หลินหยุนรู้สึกงุนงง
ปรมาจารย์หลินเป็นที่นิยมมาก เกือบจะกลายเป็นเทพแล้ว?
สิ่งเหล่านี้ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องเลย?
เขาคือปรมาจารย์หลิน!
ชายผู้หนึ่งพูดอย่างตื่นเต้นทันที “ใช่ ฉันได้เก็บวิดีโอเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนไว้ในโทรศัพท์ของฉัน โอ้ พระเจ้า ฉันไม่เคยคิดเลยว่า ปรมาจารย์หลินจะแข็งแกร่งขนาดนี้ สามารถโบยบินอยู่บนท้องฟ้าได้!”
“ฉันได้ยินมาว่าในโลกที่เราอาศัยอยู่ แท้จริงแล้วมีผู้ฝึกบู๊ซ่อนอยู่มากมาย ฉันคิดว่าปรมาจารย์หลินจะต้องเป็นผู้ฝึกบู๊ที่ทรงพลัง” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งพูดอย่างลึกลับ
ทันใดนั้น การสนทนาเกี่ยวกับปรมาจารย์หลิน เริ่มต้นขึ้น เป็นไปอย่างครึกครื้น
หลินหยุนเริ่มสับสนมากขึ้น และอดไม่ได้ที่จะถามเทพฟ้าผ่าที่อยู่ข้างๆว่า “วิดีโอที่พวกเขากำลังพูดถึงคืออะไร? เกิดอะไรขึ้นกับปรมาจารย์หลิน?”
เทพฟ้าผ่าหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วเปิดวิดีโอ
วีดิโอนี้ถ่ายตอนกลางคืน มืดมาก มองเห็นแค่ว่า ถ่ายบนยอดเขา มีคนสองคนบินไปมาอยู่กลางอากาศ
หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ว่านี่เป็นวิดีโอของเขาที่ต่อสู้กับฉิวเชียนซาในภูเขาหนันผิง!
คิดไม่ถึงว่าจะถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต
ไม่น่าแปลกใจที่จางเหมิงพูดว่าปรมาจารย์หลินเป็นที่นิยมมาก และกำลังจะกลายเป็นเทพ
แม้ว่าวิดีโอนี้ จะมองไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของหลินหยุน แต่ว่า เนื่องจากวิดีโอนี้สามารถออนไลน์ในอินเทอร์เน็ต คาดว่าตัวตนของหลินหยุนคงจะปิดไม่อยู่แล้ว
ตราบใดที่ผู้คนได้เห็นการต่อสู้ในครั้งนั้น ขอเพียงครุ่นคิดเล็กน้อย ก็สามารถเดาได้ว่าหลินชางฉองและปรมาจารย์หลินเป็นคนเดียวกัน
ทุกครั้งที่พูดถึงปรมาจารย์หลิน ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างครึกครื้น
ใบหน้าที่สวยงามของจางเหมิงยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นไปอีก
“เพราะฉะนั้น หากปรมาจารย์หลินช่วยไปเจรจาให้กับตระกูลฉิน แม้ว่าจะเป็นตระกูลกงในซีหนิง ก็คงไม่กล้าขัด”
เพื่อนๆทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่ ขอเพียงปรมาจารย์หลินสามารถไปช่วยเจรจา จะมีใครที่กล้าไม่เชื่อฟัง!”
“ระวังตัว ปรมาจารย์หลินจะไปฆ่าตอนกลางดึก!”
สายตาโหลวจิ้งโยวเริ่มมีความหวังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง “แล้วใครสามารถติดต่อกับควีนจินหรือปรมาจารย์หลินได้?”
ทุกคนส่ายหัว มีเพียงจางเหมิงเท่านั้นที่ดูพอใจ
ทันใดนั้นโหลวจิ้งโยวก็ดีใจมาก “ใช่สิ จางเหมิง เหยียนเสวเหวินมาหรือยัง?”
“ฉันจำได้ว่าครั้งที่แล้วตระกูลของเธอมีปัญหา คือปรมาจารย์หลินไปหาผู้มีอิทธิพลเจี่ยงสงและผู้มีอิทธิพลหลายท่าน มาช่วยเธอแก้ปัญหา”
“ขอให้เหยียนเสวเหวินมาช่วยแก้ไขปัญหาได้ไหม ช่วยหาปรมาจารย์หลินเพื่อช่วยฉินโสว่!”
“ขอร้องเธอล่ะ!”
สายตาของทุกคนมอง ไปที่จางเหมิง
ใช่สิ! พ่อของเหยียนเสวเหวินรู้จักปรมาจารย์หลินนี่
ทันใดนั้น สายตาของเพื่อนๆมองไปที่จางเหมิง เต็มไปด้วยความอิจฉา
ปรมาจารย์หลิน!
แฟนของจางเหมิงรู้จักปรมาจารย์หลินเลยเหรอ!
สุดยอดจริงๆ!
ไม่แน่ในอนาคตเหยียนเสวเหวินอาจเป็นยอดฝีมือเหมือนปรมาจารย์หลิน!
ในอนาคตเห็นแก่หน้าของปรมาจารย์หลิน คิดว่าในไม่ช้าผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดคนต่อไปในหลินโจวคงจะเป็นของตระกูลเหยียนเสวเหวิน
ตอนนี้จะต้องประจบประแจงจางเหมิงและเหยียนเสวเหวิน ในภายภาคหน้าต้องพึ่งพาเขา
“จางเหมิง ครั้งที่แล้วเหยียนเสวเหวิน เป็นคนที่ไปขอให้ปรมาจารย์หลินมาช่วยเหลือตระกูลเธอ ครั้งนี้ขอให้เหยียนเสวเหวินออกหน้า เรื่องมันก็ง่ายนิดเดียว”
“จางเหมิง เธอนี่โชคดีมาก! หาแฟนที่ดีแบบเหยียนเสวเหวินได้” ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนหนึ่งมองจางเหมิงแล้วพูดอย่างอิจฉา
จางเหมิงยิ่งพึงพอใจเหยียนเสวเหวินมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนเธอไม่ชอบเหยียนเสวเหวิน และรู้สึกว่าเหยียนเสวเหวินมีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียด
ตั้งแต่รู้ว่าพ่อของเหยียนเสวเหวินรู้จักปรมาจารย์หลินเท่านั้น จางเหมิงก็ได้โฆษณาว่าเป็นคู่หมั้นของเหยียนเสวเหวินไปทุกที่แล้ว
สำหรับหวางหยู่หันและเถียนชุ่ยชุ่ยปากบอกว่าชื่นชม แต่ในใจอิจฉาจะตาย
ในตอนแรกทำไมพวกเขาไม่สนใจเหยียนเสวเหวิน?
ใครจะรู้ว่าพ่อของเหยียนเสวเหวินจะรู้จักปรมาจารย์หลิน!
โหลวจิ้งโยวขอร้องอีกครั้ง “เหมิงเหมิง ได้โปรดเถอะ คราวนี้เธอต้องขอเหยียนเสวเหวินไปขอร้องปรมาจารย์หลินออกมาช่วยเหลือตระกูลฉิน ขอร้องเธอล่ะ!”
ใบหน้าจางเหมิงมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้น ยิ้มและพูดว่า “โหลวจิ้งโยว เธอไม่ต้องกังวล ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ฉันจะให้เสวเหวินช่วยอย่างแน่นอน! แต่ว่าถ้าเสวเหวินให้พ่อของเขาหาปรมาจารย์หลิน มันคงไม่ดีที่จะไปมือเปล่ามั้ง? อีกอย่างเป็นหนี้บุญคุณครั้งหรือสองครั้งก็พูดง่าย แต่ถ้าไปรบกวนเขาบ่อยๆ ฉันเกรงว่าปรมาจารย์หลินจะรำคาญ”
ใช่แล้ว จางเหมิงกำลังใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์
อย่างไรก็ตาม โหลวจิ้งโยวไม่มีทางอื่น
ควีนจินมักจะทำตัวลึกลับหาตัวไม่ค่อยเจอ หาเธอมาช่วย อาจจะเป็นเรื่องยากมากกว่าที่จะหาปรมาจารย์หลิน
ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาคนที่เธอรู้จัก มีเพียงควีนจินเท่านั้นที่มีความสามารถนั้น
ตอนนี้ มีเพียงจางเหมิงเท่านั้นที่สามารถช่วยเธอได้
“เหมิงเหมิง ไม่ต้องห่วง ฉันเข้าใจมารยาทนี้ดี ตอนเลิกเรียนในตอนเย็นอย่าพึ่งไปไหน รอฉันที่หน้าประตูมหาลัยสักครู่”
โหลวจิ้งโยวกัดฟัน และแอบตัดสินใจ ให้จางเหมิงได้รับประโยชน์ก่อน
“ตกลง ถ้างั้นหลังเลิกเรียนตอนเย็นค่อยคุยกัน” จางเหมิงพูดด้วยรอยยิ้ม และตอนนี้ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องการช่วยเหลืออีก
เทพฟ้าผ่ามองจางเหมิง และแอบแช่งด่า “เหยียนเสวเหวินคนนั้นไม่รู้ว่าโชคดีมาจากไหน ถึงได้รู้จักกับปรมาจารย์หลิน!”
“ดูจางเหมิงถึงกับภาคภูมิใจขนาดนั้น!”
หลินหยุนมองไปที่จางเหมิง และยิ้มอย่างแปลกประหลาด
ถ้าจางเหมิงรู้ความจริง เธอจะร้องไห้ไหม!
เห็นได้ชัดว่าหลินหยุนไม่มีหน้าที่ต้องบอกความจริงกับจางเหมิง ดังนั้นปล่อยให้เธอมีความสุขอยู่ในความฝันต่อไปสักพัก!
เพียงแต่ว่า หลินหยุนไม่ต้องการให้โหลวจิ้งโยวสิ้นเปลืองเงินทอง จึงก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มองไปที่โหลวจิ้งโยวและพูดเบาๆว่า “ฉินโสว่จะไม่เป็นอะไร เธอวางใจได้”
“อย่าไปเชื่อปรมาจารย์หลินนั่น อย่าสิ้นเปลืองเงิน รอเงียบๆหนึ่งวัน ฉันสัญญาว่า พรุ่งนี้ตระกูลฉินจะต้องไม่มีปัญหาใดๆ”
โหลวจิ้งโยวมองไปที่หลินหยุนด้วยความประหลาดใจ เธอไม่เคยเห็นหลินหยุนพูดอย่างมั่นใจขนาดนี้มาก่อน
ในความรู้สึกของเธอ หลินหยุนมักจะก้มหัวและไม่ชอบพูดอะไร แม้ว่าเขาจะได้รับความอับอายขายหน้าแค่ไหน ก็จะไม่มีคำพูดโต้แย้งใดๆ
โหลวจิ้งโยวไม่เชื่อคำพูดของหลินหยุนแน่นอน เพียงแต่ว่า ความมั่นใจในตัวเองของหลินหยุนดูเหมือนจะทำให้เธอต้องคล้อยตาม
ทำให้เธอพยักหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ และเลือกที่จะเชื่อหลินหยุน “ตกลง”
เพราะหลินหยุนไม่ต้องการให้เธอสิ้นเปลืองเงิน ได้ใช้วิธีพิเศษ เพื่อให้เธอไม่สามารถตอบโต้ได้
จางเหมิงที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นผลประโยชน์ที่ดีจะได้รับ ทันใดนั้นกลับถูกหลินหยุนทำลาย ชั่วขณะก็โกรธมาก
“หลินหยุน น่าตลกมาก นายเป็นแค่ยาจกคนหนึ่ง เอาอะไรมารับประกันได้!”
“โหลวจิ้งโยว ที่ฉันตกลงช่วยเธอเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเรา ในเมื่อเธอไปเชื่อยาจกคนนี้ และไม่เชื่อฉัน ถ้างั้นต่อไปเธออย่ามาขอร้องฉันอีก และเสวเหวินของฉันคงไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณปรมาจารย์หลินบ่อยครั้ง”
โหลวจิ้งโยวตื่นตระหนกเล็กน้อย และรีบโน้มน้าว “เหมิงเหมิง เธออย่าพึ่งโกรธ เมื่อสักครู่ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็ตกลง”
“ให้เธอกลับไป!” เสียงของหลินหยุนพูดแผ่วเบาอีกครั้ง
โหลวจิ้งโยวผู้ซึ่งกำลังโน้มน้าวจางเหมิง ทันใดนั้นเหมือนเปลี่ยนไปคนละคน และไม่ได้โน้มน้าวอีกต่อไป
จางเหมิงจ้องมองโหลวจิ้งโยวด้วยความโมโห และพูดอย่างเย็นชา “ดีมากโหลวจิ้งโยว ดูเธอเชื่อฟังเขาแบบนั้น! โอเค จากนี้ไปเธอไม่ต้องมาขอร้องฉันอีก!”
จางเหมิงยิ้มเยาะเย้ย กระแทกประตูแล้วจากไป
เถียนชุ่ยชุ่ยเอามือปิดปากยิ้มและพูดว่า “น่าสนใจจริงๆ เป็นแค่ยาจกคนหนึ่งมีความมั่นใจขนาดนั้น ฉันจะรอดูว่าตระกูลฉินจะจบเห่อย่างไร!”
“ถ้าฉินโสว่รู้ว่า เพื่อนที่ดีของเขาเป็นคนที่ทำลายตระกูลของเขาให้พังพินาศ ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร!”
ขณะที่พูด ก็ใช้สายตามองหลินหยุนอย่างขุ่นเคือง จากนั้นเถียนชุ่ยชุ่ยก็หันหลังกลับและเกาะแขนของเสิ่นหย่งจากไป
“เฮ้อ ฉินโสว่ช่างโชคร้ายนัก ที่ไปคบกับเพื่อนแบบนี้!”
“พวกเราก็ไปกันเถอะ! เห็นคนที่ไร้ความสามารถแบบนี้ แต่กลับชอบอวดเก่ง รู้สึกขยะแขยงจริงๆ!”
ในชั่วพริบตา เพื่อนๆหลายสิบคนเดินจากไปจนหมด
หวางหยู่หันมองไปที่หลินหยุนและพูดเยาะเย้ย “หลินหยุน ถ้าตระกูลฉินเกิดปัญหาขึ้นเพราะนาย ฉันจะไปบอกฉินโสว่ด้วยตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้”
“ฉันจะบอกเขาให้เขารู้ว่าใครเป็นคนทำลายตระกูลของเขา และให้เขาเกลียดนายไปตลอดชีวิต!”
หลังจากพูดจบ หวางหยู่หันก็เดินออกไปอย่างคนได้เปรียบ