หลินอิ่งเดินมาจนถึงด้านนอก ก็พบว่านอกจากฉินเหิงเยว่ที่กำลังรออยู่ ยังมีชายวัยกลางคนสองคนที่สวมชุดคอจีนลักษณะท่าทางไม่ธรรมดา
คนหนึ่ง ใบหน้าแข็งกร้าว สายตาดุจดั่งนกอินทรี จ้องมองมาที่หลินอิ่งด้วยความเย็นชา
หลินอิ่งเหลือบตามอง คิ้วขมวดเล็กน้อย
คนที่มองเขาอยู่นั้น ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยความทรงพลังที่หาผู้ใดมาเปรียบได้ สายตาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร มองตนเองด้วยความอาฆาต
“คุณหลินอิ่ง นี่คือหลินเสวียนหมิงผู้อาวุโสสองกับหลินเสวียนเฮ่อผู้อาวุโสแปดครับ” ฉินเฟิงเยว่ยืนแนะนำอยู่ข้างๆ
“หลินเสวียนหมิงผู้อาวุโสสอง?” หลินอิ่งทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ มองไปที่ชายวัยกลางคนผู้นั้นที่ทรงพลังด้วยสีหน้าเมินเฉย
หลินเสวียนหมิงยืดตัวตรง รัศมีออร่าไม่ธรรมดา สายตาคู่นั้นมีพลังมาก ยืนอยู่ที่นั่นราวกับเหยี่ยวที่ทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า เผยให้เห็นออร่าที่ดุดันและดุร้าย
หลินเสวียนหมิงแก่กว่าหลินซวนหวาผู้เป็นปู่ อายุที่แท้จริงควรจะมีอายุหกสิบกว่าแล้ว กระทั่งอายุเจ็ดสิบเข้าไปแล้ว
แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก หลินเสวียนหมิงเหมือนคนที่อายุสี่สิบถึงห้าสิบปี ชายวัยกลางคนที่กำลังรุ่งโรจน์ในชีวิต ผมดำครับ เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ
หลินอิ่งมองแวบเดียวก็ตัดสินใจได้ในทันที นี่คือปรมาจารย์ระดับรายการแห่งฟ้า!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้อาวุโสสองแห่งตระกูลหลิน
แต่ก่อนหน้านี้ ได้เคยดวลกันมานับไม่ถ้วนแล้ว
ในทุกครั้ง มักเป็นหลินเสวียนหมิงที่ต้องกล้ำกลืนกับผลของความเจ็บปวด ความอาฆาตที่เขามีต่อตนเอง มันสามารถจินตนาการได้
หลินเสวียนหมิงทำเสียงหึอย่างเย็นชา กลอกตาใส่หลินอิ่งอย่างเยือกเย็น หันหลังเดินจากไป โดยไม่พูดอะไร
สีหน้าของหลินเสวียนเฮ่อถึงกับเขียนจนคล้ำ หน้าแดงก่ำ แล้วหันหลังเดินตามหลินเสวียนหมิงไปในทันที
“เหอะ” หลินอิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา
จากคำพูดของท่านเฉินเฟิง เขาสามารถรับรู้ได้ว่านี่เป็นแผนการของหลินเสวียนหมิง อยากจะยืมใช้มีดของคนอื่นมาฆ่าคน ยืมมือของท่านเฉินเฟิงมากำจัดตัวเองทิ้งซะ
เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึง หลายปีก่อนท่านเฉินเฟิงจะถูกเขาทำลายความกล้าไปทั้งหมดแล้ว เห็นเงาตัวเองยังต้องกลัว จะกล้าลงมือได้อย่างไร?
คิดไปคิดมา หลินเสวียนหมิงผู้นี้อยากจะมาเยาะเย้ยตัวเอง คราวนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จึงทำให้เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
สำหรับหลินเสวียนหมิงผู้อาวุโสสองตระกูลหลิน หลินอิ่งได้วางแผนไว้แล้ว จะหาโอกาสที่เหมาะสม ต้องจัดการฆ่าเขาทิ้งซะ
หลินอิ่งมาที่ตระกูลหลินแห่งลังยา ยังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์นั่นก็คือสะสางเรื่องที่หลินซวนหวาผู้เป็นปู่ทำไม่สำเร็จในอดีต และต่อสู้เพื่อแม่ที่ตายไปแล้ว
ทำให้คนของตระกูลหลินเห็นว่า หลินซูชิงที่ถูกพวกเขาไล่ออกจากบ้าน ลูกชายที่เธอให้กำเนิด เป็นคนอย่างไร!
“คุณชายหลินอิ่งครับ คุยกับท่านเฉินเฟิงสำเร็จไหมครับ?” ฉินเหิงเยว่ใส่สีหน้าตกใจมองสำรวจหลินอิ่ง
เขาคิดไม่ถึงว่า หลินอิ่งจะสามารถเดินออกมาจากคฤหาสน์ของท่านเฉินเฟิงโดยสงบสุขพบไม่พบเจอกับปัญหาใดๆ
ต้องรู้ว่า เมื่อครู่ฉินเหิงเยว่รับรู้ได้ถึงความดุดันที่ออกมาจากภายในห้องโถง แม้แต่เขายังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเลย
เขาสามารถสรุปได้เลยว่า ท่านเฉินเฟิงจะต้องโกรธมาก จนลงมือแน่
แต่สุดท้าย หลินอิ่งกลับ เดินออกมาอย่างไม่มีอะไรเสียแม้แต่ปลายผม?ท่านเฉินเฟิงสามารถทนกับการที่ลูกศิษย์ถูกฆ่า?ไม่สั่งสอบหลินอิ่ง?
ฉินเหิงเยว่มองไปที่หลินอิ่งหลายครั้ง แต่จากสีหน้าของหลินอิ่งก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งผิดปกติแม้แต่นิดเดียว
เขารู้สึกภายในใจว่า หลินอิ่งผู้นี้ยิ่งอยู่ยิ่งดูออกยากขึ้นทุกวัน!ช่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก
“ถือว่าคุยสำเร็จมั้ง” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
หลินเหิงเยว่หัวเราะแห้งๆ แล้วพูดว่า “วิธีการของคุณชายหลินอิ่งไม่ธรรมดาเลยครับ แม้แต่เรื่องที่ยุ่งยากอย่างนี้ยังสามารถจัดการได้!กระผมเหล่าฉินเลื่อมใสมากครับ”
พูดจบ ฉินเหิงเยว่ก็หันกลับมาพูดต่อว่า “คุณชายหลินอิ่งครับ งั้นเชิญเข้าไปที่คฤหาสน์เถอะครับ แม่เฒ่ากำลังรอคุณอยู่ครับ ”
พูดจบ ทั้งสองก็พากันเดินทางไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน หลินอิ่งจึงพาจางฉีโม่มาด้วย
อีกด้านหนึ่ง
หลินเสวียนหมิงกับหลินเสวียนเฮ่อมาถึงบันไดหยกนอกคฤหาสน์ของตระกูลหลิน
หลินเสวียนหมิงหน้าแดงก่ำ กำหมัดแน่นจนเสียงดังกรอบแกรบ โกรธจนปอดแทบจะระเบิด!
“ผู้อาวุโสสองครับ คะ คุณอย่าโกรธเลยนะครับ เดี๋ยวก็ต้องเข้าพบแม่เฒ่าแล้ว อย่าใจร้อนนะครับ” หลินเสวียนเฮ่อสังเกตเห็นผู้อาวุโสสองที่ที่กำลังโกรธ จึงรีบพูดเกลี้ยกล่อม
“นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!ตู้เฉินเฟิงเป็นเศษสวะรึไง?มันทำอะไรของมัน!ลูกศิษย์ของเขาถูกหลินอิ่งฆ่า ฉันอุตส่าห์เอาผลประโยชน์มาล่อเขา แต่เขากลับปล่อยหลินอิ่งไป?” หลินเสวียนหมิงแทบจะกัดฟันกรอด สีหน้าโกรธเกรี้ยว
เขาคิดไม่ออกว่า เหตุใดหลินอิ่งถึงเดินมาโดยไม่มีอะไรเสียหาย!
ท่านเฉินเฟิงมัวทำอะไรอยู่?
หรือเขาไม่ได้ต่อกรกับหลินอิ่ง?
“อะ เอ่อตู้เฉินเฟิงอาจจะลงมือไปแล้ว แต่อาจจะถูกหลินอิ่งรับมือได้?แล้วทำให้เขาตกใจ ไม่กล้าสู้ต่ออีก?” หลินเสวียนเฮ่อพูดเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ ด้วยสีหน้าสงสัย
พวกเขาทั้งสองคน เดิมทีอยากจะมาดูเรื่องตลกของหลินอิ่งด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสุข จะรอดูว่าหลินอิ่งจะถูกกำจัดบูโดได้อย่างไร แล้วไสหัวออกมาอย่างสะบักสะบอม
แต่คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้หลินอิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาทั้งสองอย่างเริงร่า
จิตใจของพวกเขา รู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก!
“ผิดคาดจริงๆ ผิดคาดมาก!” หลินเสวียนหมิงส่ายหัวไปมา แล้วพูดอย่างไม่ยอม “ตู้เฉินเฟิงคนนี้เสียทีที่เป็นถึงปรมาจารย์เปิดสำนัก ปรมาจารย์ที่มีอยู่ในต้นๆของรายการแห่งฟ้า!แต่กลับไม่สามารถสั่งสอนหลินอิ่งได้?”
“หรืออยากจะบีบให้ฉันหาโอกาส กำจัดหลินอิ่งด้วยตัวเอง?”
“ผู้อาวุโสสอง อย่าใจร้อนไปเลยครับ รออีกเดี๋ยว เราเข้าไปถามตู้เฉินเฟิง ถามว่าเขาจัดการเรื่องนี้ยังไง!ถ้าไม่อธิบายออกมา งั้นเราก็ไปถามตาแก่ง่อยนั่น!” หลินเสวียนเฮ่อกล่าวว่า “แม่เฒ่าจะมอบหมายภารกิจให้หลินอิ่งด้วยตัวเอง เรายังต้องหาโอกาสย้ายกลับเข้าไปในเมือง!”
“ย้ายกลับเข้าไปในเมือง?” หลินเสวียนหมิงสายตาเฉียบคม แล้วทำท่าเหมือนเริ่มครุ่นคิด
“จริงด้วย ไม่ว่ายังไง ฉันจะทำให้หลินอิ่งมันอยู่ในตระกูลหลินอย่างทรมาน!อยากจะลงหลักปักฐานในตระกูลหลิน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”
……
หลังจากผ่านไปห้านาที
ณ ห้องโถงตระกูลหลิน
แม่เฒ่ากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ปรมาจารย์
ด้านล่าง คือเหล่าบรรดาผู้อาวุโสของตระกูลหลิน แต่ละคนเป็นคนมีอำนาจและอิทธิพลในการพูดสั่งการ
รวมถึงหลินซวนหวาคุณตาของหลินอิ่งก็อยู่ในที่นี้เช่นกัน
ครั้งนี้ หลินอิ่งปรากฏตัวขึ้นที่ตระกูลหลินแห่งลังยาอย่างเป็นทางการ ในฐานะทายาท ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เวลานี้เอง หลินอิ่งกับจางฉีโม่ ก็ค่อยๆเดินเข้ามา
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างมองไปที่พวกเขาทั้งหมด