แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ – ตอนที่ 745

ตอนที่ 745

บทที่ 745 นี่แหละคือวิธีดักจับขั้นสูงที่แท้จริง
โดย
Ink Stone_Fantasy
พอได้บทเรียนมาจากซอมบี้งู มุมมองต่อห้องเหล่านี้ของหลิงม่อก็เปลี่ยนไป ห้องพวกนี้อาจดูเหมือนมีแค่เศษซากสิ่งของกองพะเนินอยู่ แต่ข้างในกลับมีตัวประหลาดซ่อนอยู่ ซึ่งมันอาจจะโผล่ออกมาทุกเมื่อ เมื่อใดที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่พวกนั้น ก็อาจหมายถึงต้องพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝันด้วย และอาจไม่ได้โชคดีเจอสิ่งมีชีวิตที่มีไว้ “เพื่อเชยชม” อย่างเดียวเหมือนซอมบี้งูทุกครั้งไป หลิงม่อมั่นใจว่าจะต้องมีตัวทดลองสำหรับใช้งานจริงอยู่ในชั้นนี้ด้วยแน่นอน…

“ไปไหนแล้วนะ…”

หลิงม่อตามหามาสามห้องติดแล้ว แต่กลับไม่พบอะไรเลย

แต่เนื่องจากเดินตามหลังเจ้ามาสเตอร์บอลอยู่ตลอด เขาจึงไม่เจอกับปัญหายุ่งยากอะไรอีก

ถึงแม้เจ้ามาสเตอร์บอลจะวิ่งชนผนังบ้าง ชนประตูบ้าง และความสามารถในการสัมผัสรู้ก็ลดลงไปมาก แต่อย่างไรก็ยังถือว่ามีหลักประกันเพิ่มขึ้นหนึ่งชั้น…

“ถ้าหาไม่เจอ ก็ค้นหาเอกสารก่อนแล้วกัน ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมาจริงๆ ฉันก็ยังมีแผนสำรองอยู่…”

หลิงม่อคิด พลางก้าวเท้าเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง

เจ้ามาสเตอร์บอลได้วิ่งวนทั่วห้องนี้หนึ่งรอบแล้ว และดูเหมือนจะไม่พบอะไร

ทว่าในขณะที่หลิงม่อก้าวเข้าไปในห้องได้ไม่กี่ก้าว เจ้ามาสเตอร์บอลกลับกระเด้งตัวหนึ่งที “พั่บ!”

หลิงม่อหัวใจกระตุกวูบ เขารีบหันหลังทันที

น่าเสียดายเพราะถูกก่อกวน การ “รีบ” หันหลังของหลิงม่อจึงใช้เวลาไปถึง 1 วินาที…ระหว่างที่คำสั่งถูกส่งออกจากร่างจริง จนถึงตอนที่หุ่นซอมบี้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็ได้ใช้เวลาไปทั้งหมด 1 วินาที

เมื่อเขาหันหลังกลับไป หางตาของเขาก็เหลือบเห็นเงาร่างตะคุ่มโฉบผ่านนอกหน้าต่างไป

หลิงม่อออกวิ่งตามทันที แต่ยังวิ่งไปไม่ถึงประตู จู่ๆ เสียง “เคร้ง” ก็ดังมาจากหน้าต่างด้านหลังอีกครั้ง

ครั้งนี้เขามีการเตรียมพร้อม ดังนั้นจึงหันหลังกลับไปได้เร็วกว่าเมื่อกี้มาก

ด้านหลังหน้าต่างสกปรกบานหนึ่ง เงาร่างเรือนรางเงาหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงนั้น นิ้วมือที่เคาะหน้าต่างยังทิ้งรอยสีขาวไว้บนกระจกอยู่

เงาร่างนั้นไม่สูงมาก เห็นเค้าโครงเพียงคร่าวๆ จึงยังดูไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย ยิ่งดูไม่ออกว่าเป็นคนหรือเป็นซอมบี้กันแน่…

หลิงม่อเพิ่งจะมองเห็นแวบเดียว อีกฝ่ายก็รีบวิ่งหนีไปอีกครั้ง

“ยังคิดจะหนีอีก?!”

เงาร่างนั้นแสดงออกชัดเจนว่าต้องการปั่นหัวเขา ซึ่งเรื่องนั้นทำให้หลิงม่อฉุนขึ้นมา

เห็นชัดว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นซ่อนแอบกับเขา โดยอาศัยความได้เปรียบที่เคยชินกับสภาพแวดล้อมในนี้

ห้องเหล่านี้ล้วนมีหน้าต่างทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดังนั้นจึงสามารถปีนข้ามหน้าต่างเหล่านั้นได้โดยตรง

เดิมที หากเงาร่างนั้นแค่โฉบไปโฉบมาอยู่ตรงหน้าหน้าต่างหรือหน้าประตู หลิงม่อก็อาจนึกเรื่องนี้ไม่ออก

แต่มันกลับปรากฏตัวหลังกระโดดข้ามไปแล้ว นั่นเท่ากับเป็นการเผยไต๋ตัวเองชัดๆ

“เจ้ามาสเตอร์บอล ไป!”

หลิงม่อไม่คุ้ยเคยกับสภาพแวดล้อมมาก และไม่กล้าวิ่งเข้าออกห้องเหล่านี้สุ่มสี่สุ่มห้า แต่เขายังมีเจ้ามาสเตอร์บอลอยู่ข้างๆ นี่

เจ้ามาสเตอร์บอลจ้องพื้นอาคาร หลิงม่อยืนแอบในเงามืดอยู่ข้างหน้าต่างและมองออกไปข้างนอก

หลายวินาทีผ่านไป เงาร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในครรลองสายตาของหลิงม่อจริงๆ

เงาร่างนั้นกำลังย่องออกมาจากห้องที่อยู่อีกฝั่งของทางเดินอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็เหลียวซ้ายแลขวา และพุ่งตัวไปทางหน้าต่างบานหนึ่งทันที

ในขณะที่มันคร่อมหน้าต่างเตรียมจะกระโดดเข้าไปในห้อง หลิงม่อก็ผลักบานหน้าต่าง พร้อมกับกระโดดข้ามหน้าต่างออกไป

เงาร่างนั้นไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกเห็นเข้า มันจึงชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็รีบกระโดดเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

แต่มันยังไม่ทันกระโดดเข้าไป จู่ๆ ลูกบอลสีแดงลูกหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากด้านหน้า และกระแทกหน้าผากมันอย่างจัง

เงาร่างนั้นโน้มเอียงไปด้านหลังและหงายหลังล้มตึงลงบนพื้นทันที และในตอนนี้เองที่หุ่นซอมบี้ของหลิงม่อวิ่งเข้ามาถึงตรงหน้ามัน

ตอนนี้อารมณ์ของหลิงม่อกำลังเดือดปุดๆ แล้วเขาเองก็รู้ดีว่าตัวเองตอบสนองได้ไม่เร็วพอ ดังนั้นจึงตัดสินใจวิ่งพุ่งเข้าไปโดยไม่เหยียบเบรก จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นสูง

ซึ่งเป็นจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังคิดจะลุกขึ้นมาพอดี เท้าของหลิงม่อจึงพุ่งใส่แก้มก้นของมัน และทำให้มันล้มลงไปอีกครั้ง

พออยู่ใกล้ หลิงม่อก็มองเห็นรูปร่างของเงาร่างนี้ชัดเจนขึ้น ร่างกายซูบผอม ความสูงประมาณ 150 เซนติเมตร สวมเสื้อกันหนาวหมวกฮู้ดสีน้ำตาลเข้ม ส่วนใบหน้าถูกหมวกฮู้ดปกคลุมไว้จนมิด

หลิงม่อยกเท้าขึ้นเหยียบร่างมันอย่างแรง มันจึงร้องเสียงหลงดัง “โอ๊ย”

ทว่าเสียงร้องนั่นกลับทำให้การเคลื่อนไหวของหลิงม่อชะงักไปเล็กน้อย เสียงนี้มัน…เสียงผู้หญิงนี่! อีกอย่าง…พูดเป็นด้วย!

แต่เวลาเพียงชั่วพริบตาที่หลิงม่อกำลังอึ้ง เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงมหาศาลที่จู่โจมเข้ามาที่เท้า จนทำให้เขายืนเซไม่เป็นท่า

ไม่นาน เงาร่างนั้นก็พุ่งตัวออกจากฝ่าเท้าของหลิงม่อไปอย่างว่องไวปานลูกแมว

“ยังจะหนีอีก?!”

หลิงม่อสาวเท้าวิ่งตามทันที ส่วนเจ้ามาสเตอร์บอลก็ไต่เพดานตามไปติดๆ

เงาร่างนั้นวิ่งพุ่งไปตามทางเดินเส้นนี้ จากนั้นก็วิ่งเลี้ยวเข้าไปในทางเดินอันมืดมิดอีกเส้น

โครงสร้างนี้แตกต่างจากอาคารชั้นล่าง หลิงม่อจึงไม่คิดว่าที่นี่จะยังมีทางเดินอยู่อีกเส้นหนึ่ง

แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคในการวิ่งไล่ของเขา ทว่าในระหว่างนี้ หลิงม่อกลับรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ

เงาร่างนี้…ทำไมถึงได้วิ่งเร็วกว่าเขา!

เห็นอีกฝ่ายวิ่งหนีปานลมกรด หลิงม่อเองก็กัดฟันเพิ่มความเร็วด้วย แต่ตอนที่เขากำลังวิ่งผ่านหน้าต่างบานหนึ่งในขณะไล่ตามเงาร่างนั้น จู่ๆ แขนคู่หนึ่งก็พุ่งออกมาจากข้างใน และคว้าขอของหลิงม่อไว้ได้พอดี

ถูกจับตัวขณะกำลังวิ่งพุ่งไปข้างหน้าอย่างนี้ หลิงม่อรู้สึกเหมือนหัวและร่างกายของหุ่นซอมบี้เกือบจะหลุดออกจากกัน โดยที่กะโหลกอยู่ในมือของมือคู่นี้ และร่างกายกลับยังคงวิ่งตามเงาร่างนั้นต่อไป…

ถึงแม้คอจะไม่ขาด แต่หลิงม่อก็ถึงกับวูบไปชั่วขณะ

ร่างจริงของเขาเองก็รู้สึกปวดขมับ และขมวดคิ้วตามไปด้วย

เจ้ามาสเตอร์บอลหยุดวิ่งทันที จากนั้นก็แอบซ่อนกายอยู่ในเงามืดอย่างเงียบเชียบ

ผ่านไป 2 – 3 วินาทีกว่าหุ่นซอมบี้ของหลิงม่อจะกลับมาเป็นปกติ และตอนนี้ร่างกายของเขาก็ถูกมือคู่นั้นยกไปใกล้ๆ ขอบหน้าต่าง

ความรู้สึกที่เท้าห่างพื้นอย่างนี้ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนัก แต่ตอนนี้เรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องสำคัญ

เพราะสิ่งที่หลิงม่อกำลังให้ความสนใจอย่างแท้จริง คือมือคู่นี้ต่างหาก…

เพราะมือนี้…ยืดได้ยาวเกินไปแล้ว!

และกล้ามเนื้อที่ปูดขึ้นมา กับฝ่ามืออันใหญ่ยักษ์นี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ซอมบี้ทั่วไปควรมี!

เงาร่างที่เขาวิ่งไล่ในตอนแรกหยุดวิ่ง เธอหยุดอยู่ในจุดที่ไม่ไกลนัก และกำลังยืนเอามือไขว้หลังจ้องพิจารณาหลิงม่อ

หลิงม่อถูกบีบคอจนเลือดไม่ขึ้นไปเลี้ยงศีรษะ สายตาจึงพร่ามัวเล็กน้อย แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นรูปร่างของคนคนนั้นได้อย่างชัดเจน

ใต้หมวกฮู้ดนั้นกลับเป็นใบหน้าของหญิงสาวมนุษย์ปกติทั่วไป ผิวของเธอขาวซีดจนแทบเทียบได้กับผิวของซอมบี้ ผมดำขลับสยายปกไหล่ ด้านหนึ่งทัดไว้หลังหู ดูแล้วสุภาพเรียบร้อยไม่น้อย

หน้าตาน่ารักไม่เบา อายุน่าจะราว 15 – 16 ปี บวกกับความสูงเท่านั้น ยิ่งดูเหมือนเด็กสาวที่เพิ่งขึ้นมัธยมต้น

ทว่าในดวงตาคู่นั้นของเธอกลับสะท้อนไปด้วยความฉงนสงสัยและรัศมีเจ้าเล่ห์ ถึงจะไม่ดูเลวร้ายเท่าซย่าน่า แต่ก็ดูแก่นเซี้ยวใช่เล่น…

พอเห็นเธอยืนด้วยท่าทางเย่อหยิ่งอยู่ตรงนั้น หลิงม่อก็เข้าใจทันที

เด็กสาวคนนี้ตั้งใจล่อเขาให้มาตรงนี้…และมือคู่นี้ก็คือกับดักที่ใช้จับเขา

เห็นชัดว่าเด็กสาวคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในนี้เป็นอย่างดี และเธอก็รู้จักใช้ประโยชน์จากการที่ความสามารถในการตอบสนองของซอมบี้ถูกจำกัดอย่างชาญฉลาด

ในเสี้ยววินาทีที่เธอวิ่งผ่านไป เจ้าของมือคู่นี้ถูกทำให้สะดุ้งตื่นแล้ว แต่กว่าเจ้าของมือคู่นี้จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็ตอนที่หุ่นซอมบี้ของหลิงม่อวิ่งมาถึงตรงนี้พอดี…

ดังนั้นขอเพียงจำตำแหน่ง รวมถึงลักษณะเด่นของสัตว์ประหลาดที่อยู่ในชั้นนี้ได้ และปรับตัวเข้ากับการจำกัดพลังอย่างนี้ให้ได้ ถึงแม้จะเป็นคนธรรมดาก็สามารถเคลื่อนไหวในนี้ได้อย่างสบายๆ แต่แค่พูดน่ะเหมือนง่าย ทำขึ้นมาจริงๆ กลับเป็นเรื่องยากมาก หากวิ่งช้าแค่เพียงก้าวเดียว หรือตัดสินใจพลาดไปแม้แต่เสี้ยววินาที ผลที่ได้ก็จะอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

พูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นพฤติกรรมเสี่ยงตายพอๆ กับการเดินลวดโหนสลิงเลย นอกจากโรคจิตที่หมกมุ่นอยู่แต่กับตัวเองแล้ว หลิงม่อก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีใครทำให้สถานที่ที่ตัวเองต้องอยู่อาศัยกลายเป็นแบบนี้…

“น่าแปลกเกินไปแล้ว หนวดสัมผัสของเรายังถูกจำกัดพลังเลย แล้วทำไมมนุษย์ธรรมดาถึงได้ไม่เป็นอะไรเลยล่ะ? หรือว่า เธอจะมีวิธีพิเศษอะไร?”

หลิงม่อลองดิ้นขลุกขลักดู แต่กลับไม่ได้ผล มือคู่นี้ไม่ต่างอะไรกับคีมเหล็กเลยซักนิด

เด็กสาวจ้องหุ่นซอมบี้อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กวาดมองไปรอบตัว

หลิงม่อรู้ว่าเธอกำลังมองหาเจ้ามาสเตอร์บอล ทว่าเมื่อกี้เหตุการณ์ฉุกละหุกเกินไป เธอจึงมองเห็นไม่ชัดว่าถูกอะไรพุ่งชนกันแน่…

ตามคาด พอมองหาไม่เจอ เด็กสาวก็ยกนิ้วขึ้นจิ้มคางแล้วนิ่งคิด จากนั้นก็หมุนปลายเท้า…เดินจากไป!

พอเห็นว่าเด็กสาวกำลังจะเดินจากไป หลิงม่อก็เบิกตากว้าง

“เดี๋ยวก่อน! เธอจะไปง่ายๆ อย่างนี้เลยหรอ!”

หลิงม่อตะโกนก้องในใจ เขาไม่ได้วู่วามพูดอะไรออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกอีกฝ่ายสนใจเป็นพิเศษ…

เขายังไม่รู้แน่ชัดว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใคร แต่มั่นใจได้ว่าเธอไม่ใช่นักวิจัยคนนั้นแน่นอน

เด็กสาวที่วิ่งมาหาเรื่องซอมบี้ถึงที่อย่างนี้ต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาแน่นอน ทว่าถึงความโรคจิตจะเข้าเค้า แต่อายุอย่างเธอไม่เหมือนบุคลากรเฉพาะทางที่สามารถทำการวิจัยได้มากมายขนาดนั้นจริงๆ

“ผู้ช่วย? ลูกศิษย์?”

หลิงม่อเบิกตากว้างมองดูเด็กสาวกระโดดโลดเต้นไปยังสุดทางเดิน จากนั้นเธอก็ควานหาอะไรบางอย่างอยู่แถวๆ ประตูบานหนึ่ง

“แกร๊ก!”

เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ ก็มีแสงถูกสาดส่องเข้ามา

ตรงนั้นมีประตูอยู่อีกหนึ่งบาน!

ประตูบานนั้นถูกเปิดแง้มเป็นช่องเล็กๆ จากนั้นเด็กสาวก็แทรกตัวเข้าไปทันที

ทางเดินกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง เหลือไว้เพียงช่องประตูที่ถูกส่องสว่างด้วยหลอดไสฟแบบไส้

มือคู่ที่คว้าตัวหุ่นซอมบี้ไว้ยังคงออกแรงต่อไปเรื่อยๆ และหุ่นซอมบี้ก็เริ่มทนไม่ไหวจนตาเหลือกขาวขึ้นเรื่อยๆ แล้วเช่นกัน

“เธอคิดว่าฉัน…”

หลิงม่อเหลือบมองช่องประตูนั้น จากนั้นก็เงยหน้ามองเพดาน

เจ้ามาสเตอร์บอลค่อยๆ ไต่ไปอยู่บนหัวเขา จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนหัวเจ้าหุ่นซอมบี้ดัง “พั่บ”

ไม่นาน เจ้ามาสเตอร์บอลก็กระโดดเกาะแขนคู่นี้ และไต่ไปหาร่างกายของเจ้าของมือคู่นี้อย่างรวดเร็ว

“เจ้ามาสเตอร์บอลเอ๋ย ตอนนี้แกก็กำลังเดินบนเส้นลวดเหมือนกัน ระวังอย่าร่วงลงไปล่ะ…” หลิงม่อคิดในใจ

แต่โชคดีที่แขนคู่นี้ใหญ่และกว้างพอ ดังนั้นเพียงอึดใจเดียว เจ้ามาสเตอร์บอลก็วิ่งไปถึงตัวเจ้าของมือคู่นี้แล้ว

ในขณะที่กำลังจะกระโดดเกาะไหล่ เจ้ามาสเตอร์บอลก็เด้งตัวขึ้น จากนั้นก็พุ่งไปยังใบหน้าของร่างนี้

ไม่ว่ายังไง ใบหน้าก็ต้องกว้างกว่าแขนอยู่แล้ว ไม่มีทางพลาดเป้าแน่นอน…

“โฮกกกก…”

ทันใดนั้น เสียงคำรามแหบต่ำก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง และหลิงม่อก็รู้สึกว่ามือทั้งสองข้างที่บีบคอเขาอยู่เริ่มค่อยๆ คลายออกแล้ว…

—————————————————————————–

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

Status: Ongoing

เมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นและเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง

ผู้คนบนโลกก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จากคนธรรมดาต้องกลายเป็นซอมบี้กระหายเลือด!

แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่รอดพ้นจากไวรัสร้ายกาจนี้ หนึ่งในนั้นคือหลิงม่อ หนุ่มเนิร์ดหน้าตาบ้านๆ แน่นอนว่าเขาต้องทุ่มเทพยายามสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด

แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างที่ต้องทำ คือช่วยแฟนสาวซอมบี้ ให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง สุดท้ายแล้วหลิงม่อหนุ่มธรรมดาคนนี้จะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ เรามาร่วมลุ้นไปด้วยกันเถอะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท