หลินหยุนกับฉินหลันติดตามเหยียนรุ่ยเหวินมาถึงคลับไดนาสตี้
ในช่วงระหว่างนั้น หลินหยุนได้โทรศัพท์ไปหาซูเหลียงจื่อ ให้เขารีบมุ่งหน้าไปที่จงโจวเพื่อคอยปกป้องอารักขาความปลอดภัยให้กับหวางซูเฟิน หลินหยุนกังวลว่าตระกูลส้งจะทำไม่ดีกับเธอ
ลงมาจากรถหรูหราคันสีดำของเหยียนรุ่ยเหวิน มองไปรอบ ๆ ที่จอดรถหน้าประตูของคลับไดนาสตี้ ซึ่งเต็มเพียบไปด้วยรถหรูหรา
ถึงขนาดที่ว่า มีจำนวนมากกว่าพิธีเปิดการประชุมสุดยอดจงโจวเมื่อวานเสียอีก
เป็นเพราะ ผู้ใหญ่ต่างก็มักจะวางตัวธรรมดาไม่โอ้อวด แม้ว่าจะมีเงินทองมากมาย รถที่ขับก็ไม่ได้จะหรูหราเว่อร์วังสักเท่าไหร่
แต่ แตกต่างจากพวกวัยรุ่น ที่ยังมีความต้องการที่จะเปรียบเทียบแข่งขัน ซึ่งรถยนต์แต่ละคันก็มีความหรูหราในระดับที่แตกต่างกันออกไป
เพราะว่าในกลุ่มพวกวัยรุ่น รถยนต์ มักจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงสถานะและระดับทางสังคม
เหยียนรุ่ยเหวินลงมาจากรถ ใบหน้าก็แสดงท่าทางที่หยิ่งผยอง เดินไปพลางและก็แนะนำให้ฉิน หลันไปพลาง
“สถานที่แห่งนี้โดยทั่วไปแล้วไม่ค่อยจะมีผู้คนมากันสักเท่าไหร่ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาด้านในนี้ได้ แต่ว่า วันนี้คือการประชุมสุดยอดขนาดเล็ก พวกเยาวชนวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงทั้งในจงโจวและมณฑลบริเวณโดยรอบต่างก็มารวมตัวกัน ดังนั้น จึงมีรถยนต์เป็นจำนวนมาก”
“หากต้องการเข้ามาในคลับไดนาสตี้ ก็จะต้องเป็นสมาชิกของคลับไดนาสตี้ก่อน แต่การสมัครเป็นสมาชิกของคลับไนนาสตี้นั้น คุณสมบัติค่อนข้างจะเข้มงวด ไม่ใช่ว่าจะมีเงินแล้วก็สามารถสมัครได้”
“ต้องการจะเป็นสมาชิกของคลับไดนาสตี้ คุณสมบัติข้อแรกคือ จะต้องเป็นลูกหลานในตระกูลสูงศักดิ์ที่มีอายุยาวนานนับร้อยปีขึ้นไป และคุณสมบัติอีกข้อก็คือจะต้องได้รับการแนะนำจากสมาชิกเก่าแก่จำนวนสิบคนขึ้นไป”
สำหรับคุณสมบัติการสมัครเป็นสมาชิกของคลับไดนาสตี้แล้ว หลินหยุนทราบชัดเจนดีกว่าใครทุกคน ในชาติที่แล้ว เขาถือว่าการได้เป็นสมาชิกสามารถเข้าสู่คลับไดนาสตี้นั้นเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่ เขาก็ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้
เขารับทราบด้วยตนเองว่าคุณสมบัติการสมัครเป็นสมาชิกของคลับไดนาสตี้นั้นมันเข้มงวดมากเพียงใด
ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าแม้แต่ฉินหลันเองที่ต้องการจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดขนาดเล็ก ยังต้องประจบเอาใจเหยียนรุ่ยเหวิน
หน้าประตูมียามรักษาความปลอดภัยรูปร่างกำยำบึกบึนสองนาย เหยียนรุ่ยเหวินยื่นบัตรสมาชิกให้ตรวจสอบด้วยท่าทางสุภาพ
คนก่อนหน้านี้ที่เข้าในงานต่างก็กระทำการเช่นเดียวกันนี้
อีกทั้ง ลักษณะท่าทางของยามรักษาความปลอดภัยก็ไม่ค่อยจะมีความเกรงใจเท่าไหร่
แต่ว่า พวกคุณชายลูกเศรษฐีที่คึกคะนองเหล่านี้ กลับไม่มีใครกล้าที่จะพูดว่ากล่าวแต่อย่างใด
แน่นอนว่า ไม่ใช่เพราะเกรงกลัวยามรักษาความปลอดภัยของที่นี่ แต่เพราะให้เกียรติกับเจ้านายของยามรักษาความปลอดภัยต่างหาก
เข้าไปด้านในของคลับไดนาสตี้ ด้านหน้าคือห้องโถงกว้างใหญ่ โดยในบริเวณห้องโถงมีอุปกรณ์เครื่องเล่นและกิจกรรมนันทนาการแบบในร่มมากมายหลายประเภท
มองทะลุผ่านห้องโถงไป สามารถมองเห็นสนามม้าและสนามกอล์ฟที่อยู่บริเวณด้านหลังได้
ใจกลางของห้องโถงมีโซนพักผ่อน สามารถรองรับจำนวนคนได้มากถึงหลักร้อยอย่างไม่แออัด
เวลานี้ ในโซนพักผ่อน มีวัยรุ่นสิบกว่าคนนั่งอยู่ที่ตรงนั้น กำลังดื่มเหล้า พูดคุยสังสรรค์กันอย่างครึกครื้น
“คุณชายเฉิน คุณชายหลี่!” เหยียนรุ่ยเหวินยกมือขึ้น ทักทายยิ้มแย้มกับพวกเขาเหล่านั้น
ในโซนพักผ่อน มีวัยรุ่นสองคนกำลังนั่งโอบกอดหญิงสาวสวยอยู่ ได้ยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วพูดว่า: “คุณชายเหยียน ไม่เจอกันนานเลย มาดื่มด้วยกันหน่อยสิ!”
เหยียนรุ่ยเหวินกระซิบพูดกับฉินหลันว่า: “นั่นคุณชายเฉิน คุณชายใหญ่แห่งบริษัท เฟรเซอร์ เคมิคอล กรุ๊ป!นั่นคุณชายหลี่ คุณชายแห่งบริษัท เผิงหยู กรุ๊ป!และอีกหลายคนด้านข้างนั้น ต่างก็อยู่ในตระกูลชั้นสูงที่ติดยี่สิบอันดับแรกในจงโจวทั้งนั้น”
“หากคุณต้องการชักชวนการลงทุน สามารถลองไปพูดคุยกับพวกเขาได้”
บริษัท เฟรเซอร์ เคมิคอล กรุ๊ปและบริษัท เผิงหยู กรุ๊ป ต่างก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความสามารถไม่ได้เป็นรองบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป หากพวกเขายอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ถ้าอย่างนั้นก็จะสามารถแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้
“ตกลง รบกวนคุณชายเหยียนพาเข้าไปแนะนำให้รู้จักหน่อย!” ฉินหลันกล่าว
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจัดการให้!” เหยียนรุ่ยเหวินตอบตกลงอย่างรวดเร็ว จากนั้น ก็มองไปที่หลินหยุน ด้วยรอยยิ้มที่แปลก แล้วก็เดินนำเข้าไป
หลินหยุนกวาดสายตามองไปที่เขา อย่างไม่แยแส
ชาติที่แล้ว เขาคิดและทำทุกวิถีทาง เพื่อจะเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก
ในชาตินี้ สถานที่แห่งนี้และเครื่องเล่นนันทนาการเหล่านี้ต่างก็อยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว ซึ่งก็ไม่เห็นว่ามีอะไรที่น่าพูดถึงเลย
ต่อให้คุณจะคิดวางแผน ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายอะไร ข้าเองสามารถละทิ้งมันได้ทั้งหมด!
หลินหยุนเดินตามอยู่ด้านหลังของฉินหลัน จนไปถึงเขตที่พักผ่อน
วัยรุ่นผู้นั้นที่กำลังโอบกอดสาวสวยในชุดเปลือยสะดือ เมื่อเห็นฉินหลันแล้ว ก็แสดงท่าทางชื่นชอบออกมาอย่างไม่ปกปิดเลยแม้แต่น้อย
“คุณชายเหยียน ใช้ได้เลยทีเดียว!ครั้งนี้เปลี่ยนมาเป็นแบบดูดีมีอายุหน่อย ยอดไปเลย!” คุณชายเฉินพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์
พวกวัยรุ่นคนอื่นก็มีผิวปากให้กับฉินหลันบ้าง ยิ้มหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์บ้าง โดยท่าทางแสดงออกให้เห็นถึงความคิดอย่างชัดเจน
เหยียนรุ่ยเหวินมองไปที่ฉินหลัน ในแววตาแสดงความละโมบขึ้นแวบหนึ่ง ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “พวกคุณทั้งหลายอย่าเข้าใจผิดกัน ฉันเองนั้นก็ชื่นชอบหลงใหลในตัวของเธออยู่ แต่เธอนั้นกลับไม่ใยดีต่อฉันบ้างเลยแม้แต่น้อย!”
“ท่านนี้คือผู้ช่วยประธานกรรมการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ชื่อว่าฉินหลัน!” เธอมาที่นี่ ก็เพราะมีเรื่องสำคัญ!
คุณชายเฉินพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยใส่ใจ: “เรื่องสำคัญ?เรื่องสำคัญอะไร?ทุกคนมาที่นี่ต่างก็มีเองสำคัญกันทั้งหมดนั่นแหละ!คุณชายหลี่ คุณพูดสิว่าใช่หรือไม่?ฮ่าฮ่า!”
คุณชายหลี่ที่กำลังถือแก้วเหล้าอยู่ ได้ยินดังนั้นแล้วก็ยกเหล้าดื่มจนหมด หัวเราะและพูดขึ้นว่า: “ใช้สิ ฉันเองก็มีเรื่องสำคัญด้วยเช่นกัน!”
“ใช่แล้วคุณคนสวย ในเมื่อคุณไม่ใช่ผู้หญิงของคุณชายเหยียน ถ้าอย่างนั้นพวกเราสามารถที่จะตามจีบจอแจได้อย่างเต็มที่ใช่หรือไม่?”
ฉินหลันหน้าแดงเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าการประชุมสุดยอดขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงระดับเทียบเคียงกับการประชุมสุดยอดจงโจวนั้น จะมีสภาพบรรยากาศของงานในระดับไฮเอนด์ คิดไม่ถึงว่าจะมีแต่พวกวัยรุ่นเพลย์บอย ที่นั่งดื่มเหล้าสังสรรค์เคล้านารีในที่แห่งนี้
ฉินหลันหันหลัง คิดที่จะกลับออกไป
เหยียนรุ่ยเหวินรีบกระซิบเตือนขึ้นว่า: “ผู้ช่วยฉิน คุณอย่าโมโหไปเลย คนพวกนี้ดื่มเยอะเกินไปแล้ว พูดอะไรโดยไม่ยั้งคิด เดี๋ยวฉันจะลองช่วยคุณสอบถามให้?หากไม่ยอมอดทนต่อเรื่องเล็กน้อยจะทำให้เสียการใหญ่ได้!”
ฉินหลันมองไปที่เหยียนรุ่ยเหวินด้วยความแปลกใจ หรือว่าคนผู้นี้ถูกพ่อของเขาดุด่ามาหนึ่งยก กลับกลายเป็นคิดดีได้แล้ว?
“ตกลง งั้นก็ต้องลำบากคุณชายเหยียนแล้ว”
เหยียนรุ่ยเหวินยิ้มและพูดว่า: “สบายมาก ต่างก็เพื่อบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปด้วยกันทั้งนั้น!”
เหยียนรุ่ยเหวินเดินเข้าไปยังด้านข้างของคุณชายเฉิน พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณชายเฉิน คุณชายหลี่ และพี่น้องเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ไม่ทราบว่าช่วงนี้พวกนายมีความคิดที่จะลงทุนอะไรกันบ้างไหม?และเป็นการลงทุนที่ได้ผลกำไรมั่นคงและไม่ขาดทุน!”
คุณชายเฉินหัวเราะและพูดขึ้นว่า: “คุณชายเหยียน นายอย่ามาพูดชักชวนจูงใจพวกเราอีกเลยจะได้ไหม?บนโลกใบนี้มีการลงทุนอะไรที่ได้ผลกำไรมั่นคงและไม่ขาดทุนบ้างล่ะ!”
เหยียนรุ่ยเหวินยิ้มและพูดว่า: “ฉันจะกล้าโกหกทุกคนได้อย่างไร!มีอยู่จริง ๆ และในตอนนี้ก็มีอยู่ธุรกิจหนึ่ง ก็เพียงแต่ไม่ทราบว่าทุกคนจะสนใจกันบ้างหรือเปล่า!”
คุณชายเฉินรีบผลักหญิงสาวออกจากอ้อมอกทันที ถามขึ้นด้วยความสนใจว่า: “รีบพูดมาเร็ว ธุรกิจอะไรกัน?”
เหยียนรุ่ยเหวินมองไปที่ฉินหลัน กระพริบตา พูดขึ้นว่า: “พวกนายเคยได้ยินบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปกันบ้างไหม!”
คุณชายเฉินและคนอื่น ๆ พากันพยักหน้า
“ไม่นานมานี้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปได้ช่วงชิงพื้นที่ผืนหนึ่งมาจากตระกูลส้ง เรื่องนี้พวกนายคงจะทราบกันใช่ไหม?” เหยียนรุ่ยเหวินพูดขึ้น
“ทราบ เรื่องนี้กระจายโด่งดังไปทั่วทั้งมณฑลจงโจวแล้ว!มีคนพูดว่าบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปมีผู้ใหญ่ที่มีอำนาจคอยหนุนหลังอยู่ นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ของตระกูลส้งยังกล้าที่จะช่วงชิง!” คุณชายหลี่ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น
เหยียนรุ่ยเหวินพูดว่า: “เป็นเพราะพื้นที่ผืนนี้ บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปนั้นมีความโลภมากเกินไป แม้ว่าจะสามารถช่วงชิงมาได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการบุกเบิกต่อไปได้!”
“ดังนั้น ตอนนี้ผู้ช่วยฉินอยู่ตรงนี้แล้ว ประสงค์ที่จะหาผู้ลงทุน เพื่อร่วมกันบุกเบิกพัฒนาพื้นที่ผืนนั้น พวกนายคิดดูสิว่านี่ไม่ใช่ธุรกิจที่ลงทุนแล้วได้แต่ผลกำไรมั่นคงและไม่ขาดทุนหรอกเหรอ?” เหยียนรุ่ยเหวินพูดขึ้น
คุณชายเฉินพูดขึ้นว่า: “ที่ดินผืนนั้นฉันทราบดี ใกล้กับสถานีรถไฟความเร็วสูง ทำเลดีมาก คงจะเติบโตมีอนาคตรุ่งเรืองเป็นแน่ ซึ่งถ้าหากสามารถร่วมลงทุนบุกเบิกพัฒนาแล้ว ผลกำไรดีงามอย่างแน่นอน!”
ฉินหลันดีอกดีใจ หลังจากที่เหยียนรุ่ยเหวินได้พูดรายละเอียดนี้ออกไป เธอรู้สึกว่าเรื่องชักชวนการลงทุนนั้น ดูแล้วมีความหวัง
ฉินหลันแอบชูนิ้วหัวแม่โป้งให้กับเหยียนรุ่ยเหวิน
เหยียนรุ่ยเหวินกระพริบตา และแสดงรอยยิ้มที่ถ่อมตัว
ฉินหลันพูดต่อว่า: “คุณชายเฉินพูดได้ถูกต้อง ที่ดินผืนนั้นมีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน อีกทั้งหากได้ร่วมมือบุกเบิกพัฒนาไปพร้อมกันกับบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปแล้ว รับรองว่าจะได้ผลกำไรมั่นคงโดยไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน”
“ถ้าหากทุกท่านมีความสนใจ สามารถกลับไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในตระกูลของทุกท่านได้”
“ครั้งนี้เป็นเพราะเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นภายในบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ดังนั้นจึงเกิดภาวะขาดแคลนเงินทุนหมุนเวียน ต่อไปเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ คงจะไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งอีกเป็นแน่!”
“ดังนั้น หวังว่าทุกท่านคงจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้!”
