จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 497 เพื่อนร่วมสถาบันแห่งหลินโจว

บทที่ 497 เพื่อนร่วมสถาบันแห่งหลินโจว

หยางหยิงพูดแนะนำให้กับหลันโร่หลินอย่างเป็นทางการ : “คนนี้คือหลินหยุน เพื่อนของฉันเองเป็นนักเรียนของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว”

“ส่วนคนนี้ก็คือหลันโร่หลิน รองประธานสาวสวยของบริษัทหวนตี้”

“จากนี้ก็ขอฝากตัวด้วย”

เมื่อพูดจบ หยางหยิงก็กะพริบตาใส่หลินหยุน

ตอนนี้ความสนใจของหลันโร่หลินพุ่งตรงไปยังร่างของหลินหยุนตลอดเวลา และเมื่อได้ยินหยางหยิงพูดว่าขอฝากตัวด้วย เธอจึงรีบพูดเสริมขึ้นมาทันที: “เพื่อนของหยางหยิง ก็เป็นเหมือนกับเพื่อนของฉัน หลังจากนี้ถ้าเกิดว่าต้องการอะไร สามารถมาหาพี่สาวคนนี้ได้เลย”

หยางหยิงยิ้มรับ โดยไม่ได้ขัดอะไร

สายตาของหลินหยุนประกายท่าทีแปลกประหลาดออกมา หลันโร่หลินเป็นรองประธานของบริษัทหวนตี้ ส่วนเขาเป็นเจ้าของหัวหยา กรุ๊ป

ซึ่งบอกได้อีกนัยว่าในความเป็นจริงหลันโร่หลินจะต้องเป็นลูกน้องของเขานั่นเอง

ทว่าตอนนี้ ลูกน้องของเขากลับจะเปลี่ยนบทบาทมาทำหน้าที่เป็นพี่สาว คอยดูแลเขาที่เป็นเจ้านายใหญ่คนนี้

“อย่างนั้นก็ต้องขอบคุณพี่หลันแล้วครับ” หลินหยุนหันไปมองใบหน้าที่เป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ของหลันโร่หลิน ยิ้มออกมาด้วยความจริงใจ

หลันโร่หลินไม่ได้มีความดูถูกเพียงเพราะหลินหยุนเป็นเพียงแค่นักเรียนคนหนึ่ง แต่ในทางกลับกัน เธอกลับรู้สึกได้ว่าบนตัวของหลินหยุนนั้นมีออร่าความมั่นใจปรากฏออกมา

ซึ่งเป็นออร่าที่เหมือนกับชายวัยกลางคนที่ผ่านสมรภูมิชีวิตมากมาย หรือคนที่สั่งสมประสบการณ์มากอย่างยาวนานถึงจะมีได้อย่างนั้นเลย

โดยตามสัญชาตญาณแล้ว หลันโร่หลินนั้นต้องการที่จะผูกมิตรกับหลินหยุน

“ฉันชอบวัยรุ่นที่เป็นเหมือนกับคุณเอามากๆ ถ้าเกิดว่ามีโอกาส หวังว่าพวกเราคงจะได้ร่วมงานกัน”

เมื่อพูดจบ เธอก็หยิบเอานามบัตรออกมาจากกระเป๋าสีแดง แล้วยื่นให้กับหลินหยุนด้วยมือทั้งสอง : “นี่คือนามบัตรของฉันเอง วันข้างหน้าถ้าหากว่าอยากหางาน ก็อย่าลืมโทรมาแล้วกัน”

สำหรับหลินหยุนแล้วเขานั้นมีความชื่นชมในตัวหลันโร่หลินเช่นกัน เธอดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงประเภทที่มีความแข็งแกร่ง แต่กลับเป็นคนที่ไม่ขาดความอ่อนโยน เมื่อดูจากสายตาของเธอแล้ว หลินหยุนสามารถมองเห็นความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาช่วงวัยรุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในนั้น

หลินหยุนรับเอานามบัตรมาพร้อมตอบกลับ: “แน่นอนอยู่แล้วครับ”

“จริงด้วย หลินหยุน คุณเองก็คงจะแอบมาที่นี่เพื่อดูงานรวมกิจการของบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์สินะ ?” หลันโร่หลินถาม

“ก็ไม่เชิงครับ!” หลินหยุนตอบกลับ

ก่อนหน้านี้ เขายังไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัดว่าจะไปดูงานรวมกิจการนั้นหรือไม่ แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางหยิงพูดแล้ว ในเมื่อเติ้งเจียหลุนอยู่ในงาน อย่างนั้นแสดงว่าเจ้าบ้านตระกูลเติ้งก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยแน่นอน

และแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องไปที่บ้านตระกูลเติ้งแล้ว รอให้งานฉลองรวมกิจการสิ้นสุดลง ก็ไปหาตระกูลเติ้งแล้วแก้ไขปัญหาก็พอแล้ว

ดังนั้น งานฉลองรวมกิจการครั้งนี้ เขาจะต้องไป

“ฉันเองก็จะไปที่งานฉลองรวมกิจการเหมือนกัน แต่ว่าถึงตอนนั้นฉันอาจจะยุ่งๆ หน่อย ถ้าเกิดว่าเจอปัญหาอะไร ก็อย่าลืมโทรหาฉันแล้วกันนะ” หลันโร่หลินพูดอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าหลันโร่หลินและหลินหยุนสามารถพูดคุยถูกคอกันแบบนี้ หยางหยิงก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก

เพราะทั้งหลันโร่หลินและหลินหยุนทั้งสองต่างก็เป็นคนทะนงตน ตัวเธอจึงมีความกังวลว่าทั้งสองจะเข้ากันได้ยาก แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งสองจะพูดคุยกันได้ดีกว่าที่เธอคิดไว้หลายเท่า

และเมื่อมีหลินหยุนผู้เป็นเจ้าของหัวหยา กรุ๊ปเป็นที่คุ้มกันแล้ว จากนี้หลันโร่หลินก็จะสามารถอยู่ในบริษัทได้ โดยไม่น่าจะมีใครมารังแกได้อีกแล้ว

ซึ่งหยางหยิงก็นับว่าได้ตัดภาระในใจไปได้อีกหนึ่งเรื่อง

หลังจากนั้นทั้งสามก็พูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไป

เดิมทีหยางหยิงอยากจะให้หลันโร่หลินเข้าไปในงานพร้อมกับหลินหยุน แต่เนื่องด้วยหลันโร่หลินต้องร่วมมือกับทางบริษัท จึงไม่มีทางที่จะไปพร้อมกับหลินหยุนได้ และต้องเข้างานไปก่อน

หลินหยุนได้ไถ่ถามเรื่องสถานที่จัดงานฉลองรวมกิจการ จากนั้นจึงหาโรงแรมที่อยู่บริเวณใกล้แถวนั้น เฝ้ารอการเริ่มงานในวันพรุ่งนี้

ในวันถัดมา หลังจากที่หลินหยุนฝึกบำเพ็ญตนมาตลอดทั้งคืน ตอนนี้เขาก็มีความกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก จากนั้นเขาก็เรียกรถแท็กซี่เดินทางไปยัง บริษัทTS ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานล่วงหน้าเวลา

บริเวณหน้าประตูของบริษัทTS มีรถหรูมากมายเรียงราย แม้ที่จอดรถใต้ดินเองก็มีรถจอดเต็มไปหมด

ทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยก็มีความหนาแน่นยิ่งกว่าปกติ เพียงแค่บริเวณรอบประตูใหญ่ ก็มี รปภ.ยืนคุ้มกันมากกว่าสิบคนแล้ว

หลินหยุนคอยมองดูชายสวมสูทในมาดผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ เดินเข้าไปด้านในอย่างผ่าเผยพร้อมกับหญิงสาวสวยคู่กาย

แต่เมื่อเดินไปถึงประตู ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแสดงบัตรเชิญออกมา

ซึ่งเมื่อวานนี้ทั้งหยางหยิงและหลันโร่หลินไม่มีใครพูดถึงเรื่องบัตรเชิญนี้เลย

ทางด้านหยางหยิงคิดว่าหลินหยุนเป็นถึงเจ้าของหัวหยา กรุ๊ป คงจะมีบัตรเชิญอยู่แล้ว

ในขณะที่หลันโร่หลินก็คิดว่าหลินหยุนคงจะเดินทางมาพร้อมกับคนใหญ่คนโตบางคนที่ถูกรับเชิญมา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีบัตรเชิญ

แต่ตอนนี้ หลินหยุนได้เพียงแต่ยืนเก้งๆ กางๆ อยู่อย่างนั้น

หรือว่าจะเปิดเผยตัวตนไปเลย ?ถ้าทำแบบนี้จะต้องได้เข้าไปแน่

แต่จะว่าไป การเปิดเผยตัวตน รปภ.จะเชื่อหรือเปล่า ?

ก็คงจะไม่เชื่อ ไม่แน่พวกเขาอาจจะมองว่าหลินหยุนมาเพื่อสร้างความวุ่นวายแล้วไล่ตะเพิดเขาไปแทน

ซึ่งแน่นอนว่าหากเขาพยายามเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็คงจะไม่มีใครสามารถห้ามเขาไว้ได้ แต่หากทำแบบนี้ งานฉลองรวมกิจการนี้ก็จะกลายเป็นการแสดงเดี่ยวของหลินหยุนทันที

“เอาเป็นว่าโทรไปขอความช่วยเหลือดีกว่า”

ไม่ว่าจะโทรไปหาหลันโร่หลิน หรือตัวแทนน้ำแห่งชีวิต การที่จะขอบัตรเชิญหนึ่งใบ คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ซึ่งในขณะนั้นเอง แววตาของหลินหยุนก็ประกายออกมาอย่างอดไม่ได้

ตรงหัวมุมทางเดินข้างหน้าก็มีคนจำนวนหนึ่งกำลังเดินออกมา ซึ่งก็คือเพื่อนร่วมหอของหลินหยุนจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวนั่นเอง

ฉินโส่วกับจางซือจู่และคนอื่นๆ ซึ่งพวกเขาเองก็เห็นหลินหยุนแล้วเหมือนกัน

ในตอนนั้นเองบนใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้นล้วนปรากฏความตกใจออกมา

จากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามา

จางซือจู่ตบบ่าของหลินหยุนอย่างไม่สนใจอะไร : “ฉันก็บอกแล้วว่าหลินหยุนต้องมาแน่ พวกนายก็ดันไม่ให้ฉันโทรไปหาเขาซะงั้น แล้วยังบอกว่าปรมาจารย์หลินมีงานยุ่งมากมายอะไรแบบนั้น ดูสิ เขาก็มานี่แล้วไม่ใช่หรือไง ?”

ฉินโส่วตวาดเท้าเตะจางซือจู่ทีหนึ่ง ก่อนจะถลึงตาตะคอกใส่เขา : “ไอ้หมอ เอามือสกปรกนั่นของนายออกไปเลย !ฐานะของหลินหยุนในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วนะเว้ย”

จางซือจู่ตบหัวตัวเอง แล้วพูดออกมาอย่างทันควัน: “จริงด้วยๆ ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์หลินแล้ว ฉันเกือบลืมไปแล้ว”

“ข้าน้อยจางซือจู่ ขอคารวะปรมาจารย์หลิน” จางซือจู่โค้งคำนับด้วยความเคารพ

“ไสหัวไปเลย!” หลินหยุนเตะจางซือจู่ไปหนึ่งที เขาดีใจมากๆ ที่หลังจากเหล่าเพื่อนๆ ของเขารู้ว่าเขาคือปรมาจารย์หลินแล้วไม่ได้มีท่าทีจงใจประจบประแจง หรือเย็นชาใส่เขา แต่กลับยังเล่นกับเขาเหมือนเมื่อก่อน

ซึ่งเพื่อนที่แท้จริงควรจะเป็นแบบนี้ พวกเขาจะไม่เปลี่ยนไปเพียงเพราะคุณตกอับยากจนหรือมั่งคั่งร่ำรวย

“พวกนายก็มาร่วมงานรวมกิจการหรอ?” หลินหยุนถาม

“อืม”

พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน

ฉินโส่วพูดเสริม: “ไม่ใช่แค่พวกเราหรอกนะ ยังมีนักเรียนโรงเรียนเราอีกหลายคนเลยที่หาวิธีมาที่นี่ ฉันได้ยินมาว่าอีหลิงก็มาเหมือนกัน”

บริษัทหวนตี้และบริษัทเกนเนอร์เป็นสองในสามบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทเป้าหมายที่เหล่านักเรียนจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์มากมายต่างหมายปอง

ซึ่งในวันที่บริษัทหวนตี้และบริษัทเกนเนอร์มีการรวมกิจการแบบนี้ สำหรับวงการบันเทิงแล้วถือว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

และสำหรับเหล่านักเรียนสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์แล้ว นี่ยิ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่ของวงการนี้เลย

ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นจึงอยากจะมาที่นี่อย่างอดใจไม่ได้

จางซือจู่พูดเสริมขึ้นมาด้วยเสียงที่แปลกๆ : “เถียนชุ่ยชุ่ยพวกเธอก็มาเหมือนกัน”

จากนั้นจางซือจู่ก็หน้าเบิกบานยิ้มออกมา : “แต่ไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้เถียนชุ่ยชุ่ยใช้ชีวิตอย่างโหดร้ายโคตรๆ เพราะตั้งแต่ที่ฐานะของนายถูกเปิดเผย เถียนชุ่ยชุ่ยก็กลายเป็นตัวตลกของโรงเรียนเราไปเลย เสิ่นหย่งเองก็ทิ้งเธอ ตอนนี้ไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับเธอเลย”

ใบหน้าของหลินหยุนนิ่งเรียบ หลังจากที่ฐานะของเขาถูกเปิดเผย สำหรับเรื่องจุดจบของเถียนชุ่ยชุ่ย เขาสามารถคาดเดาได้เลย

“จริงด้วย พวกนายมีบัตรเชิญหรือเปล่า?” หลินหยุนถาม

จางซือจู่ถึงกับอึ้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นลงสำรวจตัวหลินหยุน : “ไม่หรอกมั้ง นายคงไม่ใช่ว่าแม้แต่บัตรเชิญก็ไม่มีหรอกนะ ถูกกันเอาไว้นอกประตูแล้วใช่ไหมเนี่ย!”

หลินหยุนพยักหน้ารับ

“เชี้ย!ใครเป็นคนทำ มาให้ฉันเห็นหน้าหน่อยสิว่าไอ้หน้าไหน กล้ามากันปรมาจารย์ไว้นอกประตู !” จางซือจู่ม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วพูดอย่างท้าทาย

“เอาหน่ะ ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่ามีงานฉลองการรวมกิจการนี้ เลยไม่ทันไปขอบัตรเชิญ ถ้าพวกนายก็ไม่มีบัตรเชิญ เดี๋ยวฉันจะโทรไปหาเพื่อนให้เธอเอาบัตรเชิญมาเผื่อพวกนายด้วย” หลินหยุนตอบ

ฉินโส่วพูดแย้ง: “ไม่ต้องแล้ว ฉันไปขอบัตรเชิญใบหนึ่งมาจากเพื่อนแล้ว บัตรเชิญหนึ่งใบสามารถเข้าไปทั้งกลุ่มเลย นายก็ไปพร้อมกับพวกเราพอแล้ว”

“ได้”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท