หลินอิ่งยิ้มๆ จู่ๆเขาก็รู้สึกว่า สาวต่างชาติผมทองคนนี้ดูไร้เดียงสาอยู่ไม่น้อย
“คุณก็ลองดูสิ ว่าจะฆ่าผมได้หรือเปล่า”
“แกกำเริบเสิบสานจริงๆนะ!คุณแอนนา ผมชักจะทนไม่ไหวกับไอ้คนประเทศหลุงบ้าคลั่งนี่แล้วนะครับ!”
“มันกำลังดูถูกศักดิ์ศรีของตระกูลโครเมียร์อยู่นะครับ!”
แอนนายังไม่ได้แสดงท่าทีอะไร บอดี้การ์ดสองคนข้างหลังของเธอก็ระเบิดโมโหออกมาเรียบร้อยแล้ว ต่างถลึงตาโตใส่หลินอิ่ง
เกียรติยศศักดิ์ศรีของตระกูลโครเมียร์ เป็นสิ่งที่สูงส่งที่สุดของพวกข้าใช้ผู้ติดตามแบบพวกเขา ก็เหมือนกับผู้ศรัทธาที่มีความศรัทธาเลื่อมใส ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำให้มีมลทิน
แอนนาสีหน้าเริ่มโมโห พูดขึ้น“คุณหลิน ก่อนที่คุณจะยโสโอหัง ควรจะทำความเข้าใจหน่อยนะ ว่าตระกูลโครเมียร์เป็นตระกูลแบบไหน?”
“คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังเยาะเย้ยอยู่กับตระกูลที่แข็งแกร่งมากขนาดไหนอยู่?”
แอนนาเริ่มมีท่าทีที่ไม่พอใจต่อหลินอิ่งแล้ว
กล้ามาดูถูกแม้กระทั่งตระกูลโครเมียร์ของเธอ
ที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่นหรือว่าจะเป็นประเทศที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในโลกอย่างประเทศM ไม่ว่าจะประเทศอะไรทางฝั่งตะวันตก ก็ไม่มีใครกล้ามาดูถูกตระกูลโครเมียร์ทั้งนั้น!
ยิ่งไม่ต้องพูดถูก การดูถูกเหยียดหยามกันซึ่งๆหน้าแบบที่หลินอิ่งทำอยู่ในตอนนี้
หลินอิ่งมุมมากยกโค้งขึ้น พูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย“ตระกูลโครเมียร์ ที่คนตะวันตกเรียกว่าตระกูลกุหลาบศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?”
“ถ้าผมจำไม่ผิดล่ะก็ ตระกูลโครเมียร์มีสองสาขา”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างช้าๆไม่รีบไม่ร้อน“สาขาหนึ่งอยู่ที่ยุโรปเหนือ อีกสาขาอยู่ที่ทวีปอเมริกา”
“คุณมาจากลาตินกรุ๊ป ดังนั้น คุณมาจากสาขาอเมริกาสินะ? เรียกว่าตระกูลกุหลาบเลือด?”
“หัวหน้าครอบครัวของพวกคุณ คือโครเมียร์ เฟลิกซ์? มีชื่อที่ไว้เรียกในโลกมืดว่า ท่านเอิร์ล?”หลินอิ่งค่อยๆพูดขึ้น อย่างคุ้นเคยกับประวัติครอบครัวของแอนนาเป็นอย่างดี
จริงๆแล้วหลินอิ่งก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องของสำนักงานใหญ่ของลาตินกรุ๊ป จะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลโครเมียร์
ตำแหน่งของตระกูลโครเมียร์ในโลกมืดแห่งตะวันตก แทบจะเท่ากับตำแหน่งของกลุ่มบริษัทชีซิงของประเทศเกาหลีได้เลย มีอำนาจในการปกครองที่เด็ดขาด ทรงพลังสุดๆ
พลังอำนาจของตระกูลนี้ อย่างน้อยก็สามารถกดสามตระกูลจากในห้าตระกูลยักษ์ใหญ่ของตี้จิงได้เลย
เพราะว่า นี่เป็นตระกูลในโลกมืดที่มาจากทางตะวันตก
ก็เหมือนกับแวดวงลึกลับของประเทศหลุง ในต่างประเทศก็เหมือนกัน มีโลกมืดที่คนทั่วไปยากที่จะเข้าถึง
โลกมืดของต่างประเทศ มีบุคคลที่สุดยอดมากมายอยู่ ในขณะเดียวกันก็ถือครองเทคโนโลยีที่เหนือชั้นมากมายเช่นกัน ลึกลับมากๆ
