ตอนที่ 418 นายตกหลุมรักเขาอีกแล้ว
มั่วไป๋เทียบกับเหยียนอวี้แล้ว สงบนิ่งกว่าอย่างชัดเจนมาก เขามองเหยียนอวี้ด้วยท่าทีเรียบเฉย “ยังรักษาได้ไหม”
เหยียนอวี้พยักหน้า “รักษาได้ เพียงแต่ว่า…อาการของนายทรุดลงสาหัสกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะทีเดียว..
…ตามหลักการแล้วอาการของนายไม่น่าจะทรุดลงกลายเป็นอย่างนี้ได้” เหยียนอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายกลับไปเจอเรื่องอะไรสะเทือนใจมาใช่ไหม”
มั่วไป๋ไม่อยากจะพูดมาก เพียงแค่เอ่ยเสียงต่ำ “มีเรื่องนิดหน่อย แต่ไม่สำคัญหรอก นายดูสิว่าจะรักษาได้ยังไงบ้าง”
เหยียนอวี้อดจะสังเกตมองมั่วไป๋อย่างละเอียด รู้สึกว่าหลังจากที่เขากลับมาครั้งนี้ คนทั้งคนดูไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่
ชัดเจนมากทีเดียวว่าครั้งนี้ที่กลับประเทศไปต้องประสบเหตุการณ์อะไรสักอย่างมาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่ามั่วไป๋ไม่ยอมจะพูดมันออกมา
เขาครุ่นคิด สุดท้ายก็ตัดสินใจจะพูดออกมา “มั่วไป๋ ฉันเป็นหมอของนาย มีบางเรื่องฉันก็ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นฉันจะให้แผนการรักษาแบบครอบคลุมที่สุดกับนายได้ยากมาก”
มั่วไป๋เงียบงัน เหยียนอวี้เห็นเขาก็คิดว่าจะรอมั่วไป๋เอ่ยปากเองไม่ได้แล้ว
คิดไม่ถึงว่าเสียงต่ำนั้นจะเอ่ยขึ้น “ก่อนหน้านี้ฉันเจอคนคนนั้นมา”
เหยียนอวี้ขมวดคิ้ว “คนคนนั้น?”
มั่วไป๋พยักหน้า “ใช่ ฉันอยากแก้แค้นเขา เลยจงใจล่อลวงเขา”
“นายก็รู้อาการของนายดี ว่าทำแบบนี้ไม่ได้” เหยียนอวี้ทำหน้าไม่เห็นด้วยทันที
“เหยียนอวี้ นายไม่เข้าใจ ฉันไม่ยินดี” เขาเกือบจะตายเพื่อไป๋จิ่ง แต่ไป๋จิ่งกลับใช้ชีวิตได้อย่างสง่าผ่าเผย
แล้วก็ลืมว่ายังมีคนหนึ่งที่ชื่อว่าหลินฝาน
เขาไม่ยินดี ไป๋จิ่งลืมเขาจนหมดสิ้น ดังนั้นเขาจึงอยากจะเตือนไป๋จิ่งอีกครั้ง อยากให้ไป๋จิ่งเป็นเหมือนกับเขา จดจำเขาไปตลอดชีวิต
ลืมไม่ได้ไปตลอดชีวิต
“แต่ว่านายตกหลุมรักเขาอีกแล้วสินะ”
มั่วไป๋ยิ้มหัวเราะ “ที่แท้ก็ไม่เคยจะปิดบังอะไรนายได้จริงๆ”
“นายก็รู้ว่าฉันเป็นหมอของนาย เรื่องในตอนนั้นของนาย ฉันเข้าใจชัดเจน เรื่องในตอนนี้ก็ยังมองเข้าใจได้อยู่”
“เดิมฉันคิดอยากจะแก้แค้นฉัน ให้เขาจดจำฉันไปตลอดชีวิต แต่ฉันไม่นึกเลยว่าฉันจะยังควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้”
เหยียนอวี้แสดงสีหน้าหนักอึ้ง ดูสับสนในอารมณ์อยู่ไม่น้อย
รออีกไม่กี่นาที จู่ๆ เหยียนอวี้ก็พูดขึ้น “นายกลับไปเก็บของ แล้วพรุ่งนี้เข้ามาพักรักษาโรงพยาบาล…
…หลังจากมาแล้วทำแบบทดสอบอีกไม่กี่หน้า ถึงเวลานั้นค่อยมากำหนดแบบแผนการรักษาโดยละเอียด”
มั่วไป๋พยักหน้า “โอเค ฉันรู้แล้ว”
เหยียนอวี้พูดกับเขาต่ออีกไม่กี่ประโยค แล้วถึงค่อยให้เขาออกไป
มั่วไป๋ออกจากโรงพยาบาลมา ก็กลับไปยังคอนโดมิเนียมที่ตัวเองพักอยู่ก่อน พรุ่งนี้ต้องไปโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าการไปโรงพยาบาลนั้น เขาจะคุ้นชินมาตั้งนานแล้ว แต่จะคุ้นมากน้อยอย่างไรก็ต้องจัดเตรียมของกันสักหน่อย
เรียกรถกลับไปยังคอนโดมิเนียมที่อาศัยอยู่ ตอนที่มั่วไป๋ผ่านตลาดสด ก็เข้าไปซื้อผลไม้ แล้วเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย
น้อยครั้งมากที่ตัวเขาเองจะมาตลาดสดได้ รู้สึกมาเสมอว่าสถานที่แบบนี้เหมาะกับคนครึกครื้น เขาอย่างเขาไม่เหมาะมาแต่แรกแล้ว
แต่วันนี้ไม่รู้ว่าทำไม คิดไม่ถึงว่าเขาจะเดินเข้ามาจนได้
มั่วไป๋ฝืนยิ้มอย่างจนใจ คงเพราะเขาอยากจะสัมผัสรับรู้ถึง…ความอบอุ่นมั้ง
เขาเดินไปเรื่อยเปื่อย เวลาผ่านไปต่อนาทีต่อวินาที มั่วไป๋เองก็ไม่ได้รีบร้อน เดินไปมาดูรอบๆ
ไม่รู้ว่าเดินเล่นกันไปนานเท่าไหร่ มั่วไป๋ถึงได้ออกไปจากตลาดสด ตลอดทางมีคนเดินอยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่ก็เป็นคนหัวทองตาฟ้า จะพบเจอคนที่เหมือนเขาก็ยากอยู่พอควร
มั่วไป๋ยิ้มหัวเราะ รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองช่างน่าตลกเสียจริง
เดินมาจนถึงใต้ตึกคอนโดมิเนียม มั่วไป๋หิ้วผลไม้ในมือขึ้นตึกไป หลังจากออกมาจากลิฟต์ มั่วไป๋ก้มหัวหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกง
คลำหาอยู่ตั้งนานก็คลำไม่เจอ กว่าจะเจอได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มั่วไป๋เอามือหยิบกุญแจออกมา
กำลังจะเตรียมเปิดประตู ก็เห็นเงาร่างหนึ่งอยู่ต่อหน้าตัวเอง
มั่วไป๋เงยหน้าขึ้นมอง ไป๋จิ่งยืนไม่ไหวติงอยู่ข้างกายมั่วไป๋ ในมือรั้งกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งอยู่ ท่าทางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมายาวนาน
ตอนที่ 419 มีปีศาจน้อยที่มายั่วยวนอีกเป็นพรวน
มั่วไป๋หัวใจกระตุกวูบ มือที่ถือกุญแจกำแน่นสนิทโดยไม่ตั้งใจ เขาเบนสายตาออกจากไป๋จิ่งด้วยท่าทีเย็นชา แกล้งทำเป็นไม่เห็น ไม่พูดอะไรสักคำ
ใบหน้าหล่อเหลาของไป๋จิ่งแม้แต่หนวดเคราก็ขึ้นรุงรัง เขาดูเหมือนไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน ขอบตาดำคล้ำไปหมด
มั่วไป๋ยื่นมือไปเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปทันที ราวกับไม่รู้จักไป๋จิ่งอย่างไรอย่างนั้น
ไป๋จิ่งหัวใจบีบคั้น รีบเอื้อมมือไปคว้ามือของมั่วไป๋ไว้ “มั่วไป๋…”
มั่วไป๋รู้สึกเพียงเรือนผิวที่ร้อนผ่าวมาระลอกหนึ่ง จากนั้นสะบัดมือของไป๋จิ่งออกโดยไม่ลังเลเลยสักนิด เขาฉวยโอกาสขณะที่ไป๋จิ่งยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา สะบัดประตูใส่
ปัง! เสียงประตูกระแทกดัง ประตูถูกปิดล็อคในทันใด
เสียงประตูปิดดังสนั่น ทำให้หัวใจของไป๋จิ่งบีบรัดตัวแน่นโดยไม่ตั้งใจ
นาทีนี้ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าการโดนคนปฏิเสธปิดประตูใส่หน้า ความรู้สึกเป็นอย่างไร
มั่วไป๋พิงประตู หัวใจที่เดิมทีสงบนิ่ง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่จู่ๆ เต้นตึกตักขึ้นมา
คิดไม่ถึงว่าเขาจะหาที่นี่เจอได้ มั่วไป๋หลับตาลง หัวใจเจ็บกระตุกเล็กน้อย
เวลาผ่านไปนานแล้ว เขารู้สึกว่าเพียงชั่วพริบตาเดียวนั้นที่เจอหน้าไป๋จิ่ง แรงทั้งหมดที่มีถูกดึงออกไป หลังจากค่อยๆ กลับมาอย่างช้าๆ ถึงได้ออกห่างจากประตูไป
นอกประตูเงียบสงัด มั่วไป๋ไม่รู้ว่าไป๋จิ่งออกไปแล้วหรือยัง หรือว่ายังยืนอยู่ที่นอกประตู
เขาไม่พูดไม่จาสักคำ ไม่คิดอะไรสักอย่าง หิ้วผลไม้มาวางในอ่างล้างจาน ยืนตัวตรงล้างผลไม้อยู่ตรงนั้น
เขาล้างชิ้นต่อชิ้น เหมือนหุ่นยนต์ไม่มีผิด ตายด้านไร้ความรู้สึกอย่างยิ่ง
เวลาผ่านไปนานแล้ว ในที่สุดมั่วไป๋ก็ล้างผลไม้จนสะอาด เขาหยิบถาดออกมา จัดวางผลไม้เรียบร้อยแล้ว สุดท้ายก็ยกออกมาที่ห้องรับแขก
มั่วไป๋ยกผลไม้มาวางบนโต๊ะสำหรับวางชุดน้ำชา คนทั้งคนนั่งอยู่บนโซฟา จ้องผลไม้นั้นตาไม่พริบ
แต่สุดท้ายกลับหลับตาลง ขลุกตัวอยู่ในโซฟา เผลอกอดเข่าตัวเองราวกับสัตว์ตัวน้อยๆ ตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บมา
……
ห้องพักผู้ป่วยของคุณแม่เจียงในที่สุดก็ถูกเปิดออก ไม่รู้ว่าข้างในพูดอะไรกัน เหวินฮุ่ยโปรยยิ้มเล็กๆ พร้อมเอ่ยทิ้งทวน “พักผ่อนดีๆ นะ มีเวลาแล้วฉันจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
หลังจากที่ออกมาจากโรงพยาบาลด้วยท่าทีสนิทสนมกลมเกลียวแล้ว เหวินฮุ่ยถึงหยิบมือถือออกมาส่งข้อความให้ลูกชาย
[ภารกิจสำเร็จ]
สั้นๆ ห้าพยางค์ เมื่อซือเหยี่ยนได้รับข้อความ เขาก็อดจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาไม่ได้
เจียงมู่เฉินกำลังเอนตัวลงอยู่บนขาของซือเหยี่ยน เห็นเขาถือมือถือแล้วจู่ๆ ก็ยิ้มจนหน้าตาไปหมด ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก
“นายเป็นไรของนาย ทำไมยิ้มแบบนี้”
ซือเหยี่ยนยกมุมปากขึ้นด้วยท่าทีเรียบเฉย เอามือถือวางลงอยู่ด้านข้าง “มีคนมาอ่อยผม ส่งข้อความมาบอกรักผม”
เจียงมู่เฉินหรี่ตาลง “แล้วประธานซือตอบกลับไปว่าไง”
ซือเหยี่ยนยิ้วหาเราะเบาๆ “ผมบอกว่า ‘โอเค’”
เจียงมู่เฉินเห็นเขายิ้มจนหน้าตาดูชั่วร้ายมาก สมองก็ประกายวาบวิธีการที่ดีที่สุดในการจะฆ่าซือเหยี่ยนว่าจะทำอย่างไรขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
สุดท้ายก็รู้สึกว่าไม่มีความหมายอะไร สุดท้ายก็เงียบไม่พูดอะไร มองบนใส่ แล้วเล่นมือถือต่อ
ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าท่าทีตอบสนองของเจียงมู่เฉินแบบนี้ไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก
เขายื่นมือไปสะกิดเจียงมู่เฉิน “อะไรกัน ไม่เชื่อเหรอ”
“หึ” เจียงมู่เฉินทำเสียงเย็นใส่ แสดงท่าทีไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย “เชื่อๆ”
“มีคนมาอ่อยผมขนาดนี้ คุณไม่โกรธเหรอ”
เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “อ่อยนายแล้วมีอะไรน่าแปลกใจ คุณชายอย่างฉันได้รับข้อความขอความรักทุกวัน จะไม่หมุนรอบโลกไปหนึ่งรอบได้แล้วเหรอ”
เจียงมู่เฉินโยนมือถือให้ซือเหยี่ยนอย่างอ้อยอิ่ง “คุณชายเหนื่อยแล้ว นายดูเองเถอะ”
ซือเหยี่ยนส่งมือไปรับมือถือมาเปิดดู บนจอมีวงแดงไปทั้งแถบ
เขากดเปิดอ่านปราดเดียว ทั้งหมดเป็นแบบประมาณว่า
[คุณชายเจียงฉันคิดถึงคุณจังเลย]
[เมื่อไหร่คุณชายจะมาหาฉันบ้าง]
อะไรทำนองนี้ทั้งนั้น
ซือเหยี่ยนขมับกระตุกแล้วกระตุกอีก คนที่รักเฉินเฉินของเขา นอกจากเขาแล้ว ข้างนอกยังมีปีศาจน้อยที่มายั่วยวนอีกเป็นพรวน