บทที่ 49 วิชานึ่งกระดูก
เย็นวันนั้น โจวชิงเหอก็หาช่างไม้ที่ฝีมือไม่เลวมาสองสามคน
หลินหยุนวาดแบบออกมา ให้ช่างไม้เหล่านั้นทำงานข้ามคืน
เช้าวันที่สอง อุปกรณ์ที่หลินหยุนต้องการถูกทำออกมาแล้ว
โรงพยาบาลประชาชนในเมืองหลินโจว มุมหนึ่งในลานจอดรถ
เดิมทีสามารถจอดรถได้ห้าคัน ได้ถูกกั้นออกมา ตรงกลางได้เตาขนาดใหญ่เอาไว้ ในเตากำลังเผาไหม้ด้วยไม้ที่หามาเป็นพิเศษ
บนเตา ยังได้วางกระทะขนาดใหญ่เอาไว้ น้ำที่อยู่ข้างในกำลังเดือด
บนกระทะ ไม่ใช่ลังที่นึ่งซาลาเปา แต่เป็นลังไผ่สานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มองจากสีของไม้ไผ่ น่าจะทำขึ้นมาใหม่
นอกเขตที่กั้น มุมดูด้วยผู้คนที่อยากรู้อยากเห็น มีผู้ป่วย และก็มีพยาบาล
แถวที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด เป็นคุณหมอที่ถูกเชิญมาร่วมหารือกันเมื่อวาน
หลินหยุนกับโจวชิงเหอยังมีหวางหยวนเผยยืนอยู่ด้านในสุด หยางหยิงสวมหมวกและแว่นตาดำ ยืนอยู่ข้างกายหลินหยุน
ข้างในลังไม้ไผ่สาน มีแม่ของหยางหยิงนอนอยู่
ในสมัยโบราณ มีการลงโทษชนิดหนึ่งเรียกว่าการนึ่ง เป็นอะไรที่โหดร้ายมาก
แต่ว่า การลงโทษแบบนี้เมื่อถูกถ่ายทอดมายังมือของแพทย์ ก็กลายเป็นวิธีการรักษาชนิดหนึ่ง เรียกว่าวิชานึ่งกระดูก
หลินหยุนได้นำสมุนไพรโยนลงไปในกระทะ ผู้ป่วยนอนอยู่ในรังไผ่สาน อาศัยไฟในการค่อยๆนึ่ง สมุนไพรที่อบอยู่ได้ค่อยๆกระจายออกมาในรังไผ่สาน ให้ยาค่อยๆเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วย เข้าไปถึงในไขกระดูก
วิธีแบบนี้อันตรายมาก ประเด็นสำคัญคือต้องควบคุมไฟอย่างเข้มงวด อีกอย่างยังต้องมีคนเฝ้าระวังอยู่ข้างๆ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ต้องรีบดับไฟแล้วเพิ่มน้ำเย็น
“เขาจะทำอะไรกันแน่?” ผู้เชี่ยวชาญหม่าไม่ค่อยเข้าใจ ดูไม่ออกว่าหลินหยุนกำลังคิดจะทำอะไร
จริงๆแล้วไม่มีคนเข้าใจเลย แม้กระทั่งหมอแพทย์แผนจีนอย่างเชี่ยเจี้ยนโก๋ยังไม่เข้าใจ เขาไม่เคยได้ยินวิธีการรักษาแบบนี้มาก่อน
“เขาจะนึ่งคนเหรอ? ผู้อำนวยการโจว ทำไมคุณไม่ขัดขวางเขา!” มีหมอพูดด้วยความตื่นตระหนก
โจวชิงเหอไม่ออกเสีย วิชาการนึ่งกระดูกนี้หลินหยุนได้อธิบายให้เขาและหยางหยิงเป็นการส่วนตัว เขาคิดว่าสามารถทำได้
อีกอย่างสถานการณ์ของผู้ป่วย หยินชี่เข้ามาสะสมในกระดูกหลายปี ยาและการผ่าตัดทั่วไปไม่สามารถรักษาได้
แต่ว่า หลักการนึ่งกระดูกวิธีนี้เหมือนกับการที่หยินชี่เข้าสู่ร่างกาย สิ่งที่เฉพาะเจาะจงคือยานั้นค่อยๆเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย เพื่อไปขับไล่หยินชี่ที่อยู่ภายในของผู้ป่วย
ตามหลักการแล้วสามารถทำได้ แต่จะสามารถรักษาผู้ป่วยหายหรือไม่ ก็ต้องดูผลการรักษาอีกที
ในสถานที่นอกจากโจวชิงเหอและหยางหยิงแล้ว ใครก็ไม่เข้าใจว่าหลินหยุนนั้นกำลังทำอะไร
พวกเขาเพิ่งจะมาถึงโรงพยาบาล ก็ถูกโจวชิงเหอลากตัวมาดูหลินหยุนนึ่งคน เวลานี้ในใจของคนส่วนใหญ่นอกจากจะตกใจแล้วก็คือตกใจ
“นี่มันเรื่องบ้าๆอะไร? เอาคนเป็นๆนึ่งในลัง ฉันที่มีอายุมาถึงปูนนี้ยังไม่เคยได้ยินวิธีการรักษาแบบนี้มาก่อนเลย!”
“ฉันดูแล้วเขาเหมือนกับพวกสิบแปดมงกุฎที่สร้างที่ความเสียหาย อันนี้ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการฆ่าตรากรรมมากกว่า!”
“ท่านหวาง รีบสั่งให้เขาหยุดเลย เขาอาจจะทำให้คนตายได้!”
หวางหยวนเผยก็มองหลินหยุนอย่างสงสัย เมื่อเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของหลินหยุน เขาอายที่จะถามข้อสงสัยที่เขามี
ทำได้เพียงหันไปถามโจวชิงเหอ: “ผู้อำนวยการโจว วิธีนี้ทำได้จริงเหรอ?”
โจวชิงเหอพยักหน้ากล่าว: “หมอเทพหลินได้อธิบายการนึ่งกระดูกนี้ให้กับผมและคุณหยางก่อนแล้ว พวกเราต่างรู้สึกว่าสามารถทำได้!”
หวางหยวนเผยถามอย่างสงสัย: “คุณเรียกมันว่าวิชานึ่งกระดูก? ชื่อนี้ช่างแปลกใหม่นัก ผมเพิ่งจะได้ยินครั้งแรก”
โจวชิงเหอมองหลินหยุน ใบหน้าปรากฏด้วยความรู้สึกที่บูชา: “หมอเทพหลินต้องเป็นทายาทของปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในโลก อายุน้อยก็รู้ทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ผมนับถือมากจริงๆ!”
มองโจวชิงเหอที่เชื่อมั่นในตัวหลินหยุนเพียงนี้ หวางหยวนเผยขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวอย่างหนักใจ: “หวังว่าวิธีการของเขาจะได้ผล”
หลินหยุนควบคุมมันด้วยตัวเอง ควบคุมไฟแล้ว ผ่านการนึ่งไปครึ่งวัน ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ค่อยๆเริ่มมีคนหมดความอดทนแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญหม่าหัวเราะกล่าว: “เสียงฟ้าผ่าดัง ฝนก็จะเบาบาง วิชานึ่งกระดูกอะไร ฉันดูแล้วมันก็คือวิชามารที่ให้คนดูไม่ได้!”
“อาจารย์หม่าพูดถูก ตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว หากวิชาการนึ่งกระดูกนี้ได้ผล ผู้ป่วยน่าจะฟื้นตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผู้ป่วยยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ก็แสดงว่าวิชานึ่งกระดูกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!”
โจวชิงเหอไม่อยากฟัง กล่าวอย่างเย็นชา: “ไม่เคยได้ยินเหรอโรคภัยมาอย่างกะทันหัน แต่ต้องใช้เวลาในการรักษา? ต่อให้การนึ่งกระดูกจะมีผล ก็ต้องอาศัยเวลา!”
เมื่อเห็นโจวชิงเหอออกหน้าปกป้องหลินหยุน พวกที่อิจฉาหลินหยุนที่แย่งซีนของพวกเขา ออกมาโจมตีวิชาแพทย์ของหลินหยุน ทันใดนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชน ไม่ใช่ว่าใครก็จะกล้าล่วงเกิน
หลินหยุนไม่คิดที่จะสนใจผู้เชี่ยวชาญหม่าและคนอื่นๆ ยังคงควบคุมสั่งการคนคุมไฟด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ภายในลังนึ่งจู่ๆก็มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อย
“ฟังสิ มีความเคลื่อนไหวแล้ว!” โจวชิงเหอกล่าวอย่างตื่นเต้น
ทุกคนที่อยู่ในนี้กลั้นหายใจทันที
“ลูกจ๋า………..”
ครั้งนี้ เสียงที่อ่อนแอและชัดเจนได้ส่งเข้าหูของผู้คน
“แม่คะ!” หยางหยิงวิ่งเข้าไปด้วยความดีใจ กลับถูกหลินหยุนขัดขวางเอาไว้
“อย่าเข้าไป ต้องนึ่งให้ครบแปดชั่วโมงถึงจะได้” หลินหยุนกล่าว
หยางหยิงกล่าวอย่างร้อนใจ: “แต่ว่าแม่ฉันอยู่ข้างในท่านคงกลัว?”
“คุณสามารถอธิบายให้เธอฟังอยู่ข้างๆ” น้ำเสียงที่หนักแน่นของหลินหยุน ปฏิเสธไม่ได้
“ได้!” หยางหยิงอดทนต่อความต้องการที่จะพบแม่ของเธอทันที ยืนอยู่ข้างนอกอธิบายสถานการณ์ให้แม่ฟังอย่างเข้าใจ
เข้าใจหมอที่ทำการรักษาให้ตัวเอง แม่ของหยางหยิงถอนหายใจ แล้วกล่าว: “อย่าเสียเงินอีกเลย ร่างกายของแม่ตัวแม่นั้นรู้ดี รักษาไม่หายหรอก ให้แม่ออกมาเถอะ!”
หยางหยิงมีปฏิกิริยาที่เด่นชัด: “ไม่ได้ค่ะ แม่ลำบากมาตั้งนาน เลี้ยงพวกเรามาจนเติบโต ตอนนี้หนูหาเงินได้แล้ว ให้หนูตอบแทนบุญคุณแม่ด้วยเถอะ ครั้งนี้ไม่ว่ายังไง แม่ก็ต้องฟันหนู!”
“เฮ้ย เจ้าลูกคนนี้ ทำไมถึงได้ดื้อรั้นแบบนี้นะ? เอาละ แม่ลองดูก่อน หากไม่โอเคเราก็กลับบ้านกัน”
หลินหยุนหันไปมองโจวชิงเหอ ใบหน้าไร้ความรู้สึก กล่าวอย่างเรียบเฉย: “ผู้อำนวยการโจว ตามยาสมุนไพรที่ผมจัดให้ ทุกวันให้นึ่งแปดชั่วโมง หนึ่งเดือนให้หลัง ก็จะหายทั้งหมด จำเอาไว้ ต้องทำทุกวันห้ามหยุดแม้แต่วันเดียว!”
คำพูดประโยคสุดท้าย หันไปกำชับกับหยางหยิง
“ได้ ผมจำไว้แล้ว” โจวชิงเหอตอบกลับอย่างตื่นเต้น หลินหยุนทำแบบนี้ ก็เท่ากับว่าได้ถ่ายทอดสูตรสมุนไพรและวิธีการนึ่งกระดูกให้กับเขา
ด้านหลัง ที่รวบรวมไว้หมอที่มีชื่อเสียงทั้งหมดของหลินโจว ต่างเงียบสงบ สีหน้าแปลกใจ
หวางหยวนเผยใบหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มใจ เดินไปข้างหน้า โค้งคำนับให้กับหลินหยุน: “หมอเทพหลิน ผมมีตาแต่ไร้แวว สิ่งที่ล่วงเกินไปก่อนหน้านี้ หวังว่าคุณคงจะอภัยให้ผม!”
หลินหยุนมองหวางหยวนเผย แม้ว่าก่อนหน้านี้หวางหยวนเผยจะเคยทำให้เขาลำบาก แต่ทั้งหมดเป็นเพราะจรรยาบรรณวิชาชีพล้วนๆ หลินหยุนไม่ได้โกรธเขา กลับชื่นชมคนประเภทนี้ที่สามารถยึดมั่นในจรรยาบรรณในวิชาชีพได้
หลินหยุนกล่าวอย่างเรียบเฉย: “คุณหวางอย่าใส่ใจเลย”
จางฉางฝูสีหน้าดูแย่มาก เขารอให้หลินหยุนล้มเหลวมาโดยตลอด จะใช้โอกาสนี้ ไล่โจวชิงเหอให้พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการ
แต่ว่า เขาฝันยังฝันไม่ถึงเลย หลินหยุนที่อายุยังน้อย กลับมีวิชาความรู้จริงๆ สามารถทำในสิ่งที่หมอผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงไม่สามารถที่จะทำได้
จางฉางฝูคาใจอย่างมาก
“ท่านหวาง ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนรับผิด ใครจะรู้ว่าเขาจะใช่แมวตาบอดที่เจอกับหนูตายละ? บางทีอาจจะเป็นเพราะผู้ป่วยบังเอิญตื่นขึ้นมาก็ได้ อาจจะไม่ใช่ฝีมือของเขา!”