ซีเหมินจินเหลียนสงสัยอยู่ในใจและรีบแผดเสียงในลำคอทันที “เสี่ยวป๋าย”
“เป็นอะไรไป?” จ่านป๋ายเช็ดมือพลางอีกด้านก็วิ่งออกมาจากห้องครัว ด้านหลังมีหลินเสวียนหลานตามมาดูความสนุก
“มีคนส่งกล่องไม้ใหญ่มาให้ คุณช่วยฉันดูหน่อย อาจจะมีใครไม่ชอบฉันแล้วส่งระเบิดอะไรมาให้” ซีเหมินจินเหลียนพูด ละครสมัยนี้ก็ดำเนินเรื่องกันแบบนี้ทั้งนั้น ระวังไว้หน่อยก็ดี แต่เธอมีเสี่ยวป๋าย เลยไม่เกรงกลัวต่อระเบิดใดๆ
จ่านป๋ายกวาดสายตาไล่มองกล่องไม้ขนาดใหญ่พร้อมส่ายหน้าพูด “ไม่มีทางมีระเบิดแน่”
“ผมก็ดูแล้วไม่น่าจะมีระเบิด” หลินเสวียนหลานพูด
“ผมกล้ายืนยันได้เลยว่าในกล่องนี้ไม่มีระเบิด ไม่อย่างนั้นผมก็โดนกับคุณที่คฤหาสน์จินเหลียนนี่แหละ” สวี่อี้หรานพูดจริงจัง
จ่านป๋ายกลอกตาขาวใส่สวี่อี้หราน ส่วนหลินเสวียนหลานก็ทำท่าเหมือนคุณชายมีเงิน หูหวังมองอยู่ข้างๆขมวดคิ้วลิ่วตาพูด “จินเหลียน ให้ปู่จัดการเอง”
“คุณปู่คะ หนูเองดีกว่าค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดจบก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปเปิดฝากล่อง
“ปู่เอง” หูหวังแย่งพูด “ระวังไว้ก่อน เชื่อปู่” พูดจบเขาก็ไม่รีรอเปิดกล่องออก สวี่อี้หรานอดไม่ได้ที่จะยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ
กล่องถูกเปิดออกทันที มีกลีบกุหลาบสีชมพูจำนวนมากร่วงหล่นจากบนลงล่าง แถมยังมีกลิ่นดอกกุหลาบฟุ้งกระจาย ร่วงลงมาเต็มศีรษะและใบหน้าของหูหวัง…
“ฮัดเช้ย…ฮัดเช้ย…” หูหวังจามไปสองสามครั้ง จากนั้นก้าวถอยหลังด่า “ของเล่นอะไร หรือไม่รู้หรือไงว่าฉันแพ้เกสรดอกไม้”
“ฮ่า…จะขาดอากาศจะตายแล้ว” ข้างในกล่องมีจ่านมู่ฮวากอดช่อดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์พลันยันตัวลุกขึ้นมา
หูหวังเห็นพื้นเต็มไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ ไหนจะมีส่วนที่ตกหล่นตามตัวของเขา ไม่นานก็เอื้อมมือไปดีดหูจ่านมู่ฮวา “นายออกมาเดี๋ยวนี้ เล่นบ้าอะไรเนี่ย?”
ส่วนซีเหมินจินเหลียน จ่านป๋ายและหลินเสวียนหลานถลึงตาอ้าปากกว้างมองจ่านมู่ฮวา
“ผม…ผมก็แค่อยากจะเซอไพรส์ซีเหมินจินเหลียนครับ? โอ๊ย…คุณเบาหน่อยได้ไหม หูของผม…” จ่านมู่ฮวาร้องโวยวาย
“จ่านมู่ฮวา คุณทำอะไรของคุณ?” ซีเหมินจินเหลียนหมดอารมณ์จะพูด
“ผม…นี่ไม่ใช่การเอาตัวเองมาใส่พานให้คุณหรอกเหรอ?” จ่านมู่ฮวาสีหน้าอมทุกข์ ไม่ง่ายเลยที่จะหลุดพ้นจากหูหวัง สายตาเป็นประกายมองไปที่ซีเหมินจินเหลียน “คุณรีบเปิดกล่องไม่ได้หรือไง ทำเอาผมเกือบจะตายแล้วเนี่ย”
“คุณมันสมควรตาย ใครใช้ให้คุณไปเล่นพิเรนทร์แบบนั้นล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนกลอกตาขาวใส่เขา “อีกเดี๋ยวฉันจะเอาคุณลงกล่องตอกตะปูส่งกลับไปซะ”
สวี่อี้หรานได้ยินเช่นนั้นแล้วยิ้มๆ “ความรู้สึกนั้นคงไม่เลว ถ้าคุณท่านไม่ได้เปิดทันทีหรือบริษัทขนส่งล่าช้า หึหึ…แม้แต่โลงศพคุณคงไม่ต้องซื้อ นี่มันสำเร็จรูปในตัว”
“หุบปาก” จ่านมู่ฮวามองสวี่อี้หรานด้วยความโกรธเกรี้ยว นำช่อดอกลิลลี่ยื่นไปให้ซีเหมินจินเหลียน จากนั้นก้าวเท้าเข้าไปและชี้ที่จมูกเขา “กูยังไม่ได้คิดบัญชีกับมึงเลย มาๆๆ พวกเราออกไปเคลียร์ธุระส่วนตัวกันข้างนอก ถ้าไม่กล้าออกไปแม่มึงนั่นแหล่ะเ**้ย”
“อย่าก่อเรื่อง” ซีเหมินจินเหลียนรีบห้ามปราม
“จินเหลียน คุณอย่ามาขวาง คุณลองถามเขาสิ เขาสร้างตัวละครคุณยังไง เขาบอกว่าคุณชอบใช้ความรุนแรง บอกว่าคุณชอบชายแก่ ยังบอกว่าคุณหู…” จ่านมู่ฮวาโกรธจัด ครั้งที่แล้วเขาถูกหูชีเยี่ยนสั่งสอนชุดใหญ่อย่างเ**้ยมโหด เพียงแต่กี่วันมานี้เขายังไม่เคยหาโอกาสคิดบัญชีกับเขาเลยสักครั้ง
หลินเสวียนหลานพยักหน้าพูด “จินเหลียน เป็นความจริง เขาโทรมาหาผม บอกว่าคุณชอบผู้ชายที่ชื่อหูชีเยี่ยน แถมยังบอกว่า…” พูดจบเขาก็ส่ายศีรษะพูด “แต่ผมรู้มาตั้งนานแล้วว่าคุณหูเป็นพ่อของคุณ ไม่อย่างนั้นผมก็คงถูกเขาหลอกเหมือนกัน”
“เขายังบอกว่าฉันชอบใช้ความรุนแรงด้วยใช่ไหมคะ?” ซีเหมินจินเหลียนเหลือบมองหลินเสวียนหลาน
หลินเสวียนหลานพยักหน้าพูดสีหน้าจริงจัง “เขายังบอกว่าคุณชอบใช้ความรุนแรงน่ากลัว…เหมือนดั่งแมวป่า”
“สวี่อี้หราน อย่างน้อยวันนี้คุณก็ต้องหาคำอธิบายมาให้ฉัน” ซีเหมินจินเหลียนเหลือบมองดวงตาเขาพร้อมยิ้ม “ไม่อย่างนั้นฉันคงใช้ความรุนแรงขึ้นมาจริงๆ แน่”
“พวกคุณจะใช้คนฝูงใหญ่มารังแกคนผู้น้อยไม่ได้นะ…” สวี่อี้หรานรู้สึกเสียใจเล็กน้อย วันนี้ไม่น่ามาเลย เขาคิดไม่ถึงว่าทุกคนจะมารวมตัวกันที่คฤหาสน์จินเหลียน หูชีเยี่ยนบอกแค่ว่ามีแต่ซีเหมินจินเหลียนคนเดียว…คนเดียวที่ไหนกันล่ะ?
“ใช่” จ่านมู่ฮวาสับสนยกใหญ่ “ผมว่าเข็มขัดของเขาไม่เลวเลย”
“เฮ้ พวกคุณจะทำอะไร?” สวี่อี้หรานร้อนใจพูด “พวกคุณจะรังแกคนอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะคนป่วยอย่างผม”
“คุณเป็นหมอมองโกลไม่ใช่เหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเย็น
“ผมไม่ใช่สัตว์แพทย์” เวลานี้สวี่อี้หรานยังไม่ลืมที่จะพูดอธิบาย “ท่านผู้อาวุโสหู ท่านพูดอะไรหน่อยสิครับ…”
“เรื่องหนุ่มสาวของพวกเธอ ฉันไม่อยากยุ่ง” หูหวังนั่งบนโซฟาพลางส่ายหน้าพูด เวลานี้เขาเข้าใจได้แล้วว่าสวี่อี้หรานเป็นพวกพูดจาใส่สีตีไข่ จากนั้นใช้โอกาสนี้ตามจีบหลานสาวที่น่ารักของฉัน เพียงแต่ตอนนี้ถูกกระชากหน้ากาก ไม่เพียงแต่คนพวกนั้นอยากตีเขา แม้แต่ซีเหมินจินเหลียนยังอดไม่ได้ที่จะใช้ความรุนแรง
“คุณท่าน…” สวี่อี้หรานฟุบตัวอยู่บนโซฟาและกระซิบที่ข้างหูของหูหวังหลายประโยค
หูหวังสับสนและรีบถาม “จริงเรอะ?”
สวี่อี้หรานพยักหน้าหนักแน่น พูดเสียงเบาแรง “คุณท่านขอร้องท่านล่ะ ช่วยกู้หน้าให้ผมหน่อยเถอะครับ”
“คุณปู่หู อย่าไปฟังเขานะคะ เขาพูดจาเหลวไหลทั้งเพ” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“จินเหลียน เห็นแก่หน้าปู่ ปล่อยเขาเถอะ” หูหวังขวางซีเหมินจินเหลียนและมองจ่านมู่ฮวาแวบหนึ่ง
จ่านมู่ฮวารู้ว่าผู้อาวุโสที่ไม่สะดุดตาคนนี้เป็นใคร ถ้าไม่ไว้หน้ากับใครแต่ก็ควรไว้หน้ากับเขาสักสามส่วน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าอีกเดี๋ยวตนคงได้ถูกไล่ออกจากคฤหาสน์จินเหลียนแน่
สวี่อี้หรานเดินอ้อมโซฟาห่างจากจ่านมู่ฮวาไปให้ไกลแล้วยิ้ม “คุณชายจ่าน คุณอย่าโกรธเลย แค่ล้อเล่นไหมล่ะ เดี๋ยวผมจัดการดอกไม้ให้คุณเอง” พูดจบเขาก็หาที่โกยขยะกับไม้กวาดมาเก็บกวาดดอกไม้ที่ร่วงหล่นอยู่เต็มพื้น
จ่านมู่ฮวาเห็นเขาพูดแบบนั้น ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อ ส่วนสวี่อี้หรานหลังจากที่เก็บกวาดดอกไม้ร่วงเสร็จก็รีบแล่นวิ่งไปในครัว ซีเหมินจินเหลียนอกสั่นขวัญแขวนในใจ “อย่าได้เอาสารหนูมาเป็นเกลือซะล่ะ…”
“ห้องครัวบ้านคุณมีสารหนูด้วย?” สวี่อี้หรานพูดจริงจัง
“คุณ…” ซีเหมินจินเหลียนจ้องมองเขาโดยไม่ส่งเสียงคัดค้าน
ในห้องรับแขกเหลือแค่จ่านมู่ฮวากับซีเหมินจินเหลียนและหูหวัง…จ่านมู่ฮวาถูกซีเหมินจินเหลียนรั้งให้นั่งไว้ หูหวังด่าเขา “หนุ่มอย่างนายมาทำอะไรที่นี่ ไปเรียนรู้การทำกับข้าวในห้องครัวนู่นไป ยุคนี้ผู้ชายทำกับข้าวไม่เป็นก็หาเมียไม่ได้ หรือนายอยากจะเป็นแบบฉัน ใช้ชีวิตเร่ร่อนไปทั่วอยู่ตลอด?”
จ่านมู่ฮวายิ้มเจ้าเล่ห์ สงสารที่ชั่วชีวิตของเขาไม่เคยเข้าไปในครัว แต่ในเมื่อสวี่อี้หรานรวมถึงคนอื่นๆ อยู่ ไม่สู้ไปร่วมสนุกด้วยดีกว่า
ทักษะฝีมือทำอาหารของหลินเสวียนหลานไม่ได้ล้อเล่น และผิดคาดจากที่ซีเหมินจินเหลียนคิดไว้ สวี่อี้หรานมีทักษะการทำอาหารที่ดี โดยเฉพาะอาหารธรรมดาที่ปรุงกันง่ายๆ ในครัวเรือน เขาจะมีวิธีการปรุงแปลกใหม่แหวกแนวไปจากคนอื่น
ส่วนพี่น้องตระกูลจ่านทั้งสองก็คอยเป็นลูกมือ
กินข้าวเที่ยงเสร็จก็นั่งเบื่อหน่ายไม่มีอะไรทำ ซีเหมินจินเหลียนแนะนำให้เล่นไพ่นกกระจอก เพราะเธอมีไพ่นกกระจอกหยกใช้งานได้อยู่หนึ่งสำรับ แต่เล่นไพ่นกกระจอกต้องใช้ผู้เล่นถึงสี่คน พวกเขามีตั้งหกคน
สุดท้ายหลังจากเจรจาเสร็จ ซีเหมินจินเหลียนที่เป็นเจ้าบ้านขอไม่เล่น ส่วนจ่านป๋ายก็ถือว่าเป็นเจ้าบ้านครึ่งหนึ่งเลยให้จ่านมู่ฮวาเล่นไปแทน
ประโยคแรกหลังจากที่หลินเสวียนหลานสัมผัสไพ่นกกระจอกหยก เขามีแค่หนึ่งล้านถ้าแพ้หมดก็จะไม่เล่นแล้ว…อย่างน้อยเขาก็ไม่อยากเดิมพันด้วยทรัพย์สินในบ้าน
หลังจากการเจรจาเสร็จสิ้น ถ้าใครไม่อยากเล่นก็เปลี่ยนตัวยังไม่สาย
สวี่อี้หรานกลัวว่าพวกเขาจะร่วมมือกันมาเล่นงานตน ใครก็คงเล่นลูกไม้กันทั้งนั้น อย่างไรถ้าเป็นเขาแพ้ก็จะไม่ยอมรับ เงินเดิมพันตั้งหนึ่งล้าน แน่นอนถ้าใครจะเพิ่มเงินเดิมพันก็ไม่มีปัญหา
ผลสุดท้ายทั้งบ่าย หลินเสวียนหลานที่เตรียมใจว่าจะแพ้ราบคาบไปแต่แรกกลับชนะไปกว่าสามแสน หูหวังพยายามรักษาทุน จ่านมู่ฮวาเพราะว่าสวี่อี้หรานเพิ่มเงินเดิมพันเลยแพ้ในส่วนที่ตัวเองเล่นไปได้หลายหมื่น เช็คเงินสดถูกเขียนไปหลายแผ่น ใบหน้าที่พ่ายแพ้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว อีกอย่างเขายังลงเดิมพันพิเศษกับสวี่อี้หราน อย่างเช่นให้ทำความสะอาดบ้านให้กับซีเหมินจินเหลียนเป็นเวลาสองเดือน…
ดังนั้นหลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไป หูหวังต้องการดูโทรทัศน์ ไม่อยากเล่นแล้ว ส่วนจ่านป๋ายเก็บกวาดถ้วยชามเตรียมตัวไปล้างครัว จ่านมู่ฮวาเดินตามเข้าไปและจับจานที่เต็มไปด้วยคราบมัน “มู่หรง…”
“จ่านมู่ฮวา เร็วหน่อย ห้องน้ำไม่ได้อยู่ในครัว” สวี่อี้หรานตะโกนแหกปากออกไปอย่างลำพองใจ
“มู่หรง…” จ่านมู่ฮวาเรียกอีกครั้ง
“ฉันต้องเก็บของ ถ้าแกไม่มีอะไรก็รีบออกไป อย่ามารบกวนงานของฉัน” จ่านป๋ายพูด
“ความหมายของฉันก็คือ ฉันล้างจานเอง นายไปเล่นไพ่นกกระจอกเถอะ” จ่านมู่ฮวาพูดด้วยความน่าสงสาร
“นายกินยาผิดขนานหรือเปล่า?” จ่านป๋ายถามเยือกเย็น
“ทั้งตอนบ่ายฉันแพ้ไปสิบกว่าล้านยังไม่เป็นไร ยัง…อย่างไรเสียฉันแพ้ราบคาบ กลยุทธ์เขาฉลาดเกินไปแล้ว” จ่านมู่ฮวาพูด
“นายไม่ได้เล่นตุกติกอะไรเหรอ?” จ่านป๋ายรู้สึกแปลกใจ
“นายลองไปดูสิ เดี๋ยวนายก็รู้เอง” จ่านมู่ฮวาพูดพลาง อีกทางก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกจากเอวของเขาแล้วเอามาใส่ไว้ที่ตัวเอง
“ได้” จ่านป๋ายพยักหน้าพูด ล้างมือและเดินออกไปข้างนอก
“ฮ่า…เปลี่ยนคนแล้วเรอะ?” สวี่อี้หรานเห็นจ่านป๋ายเดินออกมาเลยยิ้ม “จ่านมู่ฮวาแพ้จนกลัว อย่าขี้งกเลย เพิ่งจะแค่สิบกว่าล้าน…”
“มีแค่พวกคุณที่เล่นได้งั้นเหรอ ผมเป็นคนที่สมควรโดนงั้นสิ?” จ่านป๋ายพูด
ซีเหมินจินเหลียนลากจ่านป๋ายมาเปลี่ยนที่นั่งพร้อมยิ้ม “คุณมาเป็นผู้เล่นก่อนฉัน อย่าลืมแจกไพ่ดีๆ ให้ฉันล่ะ”
“พี่ชายของคุณ แพ้จนน่าจะไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นในให้กับผมแล้ว จ่านมู่หรงคุณอยากเพิ่มของเดิมพันหรือเปล่า?” สวี่อี้หรานตบไปที่ไพ่นกกระจอกหยก
หลินเสวียนหลานเจ็บปวดใจเล็กน้อย นี่เป็นหยกคุณภาพชั้นยอดเยี่ยม หลังจากแกะสลักเสร็จก็วางไว้จัดแสดงโชว์ที่บริษัทจินเหลียน จิวเวอรี่ครั้งหนึ่ง จากนั้นเอามามอบให้ซีเหมินจินเหลียน แม้จะเอาออกมาเพื่อความบันเทิงครั้งคราวแต่ก็ไม่ต้องสบประมาทขนาดนั้นไหม?
“เพิ่ม” จ่านป๋ายพยักหน้าพูด “หนึ่งล้านเป็นฐาน และเพิ่มด้านนอกจำนวนเท่านี้”
“สิบล้าน?” สวี่อี้หรานมองดูเขายกนิ้วขึ้นมา
“ไม่ใช่ เป็นคนคนหนึ่ง” จ่านป๋ายมองซีเหมินจินเหลียนเหมือนกันพร้อมพูดเสียงขรึม