รถออดี้เอ8 สีดำคันหนึ่งขับเข้ามาจอดอยู่ข้างทาง
ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งข้ามมาเปิดประตูรถด้านหลัง
เจี่ยงสงที่มีรูปร่างสูงใหญ่องอาจ ในชุดลำลองสีดำ ค่อยๆเดินลงมาจากรถ
กงสวี้ราวกับเห็นดวงดาวช่วยชีวิต รีบตะโกนเรียก “น้าครับ ช่วยผมด้วย!”
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ? ใครกินดีเสือหัวใจหมีมา กล้าแตะต้องหลานชายฉัน!” ลูกพี่ใหญ่เจี่ยงตะคอกด้วยเสียงเย็นชา แสดงถึงอำนาจภายในตัว
กงสวี้นอนอยู่ข้างล้อรถ ชี้ไปยังหลินหยุนแล้วตะโกนว่า “น้าครับ เขาคนนี้แหละ! เจ้าหมอนี่ที่ฆ่าพี่น้องพวกเรา แล้วยังจะมาฆ่าหลานด้วย! ยังพูดอีกว่าต่อให้ท่านมา ก็จะฆ่าทีเดียวไปพร้อมกันเลย!”
เมื่อได้ยินกงสวี้พูดกลับกลอกจากขาวเป็นดำเช่นนี้ อันซื่อเอินสองสามีภรรยาโกรธจนหน้าขาวซีด ไร้ยางอาย ไร้ยางอายจริงๆ !
ใบหน้าสะสวยของอันซินก็แสดงความโกรธ ชี้ไปยังกงสวี้แล้วตะโกนว่า “แกโกหก!”
เจี่ยงสงกวาดสายตาไปยังครอบครัวของอันซิน เมื่อเห็นอันซินแล้ว สายตาส่องประกายที่ทึ่งในความงามออกมา
หลังจากนั้น สายตาของเจี่ยงสงก็มาตกมาอยู่ที่เงาร่างด้านหลังของหลินหยุน
เอ้? เงาด้านหลังคนนี้ทำไมรู้สึกคุ้นเคยจังเลย !
หลินหยุนยืนหันหลังให้กับเจี่ยงสงมาตลอด ดังนั้นเจี่ยงสงจึงจำหลินหยุนไม่ได้
อีกทั้งหลายวันที่ผ่านมานี้เขาโทรศัพท์ติดต่อหลินหยุนไม่ได้เลย เจี่ยงสงก็เลยไม่ได้นึกไปถึงตัวหลินหยุนเลย
“ไอ้หนูน้อย แกเป็นคนที่ฆ่าลูกน้องฉันเหรอ?” เจี่ยงสงพูดด้วยเสียงต่ำ คุกรุ่นไปด้วยอารมณ์สังหาร
กงสวี้ก็รีบคลานเข้ามา แล้ววิ่งไปอยู่ใกล้เจี่ยงสง ถอนหายใจเฮือกใหญ่
มีเจี่ยงสงเป็นหลักประกัน กงสวี้ก็แสดงธาตุแท้ออกมาทันที ใบหน้าที่ดุร้ายมองไปยังหลินหยุนแล้วตะโกนว่า “น้าครับ น้าไม่ต้องถามอีกแล้ว เขานั่นแหละเป็นคนฆ่า ถ้าน้ามาช้ากว่านี้ หลานก็คงตายไปแล้ว!”
เจี่ยงสงหันไปโบกมือให้กับลูกน้องที่อยู่ข้างหลังแล้วพูดว่า “จัดการเลย!”
เมื่อเห็นเจี่ยงสงลงมือแล้ว กงสวี้หน้าตาเบิกบาน ยิ้มอย่างสะใจว่า “ไอ้หนูน้อย แกจะเอาอะไรมาสู้กับฉัน รนหาที่ตายชัดๆ!”
“เหรอ? ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่จะเป็นคนรนหาที่ตาย”
เสียงของหลินหยุนราบเรียบมาก แต่แฝงด้วยน้ำเสียงประชดประชันอยู่ภายใน
เจี่ยงสงที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยินแล้วตกใจ “เสียงนี้คือ?”
“ปรมาจารย์หลิน ท่านกลับมาแล้วเหรอครับ!”
หลินหยุนหันหน้ามา ใบหน้ายิ้มแย้มแล้วมองไปยังเจี่ยงสง ถึงแม้ว่าหลินหยุนกำลังยิ้มให้ แต่เจี่ยงสงเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นแล้ว ขาทั้งสองข้างก็เริ่มสั่น เกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น
เสียงของหลินหยุนก็ดังขึ้นอย่างราบเรียบอีกครั้ง “ลูกพี่ใหญ่เจี่ยง ได้ข่าวว่าคุณเป็นคนที่มีอิทธิพลอันดับหนึ่งในเมืองหลินโจวใช่ไหม?”
เจี่ยงสงตกใจกลัวจนตัวสั่นไปถึงตับไตไส้พุง ดูเหมือนว่าหลานชายตัวดีคงทำผิดร้ายแรงจนทำให้ปรมาจารย์หลินโกรธไม่เบาเลย!
กงสวี้ยังตะโกนอยู่ด้านข้างอย่างไม่รู้ตัวความตายมาเยือน “ถูกแล้ว ตอนนี้แกรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว! คุกเข่าลงแล้วโขกหัวขอโทษฉัน ฉันก็จะขอให้น้าไว้ชีวิตอันต่ำต้อยไร้ค่าของแก!”
เสียงระเบิดดังขึ้น คำพูดของกงสวี้เหมือนเสียงระเบิด เข้าไประเบิดอยู่ในสมองของลูกพี่ใหญ่เจี่ยง
โขกหัวขอขมา ไว้ชีวิตของแก……….
เจี่ยงสงรู้สึกขนหัวลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว
“คุกเข่าลงแล้วโขกหัวขอขมา ไว้ชีวิตต่ำต้อยไร้ค่าของฉัน…..” หลินหยุนแสยะมุมปาก ยิ้มก็เหมือนไม่ยิ้มแล้วมองไปยังเจี่ยงสง
“ลูกพี่ใหญ่เจี่ยง ทำไมไม่พูดไม่จาล่ะ?”
เจี่ยงสงก็ได้สติคืนมาในที่สุด สีหน้าเย็นชาแล้วหันไปมองหน้ากงสวี้ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งจองหอง อดไม่ได้ที่ต้องหลับตาลง
นี่มันเป็นหลานชายแท้ๆของเขาเลยนะ!
ลืมตามาอีกครั้ง เจี่ยงสงสายตากลับเยือกเย็น ราวกับว่าได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
จากนั้นก็ไปแย่งเอาท่อนเหล็กจากมือของลูกน้องคนหนึ่ง เจี่ยงสงออกแรงฟาดไปที่กงสวี้อย่างเต็มแรง
โป้ง!
กงสวี้ถูกฟาดจนตกลงไปนอนคว่ำบนพื้น แล้วมองเจี่ยงสงด้วยความฉงน
“น้าครับ ทำไมต้องมาตีผม ผมเป็นหลานน้านะ!”
เจี่ยงสงโมโหโกรธจัด “ตีไอ้สารเลวอย่างแกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ท่านปรมาจารย์หลินแกยังกล้าไปยุ่ง แกจะทำให้ครอบครัวฉันเดือดร้อนไปหมดรู้มั๊ย?”
พูดจบ เจี่ยงสงก็ใช้ท่อนเหล็กฟาดไปยังกงสวี้หลายที อย่างไม่มีการยั้งมือ
กงสวี้ถูกตีจนเลือดอาบเต็มหน้า แต่ว่าเขาก็ยังไม่เข้าใจ! เขาไปทำผิดต่อปรมาจารย์หลินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“น้า น้าครับ น้าเข้าใจผิดแล้ว ผมไปทำผิดต่อปรมาจารย์หลินตรงไหน? ผมไม่ได้ทำจริงๆ!” กงสวี้ตกใจจนตัวสั่นเมื่อเห็นความดุร้ายของเจี่ยงสง ตะโกนร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“คนที่อยู่ตรงหน้าแก ท่านนี่แหละก็คือปรมาจารย์หลิน! แหกตาต่ำๆของแกดูให้ชัดๆ!” เจี่ยงสงตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธจัด
กงสวี้หันหน้ามามองหลินหยุน ราวกับว่าเห็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เหลือเชื่ออยู่ตรงหน้า พูดด้วยเสียงสั่นว่า “เขา เขาคือปรมาจารย์หลิน!”
“เป็นไปได้อย่างไร!”
เจี่ยงสงเหลือบตามองไปยังหลินหยุนที่สีหน้ายังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนว่าปรมาจารย์หลินก็ยังไม่พอใจเลย!
คราวนี้เกรงว่าหลานชายตัวเองคนนี้คงรักษาชีวิตเอาไว้ไม่อยู่แน่แล้ว!
เจี่ยงสงจนหนทาง ได้แต่หยิบท่อนเหล็กขึ้นมาอีกครั้ง แล้วฟาดไปยังกงสวี้ต่อไป
“ทำไมไม่รู้จักแหกตาดู แกทำไมไม่รู้จักแหกตาดู!”
กงสวี้ถูกตีจนคลานไปทั่ว ร้องเสียงดังว่า “น้าครับ ผมผิดไปแล้ว ผมรู้สึกผิดสำนึกผิดแล้วครับ น้าไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ!”
เจี่ยงสงแอบมองสีหน้าของหลินหยุน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขอความเมตตา
“อย่ามาอ้อนวอนฉัน คนที่แกทำผิดไว้คือปรมาจารย์หลิน!” คำพูดของเจี่ยงสงนับว่าเป็นการเตือนสติกงสวี้
กงสวี้ก็ไม่โง่ รีบหันหน้าไปหาหลินหยุนแล้วโขกหัวพูดว่า “ปรมาจารย์หลินครับ ผมผิดไปแล้ว ผมมันมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักผู้ใหญ่ตัวจริง! ขอให้ท่านไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ!”
เจี่ยงสงถือโอกาสหยุดตี แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างระมัดระวัง “ท่านปรมาจารย์หลิน ท่านดูซิว่า……..”
หลินหยุนไม่พูดอะไร เพียงแต่ค่อยๆเดินไปยังลูกน้องของกงสวี้ ใช้ขาเตะไปทีละคน ลูกน้องที่ถูกหลินหยุนชกจนนอนสลบบนพื้นก่อนหน้านี้ แต่ยังมีลมหายใจอยู่ ชีวิตก็ม้วยมรณาทันที
เจี่ยงสงสีหน้าขาวซีด เข้าใจความหมายของหลินหยุนแล้ว
กงสวี้ตกใจตาโต น้ำอุ่นๆไหลเป็นสายลงมาตามหว่างขา ถึงขนาดตกใจปัสสาวะราด!
หลินหยุนไม่ได้ไปมองเจี่ยงสงและกงสวี้ แต่กลับหันไปมองลูกน้องของกงสวี้ที่ยังยืนอยู่ไม่กี่คน
ชายหนุ่มสี่คนนั้นตกใจสะดุ้งขึ้นมา มีความรู้สึกว่ากำลังถูกมัจจุราชจ้องมองอยู่ ขนลุกซู่ไปทั้งตัว!
“เฉียง พี่เฉียงครับ ช่วย ช่วยด้วย! พี่เฉียง พี่ช่วยพูดขอร้องให้พวกพี่น้องด้วย! เมื่อก่อนหน้านั้นพวกผมไม่ดีเอง พวกผมไม่ควรจะทรยศพี่ เห็นแก่ความเป็นพี่น้องที่อยู่กับพี่มานานหลายปี ท่านช่วยขอร้องปรมาจารย์หลินด้วย ขอให้ไว้ชีวิตอันต่ำต้อยไร้ค่าของพวกผมด้วยเถอะ!”
คนพวกนี้กลัวจนไม่กล้าที่จะหนีไปไหน ได้แต่คุกเข่าต่อหน้าไอ้หน้าบากเฉียงแล้วโขกหัวให้ไม่หยุดหย่อน
ไอ้หน้าบากเฉียงท่าทีเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรงมองไปยังหลินหยุนที่สีหน้าไร้ความรู้สึก แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มสี่คนนั้นว่า “หากรู้ว่าจะต้องมีวันนี้ ทำไมวันนั้น จึงทำเช่นนั้น!”
ในเมื่อเลือกทางที่จะทรยศเช่นนั้นแล้ว ก็ควรจะต้องยอมรับผลกรรมของการทรยศนั้น
ชายหนุ่มสี่คนก็ถูกหลินหยุนฆ่าตาย แต่ว่า ความโกรธแค้นในใจของหลินหยุนก็ยังไม่สงบลง
ถ้าเขามาช้าอีกหน่อย อันซินก็จะถูกกงสวี้และจางจื่อเห้าฉุดตัวไปแล้ว ด้วยนิสัยส่วนตัวของอันซินนั้น ผลที่เกิดขึ้นแค่คิดก็น่าจะรู้แล้ว
ถ้าเป็นเช่นนั้น ถึงแม้หลินหยุนจะเกิดใหม่อีกกี่ชาติ ก็ยังต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต
เมื่อหวนนึกถึงอดีตชาติ ความรักลึกซึ้งของอันซินที่มีต่อเขา แต่กลับต้องมลายหายสิ้นไป เมื่อนึกถึงชะตาชีวิตที่น่าสังเวชของอันซินแล้ว หลินหยุนแทบอยากจะฉีกแผ่นฟ้าแผ่นดินให้แหลกสลายไป!
อย่าว่าแต่ฆ่าคนไม่กี่คนเลย ต่อให้สังหารกงสวี้ถึงเก้าชั่วโคตร ก็ยังไม่สามารถระงับความโกรธแค้นในใจของหลินหยุนได้
เจี่ยงสงในใจรู้สึกเจ็บปวดมากได้แต่ถอนหายใจ เพราะเขามองเห็นการตัดสินใจของหลินหยุนแล้ว
เจี่ยงสงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป มองไปยังกงสวี้ด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นอย่างผิดปกติ
“ไอ้หนูน้อย นี่มันเป็นเพราะโชคชะตาของแก! ใครให้แกไปแหย่คนที่ไม่สมควรจะแตะต้อง! เมื่อไปอยู่ในยมโลกแล้ว ก็ขอให้ดวงตาแกสว่างขึ้น!”
โป้ง!
เจี่ยงสงฟาดด้วยท่อนเหล็กนี้ ลงไปตรงขมับของกงสวี้พอดี
เลือดไหลกระจายไปทั่ว กงสวี้ล้มลงไปอย่างแรง!
อันซื่อเอินสองสามีภรรยาเห็นฉากนี้แล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสุดท้าย พวกเขายังไม่เคยกะพริบตาเลย
ทีแรกรู้สึกตื่นตกใจกับท่าทางของลูกพี่ใหญ่เจี่ยงที่มีต่อหลินหยุน จากนั้นก็เห็นถึงความโหดเหี้ยมของหลินหยุนที่ฆ่าคนอย่างไม่กะพริบตา ทำให้สามีภรรยาคู่นี้ที่เป็นคนธรรมดาทั่วไป หัวสมองแทบช็อกคาที่!
ส่วนอันซินก็ไม่ได้แตกต่างไปมากนัก มองดูหลินหยุนที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ไม่สิ ต้องใช้คำว่าสะเทือนขวัญจึงจะบรรยายความรู้สึกในขณะนี้ได้