จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 157 ระยะปฐมภูมิตอนปลาย

บทที่ 157 ระยะปฐมภูมิตอนปลาย

บทที่ 157 ระยะปฐมภูมิตอนปลาย

รอจนหลินหยุนและเพื่อนร่วมหอพักสามสี่คนไปแล้ว จางเหมิงพูดด้วยสีหน้าที่ดูถูกว่า “ฮึ พี่เสวเหวิน ช่วยฉันเอาตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลมนั่นของคนจนๆคนนั้นไปทิ้งให้หน่อยนะ!”

จางเหมิงยังขยิบตาให้กับเหยียนเสวเหวิน นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการฉวยโอกาสใช้ให้เหยียนเสวเหวินออกไป เพื่อหลบหลีกความรับผิดชอบที่พ่อเอ่ยถาม

เหยียนเสวเหวินอึ้งอยู่ครู่นึงก่อน เห็นจางเหมิงขยิบตาให้กับเขา นี่ถึงจะเข้าใจขึ้นมาได้โดยฉับพลัน

“อ้อ ได้สิ!”

พูดแล้ว เหยียนเสวเหวินก็ถือตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลมที่หลินหยุนเอามา เดินออกไปข้างนอกเลย

เพื่อนๆที่เหลือ ส่วนใหญ่ล้วนแต่ขมวดคิ้วแน่น ที่จางเหมิงทำแบบนี้มันช่างเกินไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะยังไง หลินหยุนก็มาเยี่ยมเธอ ไล่คนเขาออกไปก็ถือว่าช่างเถอะ ยังจะเอาของที่คนเขานำมาเยี่ยมไปทิ้งอย่างกับเป็นขยะยังไงอย่างนั้น

แต่ว่าความคิดนี้ก็ทำได้เพียงคิดในใจเท่านั้น ไม่มีใครพูดออกมาขัดใจจางเหมิง

โดยเฉพาะตอนนี้พ่อของจางเหมิงยืนยันด้วยตัวเองแล้ว เหยียนเสวเหวินเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขาไว้

เหยียนเสวเหวินมีความสามารถพอที่จะเป็นคนสั่งการท่านเจี่ยงได้ ใครจะกล้าล่วงเกินแฟนของเขาล่ะ?

มองเหยียนเสวเหวินที่กำลังเกินจากไป นัยน์ของจางเหมิงก็สาดส่องความภูมิใจ ในที่สุดก็หลุดพ้นจากพ่อของเขาได้แล้ว

“ช้าก่อน!”

ตอนที่ขาข้างหนึ่งของเหยียนเสวเหวินกำลังย่างก้าวออกจากประตูไป จู่ๆพ่อของจางเหมิงก็พูดตะโกนด้วยเสียงต่ำทันที

“เอาตะกร้านั้นกลับมา!” สายตาพ่อของจางเหมิงจับจ้องไปยังตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลมที่หลินหยุนมอบให้อย่างไม่ละสายตา สีหน้าแสดงออกถึงความสงสัยออกมา

จางเหมิงและเหยียนเสวเหวินมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆพ่อของเธอก็ให้ความสนใจกับตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลม

“พ่อ ก็แค่ตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลมที่คนอื่นกินเหลือ คุณจะดูมันทำไมกัน?” จางเหมิงกังวลว่าพ่อของตัวเองจะมองความคิดเจ้าเล่ห์นี้ออกหรือเปล่า จงใจหาข้ออ้างให้เหยียนเสวเหวินอยู่ต่อ

“เอามานี่!” น้ำเสียงพ่อของจางเหมิงค่อนข้างหงุดหงิด เหมือนกับตึงเครียดยังไงอย่างนั้น

ในเวลานี้จางเหมิงไม่กล้าพูดจาอะไรแล้ว ส่งซิกสายตาให้เหยียนเสวเหวิน ‘รีบเอาเข้ามา’

เหยียนเสวเหวินพูดเสียงอ๋อ รีบก้าวเท้าเข้ามา นำตะกร้าผลไม้ส่งมอบให้พ่อของจางเหมิง

พ่อของจางเหมิงถือตะกร้าผลไม้นั่น ดูอย่างละเอียด หลังจากนั้นสีหน้าก็จริงจังขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังพ่อของจางเหมิง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเขาถึงได้ปฏิบัติกับตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลมที่คนอื่นกินเหลืออย่างระมัดระวังเช่นนี้

“พ่อ พ่อเป็นอะไรไปเหรอ?หรือว่าผลไม้นี้มียาพิษ?” จู่ๆจางเหมิงก็มีความคิดที่กล้าหาญนี้ คงไม่ใช่เพราะเธอโจมตีหลินหยุน หลินหยุนเกลียดแค้นในใจ อยากจะใช้โอกาสนี้ทำร้ายเธอใช่ไหม?

พ่อของจางเหมิงหันหน้ามองจางเหมิง พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เหมิงเหมิง ถ้าพ่อไม่ได้ดูผิด ผลไม้พวกนี้ไม่ใช่ผลไม้ที่ธรรมดานะ น่าจะเป็นผลไม้แก้วมังกรจากอเมริกาใต้!”

“ผลไม้แบบนี้สามารถเก็บไว้ได้เพียงเจ็ดวัน หลังจากเจ็ดวันก็จะเน่าเสีย ดังนั้น ผลไม้เหล่านี้จะต้องบินมาทางอากาศจากอเมริกาใต้ด้วยความเร็วที่สูงสุดภายในเจ็ดวัน”

“ต้องผ่านการคิดก่อนถึงจะรู้ ผลไม้แบบนี้ล้ำค่ามากแค่ไหน ส่วนตะกร้าครึ่งวงกลมนี้ คาดว่าอย่างต่ำๆก็ประมาณสามสี่แสน แถมมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้ เพราะว่าผลไม้เหล่านี้จะใช้เพื่อมอบให้คนใหญ่คนโตระดับสูงเหล่านั้น”

กลุ่มคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ

จางเหมิงพูดพร้อมขำออกมา “พ่อคะ จะเป็นไปได้ยังไง!หลินหยุนไอ้คนจนๆคนนั้น จะมีปัญญาซื้อผลไม้แบบนั้นที่พ่อพูดได้ยังไงกัน?”

“พ่อต้องจำผิดแล้วแน่นอน!”

“และพ่อก็บอกแล้ว ผลไม้ชนิดนั้นมีราคาแต่ไม่มีขายตามท้องตลาด หลินหยุนจะซื้อได้ยังไง?”

จางเหมิงเชื่อว่า พ่อตัวเองต้องมองผิดไปแน่นอน

พ่อของจางเหมิงถือตะกร้าขึ้นมา ชี้ไปที่มุมล่างซ้ายพร้อมพูดว่า “แกดูที่ป้ายชื่อ นี้เป็นป้ายชื่อของDiluficโดยเฉพาะ ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด ตะกร้าผลไม้ครึ่งวงกลมนี้นำออกมาจากDilufic”

จางเหมิงเบิกตามองกว้างทันที อุทานอย่างตกใจว่า “Dilufic!โรงแรมที่ลึกลับมากที่สุดในหลินโจว ว่ากันว่าเป็นโรงแรมที่ไว้รองรับคนใหญ่คนโตระดับสูงโดยเฉพาะ!”

“หลินหยุนไอ้คนจนคนนั้น จะเข้าไปยังDiluficได้อย่างไรกัน!”

เหยียนเสวเหวินและพวกก็มีสีหน้าเซ่อซ่า Dilufic มันยิ่งจะลึกลับมากกว่าอิมพีเรียลคอร์ทอีกนะ มีความสุดยอดมากกว่าอีก!

แม้แต่ทายาทเศรษฐีอย่างเขาก็ยังเข้าไปไม่ได้เลย จางเหมิงก็เหมือนกันไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไป

“พ่อ พ่อเข้าใจอะไรผิดแล้วหรือเปล่า?ด้วยสถานะของหลินหยุน จะมีสิทธิ์เข้าไปยัง Diluficได้ที่ไหนกันล่ะ?” จางเหมิงยิ้มเยาะด้วยใบหน้าที่ดูถูก

พ่อของจางเหมิงมองไปยังจางเหมิงอย่างลึกซึ้ง พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “พ่อก็หวังว่าจะเข้าใจผิดจริงๆนะ……”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จางเหมิงขมวดคิ้ว แล้วก็หัวเราะฮาๆพร้อมพูดว่า “พ่อ พ่อไม่ต้องเป็นกังวล หลินหยุนก็แค่ผู้ชายกระจอกๆเท่านั้น พ่อต้องเข้าใจผิดแน่นอน ไม่แน่ก็อาจจะเหมือนกับผลไม้แก้วมังกรมากไปหน่อยเท่านั้น ตะกร้านี้หลินหยุนก็เก็บมาจากถังขยะ ที่ Diluficเอาออกมาทิ้งพอดี ”

พ่อของจางเหมิงหยิบผลของมันมากัดกินคำหนึ่ง ทันใดนั้นก็หลับตาพร้อมใบหน้าที่เพลิดเพลินกับมัน

“เมื่อหลายปีก่อนพ่อก็ได้ตามคนใหญ่คนโตไปยังDiluficครั้งหนึ่ง โชคดีได้กินผลไม้ชนิดนี้ รสชาติแบบนั้นฉันไม่มีวันลืมมันเลย นั่นเป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดที่ฉันเคยกินมาในชีวิต”

จางเหมิงมองไปที่พ่อของเธอด้วยสายตาที่ไม่เชื่อแวบหนึ่ง หัวเราะเยาะออกมา “พ่อ ขนาดนั้นเลยเหรอ?น่าเหลือเชื่อขนาดนั้นเลยเหรอ?หนูขอลองหน่อย!”

จางเหมิงก็หยิบผลไม้มาหนึ่งผล กัดหนึ่งคำด้วยใบหน้าที่รังเกียจ

หลังจากนั้น……

ผ่านไปเพียงหนึ่งนาที จู่ๆจางเหมิงก็อุทานออกมา “ว้าว นี่มันอร่อยเกินไปแล้ว!อร่อยจนอยากร้องไห้เลย!”

แล้วจางเหมิงก็ร้องไห้แล้วจริงๆ เธอรู้สึกว่าที่ตัวเองใช้ชีวิตมายี่สิบปีช่างเสียเปล่า ไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลย

กินแค่หนึ่งคำ รสอร่อยที่ยังติดลิ้นอยู่เป็นปีเลย!

เหยียนเสวเหวินขมวดคิ้วถาม “อร่อยขนาดนี้เลยจริงๆเหรอ?”

แล้วเขาก็หยิบไปหนึ่งผล

และหลังจากนั้น เหยียนเสวเหวินก็ร้องไห้แล้ว

ผลไม้ในตะกร้าครึ่งวงกลมที่เดิมทีจะถูกนำไปทิ้งแล้วนั้น เพียงไม่กี่นาที ก็ถูกกลุ่มคนกวาดกินจนเกลี้ยง

แต่เมื่อกินผลไม้เสร็จแล้ว ก็ยังไม่มีคนเชื่อว่าหลินหยุนจะมีสิทธิ์เข้าไปในDiluficได้

“พ่อคุณไม่ต้องห่วง หลินหยุนเป็นเพื่อนคนกระจอกๆ ถ้าคุณไม่เชื่อ สามารถพวกเพื่อนๆเหล่านี้ได้นะ” จางเหมิงพูดอย่างแน่วแน่

เพื่อนๆคนอื่นก็รีบพยักหน้ากัน

พ่อของจางเหมิงก็คิดว่าหลินหยุนไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปยังDiluficได้ บางทีผลไม้ในตะกร้าครึ่งวงกลมนี้เป็นสิ่งของที่เขาได้มาโดยบังเอิญ

หลินหยุนออกไปจากโรงพยาบาล ฉินโส่วและพวกรีบไล่ตามเขาไป

เพื่อนสามสี่คนปลอบใจหลินหยุน แต่หลินหยุนไม่ได้ต้องการการปลอบใจจากพวกเขาเลย

เมื่อเห็นหลินหยุนไม่เป็นอะไร พวกเขาก็วางใจแล้ว กลับไปที่มหาวิทยาลัยพร้อมกัน

แต่ว่า หลินหยุนกลับว่าไม่ได้กลับมหาวิทยาลัย และให้ข้ออ้างว่า กลับไปคฤหาสน์ตึกว่างเยว่ที่ทะเลสาบเยว่หยา

หลังจากที่ผ่านช่วงฝึกตนในเวลานี้ไป ในที่สุดหลินหยุนก็สัมผัสได้ถึงโอกาสแห่งการก้าวหน้า ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด พรุ่งนี้เขาก็เข้าสู่ระยะปฐมภูมิตอนปลายได้แล้ว

กลับไปยังทะเลสาบเยว่หยา หลินหยุนรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามาก ภายใต้การดำเนินการของค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์ ชี่ทิพย์จากฟ้าดินที่แพร่รัศมีโดยรอบในระยะร้อยเมตรทั่วทั้งทะเลสาบเยว่หยามีความเข้มข้นมากกว่าเมื่อก่อนกว่าสิบเท่า

และตึกว่างเยว่อยู่กึ่งกลางตรงหน้า ชี่ทิพย์ก็ยิ่งจะเข้มข้น ถ้าหากผ่านไปสักสามสี่เดือน หลินหยุนเชื่อว่าชี่ทิพย์จากฟ้าดินของที่นี่น่าจะปกคลุมไปด้วยหมอก ชี่ทิพย์ที่เหมือนหมอก

กลับมาถึงตึกว่างเยว่ หลินหยุนเริ่มปิดกั้นจากโลกภายนอก

ชาติก่อนเป็นแดนกษัตริย์เซียน ชาตินี้ทำได้เพียงเดินตามทางเมื่อก่อนอีกครั้ง

วิชากลืนสวรรค์ค่อยๆโคจรรอบๆ ชี่ทิพย์จากฟ้าดินที่อยู่รอบตัวอย่างเข้มข้นเสมือนพายุทอร์นาโดหมุนขึ้นมายังไงอย่างนั้น และหลินหยุนก็คือหลุมตรงกลางของพายุทอร์นาโด ดูดซึมชี่ทิพย์จากฟ้าดินอย่างกับกลืนกินปลาวาฬเลย

การฝึกตนด้วยความเร็วแบบนี้หากนักบู๊มาเห็นเข้า เกรงว่าจะตกใจจนเกิดความสงสัยในชีวิตที่ผ่านมาแล้ว

จนกระทั่งถึงเวลาตีสามกว่า ต้นไม้ที่อยู่บริเวณรอบดาดฟ้าไม่มีลมโดยอัตโนมัติ พลังลมปราณที่แข็งแกร่งกวาดรัศมีโดยรอบกว่า 100 เมตร

สัตว์ตัวน้อยต่างก็หมอบลงพื้นด้วยอาการหนาวสั่น นมัสการที่บางแห่ง!

หลินหยุนที่อยู่บนดาดฟ้าค่อยๆลืมตาขึ้นมอง สายตายิ่งเพิ่มความลึกลับและเงียบสงบ พูดอย่างเนิบๆว่า “ระยะปฐมภูมิตอนปลาย!”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท