บทที่ 26 ฟรี
“นี่มันจะล้อเล่นเกินไปหน่อยแล้วนะ!” หลี่เหยนถลึงตา
เมื่อได้ยินเว่ยเทียนหมิงอธิบาย และเห็นสีหน้าที่ย่ำแย่ของเว่ยเทียนหมิง หวางเสี่ยวซีกับจ้าวกางก็เริ่มหน้าถอดสีใบหน้าที่เย็นชาของอีหลิงก็แสดงให้เห็นถึงความตกใจ หลินหยุนที่ดูธรรมดาๆ ที่แท้มีเบื้องหลังแบบนี้ด้วย
ตอนที่เซี่ยหยู่เวยเห็นบัตรใบนี้ครั้งแรกที่ร้านไห่หลาน ยังคิดว่าเลขาหยางคนนั้นปฏิบัติต่อบัตรใบนี้โอเว่อร์เกินไป
วันนี้ เธอเห็นว่าแม้แต่เว่ยเทียนหมิงก็มีสีหน้าจริงจังขนาดนั้น เธอจึงได้รู้ว่าบัตรทองม่วงใบนั้นมีค่าขนาดไหน
แต่แค่ เธอคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ หลินหยุนมีดีอะไร ถึงทำให้จินซื่อหรงมอบบัตรที่มีค่านี้ให้กับเขา
“หลินหยุน ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว!ไม่น่าล่ะตั้งแต่นายกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลจิน ก็เอาแต่ทำท่าหยิ่งผยอง ที่แท้ก็เป็นเพราะบัตรใบนี้!” เซี่ยหยู่เวยมองไปทางหลินหยุน แล้วพูดอย่างเย็นชา คิดว่าตัวเองมองหลินหยุนออก
“แต่ว่าฉันก็ยังพูดคำเดิม ของของคนอื่นยังไงมันก็เป็นของคนอื่น มีแต่ความสามารถของตัวเองที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งได้จริงๆ ตระกูลจินช่วยนายได้แค่ระยะนึง แต่ไม่ได้ช่วยนายไปทั้งชีวิต!”
“เพราะงั้น ฉันอยากจะให้นายสำเหนียกตัวเอง อย่าเอาแต่พึ่งตระกูลจิน แล้วไปทำให้คนที่ไม่ควรยุ่งไม่พอใจ!”
หลี่เหยนกับจ้าวกางและคนอื่นเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ที่จริงพวกเขาโดนบัตรทองม่วงใบนั้นของหลินหยุนทำให้ตกใจ แต่เมื่อได้ฟังคำของเซี่ยหยู่เวยแล้ว พวกเขาก็ดึงสติกลับมาได้ในทันที
ถ้าหากไม่มีตระกูลจินคอยช่วย หลินหยุนก็แค่ไอ้ไร้ประโยชน์คนนึง ถึงแม้จะมีบัตรใบนี้ ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ นอกจากว่าจินซื่อหรงจะออกหน้าแทนเขาได้ทุกครั้ง
จินหยวนเป่าทนดูสิ่งที่เซี่ยหยู่เวยกำลังทำอยู่ต่อไปไม่ไหว จึงหัวเราะออกมา: “ผู้หญิงอย่างเธอนี่น่าสนใจนะ เอาแต่ช่วยพูดแทนคนนอกเพื่อที่จะว่าสามีตัวเอง!”
“เธอแค่อยากจะพูดว่าหลินหยุนยั่วยุคุณชายเว่ยไม่ได้ใช่มั้ย? ไม่ต้องพูดอ้อมค้อม พูดไปตรงๆ ก็จบแล้วไม่ใช่ไง?”
เซี่ยหยู่เวยหน้าซีด แต่ก็ไม่ได้สนใจจินหยวนเป่า แค่มองหลินหยุนอย่างเย็นชา
หลินหยุนมองเธออย่างเย็นชา และไม่ได้อธิบายอะไร เขามองเธอราวกับยักษ์ที่มองมด: “สิ่งที่ฉันพึ่งพา ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดได้”
พูดจบ หลินหยุนก็ไม่ได้สนใจเธอ แล้วพูดกับผู้จัดการคนนั้นอย่างเย็นชา: “คิดเงินเสร็จแล้วใช่มั้ย?”
“เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้ว” ผู้จัดการคนนั้นรีบก้มหัวโค้งตัวใส่หลินหยุน ด้วยท่าทีเคารพมากกว่าเว่ยเทียนหมิงสิบเท่า
“ไม่ใช่สิ ไม่ครับ ยังไม่เสร็จครับ คุณผู้ชายท่านนี้กรุณารอสักครู่ครับ!”
รีบพูดจนจบ ผู้จัดการก็รีบใช้สองมือหยิบบัตรทองม่วงขึ้นมา แล้วไปจัดการที่ด้านหลังคอมพิวเตอร์
“คุณผู้ชาย ท่านคือแขกผู้สูงศักดิ์ที่สุดของท่านประธานจินของพวกเรา ต่อไปขอแค่ท่านถือบัตรใบนี้ ท่านสามารถใช้บริการในเครือของบริษัทชิรงกรุ๊ปได้ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าหรือว่าโรงแรม ได้ฟรีทั้งหมดนะครับ!”
“เงินของท่านผมคืนเข้าบัญชีท่านไม่ขาดไปสักบาทเรียบร้อยแล้วครับ การเข้าใจผิดเมื่อครู่หวังว่าคุณผู้ชายจะให้อภัยนะครับ!” ผู้จัดการทำสีหน้าประจบมองไปทางหลินหยุน ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง เขากำลังขอให้หลินหยุนให้อภัย
หลินหยุนไม่ได้สนใจเขา ถ้าหากที่นี่ไม่ใช่ร้านในเครือบริษัทของจินซื่อหรง ถ้าหากว่าเขาไม่ได้บังเอิญมีบัตรใบนี้ งั้นวันนี้เขาก็ต้องโดนพวกนั้นแกล้ง
เพราะงั้น ผู้จัดการคนนี้ไม่มีค่าพอที่จะเห็นใจ หลินหยุนไม่ได้คิดบัญชีกับเขา ก็ถือว่าเป็นการให้อภัยของเขา
หลินหยุนเก็บบัตรทองม่วงกลับคืนมา คิดไม่ถึงว่าบัตรใบนี้จะใช้ได้ดี
เขาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มแล้วมองไปทางพวกของเว่ยเทียนหมิง สุดท้ายก็มองไปทางเซี่ยหยู่เวย แล้วพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์: “ไปได้แล้วใช่มั้ย”
“ไปเถอะๆ แค่ซื้อเสื้อผ้าต้องโวยวายอะไรใหญ่โต เสียอารมณ์จริงๆ !” หวางเสี่ยวซีบ่นมานึงประโยค ก่อนจะลากจ้าวกางไปคิดเงิน
พวกเขาอยากจะทำให้หลินหยุนอาย สุดท้ายทำไม่สำเร็จ แต่กลับทำให้หลินหยุนได้หน้า แถมตอนนี้ยังมีหลินหยวนเป่างานยากโผล่มาอีก
คิดเงินเสร็จ หลี่เหยนเห็นเว่ยเทียนหมิงสีหน้าไม่แฮปปี้ จู่ๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันที่หอเฟยชุ่ยเปิด พวกเราไปหาอะไรตื่นเต้นๆ เล่นกันหน่อยมั้ย?”
“หลินหยุน นายมีเงินแล้วจะขึ้นไปเล่นด้วยกันมั้ย?” หลี่เหยนมองหลินหยุน แล้วพูดอย่างไม่ดีไม่ร้าย
ทันใดนั้นหวางเสี่ยวซีก็จับมือเซี่ยหยู่เวย แล้วพูด: “ใช่แล้วหยู่เวย ฉันได้ยินชื่อเสียงของหอเฟยชุ่ยมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ไปเลย พอดีเลยวันนี้พวกเราไปลองดูกัน!”
“เสี่ยวหลิงหลิงด้วย ห้ามปฏิเสธ!”
นี่ก็เป็นแผนจัดการหลินหยุนแผนต่อไป
เมื่อเห็นหลินหยุนไม่ได้พูดอะไร หลี่เหยนก็ทำสีหน้าดูถูกพลางพูด: “ทำไม? ไม่กล้าไปหรือว่าเล่นไม่ได้กัน?”
จินหยวนเป่าจู่ๆ ก็หัวเราะเสียงลั่น แล้วเดินไปตบที่บ่าของหลินหยุน พูด: “ไป ค่าใช้จ่ายในวันนี้ของนายฉันจ่ายเอง กล้าๆ ไปเล่นกับพวกมันเลย กลัวอะไร!”
เซี่ยหยู่เวยกับผู้หญิงทั้งสามคนถึงกับมองบน พวกเธอไม่เคยเจอชนชั้นสูงที่หยาบคายแบบนี้มาก่อน!
“ได้ คุณชายจินถึงกับอยากออกเงินให้พวกเรา งั้นพวกเราก็คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว!” หลี่เหยนยิ้มอย่างภูมิใจ
จินหยวนเป่าเป็นคนโง่แต่รวย พนันสิบครั้งแพ้เก้าครั้ง ที่จริงหลี่เหยนแค่อยากหาโอกาสทำให้หลินหยุนอับอาย ให้เว่ยเทียนหมิงแฮปปี้ คิดไม่ถึงว่าจินหยวนเป่าจะเอาด้วย
ถ้าทำให้หลินหยุนอับอายได้ และยังได้เงินจากจินหยวนเป่าอีก นั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดทั้งสองอย่างหรอกเหรอ?
หลินหยุนถูกจินหยวนเป่าลากมายันชั้นบนสุดของเมืองศตวรรษต้าฮัว
หอเฟยชุ่ยคือที่พนันหินอัญมณี แต่ว่าด้านในก็ยังมีอย่างอื่นให้เล่น หากให้พูดตามจริงมันก็คือแหล่งพนันที่มีแบนเนอร์คือที่พนันหินอัญมณี
แต่ว่าที่นี่เป็นแหล่งที่ระดับสูงที่สุด มีการตั้งเกณฑ์ไว้อยู่ คนที่สามารถเข้ามาเล่นได้จะต้องมีเงินติดตัวอย่างต่ำสิบล้าน
เพราะงั้น ที่นี่ไม่ได้เละเทะอย่างที่เคยเห็นกันในละคร และไม่มีพวกชายเปลือยท่อนบนตะโกนว่าออกอะไร คนที่เข้ามาเล่นในนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ดีสวมชุดหรูทั้งนั้น
ด้านในหอเฟยชุ่ยนั้นคึกคัก แต่ว่าเป็นระเบียบ มีทุกสิ่งทุกอย่างด้านในนั้น ว่ากันว่าสร้างตามแบบฉบับของลาสเวกัส
หลี่เหยนมองหลินหยุน แล้วถามขึ้นพลางยิ้มเยาะ: “เล่นมั้ย?”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร จินหยวนเป่าพูด: “เล่น ใครไม่เล่นอ่อน!”
หลินหยุน: “……”
เซี่ยหยู่เวยผู้หญิงทั้งสามเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก สำหรับสิ่งของที่นี่จึงเต็มไปด้วยความสงสัย
หลี่เหยนและคนอื่นๆ ไปที่จุดบริการเพื่อแลกชิป
พนักงานที่สวมเสื้อเชิ้ตขาวชุดขึ้นอย่างเคารพ: “คุณชายหลี่ ท่านมาแล้ว!”
เห็นที่หลี่เหยนจะเป็นขาประจำของที่นี่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มั่นใจที่จะเรียกหลินหยุนมาที่นี่
“แลกชิปให้พวกเราหน่อยคนละห้าแสน!” หลี่เหยนชี้ไปทางเว่ยเทียนหมิงกับจ้าวกางแล้วพูด
“ครับผม กรุณารอสักครู่!”
หลี่เหยนแลกชิปเสร็จ ก็ถึงตาจินหยวนเป่า
ไอ้คนนี้ยกเท้าขึ้นมาพาดไว้บนเก้าอี้ข้างนึง แล้วพูดออกมาเสียงดัง: “พวกเราสองคน คนละหนึ่งล้าน เซ็นต์บิลไว้!”
พวกหลี่เหยนสามคนนั้นถึงกับเอ๋อ มาที่กาสิโนแล้วเซ็นต์บิล เกรงว่าจะมีจินหยวนเป่าเป็นคนแรก
แต่ว่า พนักงานคนนั้นราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว เลยแบ่งชิปสองล้านนั้นแยกออกมา กองไว้ข้างหน้าจินหยวนเป่า
“นอกจากชิปสองล้านนี้แล้ว คุณชายจินยังมีชิปสะสมอีกยี่สิบแปดล้านครับ!”
“……”
ครั้งนี้กลายเป็นพวกหลี่เหยนทั้งสามคนที่พูดไม่ออก
ไอ้คนมือเติบ คิดว่ากาสิโนเป็นธนาคารหรือไงเหนี่ย?
จินหยวนเป่าทำหน้านิ่ง ราวกับทุกอย่างควรจะเป็นแบบนี้ ให้ได้ชัดว่าไอ้คนนี้เคยชินนานแล้ว
จินหยวนเป่าเอาชิปจำนวนหนึ่งล้านกองตรงหน้าหลินหยุน แล้วควักซิการ์ขึ้นมาหนึ่งมวน ทันใดนั้นพนักงานก็รีบใช้สองมือช่วยเขาจุดไฟ
จินหยวนเป่าสูดเข้าไป แล้วพ่นควันออกมาเป็นวงกลม และพูดอย่างกล้าหาญ: “หลินหยุน ไม่ต้องกังวล ชนะเป็นของนาย ถ้าแพ้ฉันจัดการเอง!”