จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 194 การแก้แค้นของหวางหยู่หัน

บทที่ 194 การแก้แค้นของหวางหยู่หัน

หวางหยู่หันกัดฟัน คำพูดของหลินหยุน ไม่มีอะไรจะจับผิดได้เลย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะแบ่งงานให้พวกนายอีกครั้ง ไปเช็ดพื้นที่ตรงนั้น”

ครั้งนี้หลินหยุนพูดตรงไปตรงมามากขึ้น “ไม่ไป”

หลังจากพูดจบ เขาก็เอนตัวพิงกำแพง ปิดตาและตั้งสมาธิ ไม่สนใจหวางหยู่หันเลย

ไอ้หินมองไปที่หวางหยู่หัน และมองหลินหยุน โดยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร

“เอาล่ะ หลินหยุน ฝากไว้ก่อน!” หวางหยู่หันออกไปด้วยความโกรธ

หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรีบร้อย หลินหยุนไม่ได้เอาเหตุการณ์เมื่อกี้มาใส่ใจเลย

คลาสเรียนศิลปะการต่อสู้เริ่มขึ้น และโค้ชก็มาถึง

นักศึกษาถูกแบ่งออกเป็นสองแถว นั่งหันหน้าเข้าหากัน ตรงกลาง มีช่องว่างขนาดใหญ่

คลาสศิลปะการต่อสู้ของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์ ถือการแสดงเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่ามีแต่ความสวยงามแต่ใช้งานไม่ได้

เพียงแต่ว่า โค้ชศิลปะการต่อสู้คนใหม่ ไม่คิดอย่างนั้น

เขาต้องการให้นักศึกษาทุกคนมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้จริงๆ หากมาเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้เพื่อการแสดงเท่านั้น สิ่งที่ได้รับมันก็ไม่มีประโยชน์ใช้การไม่ได้

นอกจากนี้ ยังเป็นการดูถูกศิลปะการต่อสู้อีกด้วย

ดังนั้น ในคลาสเรียนศิลปะการต่อสู้ โค้ชจะขอให้นักศึกษาทุกคนมีส่วนร่วมในการต่อสู้จริง

ในตอนแรก มันเป็นเพียงการเผชิญหน้าธรรมดาๆ แต่หลังจากผ่านไปนาน มันก็เปลี่ยนไป

บางคน เริ่มใช้คลาสเรียนศิลปะการต่อสู้ เพื่อโจมตีคู่ต่อสู้

ด้วยวิธีนี้ นักศึกษาที่ไม่เก่งในวิชาศิลปะการต่อสู้ก็จะโชคร้าย

แม้ว่าโค้ชจะได้เห็นผลของการเผชิญหน้าต่อสู้กัน เป็นการแก้แค้นเรื่องส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม

ตามคำพูดของโค้ช มีความกดดันถึงจะมีแรงกระตุ้น

ด้วยวิธีนี้ นักศึกษาที่ไม่ค่อยสนใจวิชาศิลปะการต่อสู้มากนัก เพราะกลัวจะโดนทำร้าย ก็ต้องทุ่มเทเรียนรู้การต่อสู้อย่างหนักหน่วง

ไม่ต้องพูดถึง วิธีการเช่นนี้ช่วยปรับปรุงระดับศิลปะการต่อสู้ของนักศึกษาได้อย่างมาก และความสามารถในการต่อสู้ก็ได้รับการปรับปรุงสูงขึ้น

โค้ชพูดเกี่ยวกับความรู้เชิงทฤษฎีก่อน แล้วจึงประกาศว่า การเผชิญหน้าต่อสู้ที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“กู้ซิวหรั่น นายมาเริ่มต้นก่อน หาเพื่อนร่วมชั้นมาสาธิตให้ทุกคน” โค้ชมองคนที่นั่งข้างๆด้านซ้าย รูปร่างสูงยาว ใบหน้าหล่อเหลา พูดด้วยความพึงพอใจ

ศิลปะการต่อสู้ของกู้ซิงหรั่นนั้น จะเก่งที่สุดในบรรดาคนที่นี่

กู้ซิวหรั่นยืนขึ้น และเดินไปพื้นที่โล่งตรงกลาง สีหน้าเฉยเมย ท่าทางที่เย่อหยิ่งเหมือนคนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้ ทำให้ทุกคนรู้สึกหดหู่

เพียงแต่ว่า ความเย่อหยิ่งนี้ปรากฏบนตัวของกู้ซิวหรั่น และทำให้ทุกคนรู้สึกว่า มันสมเหตุสมผลมาก

ราวกับว่า เขาควรจะหยิ่งผยอง

“หล่อมาก! สมกับเป็นเดือนในมหาลัยของเรา!” ผู้หญิงบางคนในดวงตาแทบจะมีรูปหัวใจสีแดงออกมา

“หลิ่วซิง นายมาสู้กับฉัน!” กู้ซิวหรั่นพูดกับชายที่แข็งแกร่งทางขวา

หลิ่วซิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และลุกขึ้นทันที เดินไปตรงกลาง

“พี่กู้ โปรดออมมือด้วย!” หลิ่วซิงพูดด้วยรอยยิ้ม

หลิ่วซิงนี้เป็นลูกน้องกู้ซิวหรั่น กู้ซิวหรั่นต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่เหนือกว่าผู้อื่น หลิ่วซิงเป็นเหมือนสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อกัดคน

หลิ่วซิง นายหาที่ตายเหรอ? ไร้สาระทำไม รีบมา!” โค้ชดุด่า

“ครับ!” หลิ่วซิงตัวสั่น

“ระวังตัวหน่อยนะ!” กู้ซิวหรั่นเปิดการต่อสู้ และชกหมัดตรงไป

หมัดนี้มีพลังที่แข็งแกร่ง มีพลังอยู่ในระดับหนึ่ง ในหมู่นักศึกษาเหล่านี้ มันค่อนข้างน่าทึ่งอยู่แล้ว

หลิ่วซิงขยับตัวหลบไปด้านข้างทันที โดยลืมทฤษฎีที่โค้ชเพิ่งพูดไปโดยสิ้นเชิง

เพียงแต่ว่า ดูเหมือนกู้ซิวหรั่นคาดไว้แล้ว และตามด้วยหมัดสวิงทันที

หลิ่วซิงหลบไม่ทัน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเผชิญหน้ากับมัน

“โอ้!” หลิ่วซิงกรีดร้อง พลังของเขาไม่แข็งแกร่งเท่ากู้ซิวหรั่น ด้วยหมัดนี้ทำให้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เหน็บชา

พวกผู้หญิงเหล่านั้นเริ่มกระซิบ “ว้าว คุณชายกู้น่าทึ่งจริงๆ หมัดนั้นเท่ห์มาก!”

“เท่ห์ก็ไม่เกี่ยวกับเธอ คนโปรดของคุณชายกู้คืออีหลิงดาวมหาลัย!” ผู้หญิงข้างๆเธอพูดอย่างอารมณ์เสีย

หวางหยู่หันสาวนมใหญ่ซึ่งนั่งถัดจากหญิงสาวพวกนี้มีใบหน้าหดหู่ สายตาที่มองดูคุณชายกู้ ซึ่งอ่อนโยนนุ่มนวล และเต็มไปด้วยความรัก

“พวกเธออย่าพูดเหลวไหล ใครบอกพวกเธอสองคนว่าคุณชายกู้ชอบอีหลิง!”

สองสาวทำปากมุ่ย และไม่พูด เป็นใครก็สังเกตได้ว่า หวางหยู่หันหึงหวงและริษยา

ในพื้นที่โล่ง กู้ซิวหรั่นตะโกนอย่างเย็นชา “นายมาตีฉัน!”

หลิ่วซิงพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด พี่กู้ ระวังตัวด้วย!”

หลิ่วซิงชกตรง และโจมตีตรงหน้ากู้ซิวหรั่น มันเป็นหมัดที่มีพลังแข็งแกร่ง ความสามารถในการต่อสู้ของหลิ่วซิง เห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อหมัดของหลิ่วซิงกำลังจะเข้าใกล้กู้ซิวหรั่น กู้ซิวหรั่นก็คว้าข้อมือของหลิ่วซิงไว้ แล้วใช้ไหล่ทุ่มลงไป กดหลิ่วซิงล้มลงไปที่พื้น

“ดีมาก!”

โค้ชตะโกนเสียงดัง และปรบมือให้กับกู้ซิวหรั่น

ผู้ชมต่างพากันปรบมือ

โค้ชพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดถึง วิธีการใช้แรงปล่อยหมัดที่ถูกวิธี กู้ซิวหรั่นใช้ได้ดีมาก!”

“ต่อไป ทุกคนเข้าสู่การต่อสู้ที่ท้าทาย!”

กู้ซิวหรั่นเดินออกจากสนาม แต่หลิ่วซิงยังคงยืนอยู่บนสนาม

หลิ่วซิงมองไปที่ฝูงชนด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย เห็นได้ชัดว่า หลิ่วซิงพร้อมที่จะแก้แค้นส่วนตัว

เกิดความโกลาหลขึ้นท่ามกลางฝูงชน หลายคนเห็นสายตาของหลิ่วซิง ต่างก้มหัวกัน กลัวว่าจะถูกหลิ่วซิงเลือก

ยังไง ความแข็งแกร่งของหลิ่วซิง ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสิบอันดับที่แข็งแกร่ง

จางซือจู่ซึ่งอยู่ถัดจากหลินหยุนพูดอย่างเงียบๆ “อิจฉากู้ซิวหรั่นจริงๆ มีหน้าตาหล่อเหลา ครอบครัวฐานะดี การเรียนก็ดี เขาเป็นคนที่ดีพร้อมทุกอย่าง!”

“แต่หลิ่วซิงนี้ไม่ใช่คนดีอะไร นายต้องระวังตัวให้ดี!”

ตรงกันข้ามหวางหยู่หันมีรอยยิ้มที่เย็นชา ชุดศิลปะการต่อสู้ที่หลวม ไม่สามารถปกปิดความภาคภูมิใจกับหน้าอกทั้งสองข้างของเธอได้

“หลินหยุน หลี่หลิวเฉิง พวกนายกล้าโต้แย้งกับฉันในที่สาธารณะ ทำให้ฉันขายหน้า ดังนั้นอย่าโทษที่ฉันใจร้าย!”

สายตาของหลิ่วซิง ค่อยๆกวาดไปทั่วฝูงชน และในที่สุด ก็หยุดตรงที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ก้มหน้าลง

“นายแหละ หลี่หลิวเฉิง!” หลิ่วซิงพูด

“ฉัน!” ไอ้หินชี้ไปที่จมูกของตัวเอง ไม่คิดไม่ฝัน หลิ่วซิงจะเลือกเขา

เขามักจะทำตัวเรียบง่ายที่สุด และไม่มีพรสวรรค์ในคลาสศิลปะการต่อสู้ ด้วยความแข็งแกร่งของหลิ่วซิง การเลือกไอ้หินจะทำให้ตัวเองเสียคะแนนเปล่าๆ

“ใช่ นายนั่นแหละ! มาสิ!” หลิ่วซิงเอานิ้วชี้ไปที่ไอ้หินด้วยความดูถูก ด้วยท่าทีหยิ่งผยอง

จางซือจู่ตกตะลึง และอุทานเสียงเบา “เป็นไปได้อย่างไร? ทำไมหลิ่วซิงต้องเลือกไอ้หิน!มันไม่สมเหตุผลเลย!”

หลิ่วซิงเป็นเหมือนช้าง และไอ้หินก็เหมือนมด ขอถาม ช้างจะไปท้าทายมดได้อย่างไร?

ชนะหรือแพ้ก็ไม่มีผลดีอะไร

หลินหยุนใช้สัมผัสความรู้สึกมองไปหาจุดที่มีความขุ่นเคือง เห็นหวางหยู่หันแสดงสีหน้าเยาะเย้ย เมื่อเห็นหลินหยุนมองมาที่เธอ

สีหน้าของเธอยิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้น

“หลินหยุน คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้พวกนายทำให้หวางหยู่หันขุ่นเคือง หลิ่วซิงคนนี้เพื่อต้องการเอาใจหวางหยู่หัน จงใจมาล้างแค้นพวกนาย!” จางซือจู่พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม

การวิเคราะห์ของเขาถูกต้อง แต่หลินหยุนคาดเดาไว้แล้ว

“ไอ้หินไม่แคร์ ถ้าเอาชนะไม่ได้เขาก็จะยอมแพ้โดยสมัครใจ อย่างมากก็แค่ขายหน้าเล็กน้อย อีกอย่าง ปกติไอ้หินนั้นก็ไม่กลัวเสียหน้าอยู่แล้ว”

“เพียงแต่ว่า นายต้องไม่พยายามฝืน หากไม่ไหว ก็ควรรีบยอมแพ้ ไม่เช่นนั้นหลิ่วซิงจะใช้โอกาสนี้แก้แค้นนายอย่างหนักแน่นอน!” จางซือจู่พูดอย่างจริงจัง

“ฉันเข้าใจแล้ว” หลินหยุนพูดเบาๆ ด้วยท่าทางไม่แยแส

จางซือจู่จนปัญญา คำพูดของเขาคิดว่าหลินหยุนคงไม่อยากฟัง

หลังจากเพื่อนร่วมชั้นสนทนากันสักพักแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ต้องการเข้าใจเหตุผล สายตามองไปที่ไอ้หินกับหลินหยุน เห็นคนอื่นตกอยู่ในที่นั่งลำบากแล้วมีความสุข

ไอ้หินก้มหัวลง แล้วเดินไปตรงกลางสนามแข่ง คิดในใจว่า เวลาไหนเหมาะสมที่จะยอมแพ้

“เพื่อน เชิญ!” หลิ่วซิงคำนับด้วยมือของเขา รอยยิ้มมีเลศนัยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท