“คุณชายหลินอิ่ง คุณพูดถูก”ผู้อาวุโสฉินพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน”สำหรับระดับฝีมือบูโดแล้ว คุณดีกว่าชิงเย่มาก ยังไงคุณก็เป็นรุ่นพี่ที่สูงกว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องมาอะไรมากมายกับรุ่นเด็กกว่าอย่างชิงเย่เลย?”
ได้ยินเช่นนั้น หลินอิ่งกระตุกคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไรมาก
“คุณชายหลินอิ่ง ผมขอแนะนำตัวหน่อย ผมฉินเหิงเยว่ เป็นสมาชิกคณะกรรมการผู้อาวุโสตระกูลหลิน”ผู้อาวุโสฉินค่อยๆ พูดขึ้น”ครานี้ผมได้รับคำสั่งมาจากแม่เฒ่า ให้ลงเขามาเชิญคุณชายหลินอิ่ง”
“คณะกรรมการผู้อาวุโสตระกูลหลิน?”หลินอิ่งคิ้วขมวดเล็กน้อย เหลือบมองผู้อาวุโสฉิน
ได้ยินชื่อนี้ ฉินเหิงเยว่มีฐานะในตระกูลหลินแห่งลังยาสูงมาก
เขาเคยได้ยินมาว่าในตระกูลลึกลับล้วนมีกลุ่มผู้อาวุโส เป็นศูนย์กลางการตัดสินใจของตระกูล และควบคุมอำนาจของตระกูลไว้อย่างแท้จริง
งั้นแสดงว่าคนคนนี้เป็นคนที่ตระกูลหลินส่งมาให้จัดการกับเรื่องสำคัญๆ
ผู้อาวุโสฉินผู้นี้ หลบอยู่ในเงามืดมาตลอด นั่งมองตัวเองทำให้หลินชิงเย่ถึงทางตัน เมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะออกมา
เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาแอบแฝง
หลินอิ่งครุ่นคิดครู่หนึ่ง เหมือนจะสรุปได้แล้ว ว่าผู้อาวุโสฉินเป็นคนสนิทของแม่เฒ่าตระกูลหลิน
แม่เฒ่าผู้นั้นคงส่งมาลองหยั่งเชิง และตรวจสอบฝีมือตน
“ใช่ครับ คุณชายหลินอิ่ง คณะกรรมการผู้อาวุโสตระกูลหลิน มีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในตระกูลหลิน ผมมีอำนาจในการพูด สามารถคุยกับคุณในนามแม่เฒ่าได้”ฉินเหิงเยว่พูดอย่างไร้กังวล
“คุย?”หลินอิ่งยิ้มเยาะ”คุณฉิน แม่เฒ่าแห่งตระกูลหลินให้คุณมาคุยกับผมดื้อๆ แบบนี้นะเหรอ?”
“ทั้งเก็บกวาดกิจการในตี้จิง ทำลายแผนในเมืองชิงหยูนของผม แตะต้องคนของผม อีกทั้งประกาศว่าจะยึดอิทธิพลและทรัพย์สินของผม?”
“นี่คือน้ำใสใจจริงของตระกูลหลินงั้นเหรอ?”
ได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสฉินสีหน้าเรียบเฉย ราวกับพอจะเดาออกไว้แล้วว่าหลินอิ่งจะถามแบบนี้
“ฮ่าๆ ๆ “ผู้อาวุโสฉินยิ้มแห้ง”คุณชายหลินอิ่ง คุณคิดมากเกินไป ช่วงที่คุณไม่ได้อยู่ตี้จิงมีคนด้านนอกตั้งมากมายที่สอดส่องอิทธิพลอุตสาหกรรมของคุณ คนของตระกูลหลินจึงวางแผนออกโรง ดูแลกิจการของคุณด้วยตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ”
“คุณชายหลินอิ่งก็รู้ดี ว่าคุณมีศัตรูที่ซ่อนอยู่ในตี้จิงมากแค่ไหน คุณฆ่าลูกศิษย์ของท่านเฉินเฟิง แน่นอนว่าท่านเฉินเฟิงต้องหมายหัวคุณ อีกทั้งยังกำจัดคนชั้นสูงของสำนักยุทธ์เชียนถึงสองคน คนต้าเหอกำลังวางแผนคิดบัญชีกับคุณ”
“แต่ละเรื่องแม่เฒ่าเป็นคนรับไว้แทนคุณชาย”
“นี่ถือเป็นน้ำใจของแม่เฒ่าเลย ไม่อยากเห็นคนนอกยึดเอาธุรกิจ ที่คุณชายหลินอิ่งทำมาอย่างยากลำบากไป คุณชายหลินอิ่งอย่าเข้าใจผิดเป็นอันขาด”
ผู้อาวุโสฉินพูดเต็มไปด้วยความจริงใจ เป็นห่วงความปลอดภัยของหลินอิ่งสุดๆ
หลินอิ่งยิ้มเยาะไม่พูดอะไร
เป็นคนแก่ที่รู้เยอะจริงๆ ผู้อาวุโสฉินพูดอย่างไม่มีช่องโหว่ใดเลยๆ
เห็นๆ อยู่ว่าตระกูลหลินกำลังสอดส่องอิทธิพลอุตสาหกรรมของตน แต่เขากลับพูดว่าคิดแทนตน
ผู้อาวุโสฉินสีหน้ายิ้มแย้ม พลางพูดต่อ:”คุณชายหลินอิ่ง แม่เฒ่าถึงกับแหกกฎพาตาของคุณกลับภูเขาลังยาเพื่อคุณเลยนะ ให้ความสำคัญกับคุณมากๆ ”
“เธอแก่แล้ว คิดถึงหลาน ดังนั้นเชิญคุณกลับไปเจอที่ภูเขาลังยาเถอะ ไม่ทราบว่าคุณชายหลินอิ่งมีความเห็นอย่างไรบ้าง?”
จะปฏิบัติกับหลินอิ่งยังไง
ผู้อาวุโสฉินคิดไว้แล้ว
แม่เฒ่าตระกูลหลินเคยสอนและกำชับเขา ว่าให้มีแผนสำรองไว้บ้าง
ถ้าหลินอิ่งไม่โอเคจริงๆ ก็จัดการให้จบในคราวเดียว
ถ้าหลินอิ่งดูท่าไม่ดี ก็รับกลับตระกูลหลิน ฝึกฝนให้ดี
นี่คือที่แม่เฒ่าหมายถึง
แต่ที่ผู้อาวุโสฉินคิดไว้ ก็เด่นชัดเช่นกัน
หลังจากเห็นหลินอิ่งแสดงบูโดขั้นสูงออกมาเช่นนี้ เขาก็เริ่มอยากถอย
ไม่ยอมมีปัญหากับคุณชายที่มีอนาคตไกลอย่างหลินอิ่ง เพียงเพราะเด็กบุ่มบ่ามอย่างหลินชิงเย่หรอก
ใครแข็งแกร่งกว่าใครอ่อนแอกว่า สามารถแยกได้อย่างชัดเจนภายในพริบตา
อำนาจทางธุรกิจของหลินอิ่งที่มีในโลกธรรม บวกกับบูโดระดับนี้ อายุเท่านี้ และการให้ความสำคัญของแม่เฒ่าตระกูลหลิน
อนาคตแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่แน่นอน!
ทำให้คนเคารพยำเกรง ไม่กล้ามีเรื่องด้วย
“เรื่องไปตระกูลหลิน ไว้ค่อยคุยกัน”หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย”แต่เรื่องตรงหน้านี่สิจัดการให้ชัดเจนก่อน”
“หลินชิงเย่ตามฆ่าผมตั้งแต่ตี้จิงจนถึงตำบลเล็กๆ จะคิดบัญชีนี้ยังไงดี?”
“วันนี้จะจัดการหลินชิงเย่เจ้าหมอนี่ไหมละ?”
หลินอิ่งมองผู้อาวุโสฉิน ถามอย่างเย็นชา
“คือ……”
เมื่อเผชิญกับท่าทีเผด็จการเช่นนี้ของหลินอิ่ง ผู้อาวุโสฉินก็เกิดความลำบากใจ หันมองหลินชิงเย่อย่างลังเล
“หลินอิ่ง คุณรังแกกันเกินไปแล้ว!ผู้อาวุโสฉินพูดกับคุณดีๆ ก็คิดว่าเขาไว้หน้าคุณแล้วเหรอ?”หลินชิงเย่โวยวาย
“ผู้อาวุโสฉิน!คุณยังจะพูดมากความอะไรกับหลินอิ่งทำไม?คนผู้นี้เหี้ยมโหดและดื้อรั้น ก่อนหน้านี้ฆ่าผู้อาวุโสตระกูลหลินไปถึงสองคน!ตอนนี้มาใช้แผนสกปรกโจมตีผม แถมยังจะให้ผมก้มหัวขอโทษอีก ฝันไปเถอะ!”หลินชิงเย่พูดอย่างเดือดดาล
“ผู้อาวุโสฉิน ผมคิดว่าคุณปฏิบัติตามกฎครอบครัวดีกว่า จับมัดหมอนี่กลับตระกูลหลิน ให้คนบังคับกฎลงโทษเขา!จะไปเกรงใจเขาทำไม?”หลินชิงเย่พูดด้วยความหนักแน่น
หลินชิงเย่วางความหวังของวันนี้ทั้งหมดไว้ที่ผู้อาวุโสฉิน
“คุณฉิน คุณตัดสินใจเรื่องนี้ไหม?หากไม่ได้ผมจะจัดการเอง!”หลินอิ่งพูดอย่างสบายๆ มีความน่าเกรงขามในน้ำเสียง
ได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองหลินชิงเย่อย่างจริงจัง
“คุณชายเก้า คุณคุกเข่าเถอะ”
ผู้อาวุโสฉินพูดอย่างเคร่งขรึม
“ว่าไงนะ?ผู้อาวุโสฉินคุณก็ให้ผมคุกเข่าให้หลินอิ่งงั้นเหรอ?นี่มัน?”หลินชิงเย่ราวกับได้ยินผิดไป มองผู้อาวุโสฉินด้วยสีหน้าตกตะลึง
“นี่ท่าน ท่าน……”
“ไม่เก่งพอก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้”ผู้อาวุโสฉินพูดอย่างเคร่งขรึม
“คุณชายเก้า คุณเป็นคนพูดเอง จะคืนคำไม่ได้ คุณควรยอมรับกรรมของวันนี้”ผู้อาวุโสฉินพูดอย่างจริงจัง”ผมสามารถสกัดกั้นคุณชายหลินอิ่งแทนคุณได้ แต่เช่นนั้นในอนาคตจะยังใจกว้างอยู่ไหม?บูโดคุณจะยังสามารถก้าวหน้าไหม?”
“การคุกเข่าวันนี้ คุณไม่ได้ขายหน้า”
“ถ้าพูดจากแง่ใดแง่หนึ่ง การที่แพ้ให้กับผู้อาวุโสกว่าที่เก่งกาจเช่นนี้ นับว่าเป็นโชคแกบูโดของคุณ”
“คุณควรตั้งสติ และเจียมตัว คุกเข่าขอโทษ ละอายใจต่อความผิด แล้วจะกล้าที่จะแก้ไข หลังจากนี้กลับไปคิดทบทวนให้ดี ทบทวนถึงสงครามวันนี้ ตั้งใจไตร่ตรอง แล้วจิตใจจะสมบูรณ์แบบ”
ผู้อาวุโสฉินค่อยๆ พูดจนจบ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
หลินชิงเย่มีความสามารถบูโดจนถึงทุกวันนี้ได้ขนาดอายุยังน้อย แน่นอนว่าไม่ได้โง่ เขาแค่ร้อนใจที่วันนี้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่
หากหลินอิ่งเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในแวดวงลึกลับ แน่นอนว่าหลินชิงเย่ก็ยอมคุกเข่าให้ด้วยความศรัทธา และยอมรับความพ่ายแพ้
ความอัปยศในวันนี้ จะเป็นบันไดให้บูโดของเขาสูงไปอีกขั้นในวันข้างหน้า
เพียงแต่ในใจหลินชิงเย่นั้นไม่ยอมรับสถานะของหลินอิ่ง ดูถูกหลินอิ่ง แค้นฝังใจ กลืนความโกรธแค้นนี้ไม่ลงก็เท่านั้น
เมื่อได้ยินคำสั่งสอนอันลึกซึ้งของผู้อาวุโสฉิน
ท่าทีแปลกๆ ของหลินชิงเย่ค่อยๆ กลับมาสงบ สายตาซับซ้อน มองหลินอิ่งด้วยความขมขื่น
เหมือนเขาจะคิดอะไรได้
ปึก!
ทันใดนั้น หลินชิงเย่กัดฟัน หันหน้าไปทางหลินอิ่ง แล้วคุกเข่าลงไปอย่างจัง แล้วโขกศีรษะแรงๆ หนึ่งทีจนเกิดเสียงดังพลั่ก