หลินอิ่งสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่มองคนใส่ชุดคนแกสีเหลืองด้วยซ้ำ
คนแก่ใส่เสื้แคอจีนโกรธมา รู้สึกเหมือนโดนดูถูก และกำลังจะพูดด่าอีก สวีไป๋เห้อตบไหล่เขา“ถอยไป”
สวีไป๋เห้อมองหลินอิ่งด้วยสีหน้านิ่งโกรธ ยิ่งดู ยิ่งรู้สึกว่านายนี้มีความสามารถอย่างบอกไม่ถูก
ดูแล้ว หลินอิ่งเป็นคนประเภทที่ มีความสามารถแต่ไม่มีอารมณ์
คนแบบนี้ ถ้าอารมณ์เสียขึ้นมา จะต้องพายุเข้าแน่ แม้แต่คนคุมสวรรค์ก็ห้ามไม่ได้
สวีไป๋เห้อเป็นคนการบำเพ็ญปฏิบัติ แต่ก็เคยเข้าไปยุ่งเรื่องตระกูลลับบ้าง เคยได้ยินว่ามีพระธรรมว่าจะต้องอดทน
คนที่มีความอดทนต่อการดูถูก มีเรื่องไม่ได้
มีเรื่องแล้ว ก็เหมือนมีเรื่องกับเทวดา!
จากประสบการณ์สวีไป๋เห้อแค่มองพริบเดียวก็ดูออก หลินอิ่งคือคนไม่ธรรมดาแน่ๆ
“น้องสี่ฉันละ?”สวีไป๋เห้อถามด้วยน้ำเสียงต่ำ
หลินอิ่งใช้สายตาสั่ง ข้างหลังมีทหารลับตระกูลนิ่งลากเดินเข้ามา สองขาถีบพวกสวีถันโจวล้มพื้น พวกนั้นทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดหัวเข่าทั้งสองแตกหัก ท่าทางหน้าสงสารจนไม่กล้ามอง
“นาย!นายกล้าทำขนาดนี้?”
เห็นน้องสี่สวีถันโจวตอนนี้โดนหลินอิ่งทำขาหัก สวีถันโจวโกรธขึ้นมาทันที จ้องหลินอิ่งไว้อย่างเย็นๆเหมือนจะฆ่าให้ตาย
“หลินอิ่ง ฉันรู้ว่านายเป็นคนไม่ง่าย แต่นายกล้าที่จะดูหมิ่นความยิ่งใหญ่ของตระกูลสวี ไม่สนว่านายจะออกมาจากตระกูลลับไหนวันนี้ก็ผ่านไปไม่ได้!”สวีไป๋เห้อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินอิ่งยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม พูด “ความยิ่งใหญ่ของตระกูลสวี?เห้อ คุกเข่าเลียขาคนเกาหลี นี่หมายความว่าไร?”
ข้างๆสวีไป๋เห้อใส่ชุดคนแก่สีเหลือง จ้องหลินอิ่งด้วยสายตาเย็นๆพูดเสียงต่ำ “ไร้มารยาทมาก!ผู้นำตระกูลสวี เป็นตัวแทนตระกูลในตี้จิง ผู้นำตระกูลสสุออกหน้า นายกล้าพูดแบบนี้ออกมา?ฉันละอยากรู้ ใครเป็นคนสอนนายให้ไม่รู้จะที่ต่ำที่สูง!”
“ดูแล้ว นายกับตระกูลสวีคงอยากจะตายไปกันข้างหนึ่งก่อนถึงจะหยุด?”สวีไป๋เห้อพูดด้วยสีหน้าเย็นชา ชายชุดดำข้างหลังเขาก็เริ่มขยันตัวขึ้น เตรียมพร้อมต่อสู้
สวีไป๋เห้อจ้องหลินอิ่งเหมือนกับศัตรู ก็รอดูคนชั้นยอดทั้งสองข้างๆจะรู้ถึงจุดอ่อนของหลินอิ่ง และล้มมัน!
เขารู้ว่าหลินอิ่งไม่ง่ายออกจากตระกูลลับของตัวเอง แต่ว่า หลินอิ่งกล้าที่จะดูหมิ่นตระกูลสวี แม้ว่าจะต้องเสียเลือดเอาต้องเอามาให้ได้!