แต่ครั้งแรกที่หลินอิ่งได้สัมผัสกับตระกูลโครเมียร์ ก็คือตอนอายุสิบหกปี ตอนที่ช่วยผู้บัญชาการสูงสุดของกองทหารของประเทศหลุง ไปสู้รบที่ต่างประเทศในนามของกองทหารประเทศหลุง
“อะไรกัน!คุณ รู้ความลับของตระกูลโครเมียร์?”แอนนาพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ มองหลินอิ่งด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
แม้ว่าตระกูลโครเมียร์จะมีชื่อเสียงมากที่ต่างประเทศ แต่กลับมีไม่กี่คนที่รู้ว่าภายในของตระกูลโครเมียร์มีสองสาขา
แถม ชื่อตระกูลดอกกุหลาบโลหิตนี้ ก็ต้องเป็นคนที่เคยติดต่อคลุกคลีกับโลกมืดของตะวันตกเท่านั้น ถึงจะรู้ชื่อนี้ได้
หรือว่าหลินอิ่ง คนประเทศหลุงคนนี้ เคยติดต่อกับคนของตระกูลตนเองอย่างนั้นเหรอ?
“คุณรู้ชื่อตระกูลกุหลาบเลือดได้ยังไง? คุณเคยไปดินแดนนอกประเทศ? เคยติดต่อคลุกคลีกับคนของตระกูลตระกูลโครเมียร์อย่างนั้นเหรอ?”แอนนาถามขึ้นด้วยสีหน้าหนักอึ้ง
หลินอิ่งพูดถึงเบื้องลึกเบื้องหลังตระกูลของเธอ จู่ๆก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาในใจ
ทั้งที่หลินอิ่งรู้ดีว่าตระกูลโครเมียร์แข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วทำไมถึงยังกล้าดูถูกศักดิ์ศรีของตระกูลเธออยู่อีก?
หลินอิ่งเอาความมั่นใจมาจากไหน? ถึงยังยืนหยัดอยู่ต่อหน้าคุณหนูแห่งตระกูลโครเมียร์แบบเธอโดยที่ไม่สั่นคลอนเลยสักนิด?
หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“ผมจะทำให้คุณเข้าใจ ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลคุณ สำหรับผมแล้ว แทบจะไม่มีผลอะไรเลย”
แอนนากัดริมฝีปากอย่างแรง สีหน้าโมโห
เธอก็เริ่มอยู่ไม่สุขแล้วเหมือนกัน ท่าทีของชายหนุ่มประเทศหลุงคนนี้ ช่างยโสโอหังเกินไปแล้ว แทบไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
เธออุตส่าห์อ้างชื่อของตระกูลโครเมียร์มาขู่ ตอนแรกนึกว่าจะทำให้เขาเคารพและเกรงกลัวได้ แต่ผลที่ได้กลับได้สายตาดูถูกดูแคลนของหลินอิ่งกลับมาแทน
ความรู้สึกแบบนี้ ก็เหมือนกับของที่จงใจจะโอ้อวด แต่กลับเป็นขยะไร้ค่าในสายตาของเขา
แต่ว่า หลินอิ่งมีกำลังมากพอที่จะดูถูกตระกูลโครเมียร์เหรอ?
หลินอิ่ง คุณจะต้องชดใช้ให้กับความบ้าคลั่งของคุณเอง”แอนนาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เหอะ!พวกแกสองคน จัดการสั่งสอนเขาซะ!”
พูดจบ บอดี้การ์ดต่างชาติที่อยู่ข้างหลังของแอนนาก็เดินออกมาพร้อมจะลงมือทันที จ้องมองหลินอิ่งด้วยสายตาเยือกเย็น
พวกเขาสองคนทนไม่ไหวกับท่าทียโสโอหังของหลินอิ่งตั้งนานแล้ว แทบอยากจะเข้าไปซัดเขาลงที่พื้นเต็มทน
“แกไอ้คนประเทศหลุงที่สมควรตาย กล้ามาทำตัวยโสโอหังต่อหน้าคุณแอนนา ไม่รู้ว่าแกไปรู้เรื่องของตระกูลโครเมียร์มาจากที่ไหน ถึงมาทำท่าทำทางวางมาดแบบนี้ได้”บอดี้การ์ดต่างชาติที่ใบหน้ามีแผลเเป็นคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแอนนาบอกให้พวกเราใจเย็นล่ะก็ ฉันก็จัดการฆ่าพวกชั้นต่ำแบบพวกแกไปตั้งนานแล้ว!”
ชายแผลเป็นพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น สีหน้าเหี้ยมโหด
หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากแอนนาแล้ว เขาก็เหมือนกับสัตว์ดุร้ายกระหายเลือดที่ถูกปล่อยออกมาจากกรง ท่าทางดุร้ายน่ากลัว
แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแอนนาบอกว่าการมาประเทศหลุงในครั้งนี้จะต้องทำตามกฎของประเทศหลุง ทำอะไรต้องระมัดระวังหน่อย เขาก็ฆ่าคริสกับไอ้คนที่ชื่อว่าหลินอิ่งอะไรนี่ตายไปก่อนแล้วแน่นอน!
ชายแผลเป็นคนนี้ เป็นราชานักฆ่าที่ได้สมญานามว่าคมดาบโลหิตในแวดวงนักฆ่าที่ต่างประเทศ ชื่อเสียงเลื่องลือมาก!บุคคลระดับสูงที่เคยถูกเขาลอบสังหารหรือฆ่า อย่างน้อยก็เกินกว่าร้อยคน!
“ไอ้เด็กสกุลหลิน ถ้าแกเอาชนะฮาเดสได้ นี่แสดงว่า แกพอมีฝีมืออยู่บ้าง”ชายแผลเป็นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ในเมื่อแกกล้ายโสโอหังขนาดนี้ กล้ามาตัวต่อตัวไหมล่ะ?”
“ตัวต่อตัว?”หลินอิ่งส่ายหัว มุมปากยิ้มเย้ยหยัน
“แกไม่มีกำลังมากพอที่จะให้ฉันลงมือเอง”หลินอิ่งพูดตอบกลับไปอย่าง่ายๆ“ฮาเดสนายมาสู้กับมัน”
พูดจบ ฮาเดสที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตูของห้องทำงาน ก็เดินเข้ามาอย่างสุขุมเยือกเย็น มองชายแผลเป็นอย่างเย็นชา
“ฮาเดส? แกก็ทรยศเหมือนกันเหรอ? มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับไอ้คนประเทศหลุงเนี่ยนะ? การกระทำของแกนำความอัปยศอดสูมาให้กับองค์กรของพวกเราจริงๆ!”
ชายแผลเป็นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา มองฮาเดสด้วยสีหน้าดูถูกดูแคลนสุดๆ
เขากับฮาเดสมาจากองค์กรนักฆ่าองค์กรเดียวกัน ครั้งหนึ่ง เขาเคยเป็นหัวหน้าของฮาเดส
“เฟเดอเรอร์ ถ้าแกยังจะทำตัวกำเริบเสิบสานใส่ประธานหลินอีกล่ะก็ แกจะเสียใจภายหลัง”ฮาเดสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม
“เหอะๆ”เฟเดอเรอร์สีหน้าดูถูก มองหลินอิ่งด้วยท่าทางขี้เล่น“แกให้ฮาเดสมาสู้กับฉันเนี่ยนะ? แกรนหาที่ตายชัดๆ แกไม่รู้เหรอว่า ฮาเดสเคยพ่ายแพ้ให้กับฉันมาก่อน”
“เหอะ คุณหลิน ลูกน้องของคุณพละกำลังน้อยขนาดนี้ คุณยังกล้ามาเสียมารยาทกับฉันอีกนะ”แอนนาสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยัน
หลินอิ่งสีหน้าปกติ มองไปยังแอนนาพร้อมกับพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“คุณมีความมั่นใจในตัวลูกน้องของคุณขนาดนี้เชียวเหรอ? ถ้าเขาเอาชนะฮาเดสได้ ผมจะยกบริษัทให้กับคุณ”
“ถ้าเขาทำไม่ได้ คุณก็ต้องรีบไสหัวออกไปจากประเทศหลุงซะ กล้ารับไหมล่ะ?”