เถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิง เห็นหลินหยุนถูกจ้าวซูเหานำตัวไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักว่าจ้าวซูเหาเป็นใคร แต่ก็ทราบสถานะของจ้าวซูเหาจากที่คนอื่นพูดกัน
จางเหมิงพูดขึ้นด้วยความตกตะลึง: “โอ้วพระเจ้า! ” ผู้จัดการใหญ่หัวหยา กรุ๊ปเป็นคนนำตัว หลินหยุนไปด้วยตนเอง!
“ต่อให้หลินหยุนเป็นถึงปรมาจารย์ แต่คราวนี้คงจะพบกับความยุ่งยากลำบากเข้าให้แล้ว? ”
จากที่พวกเขารับทราบ แม้ว่าปรมาจารย์หลินจะเป็นที่เคารพยกย่องในหลิงหนาน แต่ในวงการบันเทิงแล้วไม่แน่ใจว่าจะมีคนเคารพให้เกียรติเขาหรือไม่
เถียนชุ่ยชุ่ยพูดอย่างจริงจังว่า: “คาดว่าผู้จัดการจ้าวแห่งหัวหยา กรุ๊ปคงไม่ต้องการที่จะเห็นการทะเลาะกันเองภายในของบริษัทหวนตี้ที่ใกล้จะถูกเข้าซื้อกิจการ ดังนั้นจึงได้ออกมาแก้ไขปัญหาของหลินหยุนด้วยตนเอง”
“ที่หลิงหนานเขาโอ้อวดหยิ่งผยองมาโดยตลอดจนเคยชินแล้ว แต่คราวนี้คาดว่าคงจะสะดุดพบเจอกับปัญญา”
หูเกอที่นั่งอยู่ในแถวแรก ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย: “ผู้จัดการจ้าวแห่งหัวหยา กรุ๊ปนำตัวไอ้หนุ่มน้อยนั่นไปด้วยตนเอง จะเป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่หรือไม่? ”
โห้เจี้ยนหวานั่งไขว่ห้าง ปรับเปลี่ยนอิริยาบถให้สบายตัวขึ้นแล้วพิงไปยังพนักเก้าอี้ และพูดขึ้นแบบไม่สนใจใยดี: “จะไปสนใจอะไรเขา? อย่างมากก็แค่ถูกขับไล่ออกไป จากระดับสถานะและความเป็นมืออาชีพของผู้จัดการจ้าวแล้ว คงจะไม่ทำความยุ่งยากลำบากให้กับไอ้หนุ่มน้อยนั่นอย่างแน่นอน”
หูเกอคิดไปคิดมา แล้วก็พยักหน้า: “นายพูดได้ถูกต้อง ข้าก็แค่กลัวว่าเฉิงเฉินเป็นกังวล หรือจะไปปลอบใจเธอสักหน่อย? ”
“ไม่มีความจำเป็นหรอก อีกทั้งถ้าหากตอนนี้นายปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเฉิงเฉินแล้ว คงจะถูกดุด่าอย่างแน่นอน”
“ก็คงจะใช่ อย่างนั้นพวกเราก็รอดูสถานการณ์กันต่อไปแล้วกัน! ”
ที่นั่งแขกวีไอพี เฉิงต๋ากับหยวนเบียวและพวกผู้มีอิทธิพลอำนาจ ก็รู้สึกไม่เข้าใจกับการที่จ้าวซูเหาออกหน้านำตัวหลินหยุนไปเช่นกัน
จากระดับสถานะของพวกเขาแล้ว ความเข้าใจในการเป็นผู้จัดการมืออาชีพอย่างจ้าวซูเหานั้น มีมากกว่าคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้
พูดกันถึงเรื่องลักษณะนี้แล้ว จ้าวซูเหาไม่จำเป็นที่จะต้องออกหน้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะจัดการหลินหยุนด้วยตนเองเลย
“ผู้จัดการจ้าวคนนี้ดูเหมือนว่าคงเข้ามายุ่งเกี่ยวมากเกินไปหน่อยแล้ว! ” เฉิงต๋ากล่าว
หยวนเบียวแสดงท่าทางเห็นด้วย: “ใช่มากเกินไปหน่อย แต่ว่าไอ้หนุ่มน้อยนั่นถูกผู้จัดการจ้าวนำตัวไป คราวนี้ก็คงจะต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว”
“ใช่สิ ผู้จัดการใหญ่หัวหยา กรุ๊ปออกหน้าด้วยตนเอง นอกเสียจากว่าเจ้านายลึกลับคนนั้นของหัวหยา กรุ๊ปเป็นผู้ออกหน้าเองแล้ว มิเช่นนั้นต่อให้พวกเราทั้งสามคนออกหน้าเพื่อพูดขอร้อง บางทีผู้จัดการจ้าวก็อาจจะไม่ให้เกียรติกับพวกเราก็เป็นได้” จางเจียหยูกล่าว
หลังจากที่หลินหยุนถูกนำตัวไป เติ้งเจียหลุนก็ยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้น โดยมองไปที่อีหลิง พร้อมกับเผยแววตาที่คุกคามก้าวร้าว
“คุณอีหลิง ตอนนี้คุณลองมองให้ชัดเจนนะว่า ใครถึงจะเป็นผู้ชายที่สามารถให้คุณพึ่งพาได้กันแน่! ”
อีหลิงจ้องมองไปที่เติ้งเจียหลุนอย่างเย็นชา ตะโกนพูดด้วยความโมโหว่า: “นายอย่าได้มากระหยิ่มยิ้มย่องไปหน่อยเลย หลินหยุนไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดายหรอก! ”
เติ้งเจียหลุนยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า: “ผู้จัดการใหญ่หัวหยา กรุ๊ปออกหน้าด้วยตนเอง ถ้าหากเขาไม่ลงมือ เขาก็คงจะต้องถูกขับไล่ออกไปจากที่นี่! ”
“เขาไม่ใช่ปรมาจารย์หลินหรอกเหรอ? เขาเก่งกาจมากไม่ใช่หรือ? ให้เขาลงมือสิ! ”
“ถ้าเขากล้าที่จะลงมือ ข้าเองก็จะเรียกระดมกองทัพมาล้อมเขาเอาไว้! ”
อีหลิงมองไปที่เติ้งเจียหลุนด้วยความโกรธ: “เลวทรามต่ำช้า! ”
ด้านหลังเวที ที่ห้องพักผ่อน
จ้าวซูเหาพาทีมงานฝ่ายบริหารทั้งหมด มายืนอยู่ด้านหน้าของหลินหยุน พร้อมด้วยสีหน้าท่าทางที่เคารพ
“คุณหลิน ที่ข้าล่วงละเมิดเข้ามาแทรกแซง หวังว่าคงจะไม่ส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อท่าน! ”
หลินหยุนพูดว่า: “คุณมาได้ถูกจังหวะพอดี”
จ้าวซูเหาพูดกับพวกคนที่อยู่ด้านหลังของตนว่า: “ทุกคนท่านนี้คือนายจ้างของพวกเรา คุณหลิน! ”
ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน: “สวัสดีเจ้านาย! ”
“ทุกคนเหนื่อยลำบากกันแล้ว” หลินหยุนพูดขึ้น
จ้าวซูเหาพูดว่า: “คุณหลิน หลังจากนี้การควบรวมกิจการก็จะเริ่มต้นขึ้น ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว อย่างนั้นก็เชิญท่านเป็นผู้ควบคุมการดำเนินการ! ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ: “พวกคุณรับผิดชอบไปเลยทั้งหมด ไม่ต้องมาสนใจฉัน ที่ฉันมาที่นี่ มีเรื่องอย่างอื่นที่ต้องจัดการ”
จ้าวซูเหาก็ไม่ปฏิเสธ: “รับทราบ ขอบคุณที่คุณหลินให้ความเชื่อมั่น แต่ว่าในเมื่อคุณหลินมาถึงแล้วทั้งที อย่างน้อยก็ควรที่จะแสดงตัวต่อหน้าผู้คนสักครั้งหนึ่ง! ”
“เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้รับทราบว่าเจ้านายที่แท้จริงของหัวหยา กรุ๊ปคือใคร! ” จ้าวซูเหาพูดจบ ก็มองไปที่หลินหยุนพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
หลินหยุนเข้าใจได้ถึงความหมายที่แฝงอยู่ในรอยยิ้มนั้น จ้าวซูเหาคิดที่จะให้หลินหยุนแสดงสถานะตัวตนที่แท้จริงออกมา เพื่อจะได้เป็นการหักหน้าอย่างรุนแรงต่อพวกเติ้งเจียหลุนเหล่านั้น
“ตกลง! ” หลินหยุนตอบรับแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจอะไรที่จะหักหน้าพวกเติ้งเจียหลุนเหล่านั้น แต่เขาต้องการที่จะแสดงสถานะของตนเอง เพื่อให้พวกเฉิงจิ่งว่างเหล่านั้นตกตะลึง
นี่ก็เพื่อเป็นผลดีต่อเฉิงเฉินกับหลันโร่หลิน รวมถึงพวกเพื่อนเหล่านั้นของหลินหยุน
เห็นว่าหลินหยุนตกลง จ้าวซูเหาดูเหมือนดีใจเป็นอย่างมาก: “คุณหลิน ท่านรออยู่ตรงนี้ก่อนสักครู่ เมื่อตอนที่ฉันเรียกท่านแล้ว ท่านค่อยเดินออกมา! ”
“ครั้งนี้ รับรองว่าจะทำให้พวกคนที่ไม่เจียมตัวได้หุบปากไปตาม ๆ กัน! ”
“ตกลง คุณไปดำเนินการแล้วกัน! ” หลินหยุนกล่าว
จ้าวซูเหาก็ได้เดินออกมา
จ้าวซูเหายืนอยู่บนเวที ด้านล่างเวทีก็ค่อย ๆ เงียบสงบลง
จ้าวซูเหาประกาศด้วยรอยยิ้มว่า: “ทุกท่าน ขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้มาเข้าร่วมการประชุมควบรวมกิจการระหว่างบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์ในวันนี้! ”
“เวลานี้ ฉันขอประกาศว่า การประชุมควบรวมกิจการได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว! ”
ด้านล่างเวที มีเสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราว
อีหลิงกับหลันโร่หลิน เกิดความสงสัยขึ้นบ้างเล็กน้อย
“หลินหยุนล่ะ? ”
“ไม่ใช่ว่าจะถูกขับไล่ออกไปแล้วจริง ๆ นะเนี่ย? ”
นอกจากถูกขับไล่ออกไป ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาอธิบายได้อีกแล้ว
หลันโร่หลินขมวดคิ้ว สีหน้าท่าทางโกรธเคืองเล็กน้อย: “คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการจ้าวคนนี้จะจัดการเรื่องได้อย่างเด็ดขาดขนาดนี้ ไม่แม้แต่จะสอบถามพวกเรา ก็ขับไล่หลินหยุนออกไปจากที่นี่แล้ว! ”
เติ้งเจียหลุนยิ้มเยาะอย่างเย็นชา มองไปที่อีหลิง ด้วยแววตาร้อนผ่าว: “ฉันได้พูดเอาไว้แล้วว่า ไอ้หนุ่มนั่นหากว่าไม่ถูกขับไล่ออกไป ก็คงจะต้องลงมือ ดูเหมือนว่า เขาคงจะรู้ตัวเองดี จึงยอมที่จะถูกขับไล่ออกไป ก็ยังดีกว่าการที่ลงมือต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ แล้วสร้างความโมโหให้กับทางการของจีน”
เฉิงจิ่งว่างก็มีลักษณะท่าทางราวกับว่าเป็นผู้ชนะ มองไปที่หลันโร่หลินอย่างภาคภูมิใจ ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า: “รองประธานหลัน สำหรับวิธีจัดการของผู้จัดการจ้าว คราวนี้คุณคงไม่มีอะไรที่จะพูดอีกแล้วใช่ไหมล่ะ? ”
หลันโร่หลินส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา โดยที่ไม่ได้สนใจ
เวลานี้ จ้าวซูเหาที่อยู่บนเวทีได้กล่าวขึ้นว่า: “ทุกท่าน ก่อนที่การประชุมควบรวมกิจการจะเริ่มต้นขึ้นนั้น ฉันจะขอประกาศแจ้งข่าวดีเรื่องหนึ่งให้กับทุกท่านได้รับทราบ”
“เจ้านายที่แท้จริงของหัวหยา กรุ๊ป วันนี้ก็ได้มายังสถานที่จัดงานแห่งนี้แล้ว อีกไม่นาน ก็จะออกมาพบปะกับทุกคน”
ด้านล่างเวที เฉิงจิ่งว่างกับจางจิ้งฟา ดีอกดีใจเล็กน้อย: “เจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังที่ลึกลับของหัวหยา กรุ๊ปนั้น ในที่สุดก็จะปรากฏตัวออกมาแล้วเหรอ? ”
“ได้ยินมาว่าเจ้านายที่ลึกลับผู้นี้ หลังจากที่รับหัวหยา กรุ๊ป ต่อจากนายท่านเสี้ยง ก็ยังไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน น่าแปลกเสียจริง ตกลงคนผู้นี้คือใครกันแน่? ”
ที่นั่งแขกวีไอพี เฉิงต๋ากับหยวนเบียว ต่างก็ตกใจบ้างเล็กน้อย
“ข้าพูดเอาไว้แล้วไงว่า วันงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เจ้านายที่แท้จริงของหัวหยา กรุ๊ปผู้นั้น คงจะต้องมาร่วมงานเป็นแน่” จางเจียหยูพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ข้าเองก็แปลกใจ คนผู้นี้ตกลงเป็นใครกันแน่? นึกไม่ถึงว่าจะช่วงชิงหัวหยา กรุ๊ปไปจากนายท่านเสี้ยงได้! ” เฉิงต๋าพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ตั้งตารอคอย
หยวนเบียวพูดขึ้นว่า: “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้คงจะไม่ใช่คนแปลกหน้า น่าจะเป็นคนในวงการอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นนายท่านเสี้ยงจะส่งมอบหัวหยา กรุ๊ปที่เป็นบริษัทสำคัญขนาดนี้ให้กับเขาได้อย่างไรกันล่ะ”
หลี่หมิงกับโจวเจ๋หลุนพวกที่เป็นดาราดังระดับแนวหน้า ก็มองไปที่เวทีด้วยสีหน้าท่าทางที่ตั้งตา รอคอย พร้อมกับวิพากษณ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ
“ในที่สุดก็จะได้พบกับเจ้านายลึกลับผู้นั้นของหัวหยา กรุ๊ปแล้วอย่างนั้นเหรอ? ”
“อยากรู้อยากเห็นจริง ๆ ว่าบุคคลลึกลับผู้นี้ ตกลงเป็นใคร? ”
หลันโร่หลินกับเฉิงเฉิน ตกตะลึงไปพร้อมกัน
“เจ้านายที่แท้จริงของหัวหยา กรุ๊ป นี่คงจะเป็นถึงบุคคลระดับสูงสุดของวงการบันเทิงเลยทีเดียว”
“คนผู้นี้จะเป็นใครกัน? ”
หลินเสี่ยวลู่กับอู่ซื่อหานและคนอื่น ๆ รวมไปถึงดาราระดับล่างแถวสิบแปดที่ต้องการจะโด่งดังแต่ละคนต่างก็ตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมดแล้ว
เจ้านายลึกลับของหัวหยา กรุ๊ปก็มาร่วมงานด้วยแล้ว ตกลงว่าคนผู้นี้เป็นใครกันแน่? เป็นคนในวงการบันเทิง หรือว่าเป็นผู้ลงทุนในด้านอื่น?
“ดีที่สุดก็ขอให้เหมือนกับหวางซือฉง (ลูกชายของมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในจีน) ต่อไปฉันก็จะมีเป้าหมายในการมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว” ดาราสาวแถวห้าคนหนึ่ง พูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่เพ้อฝัน
เถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิง ก็มีสีหน้าท่าทางที่ตื่นเต้น
“เจ้านายที่แท้จริงของหัวหยา กรุ๊ป คงน่าจะเป็นบุคคลที่มีสถานะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในงานวันนี้”