“คุณกง คุณให้ข่าวสารผมเกี่ยวกับด้านธุรกิจของหลินอิ่ง ผมให้ทีมงานกำลังจัดการแล้ว” เผียวจินฮุนพูด “ขอแค่มีอำนาจในตี้จิงคอยช่วยเหลือ ทำลายโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดของหลินอิ่ง นั่นไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย”
ขณะที่เผียวจินฮุนพูดคำพูดนี้ สีหน้ามั่นใจมาก
เพราะว่าเขามีทรัพย์สินที่เพียงพอ มีความมั่นใจพอในการจัดการเรื่องนี้
กงจิ่วพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองสวีไป๋เห้อ พูดว่า “น้องไป๋เห้อ ความสัมพันธ์ด้านต่างๆในตี้จิงก็พึ่งคุณช่วยจัดการแล้วนำ”
“โลกใต้ดินในตี้จิง โลกแห่งความมืด ตระกูลสวีของพวกคุณมีอำนาจในการพูดสูงที่สุด” กงจิ่วพูดอย่างใจเย็น “จัดการกับอำนาจใต้ดินในตี้จิงของหลินอิ่ง ก็ต้องดูฝีมือของท่านแล้ว”
“คุณกง ผมอยู่ในตี้จิงมานานหลายสิบปี ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นทุกด้าน หลินอิ่งก็เป็นแค่ลูกที่ถูกทิ้งของตระกูลฉีคนหนึ่งเท่านั้น กลับสู่ตี้จิงอย่างแข็งแกร่ง กลืนกิจการไปตั้งมากมาย มีคนตั้งมากมายที่ไม่พอใจเขา” สวีไป๋เห้อพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เพียงแค่ขาดผู้นำคนหนึ่งอย่างคนแบบนี้”
“ยังมีอีกจุดหนึ่ง คุณกง หลินอิ่งควบคุมตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงทั้งตระกูลอยู่เบื้องหลัง ทางด้านตระกูลนิ่ง คุณคิดจะจัดการยังไง?” สวีไป๋เห้อถามอย่างจริงจัง
กงจิ่วหัวเราะ สีหน้าโหดเหี้ยม พูดว่า “ตระกูลนิ่ง ตอนแรกเป็นของในกำมือผมแล้ว ก็เพราะหลินอิ่งมาวุ่นวาย ทำลายแผนการทั้งหมดของผม”
“ตระกูลนิ่งไม่รบกวนพวกคุณลงมือ ผมมีแผนการของผม” กงจิ่วพูดเสียงเคร่งขรึม
ความแค้นของเขากับหลินอิ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของตระกูลนิ่ง
กงจิ่วทุ่มทุนมหาศาล ใช้ความพยายามทุกอย่าง จนประคับประคองนิ่งจองเต้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งผู้นำตระกูลนิ่งแล้ว ยังกักขังนายท่านตระกูลนิ่งแล้ว จะได้ครอบครองทุกอย่างของตระกูลนิ่งแห่งตี้จิงอยู่ตรงหน้าแล้ว
ปรากฏว่า หลินอิ่งกลับโผล่มาสร้างความวุ่นวายกะทันหัน ทำให้ความพยายามเขาสูญสิ้น
ต้องรู้ว่า เรื่องการจัดการตระกูลนิ่ง ไม่ใช่เรื่องของเขากงจิ่วเพียงคนเดียว แต่เป็นกระบวนการที่สำคัญที่สำนักยุทธ์เชียนจัดการในประเทศหลุง แต่กลับล้มเหลว ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ไม่สามารถคาดการได้
“พรุ่งนี้ ผมจะให้คนส่งจดหมายถึงหลินอิ่ง บอกเขาว่า ยาแก้พิษที่จะช่วยคุณปู่เขาอยู่ในมือฉัน” กงจิ่วสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมั่นใจ พูดด้วยแววตาเย็นชา “ผมจะเวลาเขาพิจารณาสามวัน อยากจะช่วยปู่ของเขา ให้เขาตัดขาดแผนการทุกอย่างในตี้จิง ล้มเลิกกิจการและอำนาจทั้งหมดและออกไปจากตี้จิง”
ได้ยินแล้ว เผียวจินฮุนกับสวีไป๋เห้อต่างก็สีหน้าหวั่นไหว
“นี่……” สวีไป๋เห้อคิดไปครู่หนึ่ง พูดอย่างสงสัย “คุณกง คุณข่มขู่หลินอิ่งอย่างเปิดเผยแบบนี้ เขาจะติดกับเหรอ?”
“หลินอิ่งคนนี้ฝีมือโหดเหี้ยม จนไม่นับญาติมิตร ตอนนั้นที่ตระกูลฉีถูกฆ่าล้างตระกูล ยังไม่เห็นเขาปรากฏตัว” สวีไป๋เห้อพูดด้วยสีหน้าลังเล “บวกกับหลินอิ่งออกจากตระกูลฉีมานานหลายปี ตอนนั้นพวกเขาแม่ลูกยังถูกไล่ออกจากบ้าน”
“ถึงไอ้แก่ฉีเวิ่นติ่งตายแล้ว ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อหลินอิ่ง ใช้ชีวิตของคุณท่านฉีมาข่มขู่ ให้หลินอิ่งล้มเลิกอำนาจทั้งหมดในตี้จิง เท่าที่ผมดูแล้ว หลินอิ่งไม่ยอมแน่” สวีไป๋เห้อพูดอย่างคาดเดา
ล้อเล่นอะไร อำนาจเงินทองในมือหลินอิ่ง สามารถทำให้คนมากมายบ้าคลั่งได้
ระหว่างตระกูลมหาอำนาจ จะไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร?
ถ้าสามารถมีทรัพย์สินมหาศาลอย่างหลินอิ่ง ให้เขาสวีไป๋เห้อฆ่านายท่านบ้านตัวเองเขาก็ทำได้โดยไม่กะพริบตา
หลินอิ่งไม่ใช่คนโง่ จะไปตอบรับข้อเสนอแบบนี้ได้ยังไง?
“เหอะเหอะเหอะ น้องไป๋เห้อ คุณเดาผิดทางแล้ว” กงจิ่วพูดอย่างใจเย็น “เท่าที่ผมรู้ เมื่อก่อนถึงแม้หลินอิ่งจะถูกไล่ออกจากบ้าน แต่สำหรับปู่ของเขาคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก อีกอย่าง ตอนนั้นที่ตระกูลฉีถูกฆ่าล้างตระกูล หลินอิ่งยังไม่ได้กลับสู่ตี้จิง ไม่รู้เรื่องนี้”
“เพราะฉะนั้น หลินอิ่งไม่มีวิธีแก้พิษในร่างของปู่เขาได้ มีโอกาสตอบรับข้อเสนอนี้สูงมาก” กงจิ่วพูดอย่างมั่นใจ
“ช้าก่อน คุณกง” เผียวจินฮุนพูดขมวดคิ้วเล็กน้อย “หรือว่าในแผนการคุณ เพียงแค่อย่างให้หลินอิ่งถอนตัวออกจากเวทีในตี้จิง แย่งอำนาจธุรกิจของเขาไปทุกอย่างเท่านั้นเหรอ? นี่ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของผม”
“สิ่งที่ผมต้องการ ก็คือฆ่าหลินอิ่งให้ตาย หายไปจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง” เผียวจินฮุนพูดด้วยเสียงเย็นชา
กงจิ่วยิ้มเล็กน้อย พูดด้วยสายตาเย็นชา “นั่นมันแน่นอน หลินอิ่งต้องตายแน่”
“รับมือกับคนอย่างหลินอิ่ง พวกเราไม่ตัดหญ้าถอนโคน จะมีแต่ผลเสียตามมาอย่างไม่จบไม่สิ้น ข้อนี้ผมคิดว่าทุกคนในนี้ต่างก็รู้ดี”
“เพียงแค่ว่า พวกเราต้องวางแผนการอย่างดีเพื่อฆ่าคนคนนี้” กงจิ่วพูดอย่างเชื่องช้า “ผมใช้ชีวิตของฉีเวิ่นติ่งในการข่มขู่ นี่เป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้น ไม่ว่าหลินอิ่งทำยังไง ต้องทำให้จิตใจเขาวุ่นวายแน่”
“มาถึงการสู้รบระดับเราแล้ว บางครั้ง ความเป็นความตายมันเป็นรายละเอียดอย่างหนึ่ง”
“ไม่ว่าหลินอิ่งจะยอมรับข้อเสนอของผมหรือไม่ ผมก็มีแผนการที่จะรับมือกับเขา เขาก็ไม่มีวันได้ยาแก้พิษจริงไปแน่นอน ในจุดนี้ พวกเราอยู่เหนือก่อนอยู่แล้ว ถืออำนาจเหนือกว่าเสมอ”
กงจิ่วยิ้ม พูดด้วยความมั่นใจ
“อีกอย่าง ผมสามารถให้ข่าวสารกับคุณสองคนได้ คนของสำนักยุทธ์เชียนของเรา มาถึงตี้จิงอย่างลับๆแล้ว” กงจิ่วพูดเสียงเบา “ผมมีแผนการอย่างละเอียด ยอดฝีมือระดับสูง เพื่อมาฆ่าหลินอิ่ง”
“สองท่าน…….”
…….
วันที่สอง
หลินอิ่งมาถึงตี้จิง เมืองใหญ่อันเจริญรุ่งเรือง
หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว ขบวนรถของหยูจื๋อเฉิงรออยู่ที่สนามบินแล้ว
หลินอิ่งพาหลี่ผู ขึ้นไปนั่งบนรถสีดำของหยูจื๋อเฉิง
รถขับเข้าไปบนถนนที่เจริญรุ่งเรือง ขับไปทางจื่อหลงซาน
“ท่านอิ่ง เมื่อคืนเกินเรื่องฉุกเฉิน เป็นข่าวไม่ดี”
หยูจื๋อเฉิงนั่งข้างคนขับ พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หลินอิ่งนั่งอยู่หลังรถ สีหน้าเย็นชาอย่างขีดสุด
“พูดเลย เป็นข่าวอะไร” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
“ท่านอิ่ง เมื่อคืนถังฮุยหายตัวไปในเขตหัวหยาง ผมฟังลูกน้องรายงานว่า ถังฮุยนัดกับเหยียนหลง สุดท้ายก็ขาดการติดต่อไป” หยูจื๋อเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “นอกจากนี้แล้ว ลูกน้องที่ผมจัดไว้ในเขตหัวหยาง ภายในชั่วค่ำคืน ทั้งตาย ทั้งเจ็บ กิจการแต่ละอย่างเสียหายย่อยยับ ถูกคนทำลายหมดเลย”
“ฝีมืออันชั่วร้ายและรวดเร็วแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าทำโดยยอดฝีมือ ลำพังเหยียนหลงคนเดียว ไม่มีความสามารถนี้แน่ และไม่มีความกล้าด้วย” หยูจื๋อเฉิงพูดวิเคราะห์
“ผมรู้แล้ว” หลินอิ่งพยักหน้า สีหน้าเรียบเฉย
เรื่องพวกนี้อยู่ในการคาดเดาของเขา คนที่ลงมือ แม้แต่ฉีเวิ่นติ่งนายท่านตระกูลเขาเองยังกล้าลงมือ ยังจะมีอะไรที่ไม่กล้าทำ
ครั้งนี้ คู่ต่อสู้มาอย่างดุดัน ตี้จิงมีมรสุมรอบด้าน