สวีไป๋เห้อกับผู้นำตระกูลนิ่งคนก่อน นิ่งจองเต้าที่ชิงอำนาจขึ้นเป็นเจ้าบ้าน และโดนคนหมุนหลังเหมือนหุ่นเชิดไม่เหมือนกัน
สวีไป๋เห้อคุมตระกูลสวีตั้งหลายปี อำนาจก็ถึงว่ามีพอตัว ถึงแม้ว่าจะรู้จักคนมากมาย รู้ความลับมากมาย
เขากับคนตระกูลลับก็รู้จักกัน สองคนที่อยู่ที่ใส่ชุดคนแก่ก็เป็นคนมีชื่อเสียงในตระกูลลับ
“ตัวแทนตระกูลสวี?”หลินอิ่งยิ้มเย็นๆ ดวงตาถึงเย็นอย่างกับน้ำแข็ง
“สวีไป๋เห้อ นาย ตัวแทนตระกูลสวีคุกเข่าให้ฉัน!”หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา
“อะไรนะ?นายเป็นบ้าไปแล้วหรอ?”
“จะให้ผู้นำตระกูลสวีในตี้จิงคุกเข่าให้นาย?เหอะ วัยรุ่น ความจินตนาการของนายสุดยอดไปเลย นายคิดว่า ตระกูลสวีเป็นถึงท็อปห้าในประเทศหลุง ตระกูลนี้จะไม่มีคนเก่งเลยหรอ?”
ชายชราในเสื้อคอจีนพูดอย่างเย็นชา ใช้สายตาที่ไม่พอใจมองหลินอิ่ง
“เหอะๆๆ นายคิดว่านายเป็นใคร?”สวีไป๋เห้อจากโกรธก็กลับเป็นหัวเราะ ตั้งแต่คุมตระกูลสวีในตี้จิง เขาไม่ได้ยินคำดูถูกมานานมากแล้ว ยังพูดถึงหลินอิ่งดูถูกต่อหน้านี้
ให้ตัวเองเป็นตัวแทนตระกูลสวีคุกเข่าให้มัน?
สมองต้องโง่ขนาดไหน?ถึงจะพูดประโยคนี้ออกมา?
“ท่านสองภูเขาชิงซาน ก็คงต้องรบกวนคุณทั้งสอง ล้มมันให้ได้!”สวีไป๋เห้อพูดด้วยสายตาเด็ดขาด
ข้างๆเขามีชายชราที่ใบหน้าคล้ายกันในเสื้อคอจีน ค่อยๆก้มหัว ก้าวไปขั้นหน้าหนึ่งก้าว
และในตอนนี้ ข้างหลังสวีไป๋เห้อชายชุดดำสิบกว่าคนมากฝีมือ ก็ค่อยๆเดินล้อมไว้
ท่านสองภูเขาชิงซาน คือคนชั้นยอดที่เขาไปเชิญออกมาจากตระกูลลับในมณฑลตงหลิน ทั้งสองเป็นฝาแฝด เรียนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ความสามารถที่น่ากลัวมาก
เป็นบอดี้การ์ดของเจ้าบ้านใหญ่ตระกูลสวีเขา แต่ก็ยังเป็นคนฝึกให้การทหารลับของตระกูล
แม้หลินอิ่งจะไม่เหมือนคนธรรมดา สามารถล้มนักยิง100กว่าคนที่น้องสี่พามา แต่ว่า อายุอยู่เท่านั้น อายุยังน้อย จะสู้กับท่านสองภูเขาชิงซานที่ซ้อมมาครึ่งชีวิตได้ไง?
ติด!
ก็ต้องกำลังตื้นเต้นนั้น จู่ๆ รถเป็นแถวจนไว้ที่ถนนตี้เจียง กดแตรขึ้น
จากรถเป็นแถวนั้นก็ลงมาคนแก่ใส่สูท จากนั้น พวกผู้ชายที่มีรังสีความน่ากลัวเปิดประตูรถ เดินเข้ามาน่าเกรงขาม
“ท่านฉู่ ฉันอยู่นี้!”
จ้าวหลินเอ๋อร์ออกจากหลังหลินอิ่งมา ทักทายน้ำเสียงดัง
“คุณหนู ผมมาช้าเกินไป ไม่รู้ว่า คุณหนูได้รับบาดเจ็บมั้ย?”ท่านฉู่พูดด้วยสีหน้าเรียบๆ
“ฉันไม่เป็นไร เพียงแต่ คนของตระกูลสวีเหมือนไม่มีตา!”จ้าวหลินเอ๋อร์พูดต่อหน้าสวีไป๋เห้อไม่มีความเกรงใจใดๆ
“ฉู่จิงหยุน?คนแก่นี่ พาคนของตระกูลจ้าวมา?”
ท่านสองภูเขาชิงซาน สีหน้าสงสัย จ้องท่านฉู่ที่เดินมาเหมือนกับศัตรู
“เหอะเหอะ ยินดีที่ได้พบผู้นำตระกูลสวี นึกไม่ถึงว่าคุณหนูจ้าวพูดเรื่องแค่นี้จะมีผู้นำตระกูลด้วย”ใบหน้าท่านฉู่มีรอยยิ้มและพูดไป
สวีไป๋เหัอขมวดคิ้วเบาๆ ไม่พูดไร สายตาจ้องคนของจ้าวหลินเอ๋อร์อย่างเย็นชา
เขารู้ว่าจ้าวหลินเอ๋อร์อยู่ด้วย แต่ไม่นึกไม่ถึงว่าจ้าวหลินเอ๋อร์จะปกป้องหลินอิ่งขนาดนั้น เรียกแม้กระทั่งพ่อบ้านของตระกูลจ้าวมา
พ่อบ้านตระกูลจ้าวคนนี้ ฉู่จิงหยุน ถ้าเป็นตำแหน่งก็สูงกว่าเขา ตามนายท่านตระกูลจ้าวมาหลายสิบปี ทักษะลับไม่อาจรู้ได้ ประวัติไม่รู้ในตระกูลผู้ดีตี้จิง รู้หมดว่าคนนี้ในตระกูลจ้าวน่ากลัวแค่ไหน
ท่านสองภูเขาชิงซาน ก็คือคนที่เคยแพ้ในมือฉู่จิงหยุน
นายท่านตระกูลจ้าวก็รักเอ็นดูหลานสาว แม้ฉู่จิงหยุนเธอก็สามารถออกคำสั่งได้
“ท่านฉู่ เรื่องวันนี้ พวกนายตระกูลจ้าวหลบไป อย่ายืนผิดฝ่ายละ”สวีไป๋เห้อพูดน้ำเสียงนิ่งๆ“ผู้นำตระกูลจ้าวมาก็ห้ามฉันเรื่องนี้ไม่ได้”
ใบหน้าฉู่จิงหยุนก็ยังคงมีรอยยิ้มเหมือนเดิม ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่มองจ้าวหลินเอ๋อร์ไว้ รอคำสั่ง
“นายคงจะไม่คิดว่า?มีความสนิทกับตระกูลจ้าว เรื่องวันนี้ก็หมดไป?”สวีไป๋เห้อจ้องหลินอิ่งไว้ พูดอย่างเย็นๆ
“เหอะเหอะ ขอความช่วยเหลือ?จัดฉาก?นายก็จะใหญ่กว่าผู้นำตระกูลสวีหรอ!”ท่านสองภูเขาชิงซานมองหลินอิ่งและพูดหัวเราะไว้
พูดความจริงพ่อของจ้าวหลินเอ๋อร์มาคงจะอยู่ฝ่ายเดียวกับผู้นำตระกูลสวี!
“ฉันพูดไว้แล้ว หลินอิ่ง นายให้เรื่องมาถึงจุดนี้ ใครออกหน้าไม่ได้ใครมาขอร้องก็ไม่มีประโยชน์!”สวีไป๋เห้อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ตัดสินใจที่จะกำจัดหลินอิ่งทิ้ง
“ประธานหลิน ผมมาสายแล้ว!”
จู่ๆ ก็เสียงเคารพดังมา ก็ยังเป็นรถสีเทาหลายสิบคันแถวเหมือนเดิม พุ่งมาที่ทางแยกทันที
ผู้ชายที่ไม่ธรรมดาใส่เสื้อขาวเดินมาอย่างรีบร้อน ข้างๆยังมีคนแก่ผมขาวหน้าตานิ่งๆไว้
“นิ่งซวน?”สวีไป๋เห้อขมวดคิ้วแน่น มองคนที่มาอย่างน่ากลัว รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี