ทุกคนมองไปรอบๆ และในที่สุดด้านข้างที่ลึกที่สุดของป่า ก็พบร่างวัยเยาว์ที่สวมชุดดำ
ขณะนี้ในป่าไม้เธอกำลังยืนอยู่บนยอดไม้ที่สูง มองดูทุกคนอย่างเย็นชา
“เป็นเธอ!” เจี่ยงสงดีใจมาก เดิมทีร่างของซูหนันถูกวิญญาณบรรพบุรุษฮั่นป๋าครอบงำ และระเบิดพลังการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ ความแข็งแกร่งของเธอยังคงอยู่ในความทรงจำของเจี่ยงสง
“ไม่คาดคิดเธอยังคงอยู่ในคฤหาสน์ตึกว่างเยว่ ตอนนี้มีคนช่วยแล้ว!”
ใบหน้าของควีนจินแสดงความประหลาดใจ “คือซูหนัน!”
“คิดไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ที่นี่! แค่ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังเหลือพละกำลังมากแค่ไหน!”
อาจารย์อาหรี่ตาและมองไปที่ซูหนันถามอย่างเคร่งขรึม “เด็กน้อย คุณเป็นใคร?”
ซูหนันทำหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไร และค่อยๆเดินลงมาจากยอดไม้ ราวกับว่าใต้เท้าของเธอ มีบันไดที่มองไม่เห็นอยู่
ซูหนันเดินลงมาจากกลางอากาศไปหาอาจารย์อา ในระหว่างนี้ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่อาจารย์อาตลอด
อาจารย์อาถูกซูหนันจ้องจนขนลุก โดยเฉพาะร่างกายของซูหนัน ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายตลอดเวลา ราวกับว่าคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาไม่ใช่คน แต่เป็นร่างจากหลุมฝังศพ หรือเป็นศพที่คลานออกมาจากสุสานหมื่นปี
นี่คือออร่าของวิชาพินาศไม่สิ้นสูญ
เดิมทีวิชาพินาศไม่สิ้นสูญกับวิชาศพทองแดงที่ซูหนันฝึกฝนสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ แต่ว่า ซูหนันต้องการให้วิชาพินาศไม่สิ้นสูญบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ซูหนันจึงเลิกใช้วิชาศพทองแดงดั้งเดิม
สิ่งนี้ต้องการความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่และความมานะอุตสาหะ
แน่นอน แม้ว่าความแข็งแกร่งของซูหนัน ในระยะเวลาสั้นๆจะไม่เพิ่มขึ้น แต่อาจจะลดระดับลง
แต่ถ้าดูจากผลประโยชน์ระยะยาว การตัดสินใจของซูหนันนั้นฉลาดที่สุด
ตอนนี้ ซูหนันกำลังฝึกฝนวิชาพินาศไม่สิ้นสูญอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับเดียวกับที่ฝึกฝนวิชาศพทองแดง
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันยังแข็งแกร่งกว่าตอนที่ฝึกฝนวิชาศพทองแดง
อาจารย์อาตะโกนอย่างเย็นชาอีกครั้ง “เด็กน้อย ถ้าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตรงนี้ รีบออกไปให้เร็วที่สุด มิฉะนั้น อาจไม่มีชีวิตรอด!”
เสียงของซูหนันไม่แยแส ไม่มีอารมณ์ใดๆ “นี่คือบ้านของฉัน และคนที่ควรจะไปคือพวกแก!”
อาจารย์ขมวดคิ้ว “พูดเช่นนี้แสดงว่าเธอคือคนของปรมาจารย์หลิน?”
“นั่นคืออาจารย์ของฉัน!” แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ได้พูดว่ารับซูหนันเป็นลูกศิษย์ แต่พระคุณในการสอนวิชา ซูหนันก็ไม่มีวันลืม
ยิ่งกว่านั้น พลังอันแข็งแกร่งของวิชาพินาศไม่สิ้นสูญ ซูหนันได้ตระหนักอย่างลึกซึ้งแล้ว
เมื่อได้ยินซูหนันอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์หลิน อาจารย์อาก็มีความรู้สึกดูหมิ่นเล็กน้อย
เขายิ้มเยาะเย้ย “อาจารย์ของเธอปรมาจารย์หลินได้ตายแล้ว ดูความสามารถของเธอก็ไม่เลว ถ้านับถือฉันในฐานะอาจารย์ ฉันจะแนะนำเธอเต็มที่ บางทีอาจทำให้เธอเข้าสู่แดนในตำนานได้!”
ดวงตาของซูหนันเดิมทีหรี่ลง ทันใดนั้นก็เบิกตากว้างขึ้น พูดเสียงเย็นชา “กล้าที่จะสาปแช่งอาจารย์ของฉัน แกสมควรตาย!”
ร่างกายซูหนันพ่นควันสีดำออกมา และต่อยเข้าไปที่อาจารย์อาโดยตรง
อาจารย์อาต้องรีบวางควีนจินลงทันที และโต้กลับด้วยหมัด
ตูม!
เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกัน ซูหนันก็สะเทือนจนถอยหลังไปสองสามก้าว แต่อาจารย์อาสะเทือนจนถอยไปเพียงก้าวเดียว การโจมตีครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าอาจารย์อาได้เปรียบ
ควีนจินและเจี่ยงสงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ดูเหมือนว่าซูหนันคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาจารย์อา
อาจารย์อายิ้มเยาะเย้ย และจ้องมองซูหนันอย่างดูถูกยิ่งขึ้น “เด็กน้อย ฉันคิดว่าแกจะเก่งกาจมาก ที่แท้ก็เป็นแค่หมอนที่ปักด้วยดอกไม้ แค่สวยงามแต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้!”
ซูหนันไม่พูดอะไร และต่อยออกไปอีกครั้ง
เมื่อกี้อาจารย์อาประสบความสำเร็จในการโจมตี ดังนั้นตามหลักแล้วเขาจะไม่เห็นซูหนันอยู่ในสายตา และเขาก็ไม่เต็มใจที่จะแสดงจุดอ่อนและใช้ไม้แข็งต่อยออกไปอย่างแรง
ตูม!
คราวนี้ ซูหนันก็สะเทือนจนต้องถอยสองสามก้าว แต่อาจารย์อาแค่ถอยหลังไปเพียงก้าวเดียว
เพียงแต่ว่า ไม่รอให้อาจารย์อาปรับลมปราณ ซูหนันก็ต่อยออกไปอีกครั้ง ความเร็วและความแข็งแกร่งก็เท่าเดิม
“ยังมาอีก!” อาจารย์อาหงุดหงิดเล็กน้อย “เด็กผู้นี้ ไม่ยอมจบซะที”
ตูม!
อีกหมัดหนึ่ง คราวนี้ ซูหนันถอยไปเพียงสามก้าว แต่อาจารย์อาก็ยังคงถอยไปหนึ่งก้าว
เพียงแต่ว่า หลังจากชกติดต่อกันสามครั้ง อาจารย์อาเริ่มหายใจหอบเล็กน้อย แต่สีหน้าซูหนันยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และชกไปอีกครั้ง ความเร็ว และพลังยังคงเท่าเดิม
อาจารย์อายังคงต่อต้านต่อไป คราวนี้ อาจารย์อากับซูหนันต่างก็ถอยหลังสองก้าว
ฝีมือสูสีกัน!
“เด็กคนนี้ ดื้อจริงๆ!” อาจารย์อาสาปแช่งในใจ
ควีนจินประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ “ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของซูหนัน มันไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น!”
“ปรมาจารย์หลินช่างวิเศษจริงๆ เชี่ยวชาญในการสร้างปาฏิหาริย์!”
ต่อจากนี้ ซูหนันก็ยังเดินหน้าต่อ เขาเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นนักรบที่กล้าหาญ ตราบใดที่ยังไม่ล้มลง แม้ว่าจะเหลือเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิด ในสมองของเขาจะมีเพียงสองคำ โจมตี โจมตี!
วิชาพินาศไม่สิ้นสูญ หมายถึงภัยพิบัติใดๆก็ไม่สามารถทำให้พินาศได้ ถ้าฝึกฝนจนถึงขั้นตอนสุดท้าย จะมีพลังมหาศาลสามารถทำให้โลกตะลึง
เพียงแต่ว่า จุดที่สำคัญที่สุดคือทำยังไงให้ผู้ฝึกฝนประสบภัยกับพิบัติ
วิชาพินาศไม่สิ้นสูญในช่วงแรก เอนเอียงไปทางพลังป้องกันและพลังต่อต้านมากกว่า สำหรับพลังโจมตีค่อนข้างน้อย
นี่เป็นมาตรการที่วิชาพินาศไม่สิ้นสูญมีไว้เพื่อให้ผู้ฝึกฝนสามารถปกป้องตัวเองเมื่อประสบภัยพิบัติ
เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่า ต้องเจอกับความยากลำบากมาก ถึงจะประสบความสำเร็จ
หลังจากผ่านไปสามกระบวนท่า มองไปที่ซูหนันยังคงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อาจารย์อาก็ตื่นตระหนก
“เด็กคนนี้ได้ฉีดเลือดไก่หรือ? ทำไมถึงต้องสู้เป็นสู้ตายขนาดนี้! หรือว่าชี่แท้ในร่างกายของเขาไม่มีวันหมดหรือ?”
เพียงแต่ว่า ในเวลานี้ อาจารย์อายังฝืนใจต้านทานได้ แต่รู้สึกเริ่มเสียเปรียบแล้ว
หลังจากผ่านไปสิบกระบวนท่า ซูหนันยังคงแข็งแกร่งและดุร้าย และยังโจมตีซ้ำๆเหมือนเดิม พลังและความเร็วไม่ยอมลดลง
อาจารย์อาทำได้เพียงปกป้อง และไม่มีพลังที่จะตอบโต้
เมื่อมองไปที่ซูหนันยังคงพุ่งมาเหมือนคนบ้า อาจารย์อาก็ตกใจมาก
ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดไม่ใช่เพราะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เพราะพลังไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับซูหนัน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่ต้องพักผ่อน ชี่แท้ดูเหมือนจะใช้ไม่หมด แม้ว่าจะเสียเปรียบชั่วขณะ ก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้สูญเสียพละกำลังจนตาย!
“ไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้ไม่ถูกเธอฆ่าตาย ก็คงถูกเธอทรมาณจนตาย ต้องลองเสี่ยงสักครั้ง!”
“รวมจิตเจ็ดดาว!”
จู่ๆอาจารย์อาก็ตะโกนขึ้น และชี้นิ้วเหมือนดาบ ชี้ไปที่ท้องฟ้า แล้วพูดอะไรบางอย่างในปาก “ฟ้าดินไร้ขอบเขต รวมจิตเจ็ดดาว เข้าสู่ร่างข้า ฟังคำสั่งข้า!”
ทันใดนั้นชี่ทิพย์จากฟ้าดินเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง ชี่ทิพย์จากฟ้าดินนับไม่ถ้วนถูกอาจารย์อาดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ร่างกายของอาจารย์อาก็อ้วนขึ้นมาก ราวกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง
สำนักเจ็ดดาวไม่ใช่สำนักบู๊อย่างเดียว ในเวลาเดียวกันยังฝึกวิชาเต๋า
อย่างเช่นรวมจิตเจ็ดดาวของสำนักเจ็ดดาว วิชาประเภทนี้ก็คือเหนื่อกว่าวิชาเต๋า และยังคล้ายกับค่ายกลรวมพลังของหลินหยุน
เพียงแต่ว่า ค่ายกลรวมจิตเจ็ดดาวนี้ ส่งผลโดยตรงต่อผู้คน สามารถช่วยพัฒนาฐานการฝึกฝนของคน และได้รับพลังยิ่งใหญ่ในเวลาอันสั้น
แต่หลังจากที่ใช้แล้ว สมรรถภาพทางกายจะหดหาย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปนานอาจทำให้ร่างกายได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
แต่ขณะนี้อาจารย์อาไม่สนใจความสูญเสียทางกายภาพใดๆแล้ว ถ้าไม่รวมจิตเจ็ดดาวเพื่อเพิ่มระดับการฝึกฝน ขณะนี้เขาจะถูกซูหนันทุบตีจนตายแน่นอน
ดูเหมือนว่าซูหนันจะรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของรวมจิตเจ็ดดาว ในขณะนี้ เธอที่ไม่เคยหยุดการโจมตี ในที่สุดก็หยุดลง
ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกจากร่างกายซูหนัน และออร่าของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มือทัณฑ์สวรรค์”
ด้วยเสียงตะโกนที่เย็นชาของซูหนัน พุ่งไปที่อาจารย์อาอีกครั้ง กระโดดขึ้นสูง ฝ่ามือของเธอประสานกันในอากาศ กลายเป็นฝ่ามือยักษ์สีดำที่ปกคลุมไปทั่ว และกระแทกลงมาที่อาจารย์อา