จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 187 ฉันเห็นด้วยหรือไม่

บทที่ 187 ฉันเห็นด้วยหรือไม่

ใบหน้าของอีหลิงเปลี่ยนไป ปากของเธออ้าขึ้นเล็กน้อย จ้องมองฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อ

เธอรู้ว่าหลินหยุนเก่งเรื่องการต่อสู้ แต่ว่า ที่นี่คือตระกูลหาน! ผู้มีอิทธิพลในตระกูลหานแห่งลี่ชวน หลินหยุนถึงกับต่อยพ่อบ้านตระกูลหาน!

ตอนนี้แย่แน่!

อีหลิงรีบผลักหลินหยุนออกไปข้างนอก และแสดงท่าทางขอร้องหลินหยุน “รีบไป นายรีบไป! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนาย นายอย่ามาจุ้นจ้าน!”

หานเซี่ยนหัวยิ้มเยาะเย้ย “ตอนนี้เพิ่งนึกได้ว่าต้องหนี? มันสายไปแล้ว! กล้าลงมือตบพ่อบ้านตระกูลหานของฉัน ก็คือการตบหน้าตระกูลหานของฉัน!”

อีหลิงกังวลใจ และแอบพูดในใจ “ไม่ได้ ต้องไม่ทำให้หลินหยุนเดือดร้อน มิฉะนั้น หานเซี่ยนหัวอาจฆ่าเขาได้!”

อีหลิงหันกลับมาขอร้องหานเซี่ยนหัว “พี่ ปล่อยเขาไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ฉันขอร้อง!”

ยิ่งอีหลิงแสดงความกังวลมากขึ้นเท่าใด หานเซี่ยนหัวก็ยิ่งริษยาหลินหยุน ยิ่งต้องการชีวิตของหลินมากขึ้นเท่านั้น

“เขาทำร้ายพ่อบ้านของตระกูลหานจนได้รับบาดเจ็บ ถ้าปล่อยเขา ตระกูลหานจะเอาหน้าไปไว้ไหน!”

หานเซี่ยนหัวมองไปที่ข่งอู่ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้ช่วยข่ง นายคิดว่าควรทำอย่างไร?”

ข่งอู่เหลือบมองหลินหยุน ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เขาอยากช่วยอีหลิงมาก แต่เขาก็ต้องจงรักภักดีต่อตระกูลหานก่อน

“ผู้ที่ดูหมิ่นตระกูลหาน จะต้องชดใช้คืนสิบเท่า!” ข่งอู่พูดอย่างเย็นชา

หานเซี่ยนหัวยิ้มอย่างชั่วร้าย “งั้นคนคนนี้ก็มอบให้ผู้ช่วยข่งจัดการ!”

ข่งอู่หัวใจหดหู่ ไม่ได้ตอบ

“ทำไม? แม้แต่ฉันก็ไม่สามารถออกคำสั่งผู้ช่วยข่งแล้วเหรอ?” สีหน้าหานเซี่ยนหัวเคร่งขรึม ตะโกนอย่างเย็นชา

มิกล้า ฉันจะทำตามเดี๋ยวนี้!” ข่งอู่หันกลับมา มองหลินหยุนอย่างหมดหนทาง และพูดว่า “ขอล่วงเกินแล้วล่ะ!”

“อย่า ผู้ช่วยข่ง ฉันจะรีบให้เขาไปเดี๋ยวนี้!” อีหลิงยืนข้างหน้าหลินหยุน และตะโกนอย่างกังวล

หานเซี่ยนหัวตะโกนอย่างเย็นชา “ข่งอู่ เมื่อกี้นายเพิ่งพูดแก้ตัวให้ผู้หญิงคนนี้ และตอนนี้เธอกำลังสมรู้ร่วมคิดกับคนนอก หลักฐานชัดเจน นายมีอะไรจะพูดอีก!”

“ให้ไอ้หนุ่มคนนั้นอยู่ต่อ และขับไล่แม่ลูกที่กำลังเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัวออกไป!”

“ครับ!” ลูกน้องหลายคนเดินตรงไปหาอีหลิงและแม่

“เดี๋ยวก่อน!” ทันใดนั้นข่งอู่ก็ตะโกน

หานเซี่ยนหัวและแขกคนอื่นๆต่างก็มองไปที่ข่งอู่ ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไร

ใบหน้าหานเซี่ยนหัวยิ่งแสดงความตื่นเต้นมากขึ้น และถามอย่างเคร่งรึม “ผู้ช่วยข่ง นายจะกบฏหรือ”

ข่งอู่ก้มหัวลง “คุณชายเข้าใจผิดแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่แก้ตัวแทนคุณหนูอีหลิง ถ้างั้นก็ให้ผมขับไล่พวกเธอออกไปเอง!”

หานเซี่ยนหัวเยาะเย้ยในใจ จนถึงตอนนี้นายยังคงปกป้องแม่ลูกคู่นี้ ช่างเถอะ ในเมื่อพวกเธอกำลังจะไสหัวออกจากตระกูลหานแล้ว ฉันจะตามใจนาย

“ก็ได้ ถ้างั้นก็ให้นายแสดงผลงานเพื่อชดใช้ความผิดพลาดนั้น!”

ข่งอู่ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ และยื่นมือออกไปเพื่อแสดงท่าทางเชิญออกไป และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณหนูอีหลิง เชิญครับ!”

อีหลิงพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง เธอเข้าใจ ถ้าลูกน้องของหานเซี่ยนหัวมาไล่พวกเธอ พวกเธอจะต้องดูแย่มาก

ในบรรดาคนมากมายขนาดนี้ ข่งอู่ต้องการรักษาศักดิ์ศรีของสองแม่ลูกเป็นครั้งสุดท้าย

“แม่คะ ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับพวกเราแล้ว ไปกันเถอะ! ถ้าวิญญาณคุณน้าอยู่บนสวรรค์ เชื่อว่าคงไม่โทษพวกเราที่ไม่ได้ส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย!”

ในที่สุดหานหรูก็ตั้งสติได้ เมื่อเห็นว่าคนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากความดื้อรั้นของเธอ เธอจึงถอนหายใจ และพูดว่า “เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ!”

น้ำเสียงของเซี่ยหยู่เวยแฝงด้วยการเยาะเย้ยดูถูกและเย็นชา “บอกคุณแล้วตัวเองไม่มีปัญญาก็อย่าไปฝืน คุณก็ไม่ฟัง เพื่อต้องการปกป้องคุณจนอีหลิงต้องถูกไล่ออกไป คุณพอแล้วใจไหม?”

แม้ว่าจะไม่ได้พูดดัง แต่ว่า ในขณะนี้สถานที่ตรงนี้เงียบมาก เลยแว่วเข้ามาที่หูของทุกคนอย่างชัดเจน

แขกเหล่านั้นมองหลินหยุนด้วยความดูถูกเล็กน้อย และบางคนถึงกับนำมาสั่งสอนลูกๆ “ดูสิ นี่คือผลของการไปยุ่งเรื่องของคนอื่น!”

“ถ้าเธอโตแล้วอย่าไปเรียนแบบเขาหล่ะ!”

ทันใดนั้นหลินหยุนก็หันหัวกลับมา และมองเซี่ยหยู่เวยอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาดูนิ่งสงบอย่างเห็นได้ชัด แต่มันทำให้รู้สึกขนลุก ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังจะถล่มลงมา

“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของน้าเฟิน ฉันจะยอมเธอจนถึงตอนนี้เหรอ?”

ครั้งแรกครั้งที่สอง แต่ห้ามมีครั้งต่อๆไปอีก ความอดทนของหลินหยุนที่มีต่อเซี่ยหยู่เวย ในที่สุดก็หมดความอดทน

ใบหน้าของเซี่ยหยู่เวยนิ่งเฉย แต่ว่า ขณะนี้เธอรู้สึกหวาดเสียว สายตาหลินหยุนที่เหลือบมองเธอ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกลงไปในห้องใต้ดินที่มีน้ำแข็ง

แววตาของเขา ทำไมทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวขนาดนี้? มันเกิดอะไรขึ้น!” เซี่ยหยู่เวยไม่เข้าใจ เธอคิดว่ายังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมต้องกลัวแววตาของหลินหยุน!

หลินหยุนไม่อยากยุ่งกับเธอมากนัก และเอื้อมมือไปแตะไหล่ของอีหลิงที่กำลังพยุงแม่ของเธอให้ยืนขึ้น

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ปราศจากความโศกเศร้าและความสุข เสียงแผ่วเบานั้นแฝงด้วยความรังเกียจเล็กน้อย “พวกนาย ดูเหมือนจะเพิกเฉยต่อการดำรงอยู่ของฉัน?”

“ฉันยังไม่ได้ตอบตกลง ใครกล้าไล่เธอไป”

น้ำเสียงของหลินหยุนไม่เคร่งขรึม และดูเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น แต่มันเผยให้เห็นเจตจำนงที่แน่วแน่อย่างยิ่ง

จู่ๆ ผู้ชมก็เงียบกริบ!

ทุกคนอึ้งไปครู่หนึ่ง

จากนั้น ก็ระเบิดออกมา

“บ้าเอ้ย ไม่จริงมั้ง ไอ้หนุ่มคนนี้โง่เหรอ? เขาคิดว่าเขาเป็นใคร!”

“ฮึฮึ ไอ้หนุ่มคนนี้ บอกว่าเขายังไม่ได้ตอบตกลง ตลกสิ้นดี เขาคิดว่าเขาเป็นปรมาจารย์หลินเหรอ? ยังกล้าออกคำสั่งกับตระกูลหาน สงสัยไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้วมั้ง”

“ฉันสงสัยจริงๆ นี่เป็นลูกดื้อรั้นของใคร พ่อแม่เขาไม่สนใจเขาใช่ไหม? ถ้าทำแบบนี้ จะต้องตายจริงๆ”

คนหนุ่มสาวในที่เกิดเหตุเยาะเย้ยหลินหยุนอย่างไม่เกรงกลัว ผู้ที่มีอายุมากกว่าหน่อย การกระทำก็จะนิ่งสงบ ไม่ได้เยาะเย้ยหลินหยุน แต่สายตาที่มองหลินหยุน เต็มไปด้วยความดูถูกอย่างชัดเจน

สายตาหลายคน เหมือนมองคนกำลังจะตาย

หวางเสี่ยวซีมีสีหน้าอับอาย และเยาะเย้ย “ฉันคิดว่าหลินหยุนโง่หรือเปล่า? เขาคิดว่าเขาเป็นใคร! เขากำลังคุกคามตระกูลหาน หรือเปล่า?”

หลี่เหยนเยาะเย้ย “คนเราถ้าสร้างปัญหาขึ้นมาเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องรับผลกรรมนั้นด้วยตัวเอง! ถ้าเขาต้องการหาที่ตาย ก็ให้เขาไปตายเถอะ! คิดว่ารู้จักคนที่มีอิทธิพลหลายคนในหลินโจวก็เลยทำตามอำเภอใจเหรอ? ตรงนี้คือลี่ชวน แม้ว่าเจี่ยงสงจะมาถึงตรงนี้ ก็ไม่กล้าที่จะพูดเช่นนี้!”

เมื่อสักครู่ที่เซี่ยหยู่เวยถูกหลินหยุนกดดัน ความรู้สึกที่มีต่อหลินหยุนยิ่งขยะแขยงมากขึ้น แสดงตัวเหมือนโรคจิตที่ปรารถนาจะแก้แค้น

“ฮึ่ม ตัวเองหาที่ตายไม่มีใครอยากสนใจ แต่ว่า หวังว่านายจะไม่ทำให้อีหลิงเดือดร้อนไปด้วย!”

ใบหน้าเล็กๆที่สวยงามของอีหลิง สัมผัสได้ถึงความลำบากใจ เธอไม่คิดว่าหลินหยุนจะกล้าขนาดนี้

อีหลิงรีบเกลี้ยกล่อมเขา “ช่างมันเถอะหลินหยุน แม่กับฉันกะจะไปแล้ว พวกเราอย่าให้ปัญหามันยืดยาวเลยตกลงไหม?”

หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย และตบหลังมือที่นุ่มนวลของอีหลิง “ไม่ต้องกังวล มีฉันอยู่ ไม่มีใครสามารถรังแกคุณได้”

ประโยคธรรมดามาก แต่ว่า หนักแน่นกว่าคำสาบานใดๆ

ทันใดนั้นหัวใจของอีหลิงสั่นไหว ดูเหมือนว่าเธอมีความรู้สึกอย่างหนึ่งที่อธิบายไม่ถูก

ทันใดนั้น อีหลิงก็ร้องไห้ และมองไปที่ร่างผอมบางของหลินหยุน ทันใดนั้นก็รู้สึกราวกับมีภูเขาสูงใหญ่

“ขอบคุณหลินหยุน แต่ไม่จำเป็นจริงๆ พวกเรารีบไปกันเถอะ!” อีหลิงรู้ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาถอนหายใจ พวกเขายังคงตกอยู่ในอันตราย

หานเซี่ยนหัวจ้องมองหลินหยุน และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะนั้นมีความหมาย

น่าสนใจจริงๆ คนนอกมาที่ตระกูลหาน ต่อหน้าเจ้าบ้านของตระกลูหานในอนาคต พูดเรื่องภายในของตระกูลหาน ต้องการความยินยอมจากนายด้วยเหรอ!”

ทันใดนั้นใบหน้าของหานเซี่ยนหัวก็เย็นชา และพูดเสียงสูง “ใครให้ท้ายนายทำให้ช่างกล้าหาญเช่นนี้!”

พ่อบ้านหลี่ซึ่งอยู่ข้างๆมีใบหน้าบวมอยู่ครึ่งหน้า เผยให้เห็นดวงตาที่ขุ่นเคือง เขากัดฟันและพูดว่า “คนนอกคนหนึ่ง ยังกล้ามายุ่งเรื่องของตระกูลหาน วันนี้ถ้าปล่อยให้นายมีชีวิตรอดออกไป ต่อไปตระกูลหานคงจะเป็นตัวตลกในหลิงหนาน!”

หานเซี่ยนหัวเหลือบมองพ่อบ้านหลี่อย่างไม่พอใจ ทุกประโยคของพ่อบ้านหลี่เหมือนเอาตัวเองผูกมัดไว้กับตระกูลหลี่ คงกลัวว่าตระกูลหานจะไม่ช่วยเหลือและเข้าข้างเขา?

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของหานเซี่ยนหัว การบีบหลินหยุนให้ตายก็เหมือนกับการบีบมดตัวหนึ่ง ดังนั้น เขาจึงไม่ใส่ใจคำพูดของพ่อบ้านหลี่

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท