ช่วงหลายวันมานี้ ฉินยุ่นฮุยผู้จัดการทั่วไปโรงแรมรุ่งโรจน์ ได้ออกมาจัดทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ซุปอเนกประสงค์ด้วยตนเอง
แน่นอนว่า ฉินยุ่นฮุยได้ทดลองและรับรู้ถึงประสิทธิผลของยาทิพย์ด้วยตัวเขาเองแล้ว โดยโรคริดสีดวงทวารที่เป็นปัญหาของเขามานานหลายปี เป็นเพราะเขาได้ดื่มซุปอเนกประสงค์เข้าไปหนึ่งถ้วย ก็สามารถรักษาทำให้โรคร้ายดังกล่าวหายไป
ฉินยุ่นฮุยทั้งตะลึงและดีใจอย่างที่สุด!
คิดไม่ถึงว่าประธานกรรมการจะสามารถเปลี่ยนจากเรื่องที่เลวร้ายกลายเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ได้!
ตอนนี้ ความฉลาดหลักแหลมทางธุรกิจของฉินยุ่นฮุย ได้มุ่งมั่นเดินหน้าอย่างสุดกำลังทันที จนถึงขนาดที่จะเกินพิกัดด้วย
หลี่เฉียงก็เหมือนกับคนส่วนมากทั่วไป ที่ต้องทำงาน โดยเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งทำงานมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว พูดได้ว่าเป็นพนักงานบริษัทระดับกลางคนหนึ่ง
วันนี้ในช่วงกลางวัน เขาก็สั่งอาหารเดลิเวอรี่ให้มาส่งที่บริษัทเหมือนปกติทั่วไป
เสี่ยวหวางเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านข้างได้ดื่มซุปไปหนึ่งคำ ก็ตะโกนร้องขึ้นกะทันหัน: “ใช่จริงด้วย ได้ผลจริง ๆ ด้วยล่ะ! ”
เดิมทีเสี่ยวหวางก็เป็นคนที่พูดคุยเสียงดังอยู่แล้ว ซึ่งเสียงที่ดังนี้ทำให้คนในสำนักงานพากันตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก
“เสี่ยวหวาง นายอยากตายเหรอ! ทำเอาฉันตกใจหมด! ” หญิงสาวที่มีสิววัยรุ่นเต็มหน้า สวมแว่นตาคนหนึ่ง ตบโต๊ะแล้วก็ลุกยืนขึ้น
“ฮ่าฮ่า พี่จวน! คุณอยากที่จะให้ใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวเนียนสดใสได้ภายในหนึ่งคืนไหม? ต้องการที่จะอยู่ห่างไกลจากความทรมานเจ็บปวดจากโรคร้ายไหม? ต้องการที่จะไม่ต้องทานยาและไม่ต้องฉีดยาแล้วหายจากอาการป่วยไหม? ” เสี่ยวหวางยักคิ้ว ยิ้มและพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ลึกลับ
ต้องการสิ ขนาดฝันก็ยังคิดถึงเรื่องนี้เลย!
ในบริษัทที่ผู้หญิงมีจำนวนมากและแข็งแกร่งกว่าผู้ชาย ในสาขาธุรกิจที่ผู้หญิงเปรียบเสมือนสิ่ง ล้ำค่า พี่จวนที่ทำงานมาหลายปีแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่เคยมีใครมาตามจีบเธอเลย
ถึงขนาดที่สวรรค์ก็ยังสงสาร ซึ่งเธอเองก็ยังคงเป็นหญิงสาววัยรุ่นที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง!
นั่นก็เป็นเพราะสิววัยรุ่นที่ขึ้นเต็มบนใบหน้าของเธอ มิเช่นนั้นในสภาพแวดล้อมที่ผู้ชายมีจำนวนมากกว่าผู้หญิง แล้วจะไม่มีผู้ชายมาตามจีบเธอได้อย่างไรกัน!
แต่ว่า พี่จวนก็ได้ไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก เข้าไปบำบัดในสถานเสริมความงามมากมายและก็หมดเงินกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในเรื่องนี้ก็มากมายแล้วเช่นกัน ผลที่ออกมาคือสิวบนใบหน้า ไม่เพียงแต่อาการไม่ดีขึ้น ยิ่งกลับรุนแรงมากกว่าเดิมอีกด้วย
พี่จวนได้ตายใจกับเรื่องนี้มานานแล้ว ในเมื่อไม่สามารถที่จะเป็นสาวสวยอย่างปกติสุขได้ ดังนั้นจึงปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมก็แล้วกัน จนกลายเป็นหญิงแกร่งอย่างที่สุดไปเลย
“เสี่ยวหวาง ภรรยาของนายหนีตามไปกับเพื่อนข้างบ้านแล้วเหรอ! ถึงได้พูดอะไรที่ไร้สาระแบบนี้? สมองคงจะได้รับการกระทบกระเทือนแน่เลยใช่ไหม! ”
พี่จวนดุด่าไปคำหนึ่ง แล้วก็นั่งลงและก้มหน้าก้มตาทานหมูสามชั้นน้ำแดงที่ตนเองสั่งมา
เสี่ยวหวางเดินเข้ามาด้วยท่าทางประสบสอพลอ ยื่นแขนข้างหนึ่งออกไป แล้วก็ถลกแขนเสื้อขึ้น: “ทุกคนดูนะ โรคสะเก็ดเงินเรื้อรังบนตัวของฉันได้หายดีเป็นปกติแล้ว! ”
“พูดจริงหรือล้อเล่นกันแน่? โรคสะเก็ดเงินของนายไม่ใช่ว่าไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่งแล้วก็ยังรักษาไม่หายไม่ใช่เหรอ? ซุปนี้เพียงถ้วยเดียวก็สามารถรักษาให้โรคของนายหายได้เลยงั้นเหรอ? ”
พวกเพื่อนร่วมงานไม่มีใครอยากจะเชื่อ จึงไปดูที่ท่อนแขนของเสี่ยวหวางด้วยความแปลกใจ
“โธ่เอ๊ย หายดีแล้วจริงๆ ! เสี่ยวหวางนายไปหาหมอเทพเจอได้ที่ไหนกัน? ” เพื่อนร่วมงาน คนหนึ่งสอบถามขึ้นด้วยความตะลึง
พี่จวนก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง โรคสะเก็ดเงินที่ท่อนแขนของเสี่ยวหวางนั้นเป็นมานานหลายปีแล้ว เพื่อนร่วมงานต่างก็หัวเราะเยาะเขาเป็นประจำ จากที่รักษาอาการไม่หายมาโดยตลอด ตอนนี้กลับหายดีเป็นปกติแล้ว ท่อนแขนละเอียดเรียบเนียน อีกทั้งผิวหนังก็เหมือนกับว่าดูดีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนด้วย
“เสี่ยวหวาง ตกลงนายไปรักษาโรคที่ไหนกันแน่? นายจะต้องบอกแนะนำชื่อของหมอเทพนี้ให้กับฉัน! ” พี่จวนสีหน้าท่าทางตื่นเต้น หากว่ามีหมอเทพแบบนี้จริง ไม่แน่อาจจะสามารถรักษาสิววัยรุ่นบนใบหน้าของเธอให้หายเป็นปกติได้เลย!
เสี่ยวหวางหัวเราะแหะแหะ แล้วก็ยกซุปถ้วยนั้นขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ลึกลับ: “จะมีหมอเทพอะไรที่ไหนกันล่ะ? สิ่งที่รักษาโรคสะเก็ดเงินบนตัวของฉันให้หายเป็นปกติได้ ก็คือซุปถ้วยนี้! ”
“ถ้าหากว่าพวกเธอไม่เชื่อ ก็ลองทดสอบด้วยตนเองดูได้! แม้ว่าจะถูกหลอกลวงก็เพียงแค่ซุปถ้วยเดียวนี้เท่านั้น แต่หากว่าเกิดได้ผลขึ้นมาล่ะ? ” เสี่ยวหวางพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ปลุกปั่น
“นายไปตายซะเถอะ ฉันไม่มีทางที่จะเชื่อคำพูดไร้สาระของนายหรอก หากว่าซุปเพียงถ้วยเดียวก็สามารถรักษาโรคได้ ถ้าอย่างนั้นโรงพยาบาลและแพทย์ก็คงจะต้องตกงานไปกันหมดแล้ว”
พวกเพื่อนร่วมงานต่างก็หัวเราะเยาะเย้ย รู้สึกว่าเสี่ยวหวางไม่เต็มใจที่จะพูดชื่อของหมอเทพคนนั้นออกมา ซึ่งเพื่อต้องการให้ทุกคนขอร้องอ้อนวอนเขา
แต่ว่า พวกเพื่อนพนักงานเหล่านี้ต่างก็ได้แอบจดบันทึกที่อยู่ของร้านอาหารเดลิเวอรี่ที่อยู่บนใบโปรชัวร์ เหมือนกับว่าเป็นบริษัทร้านอาหารภายใต้บริษัท หัวอัน กรุ๊ปที่ได้เปิดตัวโฆษณาประชาสัมพันธ์ซุปอเนกประสงค์นี้
เสี่ยวหลี่มองดูทุกอย่างอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็ทิ้งอาหารเดลิเวอรี่ที่ตนสั่งมาลงในถังขยะ แล้วก็หยิบเสื้อคลุมสีดำที่พาดไว้บนเก้าอี้ และก็เดินจากไป
“ซุปอเนกประสงค์ ชื่อนี้ค่อนข้างเชยเสียจริง! แต่หากว่าได้ผลล่ะ? ” เสี่ยวหลี่จึงได้ขับรถตรงไปยังบริษัทร้านอาหารภายใต้บริษัท หัวอัน กรุ๊ป
ในมณฑลจงโจว บริษัทร้านอาหารภายใต้บริษัท หัวอัน กรุ๊ปมีอยู่หลายสาขา ซึ่งในช่วงนี้กำลังเป็นช่วงประชาสัมพันธ์ เสี่ยวหลี่จึงสามารถหาร้านสาขาแห่งหนึ่งพบได้โดยง่าย
แต่ว่า กิจการนี้กำลังบูมได้รับความนิยมอย่างมาก! มีคนมายืนรอต่อแถวจากหน้าประตูร้าน ยาวไปจนถึงบริเวณข้างถนนเลยทีเดียว
แม้แต่รถของเสี่ยวหลี่ก็ยังหาที่จอดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายแล้ว ต่อให้ถูกตำรวจแปะ ใบค่าปรับฝ่าฝืนการจอดรถ ก็ต้องยอมแล้ว
เมื่อจอดรถทิ้งไว้ข้างถนนแล้ว เสี่ยวหลี่ก็เข้าไปยืนต่อแถวกับกลุ่มคนเหล่านั้น
แต่ว่า รอได้หนึ่งนาที หญิงสาวสองคนที่อยู่ในชุดพนักงานบริการได้เดินออกมาจากภายในร้านอย่างกะทันหัน แล้วพูดกับทุกคนว่า: “ขอประทานโทษอย่างมาก วันนี้มีคนสั่งอาหารเป็นจำนวนมาก วัตถุดิบของพวกเราได้จำหน่ายไปหมดแล้ว ครั้งหน้าพวกเราจะจัดเตรียมวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ขอประทานโทษจริง ๆ! ”
จากนั้น สถานที่ตรงนี้ก็เกิดการเอะอะโวยวายขึ้น มีการตะโกนดุด่ากันยกใหญ่ เช่นว่าข้ามายืนต่อแถวรอนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เมื่อมาถึงคิวของข้า พวกคุณกลับบอกว่าได้จำหน่ายออกไปหมดแล้ว พวกคุณทำแบบนี้เป็นการกลั่นแกล้งกันชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ?
จากนั้น ก็เป็นการอธิบายชี้แจงของพนักงานร้าน และการแสดงความขอโทษต่าง ๆ นา ๆ
เสี่ยวหลี่ไม่ได้เสียเวลาอยู่กับสถานที่ตรงนี้ จึงได้รีบขับรถออกไป ซึ่งร้านอาหารของบริษัท หัวอัน กรุ๊ปมีหลายสาขาในมณฑลจงโจว ร้านสาขานี้ไม่มีวัตถุดิบแล้ว ร้านอื่นอาจจะมีก็ได้?
จากนั้น เสี่ยวหลี่ก็ได้ไปตระเวนเสาะหาถึงสามสาขา ในที่สุดก็เจอร้านสาขาหนึ่งอยู่ที่บริเวณ ชานเมือง จึงได้ซื้อซุปอเนกประสงค์หนึ่งชุดดั่งใจที่ตนเองต้องการ
มองไปที่ซุปอเนกประสงค์ถ้วยนี้ที่ได้มาด้วยความยากลำบาก แม้ว่าจะมีราคาแพงมากทีเดียว แต่เสี่ยวหลี่ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
ถึงขนาดที่ว่า เสี่ยวหลี่คิดว่าที่จริงตนเองนั้นไม่ได้ซื้อซุปหนึ่งถ้วยสักหน่อย แต่เหมือนว่าเป็นการวิงวอนขอยาทองจากไท่ซ่างเหล่าจวินต่างหาก
เสี่ยวหลี่รีบดื่มซุปในทันที และยังจะเลียน้ำซุปบริเวณขอบและก้นถ้วยจนเกลี้ยง จากนั้นก็รอดูผลของยาออกฤทธิ์
พูดไปก็น่าอัศจรรย์ยิ่ง หนึ่งนาทีหลังจากนั้น เสี่ยวหลี่ก็เกิดความรู้สึกขึ้นแล้ว และยังเป็นความรู้สึกที่รุนแรงอีกด้วย
ถึงขนาดที่ว่า เสี่ยวหลี่มีอาการที่จะอยากระบายความอัดอั้นอย่างหนักแน่นออกมา
อาการป่วยของเสี่ยวหลี่เป็นเพราะการใช้มือรูดช่วยตนเองตั้งแต่เด็ก ซึ่งโรคนี้น่าอายหากที่จะพูดออกไป ตอนช่วงวัยรุ่นคิดแต่เพียงว่าสนุกเร้าใจ ตอนนี้กลับอ่อนแอหมดเรี่ยวแรงแล้ว
แอบทานยาที่ช่วยบำรุงรักษาในด้านนี้มามากมาย แต่ผลสุดท้ายถูกหลอกลวงเงินทองไปเป็นจำนวนมากยังไม่เท่าไหร่ ร่างกายกลับยิ่งแย่ลงทุกวัน ถึงขนาดความต้องการทางเพศก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว
ไปหาแพทย์รักษาเฉพาะทางของผู้ชายจำนวนมาก โดยความคิดเห็นของแพทย์ส่วนใหญ่ก็คือ ค่อย ๆ บำรุงรักษาไปเรื่อย ๆ
แต่ว่าหากสามารถที่จะบำรุงรักษาเองให้หายได้แล้วจะต้องไปพบแพทย์ทำไมกันล่ะ เสี่ยวหลี่หมดหวังอย่างมาก รู้สึกว่าชีวิตของตนนั้นช่างมืดมนยิ่งนัก!
ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้เอง โดยที่บ้านของเสี่ยวหลี่ก็ได้เคยแนะนำคู่ครองให้กับเขามากมาย แต่ก็ถูกเสี่ยวหลี่ปฏิเสธไปด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบไม่ถูกชะตา
แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบไม่ถูกชะตา แต่เป็นเพราะไม่มีทางที่จะมีความสัมพันธ์กันในแบบสามีภรรยาได้ ในใจของเสี่ยวหลี่ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่ามีของแต่กลับใช้การไม่ได้!
ดังนั้นเมื่อได้ยินถึงซุปอเนกประสงค์แล้ว เขาจึงรีบมาหาซื้อทันที
เดิมทีก็เพียงแค่ต้องการที่จะทดลองดูเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะมีผลที่ดีเกินคาดอย่างนี้ เพียงแค่หนึ่งนาทีก็เห็นผล ยังยอดเยี่ยมกว่าโฆษณาของยาบางชนิดอีกด้วย!
ไม่ได้มีเสี่ยวหลี่เพียงแค่คนเดียว วันนี้ คนที่มีอาการแบบเสี่ยวหลี่หลายคน พวกเขาต่างก็ได้รับการรักษาเป็นที่เรียบร้อย
ดังนั้น ในค่ำคืนนี้ กิจการในถนนราตรีบางแห่งของมณฑลจงโจว คงจะมีลูกค้าแน่นขนัดกว่าปกติ แม้ว่าขนาดเจ้ใหญ่ที่มีอายุกว่าสี่สิบปี ต่างก็คงจะต้องนอนเหนื่อยหอบอยู่บนเตียงเป็นแน่
แน่นอนว่า อาการของโรคอื่น ๆ ก็ได้รับการรักษาเช่นกัน กอปรกับการทำตลาดประชาสัมพันธ์อย่างหนักหน่วงของบริษัท หัวอัน กรุ๊ป ซุปอเนกประสงค์ภายในช่วงค่ำคืนเดียว ก็โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วในกิจการร้านอาหารของมณฑลจงโจวแล้ว