บทที่ 706 “วิกผม” สยองขวัญ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เมื่อระยะห่างระหว่างหุ่นซอมบี้กับร่างจริงลดลงเรื่อยๆ พลังจิตของหลิงม่อก็เพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุด!
สำหรับอันตรายที่ไม่รู้จัก มนุษย์ล้วนหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ
แต่ภายใต้สภาวะที่รวบรวมสมาธิจนถึงขั้นสูงสุด ตอนนี้หลิงม่อกลับมีความรู้สึกตื่นเต้นปนอยู่ด้วย!
สัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งกว่าซอมบี้นก นั่นก็แสดงว่ามันอยู่ในระดับที่สูงกว่าซอมบี้ราชาน่ะสิ!
และสภาพร่างกายของหลิงม่อในตอนนี้ก็ดีกว่าตอนสู้กับซอมบี้นกมาก
“ถึงจะฆ่ามันไม่ได้ แต่เราก็ยังมีทางหนีและแผนรับมือ…”
หลิงม่อคิดอย่างใจเย็น ขอเพียงทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้หยุดสร้างเชื้อไวรัสคลุ้มคลั่งได้ พวกเย่เลี่ยนก็จะหลุดพ้นจากสถานการณ์ลำบากตรงนั้น…
ภารกิจของเขามีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือซ้อมเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ให้น่วมภายในเวลาที่น้อยที่สุด!
ขึกๆๆ…
เสียงด้านหลังเริ่มใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว สายตาหลิงม่อจับจ้องไปที่ทางเลี้ยวเขม็ง เขาไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำ!
หุ่นซอมบี้ได้รับบาดเจ็บจนสภาพเหนื่อยล้าเต็มทน แต่ก็ยังคงวิ่งทะยานด้วยความเร็วสูงต่อไป
ขอเพียงมันยืนหยัดวิ่งมาจนถึงตรงหน้าหลิงม่อได้ หลิงม่อก็จะได้โอกาสในการลงมือก่อนทันที
ขณะเดียวกับที่สัมผัสได้ถึงสัตว์ประหลาดที่วิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ หุ่นซอมบี้ที่เร่งความเร็ววิ่งอย่างสุดชีวิต ได้ตวัดสายตามองไปยังกำแพงด้านหน้า
ไม่ว่าจะวิ่งเร็วแค่ไหน แต่เสี้ยววินาทีที่วิ่งเลี้ยวอย่างไรก็ต้องเกิดการสะดุดอย่างแน่นอน…
วิ่งชนไปเลย!
เสี้ยววินาทีที่เห็นว่าใกล้จะพุ่งชนกำแพงด้านหน้าเต็มทีแล้ว หุ่นซอมบี้พลันกระโดดยกเท้ายันกำแพงด้านหน้า จากนั้นก็อาศัยแรงส่งตัวหมุนตัวกลับมายังทิศที่อยู่ด้านหน้าหลิงม่ออย่างรวดเร็ว
ในเสี้ยววินาทีนั้น หลิงม่อที่ควบคุมหุ่นซอมบี้อยู่รู้สึกได้ถึงสายลมเย็นที่พุ่งเฉียดหัวหุ่นซอมบี้ไปอย่างชัดเจน
การที่มีความรู้สึกร่วมต่ออันตรายที่เสี่ยงถึงชีวิตอย่างนี้ กลับทำให้หลิงม่อใจเต้นอย่างประหลาด
“ไม่น่าล่ะในสมัยที่โลกยังสงบสุขอยู่ถึงได้มีคนรนหาที่ตายหลายรูปแบบอยู่บ่อยๆ ถึงการเหยียบอยู่บนเส้นแห่งความตายจะน่ากลัวมาก แต่มันก็ท้าทายมากด้วยเหมือนกัน…”
ตอนนี้หลิงม่อเริ่มตระหนักได้แล้วว่าเมื่อแหล่งเชื้อไวรัสคลุ้มคลั่งเข้ามาใกล้ ตัวเขาเองก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
“ปึง!”
ขณะเดียวกับที่หุ่นซอมบี้ทิ้งตัวลงพื้น เงาดำกลุ่มหนึ่งก็ได้ปรากฏตรงหน้าหลิงม่อด้วยเช่นเดียวกัน
แค่เห็นแวบแรก หลิงม่อก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
นี่มันตัวอะไรเนี่ย?!
แวบแรก ภาพที่เห็นเหมือนกองเส้นผมยาวเฟื้อยของผู้หญิง!
บนเส้นผมเหล่านั้นมีคราบของเหลวเหนอะหนะสีใสไร้กลิ่นเลอะอยู่เต็มไปหมด สภาพเหมือนเพิ่งถูกล้วงออกมาจากในน้ำอย่างไรอย่างนั้น
แต่ว่า เส้นผมที่ไหนจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วปานนั้นกันล่ะ…
ส่วนสัตว์กลายพันธุ์…หลิงม่อไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีสัตว์กลายพันธุ์ที่ไหนมี “ผม” มากขนาดนี้
แต่พอนึกถึงเฮยซือ หลิงม่อก็ปล่อยวาง
สมัยนี้มีอะไรบ้างที่เป็นไปไม่ได้…
ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อก่อนสัตว์ประหลาดตัวนี้รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เอาเป็นว่าตอนนี้มันวิวัฒนาการจนมีสภาพเป็นอย่างนี้ไปแล้ว…
“เส้นผม” เหล่านั้นเลื้อยออกมาจากช่องโหว่บนเพดาน ส่วนเจ้าสัตว์ประหลาดยังคงหลบอยู่ด้านในเพดานไม่ยอมปรากฏตัวเหมือนเดิม
การที่มันวิวัฒนาการจนกลายเป็นอย่างนี้ เดาว่าคงจะเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของมันด้วย
ถึงแม้เห็นแล้วว่าหุ่นซอมบี้ใกล้จะวิ่งมาถึงตรงหน้าตัวเอง แต่หลิงม่อกลับยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง
อีกไม่ถึง 10 เมตร!
หนวดสัมผัสหลายเส้นที่เตรียมพร้อมลุยนานแล้ว พลันกลายสภาพเป็นสสารในพริบตา!
เมื่อเสียงโจมตีดังขึ้นระลอกหนึ่ง “เส้นผม” เหล่านั้นก็ถูกตรึงติดอยู่กับที่ทันที
รูโหว่จำนวนมากที่เกิดจากการโจมตีของหนวดสัมผัสปรากฏขึ้นรอบ “เส้นผม” ในรัศมีหนึ่งเมตร ไม่นาน ของเหลวหนืดอีกจำนวนมากก็ไหลออกมาจากรูโหว่บางรู…
“เอ๋? แล้วเลือดล่ะ?!”
หลิงม่อตะลึง เขารู้อยู่แล้วว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้อาจมีรูปร่างที่พิสดารมาก ดังนั้นถึงได้รวมพื้นที่ด้านหน้าของเส้นผมกองนั้นอยู่ในขอบเขตการโจมตีด้วย แต่นี่กลับมีแค่ของเหลวหนืดไม่มีเลือดไหลออกมา หมายความว่ายังไงกัน!
แม้แต่เข้าเครื่องผลิตยากล่อมประสาทนั่น ก็ต้องมีเลือดสิ!
ทว่าตอนนี้ไม่มีเวลาให้หลิงม่อครุ่นคิดแล้ว เห็นชัดว่าเจ้าสัตว์ประหลาดไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก มันจึงพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
และครั้งนี้ เป้าหมายหลักของมันก็กลายมาเป็นหลิงม่อแทนแล้ว!
“เชี่ยยย…”
หนวดสัมผัสกลุ่มใหญ่พุ่งแทงเข้าไปอีกครั้ง ขณะเดียวกันหุ่นซอมบี้ก็กระโดดขึ้นคว้าหนึ่งใน “เส้นผม” เหล่านั้น จากนั้นก็ออกแรงกระชากลงมา
ทันทีที่สัมผัสถูก “เส้นผม” หลิงม่อรับรู้ได้ทันทีว่าผิวของหุ่นซอมบี้ฉีกออกจากกัน กระทั่งยังมีเส้นผมเส้นหนึ่งแทรกเข้ามาในร่างมัน…
แต่แรงกระชากของหุ่นซอมบี้ก็ทำให้เพดานแยกกว้างได้สำเร็จ ทำให้ “เส้นผม” กองโตก็หล่นลงมาทั้งอย่างนั้น
หุ่นซอมบี้ตัวเล็กรีบเบี่ยงหลบ แต่บนฝ่ามือของมันในเวลานี้กลับมีบาดแผลที่น่ากลัวสุดเหลือทิ้งไว้หนึ่งแผล
เส้นเลือดนับไม่ถ้วน ขณะเดียวกันก็ยังมี “เส้นผม” เส้นหนึ่งแทงเข้าไปในเส้นเลือด และกำลังดิ้นไปมาอยู่ในนั้น
หลิงม่อเห็นแล้วหนังศีรษะตึงชา เขารีบสั่งให้หุ่นซอมบี้ดึงมันออกทันที
แต่ว่ามันดึงยากมาก…
แม้ “เส้นผม” นี่จะบางมาก แต่กลับมีหนามเล็กๆ งอกอยู่เต็มไปหมด พอกระชากออก ก็พบว่าใต้ท้องแขนของหุ่นซอมบี้มีรอยช้ำเลือดอยู่หนึ่งรอย
“สัตว์ประหลาดตัวจริงเลยนะเนี่ย…”
หลิงม่อค่อยๆ ก้าวถอยไปทางห้องน้ำ แต่สายตากลับจับจ้องไปที่ “เส้นผม” กองนั้น
เสี้ยววินาทีที่ “เส้นผม” ร่วงลงมา เขาก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้
ความจริงแล้ว องค์ประกอบสำคัญของมัน กลับเป็นร่างกายของคน…
ทว่าแค่ดูจากสิ่งที่ไหลออกมาจากร่างกายนั้นก็รู้แล้วว่าร่างกายนั้นเป็นเพียงหนังหุ้มภายนอกเท่านั้น
และเมื่อดูจากน้ำหนักตัว ก็ไม่น่าจะเป็นผู้ใหญ่ทั่วไป
หลิงม่อนึกถึงซอมบี้น้ำขึ้นมาทันที แต่เจ้านี่กลับน่าขยะแขยงกว่าซอมบี้น้ำเป็นร้อยเท่า
“เส้นผม” เหล่านั้นปกคลุมส่วนศีรษะของร่างกายที่เป็นเพียงหนังหุ้มภายนอกไว้จนมิด เหมือนมันงอกออกมาจากร่างกายนั้นจริงๆ…
“ถ้าหากผมของซอมบี้วิวัฒนาการจนเป็นอย่างนี้ได้จริงๆ ฉันก็ยอมแพ้ต่อความแปลกใหม่ของเชื้อไวรัสจริงๆ…” หลิงม่อลอบกลอกตา
เขาเตรียมหนวดสัมผัสไว้พร้อมแล้ว รอเพียงคำสั่งโจมตี “เส้นผม” กองนี้เท่านั้น
ทว่าการกระชากเมื่อกี้ของหุ่นซอมบี้ตัวเล็กได้บ่งบอกแล้วว่า “เส้นผม” กองนี้แข็งแรงมาก หากอาศัยแค่การโจมตีจากหนวดสัมผัสคงไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่
ใช้วิธีเผาก็ไม่น่าจะเวิร์ค เพราะ “เส้นผม” กองนั้นเปียกของเหลวเหนอะหนะนั่นเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าจะติดไฟหรือไม่ อีกอย่างดูท่าแล้ว เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็คงไม่เปิดโอกาสนั้นให้หลิงม่อแน่นอน…
“ลองหาจุดอ่อนดูก่อน…”
หลิงม่อยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ แต่ในความเป็นจริงเขากำลังเกร็งร่างไปทั้งตัวและเตรียมพร้อมที่รับมืออยู่ตลอดเวลา
ตาข่ายหนวดสัมผัสแผ่ปกคลุมอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ให้ “เส้นผม” เหล่านั้นแทงเข้ามาในร่างกายของเขา
“เส้นผม” กองนั้นดิ้นขยุกขยิก 2 – 3 ที จากนั้นก็ค่อยกลิ้งเข้ามา
สิ่งที่ทำให้หลิงม่อคิดไม่ถึงคือ ร่างกายคนที่เขาคิดว่าเป็นเพียง “หนังหุ้มนั่น” ก็ขยับด้วยเหมือนกัน…
“ไม่ใช่แล้วมั้ง…”
ดูท่าทางการเคลื่อนไหวติดๆ ขัดๆ ของหนังหุ้มนั้นแล้ว หลิงม่อรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
เขาเหลือบมองอย่างละเอียดครู่หนึ่ง แล้วก็เข้าใจขึ้นมาทันที…
ไม่แปลกที่จะขยับได้ เพราะมีเส้นผมมากมายแทงเข้าไปในร่างนั้น…
ทว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ทำได้เพียงฝืนยืนขึ้นมา แต่กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวในอิริยาบถยากๆ ได้
หลิงม่อโจมตีข้อต่อหลายจุดติดต่อกัน แต่กลับทำได้เพียงเห็นมันคุกเข่าลง และไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของมันได้
“โจมตีหนังหุ้มไม่ได้ส่งผลต่อร่างจริงสินะ…จะว่าไปแล้ว ทำไมสัตว์กลายพันธุ์ถึงได้ชอบใช้ร่างคนกันนักนะ…”
ไม่รู้หรอว่าทำแบบนี้มันน่ากลัวขนาดไหน!
ปัญหานี้ผุดขึ้นมาในสมองหลิงม่อในเวลาที่ไม่เหมาะสมอีกครั้ง ช่วยไม่ได้ ก็หลิงม่อคาใจกับปัญหานี้มากจริงๆ…
เสัตว์กลายพันธุ์ก็เป็นสัตว์ไปสิ ทำไมต้องจ้องแต่จะสิงร่างมนุษย์ด้วย…
หลิงม่อไม่อาจเดารูปร่างเดิมของ “เส้นผม” กองนี้ได้เลย ทว่าในระหว่างที่มันกำลังลุกยืน หลิงม่อก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า
นั่นมันวิกผมสยองขวัญชัดๆ…
หมวกหุ้มสีดำสนิทคลุมศีรษะของร่างกายที่เป็นเพียงหนังหุ้มไว้จนมิด โดยเนื้อหมวกคลุมจะนูนขึ้นเป็นรูปเครื่องหน้าทั้งห้าให้เห็นรางๆ
“หมวกคลุม” นี้เหมือนจะหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ทำให้เห็นเครื่องหน้าทั้งห้าได้ไม่ชักเจนนัก แต่ถึงแม้ไม่เห็นก็ยังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวอย่างชัดเจน
และ “เส้นผม” เหล่านั้นก็งอกอยู่บน “หมวกคลุม” สีดำนั่น เดาว่าน่าจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
“เส้นผม” กลุ่มที่งอกอยู่ใน “หมวกคลุม” สามารถแทงเข้าไปในร่างกายที่เป็นเพียงหนังหุ้มได้ เพื่อตรึง “หมวกคลุม” ให้ติดกับร่างหนังหุ้ม แล้วยังทำให้ร่างหนังหุ้มสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วย
ส่วนกลุ่มที่อยู่ข้างนอก มีไว้เพื่อการโจมตี
“คล้ายเฮยซืออยู่นะเนี่ย…” หลิงม่ออดคิดไม่ได้
ถ้าหากเฮยซือรู้ว่าเขาคิดอย่างนี้ เดาว่ามันคงจะสติแตก…
เฮยซือถือว่ามีรูปลักษณ์ภายนอกที่อ่อนโยนมาก แต่เจ้า “วิกผม” ตรงหน้านี้ กลับมีรูปร่างหน้าตาหน้าเกลียดน่ากลัวสุดๆ…
เห็นชัดว่าเจ้า “วิกผม” พูดไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันมีสติปัญญาหรือไม่
ในเมื่อเป็นสัตว์กลายพันธุ์ เขาก็คงไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันอยู่ในระดับไหนแล้ว
“ดูจากพลังทำลายล้าง…น่าจะเทียบเท่ากับระดับซอมบี้ราชาล่ะมั้ง แต่รูปร่างหน้าตาอันพิเศษนี่ กลับร้ายกาจกว่าซอมบี้ในระดับเดียวกันมาก…
ตอนนี้หลิงม่อได้แอบก้าวถอยไปจนถึงหน้าประตูห้องน้ำเพื่อเตรียมหลบหนีแล้ว
แต่ก่อนจะหนี เขาต้องอัดเจ้า “วิกผม” ให้น่วมเสียก่อน
ฉวยโอกาสตอนที่เจ้า “วิกผม” ยังไม่ลุกขึ้นยืน หลิงม่อแผ่หนวดสัมผัสพุ่งเข้าไปอีกครั้ง
คราวนี้เขารวบ “วิกผม” ทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นก็แทงเข้าไปในหมวกคลุมนั้นโดยตรง
“นี่คือร่างจริงของแกใช่ไหมล่ะ!”
—————————————————————————–