หรงหยัง ฉู่สงซาน คริสทั้งหลาย มองอยู่ด้านข้างอย่างมีความรู้สึก
จี้ฉงซานที่เคยเจริญรุ่งเรือง คนที่เคยมีอำนาจสูงส่ง จะเป็นศัตรูกับหลินอิ่ง ก็ต้องมีจุดจบแบบนี้
ความสามารถของหลินอิ่ง แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมาในชีวิตนี้
หลินอิ่งมองจี้ฉงซานล้มลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในใจนิ่งเฉย
จี้ฉงซานตายแล้ว เหวินเทียนเฟิ่งยังซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ
ท่านมังกรดำ ไม่ได้ลงมือ
“เหวินเทียนเฟิ่ง ศัตรูตระกูลฉี ไม่มีวันซ่อนตัวได้ ซ่อนไปสุดขอบฟ้า ฉันก็ต้องลากตัวออกมาแน่”
หลินอิ่งแววตาเย็นชา มองดูเก้าอี้ของจี้ฉงซาน กล้องพ็อกเก็ต
“ท่านมังกรดำ? คุณไม่คู่ควรกับคำว่าราชามังกรแม้แต่น้อย”
“แอบๆซ่อนๆ ห่วงหน้าพะวงหลัง ดีแต่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ ถึงผมจะเอามรดกสืบทอดแก๊งมังกรให้คุณ คุณจะทำอะไรได้?”
“จำไว้ ตอนที่พวกคุณออกมาเผยหน้า ก็คือเวลาตาย”
คำพูดของหลินอิ่ง พูดต่อเครื่องกล้องวงจรปิด
ก็คือพูดต่อท่านมังกรดำและเหวินเทียนเฟิ่ง
สองคนนี้ ต้องแอบดูทุกอย่างในที่ลับแน่นอน
เวลาเดียวกัน
ภายในโบสถ์อันมืดมิดที่ยื่นมือไม่เห็นนิ้ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกาะไห่เทียน เปลี่ยนเป็นภาพ แสดงอยู่บนจอใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง
ตำแหน่งกลางโบสถ์ มีชายเสื้อสีเทาหน้าตาโหดเหี้ยมนั่งอยู่
“ท่านประมุขแก๊ง ท่าน ช่างเหนือความคาดหมายของผมจริง……”
“ข่มขู่ผม……เหอะเหอะเหอะ……คุณคิดว่า คุณเป็นประมุขแก๊งมังกรที่แข็งแกร่งเหนือฟ้าจริงๆเหรอ……”
คนชุดเทามองดูภาพบนจอ หัวเราะอย่างเย็นชาพูดด้วยเสียงแหบ
ส่วนคนที่อยู่ข้างเขา เหวินเทียนเฟิ่งก้มหน้าอย่างเคารพ
“เทียนเฟิ่ง ช่วยฉันส่งคำพูดลงไป องครักษ์มังกรดำอย่าเพิ่งเผยโฉม รอแผนการขั้นต่อไปของฉันก่อน”
“แน่นอน ระหว่างที่หาจุดอ่อนวิชาการต่อสู้ของหลินอิ่ง หาจุดอ่อนนี้ออกมา ก็คือวันลงนรกของเขา”
วิชาการต่อสู้ที่หลินอิ่งฝึกฝน มีจุดอ่อนที่คร่าชีวิตได้
เมื่อเว้นระยะเวลาช่วงหนึ่ง ก็จะถึงเวลาที่อ่อนเพลียที่สุด
เวลานั้นของหลินอิ่ง วิชาจะไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสิบของเวลาปกติ
นั่นก็คือจุดอ่อนที่เอาชีวิตของหลินอิ่งได้
ท่านมังกรดำตั้งอกตั้งใจ สิ่งที่ศึกษาก็คือ จุดอ่อนของหลินอิ่ง
…….
หลินอิ่ง กลับไปถึงตัวเมืองเมืองก่าง
เมืองก่าง สถานการณ์โดยรวมคงที่แล้ว
แวดวงธุรกิจเมืองก่าง วงการตลาดหลักทรัพย์ สมาคมธุรกิจ
ล้วนอยู่ในการควบคุมของหลินอิ่งทั้งหมด
หลินอิ่ง แทนที่จี้ฉงซาน กลายเป็นผู้ควบคุมระบบธุรกิจในเมืองก่าง
คริสช่วยเขาดูแลหลินซื่อกรุ๊ป
หลินซื่อกรุ๊ป เสมือนว่าจะเป็นอาณาจักรธุรกิจขนาดยักษ์ที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่
ฉู่สงซาน ขยายบริษัทฉู่ซื่อเตียนหนานให้ใหญ่ขึ้น รักษาสัมพันธมิตรที่ดีกับหลินอิ่ง
โครเมียร์ แอนนา ช่วยเหลือจัดการกับตระกูลพอร์ตเล็ต หลินอิ่งอนุญาติให้เธอรับช่วงอำนาจที่หลงเหลือในเมืองก่างของตระกูลพอร์ตเล็ต สาขาย่อยของตระกูลโครเมียร์ กลายเป็นผู้นำของบริษัททุนต่างชาติในแวดวงธุรกิจเมืองก่าง
ไม่ต้องสงสัย โครเมียร์ แอนนา มีผู้สนับสนุนในเมืองก่างก็คือหลินอิ่ง ไม่มีหลินอิ่ง เธอไม่มีวันนั่งบนตำแหน่งนี้อย่างมั่นคง
แม้แต่หรงหยัง ก็เจริญก้าวหน้า ติดตามหลินอิ่ง ทำให้แก๊งหยางเหมินสาขาเมืองก่างพัฒนาขึ้นอีกขั้น
แม้แต่สาขาแก๊งหยางเหมินในเมืองก่าง ก็ทำการเปลี่ยนชื่อสำนักแล้ว อยู่ภายใต้การดูแลของหลินอิ่ง
เพราะว่า หรงหยังต้องเผชิญหน้ากับความกดดันของจ้าวเฉิงเฉียน ไม่มีทางเลือก ไม่ติดตามหลินอิ่ง เขาก็จะสูญเสียอำนาจตำแหน่ง
แน่นอน แผนการสำคัญอย่างหนึ่งของหลินอิ่ง
เย่เฮย ผู้ที่จงรักภักดีที่สุด องครักษ์มังกรดำที่หลงเหลืออยู่ ผู้สนับสนุนที่จงรักภักดี
เขา ถึงจะเป็นคนที่ช่วยหลินอิ่งดูแลดินแดนเมืองก่างแห่งนี้
มีดคมยามค่ำคืนแห่งเมืองก่าง
วันนี้
อาคารสุ่ยจิน
หลินอิ่งนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ บนโต๊ะทำงานมีเอกสารสัญญาวางเป็นกอง
เอกสารพวกนี้ ล้วนเป็นบัญชีรายการธุรกิจที่คริสนำมาให้
ตอนแรก หลินอิ่งระดมเงินทุนมหาศาลจากตี้จิงเข้ามาในเมืองก่าง ต้องเผชิญการความเสี่ยงมหาศาลเพื่อทำสงครามการเงินกับจี้ฉงซาน
ผู้แพ้สิ้นเนื้อประดาตัว ผู้ชนะได้รับเงินทองมหาศาล
วันนี้ ถึงเวลาที่ผู้ชนะจะได้เก็บผลแห่งชัยชนะแล้ว
“ประธานหลิน การมาเมืองก่างครั้งนี้ ท่าน ทำให้ผมเปิดหูเปิดตาจริงๆ” คริสพูดอย่างตื่นเต้น “ทุกวันนี้ ธุรกิจอำนาจเงินทองของท่านในเมืองก่าง เทียบเท่ากับทรัพย์สินของท่านในเมืองก่างได้แล้ว ไม่อาจคำนวณได้ ว่าท่านทำเงินได้เท่าไหร่”
“อย่าว่าแค่ประเทศหลุง เกรงว่าทั่วโลก ก็หาคนหนุ่มที่ร่ำรวยมหาศาลอย่างท่านไม่ได้แล้ว” คริสพูดด้วยความนับถือ
ถึงแม้ว่าเขาจะเจออะไรมามากมาย ควบคุมบริษัทข้ามชาติ ก็ต้องตะลึงกับทรัพย์สินของหลินอิ่ง
“ทำเงินได้เท่าไหร่?” หลินอิ่งส่ายหัว พูดอย่างเรียบเฉย “นี่ไม่สำคัญ”
คำพูดต่อมา หลินอิ่งไม่อธิบาย
คริสเป็นนายทุนธุรกิจใหญ่ เขาเข้าใจ
ควบคุมระบบการเงินในเมืองตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่โตอย่างเมืองก่าง นี่คือจุดสำคัญ ไม่ว่าเงินเท่าไหร่ก็หาซื้อไม่ได้
พูดได้ว่า ประธานหลินพูดในเมืองก่างแค่คำเดียว จะให้ใครล้มละลาย คนนั้นก็ต้องล้มละลาย ให้ใครร่ำรวยในชั่วค่ำคืน คนนั้นก็สามารถขึ้นสู่อันดับมหาเศรษฐีโลก
อำนาจแบบนี้ ถึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนอิจฉา
“ประธานหลิน โครเมียร์ แอนนา เธอมาหาท่านที่อาคารแล้ว”
เวลาเดียวกัน ฮาเดสเดินเข้ามารายงานอย่างเคารพ
“พาเข้ามา” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
“หลินที่รัก คุณเก่งที่สุดเลย”
“ฉันคิดไม่ถึงเลย คุณจะจัดการจี้ฉงซานเร็วขนาดนี้ เมืองก่างในตอนนี้ เป็นดินแดนของคุณหมดแล้ว คุณนี่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย”
น้ำเสียงของผู้หญิงอันไพเราะคนหนึ่งดังขึ้น
แอนนาใส่ชุดกระโปรงสีขาว เผยหุ่นอันสวยงามเข้ารูปของเธอ บุคลิกเต็มไปด้วยความมีเสน่ห์ เธอเดินเข้ามาสีหน้ายิ้มแย้ม เข้าไปหาหลินอิ่งโดยตรง
“หลินที่รัก คุณช่วยฉันมากมาย ฉันยังไม่รู้ว่าต้องขอบคุณยังไง”
แอนนาเข้าไปนั่งบนตักหลินอิ่งอย่างไม่ห่วงสายตา มือกอดคอหลินอิ่ง ร่างแนบชิดตัวเขา ท่าทางใกล้ชิด
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนอย่างตั้งตัวไม่ทัน ยื่นมือดันคางแอนนา ดันตัวเธอขึ้นไปนั่งข้างเก้าอี้
“ระวังพฤติกรรมหน่อย” หลินอิ่งพูดเสียงเรียบ
แอนนาตาสวยเป็นประกาย ยิ้มอย่างสดใส น้ำเสียงหยอกล้อ “หลินที่รัก ฉันรู้แล้ว จากนี้ไปต่อหน้าคนอื่น ฉันจะระวังหน่อย”
ต่อหน้าคนอื่นจะระวังหน่อย?
ถ้าหากพวกเขาสองคนไม่อยู่ สถานการณ์คงร้อนแรงกว่านี้?
หลินอิ่งนี่สุดยอดจริงๆ นี่แค่ไม่กี่วัน ก็มีความสัมพันธ์กับคุณหนูตระกูลโครเมียร์ คุณแอนนาถึงขันนี้แล้วหรือ?
ฟังนำเสียงคำพูดแอนนาอันครุมเครือ และท่าทางอันใจกล้าแบบนี้
คริสมองจนตะลึงแล้ว นี่ยังเป็นคุณหนูตระกูลโครเมียร์ที่เขาเคยรู้จักไหม? กลับกลายเป็นแฟนคลับน้อยของหลินอิ่งไปแล้ว
คราวนี้ แม้แต่ฮาเดสที่สีหน้าเย็นชามาตลอด เฝ้าอยู่หน้าประตูอย่างตะลึงตาค้าง
ฮาเดสกับคริสล้วนเป็นคนของลาตินกรุ๊ป เมื่อก่อนต่างเคยช่วยพ่อของแอนนาทำงาน ต่างรู้ถึงอำนาจความสามารถของตระกูลโครเมียร์
ยังไงพวกเขาก็คิดไม่ถึง ผู้หญิงฐานะสูงส่งอย่างแอนนา อยู่ในประเทศตะวันตกเขาอยู่อย่างสูงส่งเหนือกว่าเจ้าหญิงในราชวงศ์อีก แต่กลับปล่อยวางความยโสและสงวนตัว กลับถูกหลินอิ่งปราบอย่างราบคาบ กลายเป็นกระตือรือร้นถึงขนาดนี้
ไม่เสียแรงที่เป็นประธานหลิน สุดยอดจริงๆ
ฮาเดสกับคริสทั้งสองคน รู้สึกชื่นชมในใจ