ซื่อไท่หน้าผากผุดเหงื่อ พูดว่า “เรียนท่านอิ่ง ผู้น้อยได้ประกาศสั่งกับผู้อยู่ในการดูแลทั้งหมดแล้วครับว่า ไม่ว่าอะไรที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้ถือเป็นคำสั่งห้ามทั้งหมด”
หลินอิ่งผงกหัวเล็กน้อย พูดเรียบๆ ว่า “ในโลกนี้ วิถีทำมาหาเงินมากมาย อย่าไปเลือกทำอย่างสุดขั้ว แกอยู่ในวงการ เพียงแค่ดูแลให้อยู่ในคอนโทรลให้ได้ โอเคนะ”
“ผู้น้อยเข้าใจครับผม จะปฏิบัติตามแนวคำสั่งของท่านอย่างเคร่งครัด”ซื่อไท่ค้อมหัวพูด
คำพูดของหลินอิ่ง หมายถึงให้สะกิดเตือนก็พอ
ซื่อไท่ก็รู้เข้าใจดี
ตั้งแต่ท่านอิ่งกลับคืนสู่ตี้จิง ได้สนับสนุนลูกพี่หยูขึ้นมาเป็นหัวหน้าใหญ่หัวมังกรระดับผู้นำแล้ว ก็มีคำสั่งห้ามเด็ดขาดกับการทำธุรกิจผิดกฏหมาย ไม่เพียงตัวเองไม่ทำ ยังห้ามไม่ให้คนอื่นทำด้วย
เนื่องจากคำสั่งเฉียบขาดของท่านอิ่งนี้ ภายใต้ปฏิบัติการอย่างเข้มงวดของ หยูจื๋อเฉิง พี่ใหญ่หยูจึงได้รับฉายาที่โด่งดังมากๆ คนต่างพากันเรียกเขาว่า ผู้กองกำกับการใต้ดิน
“ดีละ กลับไปเถอะ ที่สถาบันชิงถึงนี้ หลานสาวฉันเรียนอยู่ที่นี่ หากฉันไม่ว่าง แกก็ช่วยเป็นธุระดูแลให้หน่อยนะ”หลินอิ่งพูดกำชับ
“ท่านอิ่งวางใจได้ครับผม”ซื่อไท่พูดอย่างมั่นเหมาะ
สั่งการทุกอย่างเรียบร้อย หลินอิ่งเดินออกจากสถาบันชิงถึง
ณ.ที่จอดรถหน้าประตูสถาบัน ฮาเดสเตรียมรถพร้อมรออยู่แล้ว
หลินอิ่งเข้านั่งในรถ ฮาเดสสตาร์ทรถ ขับมุ่งเข้าสู่ถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน
ตี๊ดๆ….
หลินอิ่งเพิ่งนั่งได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์เข้ารหัสดังขึ้น
เป็นโทรศัพท์จากเย่เฮย
เขารับโทรศัพท์อย่างพึงใจ
กำลังคิดจะโทรไปหาเย่เฮยพอดี อยากจะถามถึงเหตุการณ์ทางด้านนั้นอยู่
“นายท่าน ข้อมูลตามรายงานไม่ผิดพลาด ยืนยันได้แน่ชัดแล้วว่ามีผู้พิทักษ์ระดับสูงของสำนักยุทธ์เชียนสองคน”เสียงทุ้มหนักของเย่เฮยส่งมาจากโทรศัพท์อีกด้านหนึ่ง
“พิกัดอยู่ในเขตตี้เจียง เป็นอาคารธุรกิจใหญ่ร้างข้างๆ ตี้เจียง พวกมันซ่อนตัวอยู่ในนั้นเอง ผู้น้อยกับท่านผู้ปู่หวงได้สะกดเฝ้าพวกแก๊งคนต้าเหออยู่ที่นี่”เย่เฮยรายงาน
“อยู่ข้างถนนริมแม่น้ำสาม ถูกต้องนะ?”หลินอิ่งถามเสียงเรียบๆ “โอเค สะกดเฝ้าไว้ ฉันจะมาถึงเดี๋ยวนี้ละ”
“ไอ้พวกแก๊งคนต้าเหอนั่น ไม่รู้กำลังขนอะไรกันอยู่ เห็นพวกมันเข้าๆ ออกๆ ระหว่างตึกร้าง ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจัดรวบรวมของ เหมือนเตรียมย้ายสถานที่”เย่เฮยรายงานอย่างหนักแน่น
“ผู้น้อยเกรงว่า ถ้าหากว่าไอ้พวกแก๊งคนต้าเหอนี้ย้ายออกไปจากตึกร้างพวกนี้ พวกเราจะไปตามหาพวกมันอีก จะมีความเสี่ยงต่อการเปิดเผยตัวของพวกเราเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ขอท่านลองพิจารณาสั่งการให้พวกเราลงมือก่อนเลยดีไหมครับ?”
“ถ้าพวกมันเตรียมเคลื่อนย้าย พวกแกก็จัดการลงมือก่อนเลย ฉันกะว่าจะมาถึงที่นี่ได้คงอีกประมาณครึ่งชั่วโมง”หลินอิ่งพูดอย่างเป็นทางการ
“ครับผม!”
หลังจากปิดโทรศัพท์ หลินอิ่งสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น สั่งว่า “ฮาเดส ไปถนนริมแม่น้ำสาม เขตตี้เจียง”
จากนั้น เขาค่อยๆ หลับตา เอนตัวลงเพื่อพักผ่อน
……
บริเวณเขตตี้เจียง ยามค่ำคืน แสงเดือนสาดส่อง น้ำในแม่น้ำไหลครืนครัน
ริมฝั่งแม่น้ำเป็นอาคารตึกใหญ่เรียงรายร้างอยู่ ข้างๆ มีขยะเป็นกองๆ
บนอาคารตึกสูงที่สร้างค้างตึกหนึ่ง บริเวณชั้นบนสุดของอาคารสามสิบกว่าชั้น
ลมแผ่วๆ โชยพลิ้ว ภายใต้แสงเดือน มีเงาร่างดำมาดเท่จำนวนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงชั้นบนสุดของตึก บรรยากาศดูอึมครึม
เย่เฮยหลังจากติดต่อทางโทรศัพท์กับหลินอิ่งแล้ว เก็บโทรศัพท์เข้ารหัส ล้วงถุงมือที่สะท้อนส่องแสงเงินจางๆ จากกระเป๋าเสื้อ
และในขณะเดียวกัน ลูกน้องอีกห้าหกคนของเย่เฮย ก็ล้วงถุงมือออกมาเหมือนนัดกันไว้ สวมใส่มืออย่างช้าๆ
ท่ามกลางบรรยากาศมืดทะมึน แสงสะท้อนของถุงมือ สาดคลุ้งกลิ่นอายการฆ่า
“นี่มัน……”
หวงชิงซานที่ยืนมองอยู่ข้างๆ เห็นดังนั้น อุทานออกมาด้วยความตื่นตลึง
เขาเคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน นี่มันเป็นฝันร้ายของเขาแท้ๆ
ครั้งก่อนนั้น การปะทะกันกับกลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังตระกูลเหวิน ฝ่ายตรงข้ามก็คือยอดฝีมือชุดดำสิบกว่าคน ทุกคนต่างสวมถุงมือสีเงินแบบนี้
ถุงมือพิเศษสั่งทำเฉพาะนี้ จับมีดหักได้นั่นไม่ต้องพูดถึง เพียงแค่กวาดมือปาดใส่ใคร คนคนนั้นเป็นเลือดสาดกระจาย เนื้อหลุดจากกระดูก
ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น คือแม้กระสุนสไนเปอร์ก็ไม่สามารถยิ่งทะลุเข้าได้ สุดโหดสุดน่ากลัวจริงๆ
“ไอ้น้องเย่เฮย นี่เป็นอาวุธพิเศษของทีมงานคุณหรือ? จริงๆ แล้วคุณรู้จักกลุ่มที่ลงมือกับตระกูลเหวินในครั้งนั้นหรือไม่?”หวงชิงซานอดไม่ได้ที่ต้องถาม
เย่เฮยออกอาการลังเลนิดหนึ่ง บอกว่า “ท่านปู่หวงครับ นี่เป็นรูปแบบพิเศษของพวกเรา แต่ทว่า ผมแยกตัวหลุดพ้นจากขบวนการแล้วหลายปี องค์กรของผมเอง เปลี่ยนแล้ว”
“พวกคนที่ท่านพูดถึงเหล่านั้น ผมรู้จักแน่นอน และบ้างก็เคยสนิทกันมากด้วย แต่ พวกเขาทรยศต่อคุณหลิน…..”เย่เฮยพูดเสียงเย็นยะเยือก ไม่พูดเท้าความอีกต่อ
ประโยคคำพูดนี้ ฟังแล้วให้หวงชิงซานตาผลุบลง เสียวหลังวาบ
คำพูดของเย่เฮยแฝงด้วยนัยแห่งสัญญานกว้างมากๆ…..
“เอาละ ท่านปู่หวง เมื่อตะกี้คุณชายหลินโทรศัพท์เข้ามา ให้พวกเราปฏิบัติการได้ตามรูปโอกาส”เย่เฮยเปลี่ยนเรื่องคุย พูดอย่างเป็นการเป็นงานว่า “พวกกลุ่มคนต้าเหอนั่น กำลังเก็บจัดการสินค้าของพวกมัน ใกล้จะถอนหนีออกจากตึกอาคารนี้แล้ว เตรียมตัว ลงมือกันเถอะ”
“อือม์ “หวงชิงซานผงกหัวเห็นด้วย มองไกลไปยังอาคารตึกใหญ่ นัยต์ตาแก่ย่นฉายแววเย็นยะเยือก
สายตาจากมุมสูงของเย่เฮย มองชัดเจนไปถึงอาคารตึกเตี้ยที่ห่างออกไปหลายสิบเมตร อาคารร้างที่สร้างค้างหลังหนึ่ง มีแสงไฟส่องสว่างขึ้น เงาดำเป็นตะคุ่มๆ ขยับอยู่ข้างในห้อง
สวบ!
เพียงชั่วแวบ เย่เฮยก้าวนำออกเป็นคนแรก กระโดดพุ่งตัวออกไป คนทั้งตัวทะยานออกจากตึก
ยอดฝีมือองครักษ์มังกรดำหลายคนนั้น ตามติดข้างหลัง กระโดดตามกันลงไป
หวงชิงซานก็ไม่มีการลังเล จากที่ความสูงกว่าร้อยเมตร ก้าวทะยานออกไป
เงาร่างดำของพวกเขา ฝ่าไปท่ามกลางความมืด ดุจสายลมโฉบผ่าน ละลิ่วข้ามไปยังตึกร้างตรงข้ามที่ห่างออกไปหลายสิบเมตร
ตูม! ตูม!
ตามมาติดๆ เป็นเสียงกึกก้องหนักหน่วง สั่นสะเทือนจนตึกโทรมๆ นั้นสะท้านไปทั้งชั้น เจาะทะลุไปหลายโพรงรู
“เกิดอะไรขึ้น? ใครกัน?”
“อ๊าก…..”
ภายอาคารชั้นเดียวที่สว่างทั่ว เสียงโวยวายเป็นโกลาหลดังออกมาทันที คนที่กำลังขนถ่ายลังนิรภัยส่งภาษาต้าเหอฟังกันไม่ได้ศัพท์
เย่เฮยนำพวกทลายผนังกำแพงที่ขวางแต่ละชั้นอย่างระห่ำคลั่ง โจนทะยานดุจลมโฉบเงาเฉวียนพุ่งใส่กลุ่มคนต้าเหอ
“อ๊าก!”
“โอ๊ย!”
ช่วงเพียงไฟแลบ คนต้าเหอร้องด้วยความเจ็บปวดคนแล้วคนเล่า
…..เลือดกระเซ็นสาดกระจายไปทั่ว
ไม่ว่าคนต้าเหอใครเจอเข้ากับเย่เฮย แค่ปะหน้าไม่ทันไร เนื้อกับกระดูกก็กระจุยกระจายเลือดสาดกระเซ็นทั่ว ไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย
“รายงานสองเจ้านาย เร็ว!มีคนประเทศหลุงบุกเข้ามา”
ในขณะนั้นเอง มีคนต้าเหอคนหนึ่งตะโกนร้องเสียงดัง มือกดอุปกรณ์รีโหมดที่ถืออยู่
บรึม บรึม บรึม บรึม!
ในอาคารตึกร้างนั้น พลันเกิดเสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวของการสะท้านแหวกอากาศ มันมีการซุกฝังระเบิดไว้ในอาคารร้างนี้
การระเบิดเป็นช่วงๆ หยุดลง เย่เฮยและพวกอีกหลายคนหลบเหตุอันตราย กระโดดถอยออกไปหลายช่วงก้าว
ในช่วงฉับพลันนั้นเอง
นักรบคนต้าเหอที่แต่ละคนมือถือมีดแวววาว ลุยเข้ามาเป็นขบวนตามทางระเบียง
“ไอ้พวกคนประเทศหลุงมาจากไหนกันวะ? กล้าเข้ามาลงมือทำร้ายพวกข้า?”
คนต้าเหอใส่หน้ากากโหดแสยะที่นำหน้าขบวน มองเย่เฮยกับพวกแล้วตะคอกถาม