจเงินทองไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว แม้กระทั่งคุณชายตระกูลกงซุนอย่างเขา ก็ไม่กล้าหาเรื่องนิ่งซวน
หลินอิ่งมองไปที่อูหยาง พูดเสียงเรียบ “อูหยาง มาพอดีเลย ลากตัวไอ้ปากเหม็นสองคนนี้ออกไป ตบจนปากแตก”