หูชีเยี่ยนพนันเท็กซัส โฮลเอ็ม ผลสุดท้ายแพ้ไปตั้งแต่รอบแรก ซีเหมินจินเหลียนกับลูกน้องไร้ยางอายทั้งสองคนของจ่านป๋าย ไม่เพียงแต่ปลอบประโลมเขาหนึ่งประโยค ยังปรบมือให้กำลังใจ หูชีเยี่ยนไม่ได้สนใจ ซีเหมินจินเหลียน แต่กลับสบถด่าจ่านป๋ายระบายอารมณ์ไม่หยุด
“พ่อคะ ทักษะการพนันของพ่อห่วยมากเลยค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนมองดูเวลา แทงพนันจะเริ่มขึ้นตอนสามทุ่ม ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่มสี่สิบนาที ภายในสี่สิบนาทีเขาแพ้ไปตั้งยี่สิบล้านดอลลาร์สหรัฐ รวดเร็วเหลือเกิน
“พ่อเต็มใจ” หูชีเยี่ยนเชิดหน้าโอ้อวด
ซีเหมินจินเหลียนได้แต่หัวเราะ ขี้เกียจพูดอะไรให้มากความ ลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ
“แล้วคุณไม่เต็มใจที่จะชนะกลับไปให้พวกเราดูเหรอครับ?” อาศัยจังหวะที่ซีเหมินจินเหลียนเข้าห้องน้ำ จ่านป๋ายยิ้มกับหูชีเยี่ยน
“พรุ่งนี้ฉันก็ชนะ” หูชีเยี่ยนส่งสายตาดูถูกเหยียดหยามไปให้จ่านป๋ายแวบหนึ่งพร้อมถาม “ถ้านายกล้า พรุ่งนี้ก็มาพนันกับฉันสิ? ฉันจะชนะจนเอากางเกงในนายมาให้ได้เลย”
“ช่างเถอะครับ ถ้าคุณเบื่อไม่มีอะไรทำจริงๆ พรุ่งนี้ผมจะแนะนำคนให้คุณมาพนันด้วย คุณอย่าห่วงใยทรัพย์สินของผมเลย อย่างไรเสียทรัพย์สินพวกนั้นไม่ช้าหรือเร็วก็เป็นของจินเหลียน” จ่านป๋ายแสดงถึงจุดยืน
“เฮ้อ…” หูชีเยี่ยนสับสนพร้อมถาม “หนุ่มอย่างแกว่ายังไงนะ?”
“หูหวังให้ผมเรียกเขาว่าคุณปู่ คุณว่ายังไงล่ะครับ?” จ่านป๋ายยิ้มได้ใจ
“ฉันยินยอมตั้งแต่ตอนไหน?” หูชีเยี่ยนขมวดคิ้วพูด
“คุณยินยอมหรือไม่นั้นมันสำคัญด้วยเหรอครับ?” จ่านป๋ายเลียนแบบเขาแล้วเอียงศีรษะพูด
“ฮ่า…” หูชีเยี่ยนปล่อยเสียงหัวเราะแผ่วเบา “เว้นเสียแต่จินเหลียนยินยอม ไม่อย่างนั้นนายก็อย่าแม้แต่ฝัน”
จ่านป๋ายยักไหล่อย่างไม่สนใจ เห็นซีเหมินจินเหลียนเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินมาทางนี้ จึงรีบสงบปากสงบคำอย่างว่านอนสอนง่าย หูชีเยี่ยนตบไปที่อกของเขาพร้อมหัวเราะ “แหะๆ…” ในระหว่างที่พูดเขาก็เรียกพนักงานบริกรคนหนึ่งเขามาเพื่อสั่งไวน์แดงหนึ่งแก้ว จากนั้นก็ถือไวน์แดงไปแลกเงินชิปเพื่อพนันเงินอีกครั้ง
ซีเหมินจินเหลียนหามุมๆ หนึ่งนั่งและสั่งน้ำส้มคั้นสดหนึ่งแก้ว “คืนนี้เขาต้องแพ้ไปเท่าไหร่ถึงจะสาแก่ใจ?”
“วางใจได้ คืนนี้เขาแพ้ไปเท่าไหร่ พรุ่งนี้เขาก็ชนะกลับมา ที่นี่ไม่ใช่ที่อื่นไกล” จ่านป๋ายพูด
“ลาสเวกัสเนี่ยเป็นสรวงสวรรค์ของนักพนันเสียจริง มองจนฉันก็อยากจะพนันเหมือนกัน” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจเบาๆ “งานพนันของชิงซื่อในวันพรุ่งนี้จัดที่ไหนงั้นเหรอ?”
“ด้านบนที่โรเยิล คาสิโนชั้นสองถึงห้าใช่ทั้งนั้น ทั้งหมดเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดสู่สาธารณะ” จ่านป๋ายยิ้ม “คุณลองทายดูสิรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์เทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่ต้องทายหรอก วันนี้สวี่อี้หรานโทรมาหาฉันตั้งแต่เช้า ฉันมีรายได้แล้ว” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มๆ ยอดขายตั๋วภาพยนตร์ของเทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้าดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก
“งานพนันของชิงซื่อก็แค่พนันหิน ไม่มีของเล่นอื่นแล้วเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“มีน่ะมี แต่ผมเดาว่าคุณคงไม่สนใจสักเท่าไหร่” จ่านป๋ายยิ้ม
“โอ้?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถาม “ว่ายังไงนะ?”
จ่านป๋ายนิ่งงันไปอยู่นานถึงเริ่มอธิบาย “มีของเล่นที่คล้ายกับการพนันหินใหญ่ อันนั้นแหละสีสันเพียบ”
“งานพนันของชิงซื่อครั้งนี้ก็สามวันเหมือนกัน อีกอย่างเป็นงานพนันหิน หินหยกดิบทั้งหมดมาจากทีเดียว นั่นก็คือบริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่” จ่านป๋ายอธิบาย
“เรื่องนี้ฉันรู้ คุณสมิธคนนั้นมือเติบ คุณมีหุ้นอยู่ในบริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่เท่าไหร่?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“สามสิบเปอร์เซ็นต์” จ่านป๋ายยิ้มๆ ที่เขาเข้าร่วมกับบริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่ ก็เพราะมีสาเหตุอีกอย่างถึงได้มีหุ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นสมิธคงไม่มีทางปล่อยหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ออกมาแน่ “หรือการพนันหินครั้งนี้ไม่เหมือนกับทั่วไปงั้นเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“อืม” จ่านป๋ายพยักหน้าพูด “หินหยกดิบทุกก้อนเขียนราคาไว้อย่างชัดเจน คุณสนใจก้อนไหนก็ซื้อมาได้เลย ไม่มีการต่อรองราคา…”
ซีเหมินจินเหลียนคิดๆ ดูแล้วก็ไม่เลวเลย เหมือนกับการไปซื้อของในห้างสรรพสินค้า สินค้าทุกชิ้นเขียนราคากำกับไว้หมดแล้ว แค่มองแวบเดียวอยากจะซื้อก็ซื้อ ไม่อยากจะซื้อก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองปากให้มากความ แต่ปัญหาเหมือนกันก็จะก่อตัวขึ้น อยากจะแย่งชิงซื้อสินค้าจะทำอย่างไร? ทันใดนั้นซีเหมินจินเหลียนเลยถามคำถามที่ค้างคานี้
“เรื่องนี้คุณสมิธก็ตรึกตรองดูแล้ว เดิมทีตั้งใจจะเปลี่ยนมาเป็นการเสนอราคา แต่กลัวการแข่งขันที่ฟาดฟันจากลูกค้า ดังนั้น…” จ่านป๋ายพูดถึงเท่านี้ก็ยิ้มค้างอยู่นาน “ดังนั้นถ้าพบว่ามีลูกค้าทั้งสองชอบหินหยกดิบก้อนเดียวกัน ที่นี่คือลาสเวกัส จึงใช้วิธีพนันมาแก้ปัญหา”
“หา?” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วมีความรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “พนันยังไง?”
“ก็คือเกมที่คุณกับอวิ๋นอวิ้นเล่นกัน” จ่านป๋ายยิ้ม
“หา?” ซีเหมินจินเหลียนยังไม่ทันได้ตั้งสติกลับมา เธอกับอวิ๋นอวิ้นพนันกันอย่างไรแล้วนะ?
“ถ้าหากมีลูกค้าสองคนหรือมากกว่านั้นชอบหินหยกดิบก้อนเดียวกันพร้อมๆ กัน สำหรับเจ้าภาพในงานพนันของบริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่ พรุ่งนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ที่นั่นคอยไกล่เกลี่ย หากการไกล่เกลี่ยไม่มีประโยชน์ คุณสามารถใช้วิธีการพนันฟ้าดิน ลูกค้าทั้งสองต้องเขียนว่าข้างในหินหยกดิบโปร่งใสแค่ไหนเป็นชนิดไหน สีอะไร อีกทั้งยังต้องให้ทั้งสองเขียนราคาของหินหยกดิบส่งมาด้วยกัน จากนั้นก็เปิดเปลือกหินตอนนั้นเลย ผู้ชนะมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของครอบครองหินหยกดิบก้อนนั้น นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเงินจากฝ่ายแพ้มาได้ด้วย” จ่านป๋ายอธิบาย
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วถอนหายใจแผ่วเบา ดูท่าแล้วเกรงว่าคงอยากจะทำให้งานพนันชิงซื่อดูน่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นใช่ไหม? ถ้ามีลูกค้าสองคนหรือมากกว่านั้นสนใจหินหยกก้อนหนึ่งในเวลาเดียวกัน แถมราคาขายของหินหยกดิบก้อนนั้นเป็นสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ถ้าอย่างนั้นแล้วลูกค้าทั้งสองก็ต้องจ่ายเงินไปสิบล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ผู้จัดงาน จากนั้นถึงเริ่มการพนันหิน ใช้โอกาสในการเปิดเปลือกหิน ฝั่งไหนที่ชนะ ไม่เพียงแต่สามารถได้หินหยกดิบมาครอบครอง ยังจะได้เงินสิบล้านดอลลาร์จากทางฝ่ายที่แพ้อีกต่างหาก ครุ่นคิดดูแล้วใจของเธอก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
“นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าไม่เหมือนกับชาวบ้าน?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างสงสัย
“ไม่ นี่เป็นแค่อีกวิธี” จ่านป๋ายส่ายศีรษะพูด “ส่วนอีกวิธีก็คือหินหยกดิบที่ซื้อในวันพรุ่งนี้ คุณสามารถเลือกที่จะไม่ผ่าเปลือกหยกแล้วขนย้ายกลับไปค่อยๆ ผ่า แต่ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้อาจจะมีคนบางส่วนที่เปิดเปลือกหินตรงนั้นเลย เนื้อหยกที่ถูกเปิดเปลือกหินออกมาในตอนนั้นจะมีผู้ประเมินราคาหยกมืออาชีพ จากนั้นมอบให้กับระบบทางคอมพิวเตอร์ คืนวันนั้นเมื่อเปิดเปลือกหินออกมา ผู้ที่มีชนิดและสีดีที่สุดจะได้รับเงินรางวัลห้าสิบล้านดอลลาร์จากผู้จัดงาน นี่เป็นการสนับสนุนให้นักพนันเปิดเปลือกหยกในตอนนั้น และยังสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคน”
ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจยาวลึก คำว่าพนันคำเดียว ที่ทำให้ผู้คนหลั่งสารความสุขออกมาอย่างสุดขีด
จ่านป๋ายยิ้ม “เนื้อหยกที่เปิดเปลือกหินที่นั่น ขอแค่ราคาเหมาะสม บริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่ก็จะรับซื้อด้วยราคาสูง นี่เป็นการทำธุรกิจที่ทำกำไรได้มหาศาล ดังนั้นผู้คนมากมายต่างกำลังรอคอย”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า ที่บริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่เล่นแบบนี้ แน่นอนไม่ใช่เพราะอยากจะหารายได้แน่นอน แต่เพื่อต้องการเข้าสู่อุตสาหกรรมหยกอย่างแท้จริง ในอนาคตบริษัทจินเหลียน จิวเวลรี่ก็ต้องเข้าสู่ตลาดโลก บริษัทชิงซื่อ จิวเวลรี่เป็นถึงคู่แข่งที่เข้มแข็ง โชคดีที่เธอกำหนดเวลาไว้เหมาะสมแล้ว ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรไม่คาดฝัน เดือนหน้าร้านสาขาย่อยของบริษัทจินเหลียน จิวเวลรี่น่าจะสร้างขึ้นที่ลาสเวกัสเหมือนกัน
ทุกวันนี้หลินเสวียนหลานก็เริ่มหาเช่าร้านและงานประชาสัมพันธ์เบื้องต้น ประกอบกับงานพนันของชิงซื่อและภาพยนตร์เทพธิดาหนี่วาซ่อมฟ้ารอบปฐมทัศน์ ทุกอย่างเสมือนดั่งน้ำหลากคลองเกิด
“นอกจากนี้ยังมียาเป่า” จ่านป๋ายพูดอีกครั้ง
“ยังมีอีกไหม?” ซีเหมินจินเหลียนเกาศีรษะ มันสมองการทำธุรกิจของสมิธคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ?
“ยาเป่าอันนั้น ก็เหมือนกับงานพนันหินครั้งยิ่งใหญ่เหมือนกัน” จ่านป๋ายอธิบาย “แต่แค่ไม่ได้มาจากหินหยกดิบที่ลูกค้านำมา แต่เป็นหินหยกดิบของพวกเขา งานทุกคืนจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยเลือกสรรหินหยกดิบสีคล้ายกันจากนั้นเปิดตลาดเสรี ลูกค้าวางเดิมพันได้ตามสบาย สุดท้ายแล้วเปิดเปลือกหิน ผู้ชนะผมไม่ต้องพูดถึงคุณก็น่าจะรู้”
“อืม” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้ายิ้ม “มีหลายแบบดีนี่”
“ใช่แล้ว งานประชาสัมพันธ์เบื้องต้นของสมิธใช้ได้เลย นักธุรกิจค้าอัญมณีทุกแห่งหนไม่นับ ยังจะมีพวกคนตระกูลร่ำรวยมั่งคั่งที่เบื่อไม่มีอะไรทำก็ใช่โอกาสนี้มาล่าความสงสัย คืนพรุ่งนี้คงได้คึกคักแน่ เพราะฉะนั้นผมบอกว่าขอแค่คุณหูยินยอม คืนนี้แพ้เท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ พรุ่งนี้ชนะกลับมาแน่นอน” จ่านป๋ายยิ้ม
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเขา แม้ว่าเธอไม่เคยเห็นหูชีเยี่ยนพนันหิน แต่เขาสามารถควบคุมการขุดเหมืองหยกพม่าในระยะเวลาอันสั้น กระบวนการรวดเร็วปานลมพัดผ่าน ไม่มีใครเทียบเทียมได้
อีกอย่างอยากจะควบคุมการขุดเหมืองหยกในพม่า ไม่ว่าจะต้องใช้เงินทุนสูงขนาดไหนรวมถึงทักษะพิเศษบางอย่าง ก็ยังต้องการสายตาพนันหินที่เฉียบคม
ซีเหมินจินเหลียนคิดถึงหยกเพลิงไฟอุณหภูมิอบอุ่นก้อนนั้นในห้องใต้ดินของเธอ ไหนจะมีหยกแสงอาทิตย์สีส้ม ของแบบนี้นอกจากหูชีเยี่ยน คนอื่นก็ไม่มีทางว่าจะหาเจอ แม้หินหยกดิบแบบนี้จะอยู่ตรงหน้าคุณ คนทั่วไปก็คิดว่ามันเป็นแค่หินธรรมดาทั่วไป
“พวกเธอทั้งสองแอบพูดจาให้ร้ายฉันลับหลังอีกแล้วเรอะ?” เหล้าในมือของหูชีเยี่ยนถูกเปลี่ยนเป็นอีกสี ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว จะดื่มเหล้าอย่างไรก็ห้ามดื่มแบบเขาเด็ดขาด เมาง่ายแถมยังจะทำลาย สติสัมปชัญญะ
“ไม่ครับ” จ่านป๋ายพูด “คุณหู คืนนี้คุณแพ้ไปเท่าไหร่แล้วล่ะครับ?”
“ทำไมฉันถึงแพ้ละ?” หูชีเยี่ยนยิ้มลำพองใจ “ครั้งนี้ฉันชนะแล้ว”
“ไม่รู้ว่าใครยอมเป็นแพะแพ้ให้กับคุณ” จ่านป๋ายขยี้จมูก
“คุณครับ เช็คธนาคารของคุณครับ” ในระหว่างที่ทั้งสามพูดคุยกันอย่างเรื่อยเปื่อย บริกรที่รอยัล คาสิโนคนหนึ่งยื่นเช็คหนึ่งใบส่งไปให้หูชีเยี่ยนอย่างเคารพอ่อนน้อม
สายตาของจ่านป๋ายกวาดไปทั่ว ในเมื่อเป็นเงินสามล้าน ดูแล้วเขาน่าจะชนะแล้ว
“จินเหลียน ลูกไม่ลองวัดดวงดูหน่อยเหรอ?” หูชีเยี่ยนยิ้มไปทางซีเหมินจินเหลียน
“หนูเคยลองแล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนใบหน้าอมทุกข์พูด “แพ้ไปหนึ่งล้านเลยไม่เล่นแล้ว…”
หูชีเยี่ยนได้ยินแล้วปล่อยเสียงหัวเราะลั่น ซีเหมินจินเหลียนยู่ปากพูด “กลับไปนอน พรุ่งนี้มาร่วมพนันของชิงซื่อ หนูจะเอาชัยชนะกลับมา”