ขณะที่หลิงม่อควบคุมหุ่นซอมบี้ให้ตามไป ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินเองก็ได้เข้าไปใน “ถิ่นฐาน” ของสัตว์ประหลาดแห่งนั้น เพียงแต่เมื่อไม่ต้องคอยระวังระหว่างเคลื่อนไหว พวกเธอสองคนจึงดูผ่อนคลายกว่าหลิงม่อก่อนหน้านี้มาก ศพปลาใหญ่ตัวนั้นที่ยังคงลอยอยู่ที่เดิมกลับทำให้พวกเธอตะลึงเล็กน้อย ทว่าไม่นาน ซอมบี้สาวสองตัวที่จิตใจเข้มแข็งก็เดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
…แต่ความจริง…พวกเธอไม่ได้ใจเย็นอย่างที่เห็น…
หลังจากได้ฟังเรื่องราวสุดประหลาด ใครจะยังทำใจเย็นได้อีกล่ะ!
ก็ต้องอึ้งสุดๆ ไปเลยน่ะสิ!
เจอร่างจริงของหลิงม่อที่นี่? แถมยังเป็นก่อนที่หุ่นซอมบี้ของหลิงม่อจะหาเธอเจออีก? จะเป็นไปได้ยังไง?!
แต่หลี่ย่าหลินไม่สงสัยสายตาของซย่าน่า ยิ่งไม่มีทางสงสัยความเท็จจริงจากคำพูดของซย่าน่า…ดังนั้นหลังจากที่พยายามทำความเข้าใจคำพูดของเธออย่างสุดความสามารถ หลี่ย่าหลินเพียงถามขึ้นอย่างสงสัย “ตอนนั้น…เธอไล่ตามเขาไปแน่ๆ ใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ!” ซย่าน่าเบิกตากว้างแล้วตอบ
หากสลับกัน ถ้าเป็นหลี่ย่าหลินเข้าปีนมาในช่องซ่อมลิฟต์ จากนั้นก็เข้ามาในเขาวงกตที่เต็มไปด้วยท่อต่างๆ สุดท้ายมาอยู่ในเครือข่ายท่อน้ำทิ้งใต้ดินแห่งนี้…แต่ในที่แห่งนี้ เธอกลับพบร่างจริงของหลิงม่อที่ควรอยู่ในฐานที่พักชั่วคราว…
“ฉันคงงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย” หลี่ย่าหลินบอกตามตรง
ซย่าน่ากลับพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ตอนนั้นฉันก็งงเหมือนกัน”
“ถ้างั้นเธอ…”
“ฉันก็ยังไล่ตามไปอยู่ดี” ซย่าน่าชิงตอบคำถามของหลี่ย่าหลินก่อน แล้วพูดต่อว่า “ความจริงเพราะไล่ตามเขาไปนั่นแหละ ฉันถึงได้ไปอยู่ในช่องทางเดินเส้นนั้น ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาเห็นฉันไหม แต่ภายใต้สถานการณ์อย่างนั้น ฉันไม่กล้าตะโกนเรียกเขาส่งเดช…”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ? ตามทันหรือเปล่า?” หลี่ย่าหลินถามอย่างรีบร้อน แค่เป็นซอมบี้ก็แปลกมากแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องที่แม้แต่เธอยังคิดว่าแปลกอย่างนี้ รุ่นพี่กระทั่งรู้สึกกลัวขึ้นมารางๆ…ถ้าหากคนที่ซย่าน่าเจอคือหลิงม่อ แล้วคนที่ปีนลงมาพร้อมกับเธอล่ะเป็นใคร?
ซย่าน่าเองก็ดูเหมือนจะคิดเรื่องนี้เหมือนกัน… “เปล่า…ถ้าตามไปทันก็คงดี ฉันคงไม่ต้องสับสนอยู่แบบนี้ ตอนนั้นพอถึงทางโคงหนึ่ง อยู่ๆ เขาก็หยุดเดินแล้วหันมาทางฉัน…ฉันอึ้ง แล้วก็หยุดเดินด้วยเหมือนกัน ความจริงฉันหยุดเดินไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ แต่กว่าฉันจะรู้ตัว เขาก็เดินเลี้ยวไปแล้ว พอฉันตามไป กลับเห็นช่องทางเดินโล่งเปล่าไร้เงาคน แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาเห็นฉันหรือเปล่าอยู่ดี…จะว่าไงดีล่ะ สีหน้าของเขาตอนนั้นแปลกมาก”
พูดถึงตรงนี้ ซย่าน่าเลยแสดงสีหน้างุนงงประกอบการอธิบายให้หลี่ย่าหลินดู “เห็นไหม? สีหน้าแบบนี้เลย เหมือนเขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ตอนที่มองมาทางฉันก็เหมือนไม่มีปฏิกิริยาซักนิด ตอนนั้นฉัน…ฉันไม่รู้จะบอกพี่หลิงยังไงดี เอาเป็นว่า ฉันรู้สึกแปลกๆ กับที่นี่ ดังนั้นไม่ว่ายังไง พวกเราต้องคิดหาวิธีสำรวจที่นี่ให้ละเอียดก่อน จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“อื้ม…” หลี่ย่าหลินค่อนข้างอึ้ง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เป็นอย่างที่เธอบอกจริงๆ เวลาเจอสถานการณ์ที่ทำให้ไปต่อไปไม่ถูก วิธีที่ดีที่สุดคือหาสำรวจมันให้ชัดเจน…
“ความจริง…ฉันสงสัยว่าพี่หลิงคนนั้น ไม่ใช่พี่หลิงจริงๆ แล้วฉันก็มีความรู้สึกที่รุนแรงมากอย่างหนึ่งด้วย…” อยู่ๆ ซย่าน่าก็พูดเสริมขึ้นอย่างสองจิตสองใจ “เป็นไปได้มากว่าเขาคนนั้นคือคนที่ล่อฉันลงมา ไม่แน่ว่า อาจเป็นคนเดียวกับที่ล่อพวกพี่ลงมาด้วยก็ได้…”
“หา…” หลี่ย่าหลินได้ยินก็เสียวสันหลังวาบ แต่กลับยังคงถามว่า “ถ้างั้นเขา…เขาเป็นใคร?”
ซย่าน่าครุ่นคิด พูดเสียงเบา “ไม่ เทียบกับตัวตนของเขา ความจริงที่ฉันสงสัยยิ่งกว่า…คือเขาปลอมตัวเป็นพี่หลิงได้ยังไง? ต้องเข้าใจว่าตอนนั้นพี่หลิงน่าจะอยู่ในอาคารสองชั้นเล็กๆ หลังนั้น เขาอยู่กับพวกอวี่เหวินซวนนะ…” พูดถึงตอนท้าย เธอก็สบตากับหลี่ย่าหลิน พร้อมเผยสีหน้าประหลาดใจสุดขีด…
ใช่แล้ว! ไม่ว่า “หลิงม่อ” คนนั้นเป็นใคร ปัญหาที่สำคัญที่สุด คือเขาทำอย่างนี้ได้ยังไงต่างหาก!
“นี่มัน…” หลี่ย่าหลินยกมือทาบอก พึมพำกับตัวเอง “โอย…สมองจะระเบิด”
“โอ๋ๆ…” ซย่าน่ารีบกอดปลอบเธอ พลันพูดปลอบโยนว่า “ไม่คิดแล้วนะ ไม่คิดแล้ว…เป็นแบบนี้ฉันเลยไม่อยากบอกไง ส่วนพี่หลิงน่ะ…ฉันมักรู้สึกว่า บางทีตอนนี้อาจไม่ถึงเวลาบอกเรื่องนี้กับเขา อย่างน้อย ต้องรอให้ฉันรู้ก่อนว่าคนคนนั้นทำอย่างนี้ได้ยังไง…”
ตอนนั้นเธออยู่ในเขาวงกตของทางเชื่อมมากมาย แต่หลี่ย่าหลินยังวิ่งไล่กับซอมบี้อยู่ในบริษัทลอว์สันอยู่เลย…บางทีตอนที่เธอเจอหุ่นซอมบี้ของหลิงม่อ เงาร่างที่ล่อซย่าน่าลงไป อาจกลายร่างเป็นหลิงม่อแล้วก็ได้…
แล้วหลิงม่อตัวจริง เจอกับใครในเวลานั้นล่ะ?
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซย่าน่าไม่รู้…
ในจิตใต้สำนึก ซย่าน่าอยากหาคำตอบของปัญหานี้…ภายใต้สถานการณ์ที่จะไม่ทำให้หลิงม่อเป็นห่วงมากกว่านี้ เธอจะหาคำตอบเรื่องที่เกี่ยวกับเขาให้ได้…
“บางที อาจทำให้เขาแบกรับภาระน้อยลงบ้าง” ซย่าน่าคิด
…………
สองสาวหยุดอยู่ข้างบ่อน้ำครู่หนึ่ง ซย่าน่ากวาดมองรอบทิศ จากนั้นก็ชี้ไปยังช่องทางเดินที่จมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่ง “ทางนั้นล่ะมั้ง”
“มีแค่ทางนั้นแหละ” หลี่ย่าหลินบอก พลางลงน้ำไปอย่างตื่นเต้น ถึงแม้เมื่อกี้เพิ่งได้ฟังข่าวที่น่าตกใจ แต่นางพญางูตัวนี้กลับยังคงเผยสัญชาตญาณออกมาโดยไม่รู้ตัว ดื่มด่ำกับความอันตราย ไขว่คว้าความท้าทาย…คนทั่วไปจะรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อกับเรื่องอย่างนี้ แต่สำหรับซอมบี้มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น นี่ไม่ใช่แค่ข้อแตกต่างระหว่างมนุษย์กับซอมบี้ แต่ยังเป็นความแตกต่างระหว่างซอมบี้กับสัตว์ประหลาดใต้ดินพวกนี้ด้วย…เทียบกับซอมบี้ที่มีการแสดงออกถึงลักษณะนิสัย สัตว์ประหลาดใต้ดินเหล่านี้เป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้ยิ่งกว่า ส่วนฝ่ายไหนที่เป็นอันตรายกับมนุษย์มากกว่ากัน ตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่ยากตัดสินได้…
เทียบกับหลี่ย่าหลิน ซย่าน่าดูสงบนิ่งกว่ามาก
เธอใช้ปลายมีดปาดของเหลวหนืดบนรั้วกั้นมาเล็กน้อย แล้วยกขึ้นดม ขณะเดียวกัน ร่างดวงจิตน่าน่ายื่นหัวออกมาจากตรงหัวไหล่ของเธอ และจ้องมองของเหลวหนืดนั้นอย่างละเอียดเช่นกัน เงาร่างของเธอกระพริบไหวไม่หยุดเหมือนภาพหน้าจอทีวีที่เสีย มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่เปล่งประกายกว่าสิ่งใด ขณะที่เธอปรากฏตัว หลี่ย่าหลินที่อยู่ในน้ำก็เห็นเธอทันที…นั่นแสดงว่าน่าน่าเลือกที่จะ “แสดงตัว” ด้วยตัวเอง
เพียงแต่อยู่ๆ ต้องเผชิญหน้ากับน่าน่าที่ปรากฏตัวกะทันหัน หลี่ย่าหลินกลับทำหน้าเหมือนปกติ กระทั่งโบกมือให้ “เฮยน่า น่าน่า…”
การทักทายแยกกันอย่างนี้ เป็นความเคยชินที่เกิดจากการใช้ชีวิตด้วยกันมาเป็นเวลานาน…
“รู้สึกว่ามีประสิทธิภาพด้านการกระตุ้นสูงทีเดียว…” เฮยน่าผู้ที่ควบคุมร่างจริงเผยรอยยิ้มประหลาดตรงมุมปาก เธอกระพริบตา พลางพูดขึ้น
“เหมือนไม่ระวังเลยโดนถูติดอยู่ตรงนี้…เป็นของสัตว์ประหลาดพวกนั้น และน่าจะเป็นสิ่งที่หลั่งออกมาจากผิวภายนอกของพวกมัน เหมือนเหงื่ออะไรอย่างนั้น!” น่าน่าวิเคราะห์ เธอเหลือบมองรั้วกั้นนั้นเล็กน้อย ก็ได้ข้อสันนิษฐานนี้ขึ้นมา ส่วนสาเหตุนั้นง่ายมาก…ระหว่างที่สัตว์ประหลาดพวกนั้นกำลังไล่ล่าหลิงม่อ คงไม่มีเวลาเอามันมาป้ายบนรั้วหรอก ดังนั้นหากดูจากด้านนี้ พวกมันน่าจะหลั่งของเหลวหนืดพวกนี้ออกมาตลอดเวลาอยู่แล้ว…
“เธอรู้ได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่ ‘เลือด’ ของพวกมัน?” หลี่ย่าหลินชะโงกดมรั้วกั้น แล้วหันมาถาม
น่าน่าหัวเราะเบา แล้วพูดอย่างมั่นใจ “ถ้าหากเป็นเลือด ก็ต้องเกิดจากการถูกพี่หลิงโจมตีใช่ไหมล่ะ? ฉันไม่ปฏิเสธในจุดนี้…ความจริงแล้ว ที่พี่หลิงก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนั้นได้ ต้องเป็นเพราะเขาทำอะไรบางอย่างแน่นอน…แต่จากจำนวนของสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็รู้แล้ว ว่าพี่หลิงม่อทำร้ายพวกมันได้แค่หนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ถ้าหากทำมากกว่านั้นก็จะตกอยู่ในวงล้อม อย่างนั้นจะยังหนีออกมาได้ยังไง? แล้วถึงแม้เลือดของสัตว์ประหลาดแค่หนึ่งหรือสองตัวเลอะติดอยู่บนรั้ว มันต้องถูกสัตว์ประหลาดที่ไล่ตามหลังมาถูจนคราบหายไปแน่นอน ดังนั้นตัดความเป็นไปได้ที่จะเป็นเลือดทิ้งไปได้เลย”
“ฟังเหมือนมีเหตุผลมาก…แต่เธอมั่นใจได้ยังไงว่าเลือกจะต้องถูกเช็ดถูจนเลือนหายไป?” เฮยน่าตั้งคำถาม ความจริงเธอไม่ได้อยากรู้คำตอบจริงๆ แต่ในฐานะอีกหนึ่ง “บุคลิก” ที่อยู่ในร่างเดียวกัน เฮยน่ากลับชอบคุยสัพเพเหระกับน่าน่ามาก…
“เพราะว่ามันมีอยู่ทั้งข้างซ้ายข้างขวาและข้างบนไงเล่า!” น่าน่ากลอกตาขาว “นั่นหมายความว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นล้วนมีร่างกายเหมือนมนุษย์ รูรั่วเล็กแค่นี้ทำได้แค่เบียดตัวออกมาเท่านั้นแหละ…”
———————————–