“ช้าก่อน ฉันดูว่าพวกแกใครกล้าลงมือ ฉันเป็นถึงคนตระกูลกงซุน” กงซุนสือพูดอย่างโมโห หน้าตาโอหัง
เสียงฮวั๊ก
คราวนี้ บอดี้การ์ดร่างใหญ่สองนายที่อยู่หลังกงซุนสือพุ่งมา ขวางไว้ข้างหน้า
“จัดการ”
นิ่งซวนยังคงออกคำสั่งอย่างหนักแน่น
ชายหนุ่มสีหน้าเย็นชาสองนายข้างกายลงมือ ทั้งต่อยทั้งถีบก็จัดการบอดี้การ์ดแข็งแกร่งข้างกายกงซุนสือจนล้ม
ต่อจากนั้น เพร้งพร้าง ชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา ต่อยจนกงซุนสือและเจิ้นหยวนเป่าล้มกองอยู่กับพื้น กดตัวไว้ที่โต๊ะขยับไม่ได้
“น้องชาย คุณไม่รายงานชื่อฐานะ เข้ามาก็ลงมือทำร้ายคน? คุณไม่กลัวผลลัพธ์ในการหาเรื่องตระกูลกงซุนเหรอ?” กงซุนสือถามนิ่งซวนอย่างเย็นชา “ผมจะบอกคุณให้นะ คุณมาหาเรื่องผมเพียงเพราะไอ้ลูกเขยไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่ง? นั่นมันก็ไม่ต่างอะไรกับสมองมีปัญหา”
กงซุนสือก็ไม่เข้าใจ ชายหนุ่มที่พาคนบุกเข้ามาคนนี้สมองมีปัญหาหรือเปล่า บอกฐานะของตระกูลกงซุนออกมาแล้ว ยังกล้าลงมือ?
ยังเชื่อฟังคำพูดไอ้ไร้น้ำยาหลินอิ่งนี่อีก?
ไม่กลัวสร้างเรื่องตลกให้คนอื่นหัวเราะ
“เหอะ ตระกูลกงซุน? ผมนิ่งซวน ไม่มีตระกูลกงซุนอยู่ในสายตา” นิ่งซวนพูดอย่างเย็นชา “อย่าว่าแต่ประธานหลิน แม้แต่ผมนิ่งซวนคุณไม่มีสิทธิ์เป็นอริด้วย ยังกล้าอวดดีต่อหน้าประธานหลิน?”
นิ่งซวนรู้สึกตลก ชื่อเสียงของประธานหลินโด่งดังขนาดนี้ในตี้จิง ทำไมถึงยังมีคนตาไร้แววแบบนี้อยู่ ยังคิดว่าประธานหลินเป็นลูกเขยแต่งเข้าบานผู้หญิงของมณฑลตงไห่?
มิน่า ประธานหลินถึงขี้เกียจถือสาไอ้หน้าโง่แบบนี้ ไม่คู่ควรที่จะให้ประธานหลินลงมือจริงๆ
“นิ่งซวน? อะไรนิ่งซวน?” เจิ้งหยวนเป่าสีหน้าสงสัย
“เดี๋ยวก่อน……นิ่งซวน……แม่งเอ้ยแกนี่ล้อเล่นอะไร ยังกล้ามาปลอมตัวเป็นผู้นำตระกูลนิ่งมาขู่ฉัน?” กงซุนสือพูดอย่างเย็นชา ท่าทางไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย
นิ่งซวนมีชื่อเสียงโด่งดังในตี้จิง นิ่งซวนเป็นผู้นำคนใหม่ของตระกูล หัวหน้าตระกูลนิ่ง
เพียงแค่ ยังมีคนมากที่ไม่เคยได้พบหน้าประสานงานกับนิ่งซวน
กงซุนสือยังไงก็ไม่เชื่อ หลินอิ่งที่เป็นแค่ลูกเขยไร้น้ำยาเกาะเมียกิน จะสามารถคุยธุระต่อหน้าคนใหญ่โตอย่างนิ่งซวน โดยเฉพาะนิ่งซวนยังเคารพเขาได้ขนาดนี้?
พูดตลกจริงๆ
ช่างเป็นคางคกขึ้นวอจริงๆ ไอ้ไร้น้ำยาที่วันๆก็ได้แต่คอยติดตามน้องสาวของตัวเองกงซุนชิวอวี่ จะไปมีความสามารถอะไร
“ประธานหลิน ประธานหลิน? น้องชาย ผมอยากรู้จริง ประธานหลินที่คุณเรียกนี้ฐานะอะไรกันแน่ ถึงทำให้คุณเคารพมันขนาดนี้? คุณเข้าใจอะไรผิดไปแล้วหรือเปล่า?” กงซุนสือพูดด้วยหัวเราะเย็นชา “มันเป็นแค่คนบ้านนอกจากต่างจังหวัดคนเดียว ผมดูคุณแบบนี้ อย่าไปถูกมันหลอกเอา น้องสาวของผม ก็เกือบถูกไอ้นี่มันหลอกแล้ว”
“คนบ้านนอกจากต่างจังหวัด?” นิ่งซวนลูบหน้าผาก นวดขมับ
เขารู้สึกว่า กงซุนสือโง่จนไร้ยารักษาแล้ว
นิ่งซวนพูด “แกรู้ไหมว่าประธานเป็นใคร? ทางที่ดีที่สุดแกควรกลับไปถามตระกูลกงซุนของแกนะ ว่ารู้จักคุณชายอิ่งไหม”
“คุณชายอิ่ง? คุณล้อเล่นอะไร?” กงซุนสือส่ายหน้าหัวหน้าเย็นชา ไม่เชื่อแม้แต่น้อย “ถึงแม้ว่าช่วงนี้ฉันจะไม่ได้ใช้ชีวิตในตี้จิง แต่ก็เคยได้ยินข่าวอยู่บ้าง คุณชายอิ่งเป็นคนตระกูลฉี มันแซ่หลิน คุณหลอกใครกันเหรอ? ถ้ามันเป็นคุณชายอิ่ง ฉันคงเป็นผู้นำประเทศแล้ว”
“แกยังมาปลอมตัวเป็นคนของตระกูลนิ่ง? ฉันว่าพวกแกนี่รนหาที่ตาย รอฉันติดต่อกับคนในครอบครัวก่อน ต้องลากตัวพวกแกออกมาจากตี้จิงแน่” กงซุนสือไม่พอใจอย่างมาก
ไม่รู้ว่าหลินอิ่งมันไปหาเพื่อนมาจากไหน ปลอมตัวกันจนขึ้นหัวแล้ว คนใหญ่โตอะไรก็กล้าปลอมตัว
“ประธานนิ่ง ท่าน ครั้งที่แล้วคุณเคยปรากฏตัวที่โรงแรมเพิร์ลใช่ไหม?” ลู่เฉินถามเสียงเบาอยู่ด้านข้าง มองหน้านิ่งซวนด้วยสีหน้าที่เคารพ มีความรู้สึกแบบไม่น่าเชื่อ
“อะไร? เสี่ยวเฉิน คุณรู้จักเขา?” กงซุนสือถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
“คือ……คุณผู้ชายท่านนี้ คือนิ่งซวนของตระกูลนิ่ง” ลู่เฉินพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น เหงื่อท่วมหัว ไม่กล้าเงยหน้ามองหลินอิ่งแล้ว
เธอเคยเห็นนิ่งซวนในงานแห่งหนึ่ง ตอนที่มั่นใจว่าเป็นนิ่งซวนแล้ว ในใจก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
คนที่สามารถทำให้นิ่งซวนเคารพขนาดนี้ อาจจะ เป็นคุณชายอิ่งแห่งตี้จิงตัวจริง
แต่ว่า เมื่อกี้เธอกลับพูดจาเหยียดหยามคุณชายอิ่ง……ถ้าหากเขาเอาเรื่องขึ้นมา เธอต้องจบสิ้นแน่ กงซุนสือก็คุ้มหัวเธอไม่ได้
“อะไรนะ นิ่งซวนจริงเหรอ? นั้น ถ้าอย่างนั้น……” กงซุนสือเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าซีดลงไปทันที ดวงตาหรี่เล็กลง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
“เขาคือนิ่งซวน งั้นหลินอิ่ง หลินอิ่งคือ……” กงซุนสือพูดอ้ำๆอึ้งๆ เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผาก
เรื่องล้อเล่นนี้มันจะเกินไปใหญ่แล้ว
หรือว่า หลินอิ่งจะเป็นคุณชายอิ่งแห่งตี้จิงจริง?
นี่เป็นเรื่องที่กงซุนสือไม่มีวันคาดคิดได้ และไม่เคยคิดไปในด้านนี้เลย
“เป็นไปไม่ได้ น้องชาย นิ่ง คุณนิ่ง คุณให้ผมโทรคุยกับคนในครอบครัวผม ผมต้องการแน่ใจหน่อย” กงซุนสือพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“โทรศัพท์?” หลินอิ่งหัวเราะ พูดอย่างเรียบเฉย “นิ่งซวน คุณต้อนรับเขาอยู่ที่นี่ ผมเปลี่ยนโต๊ะกินข้าว ซ้อมจนคนของตระกูลกงซุนมา คุณไปรับช่วงกับพวกเขา”
“อย่าให้คนตระกูลกงซุนมารบกวนเวลากินข้าวของผมอีก จัดการเรื่องนี้เสร็จ แล้วมาหาผม”
หลินอิ่งพูดสั่งไปสองประโยคอย่างใจเย็น ค่อยๆลุกขึ้น
ส่วนฉู่ฉู่ ก็ลุกขึ้นเดินตามอย่างเชื่อฟัง
“ครับ”
นิ่งซวนพยักหน้าอย่างเคารพ จากนั้นก็หันไปมองกงซุนสือทั้งสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา
กงซุนสือมึนงงไปหมดแล้ว มองหลินอิ่งเดินไปที่โต๊ะอีกตัวด้วยสายตางงตาค้าง
วินาทีนี้ เขาดูออกแล้ว
หลินอิ่งไม่ได้มีตระกูลกงซุนของเขาอยู่ในสายตาเลย ให้คนซ้อมเขาอยู่ทางนี้ ยังมีอารมณ์นั่งกินข้าวไปด้วย?
“ไอ้หน้าโง่ไม่รู้จักดู แกยังอยากโทรศัพท์? ให้คนของตระกูลกงซุนมารับคนเลย”
เพี๊ยะเพี๊ยะ
พูดจบ นิ่งซวนสะบัดมือตบหน้ากงซุนสือไปสองครั้ง
“เอื้อกอ้าก”
“เอื้อก”
กงซุนสือถูกซ้อมจนร้องโอดโอย สีหน้าเต็มไปด้วยความอับอาย
จากนั้น ทหารลับของตระกูลนิ่งก็เดินเข้ามา กดตัวกงซุนสือทั้งสองคนไว้ทั้งต่อยทั้งถีบ ซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย
หุ่นสองคนนี้ รับแรงกระทืบไม่ไหวแน่นอน แค่ไม่กี่ทีก็น้ำมูกน้ำตาไหลไม่หยุด หน้าสะบักสะบอมล้มตัวสั่นอยู่บนพื้น
“เอื้อก อ้าก เมตตากันหน่อย”
“อยากต่อยอีกเลย ทำต่อไปจะเกิดเรื่องแล้ว……”
ภายในร้านอาหารมีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของกงซุนสือดังขึ้นไม่หยุด
ทหารลับของตระกูลนิ่งไม่ได้หยุดมือเลย เอาเชือกมาผูกทั้งสองคนแขวนขึ้น ซ้อมเหมือนกับกระสอบทราย
บนโต๊ะอาหารที่อยู่ไม่ไกล หลินอิ่งคีบกับข้าวอย่างใจเย็น กินข้าวอย่างสบายใจ
ติ๊ดติ๊ด
เวลาเดียวกัน มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เบอร์โทรที่แสดงหน้าจอ คือน้องสาวกงซุนชิวอวี่โทรมา