“เฮิง เจ้าเด็กคนนี้ เห็นเขาท่าทางจริงจังแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นพวกชั่วช้าที่ชอบฉวยโอกาสคนอื่น!”
“สาวน้อย เธออย่าไปตอบตกลงเขาเด็ดขาด หมอใกล้จะมาถึงแล้ว เธอรออีกสักพักก็ได้!”
“ใช่แล้ว อย่าไปหลงกลเขาเด็ดขาด ฉันว่าเขามันเป็นพวกหลอกลวง เขาไม่มีทางรักษาโรคของปู่เธอได้หรอก เธออย่าไปหลงกลอุบายของเขาเป็นอันขาด!”
คนรอบๆต่างก็เริ่มพูดคุยกันขึ้นมา สายตาที่จ้องมองหลินหยุนเต็มไปด้วยความดูถูก
แต่ว่า ในหมู่คนพวกนี้ก็มีผู้ชายหลายคน จ้องมองใบหน้าที่งดงามของเด็กสาว แล้วแอบกลืนน้ำลาย
ตอนนี้หมอก็ยังมาไม่ถึง เด็กสาวร้อนรนเป็นอย่างมาก
“พี่ชาย พี่ช่วยคุณปู่ของหนูทีเถอะ? ขอร้องพี่ล่ะ” เด็กสาวหวังว่าหลินหยุนจะเห็นใจ
แอร์โฮสเตสที่อยู่ข้างๆก็ช่วยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้โดยสารท่านนี้ การช่วยชีวิตคน เป็นบุญวาสนาอันใหญ่หลวง คุณก็ยอมลงมือ ช่วยเหลือชายชราคนนี้เถอะ!”
สุดท้ายหลินหยุนก็ใจอ่อน หันไปมองแอร์โฮสเตสแล้วพูดว่า “พวกคุณมีเข็มเงินเก็บไว้ไหม? หรือจะเป็นเข็มอย่างอื่นก็ได้!”
“มีมี ฉันจะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้!” แอร์โฮสเตสก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วกลับมาพร้อมกับกล่องเข็มเย็บผ้า
“เข็มแบบนี้ใช้ได้ไหม?” แอร์โฮสเตสถามด้วยความรีบร้อน
“ใช้ได้” หลินหยุนไม่ได้มองด้วยซ้ำ ความจริงตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องใช้เข็มเงินแล้ว แค่ใช้พลังทิพย์สกัดจุด ก็ได้ผลลัพธ์ระดับเดียวกันกับการฝังเข็ม
แต่ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้คนปกติแตกตื่น หลินหยุนจึงยังจำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากเข็มเงิน
แบบนี้หลังจากที่ทุกคนได้เห็น ก็จะยอมรับได้ง่ายกว่า
หลินหยุนหนีบเข็มทั้งสามเล่มไว้ตรงมือ มาอยู่ตรงหน้าของชายชรา จากนั้นก็ฝังเข็มทั้งสามจุดไว้ตามร่างของชายชรา
เข็มแรกฝังที่หัว เข็มที่สองฝังที่คอ เข็มที่สามฝังตรงหัวใจ
“รอสักพักเขาก็ฟื้นแล้ว” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ แล้วกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง
คนรอบๆเริ่มพูดคุยเบาๆ “แบบนี้จะได้ผลเหรอ?”
“ทำไมรู้สึกเหมือนกับเป็นวิธีหลอกลวงของพวกสิบแปดมงกุฎเลยล่ะ!”
“วิชาฝังเข็มของหมอจีนฉันเคยได้ยินมาก่อน แต่ว่าฉันไม่เคยได้ยินการใช้เข็มเย็บผ้าในการฝังเข็มมาก่อน”
แม้แต่แอร์โฮสเตสกับเด็กสาวคนนั้นก็ทำหน้าสงสัย จ้องมองชายชราคนนั้น ไม่รู้ว่าวิธีของหลินหยุนจะได้ผลหรือเปล่า
“ถอยไป ถอยไป!”
เวลานี้เอง ก็มีเสียงที่แฝงความเย่อหยิ่งของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลัง
ตำรวจอากาศคนนั้นเคลียร์ทางให้เขา พาเขาออกมาจากที่นั่งธรรมดามายังที่นั่งชั้นหนึ่ง
“คนป่วยอยู่ไหน?”
คนคนนี้เป็นคนจีน ใส่สูทสีเทา สวมแว่นขอบทอง รูปร่างผอมสูง ชายชราที่มีอายุประมาณห้าสิบกว่าๆ
เขาไม่สนใจใคร ราวกับเป็นคนเย่อหยิ่งที่มีมาตั้งแต่กำเนิด
โดยเฉพาะแววตาที่มองคนด้วยความดูถูก ทำให้คนรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก
“หมอมาแล้ว ใครเป็นคนป่วย!” ตำรวจอากาศถามด้วยเสียงจริงจัง
“คนป่วยอยู่นี่!” แอร์โฮสเตสชี้ไปที่ชายชราแล้วพูดออกมาว่า “เมื่อกี้ผู้โดยสารท่านนี้ได้ทำการรักษาเบื้องต้นแล้ว รบกวนคุณหมอมาดูหน่อย”
เด็กสาวเองก็ฝากความหวังทั้งหมดไว้กับหมอจากสหรัฐอเมริกาคนนั้น
“คุณหมอ ขอร้องล่ะช่วยคุณปู่ของหนูด้วย!”
เวลานี้ ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่สนใจหลินหยุนแล้ว
แน่นอนว่า การรักษาเมื่อกี้ของหลินหยุน ก็โดนเมินเช่นเดียวกัน
เห็นได้ชัดว่า ทุกคนต่างก็คิดว่าวิธีรักษาของหลินหยุนไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
หมอจากสหรัฐอเมริกาคนนั้นมองเข็มเย็บผ้าที่ฝั่งอยู่ตรงหัวของชายชราคนนั้น แล้วร้องตะโกนด้วยเสียงเย็นชาว่า “หมอโง่ รักษาผิดวิธีแล้ว!”
“นี่เป็นฝีมือของใคร!”
คนรอบๆต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน มีคนสองคนใช้สายตา ชี้ไปทางหลินหยุน
หมอจากสหรัฐอเมริกามองหลินหยุนแป๊บหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูกว่า “แกกำลังจะทำให้เขาตายรู้ตัวหรือเปล่า!”
“ไอ้เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
พอได้รับคำพูดของหมอจากสหรัฐอเมริกา คนรอบๆก็เหมือนกับเหล่าฝูงชนที่ได้แกนนำมา ต่างก็เริ่มว่าร้ายหลินหยุน
“เมื่อกี้ฉันก็รู้สึกแล้วว่าวิธีของไอ้เด็กคนนี้พึ่งไม่ได้ ฉันเดาถูกจริงๆด้วย!”
“พวกหลอกลวง เมื่อกี้ฉันก็บอกแล้วเขาเป็นพวกหลอกลวง ฉันเดาถูกจริงๆด้วย!”
“ไอ้เด็กคนนี้ กล้าล้อเล่นกับชีวิตของคน รอให้เครื่องลงก่อนเถอะ พวกเราจะแจ้งตำรวจ ไม่ยอมปล่อยให้เขาหนีไปได้แน่!”
แอร์โฮสเตสมองหลินหยุน อยากจะพูดแทนหลินหยุน แต่ว่า พอเห็นความโกรธของคนรอบๆ สุดท้ายจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่ว่าเด็กสาวคนนั้น กลับพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ทุกคนอย่าโทษพี่ชายเลย เขาเองก็หวังดี อีกอย่างหนูเป็นคนขอร้องพี่เขาให้ช่วยรักษาปู่ของหนู พี่เขาก็ทำไปเพื่อช่วยคน”
“สาวน้อยคนนี้ช่างจิตใจดีเหลือเกิน!”
“คนดีต้องได้รับผลตอบแทนอยู่แล้ว!”
คนรอบๆต่างก็ถอนหายใจ แต่ว่าท่าทีที่มีต่อหลินหยุน ก็ยังคงเต็มไปด้วยความรังเกียจ หลินหยุนในความคิดของพวกเขา ได้กลายเป็นพวกหลอกลวง ที่น่ารังเกียจไปแล้ว
หมอจากสหรัฐอเมริกาตะโกนด้วยเสียงเย็นชา “หยุดเสียงดังได้แล้ว คนไข้ต้องการความสงบ ตอนนี้ฉันกำลังจะทำการรักษาคนไข้ ทุกคนจงอยู่ในความสงบ”
คำพูดของหมอ ทำให้ทุกคนอยู่ในความสงบโดยทันที
เด็กสาวถามด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณหมอ ปู่ของหนูป่วยเป็นโรคอะไรเหรอ? เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย ทำไมจู่ๆถึงได้หมอสติไป?”
หมอจากสหรัฐอเมริกาเปิดหนังตาของชายชรา หลังจากที่ได้ดู ก็พูดด้วยความมั่นใจว่า “หน้าขาวซีด ไม่ได้สติ หายใจหอบหืด นี่เป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง”
“ฉันจะรักษาเขาเดี๋ยวนี้ แต่ว่าจะฟื้นหรือเปล่า ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับตัวของเขา”
พอพูดจบ ก็กำลังจะยื่นมือไปดึงเข็มที่หลินหยุนฝั่งอยู่บนตัวของชายชรา
หลินหยุนพูดเสียงเย็นชา ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ถ้าเกิดแกดึงเข็มที่ฉันฝั่งเอาไว้ เขาต้องตายอย่างแน่นอน”
“ฮ่าๆ น่าขำ แกคิดว่าฉันโตมากับคำขู่หรือไง?” หมอจากสหรัฐอเมริกาพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างดูถูก
พอพูดจบ ก็ดึงเข็มทั้งสามที่ฝั่งอยู่บนตัวของชายชราคนนั้นทันที
หลังจากที่ดึงออกมาไม่นาน จู่ๆร่างกายของชายชราก็กระตุกอย่างรุนแรง ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
คนรอบๆต่างตื่นตกใจ ต่างก็จ้องมองหมอจากสหรัฐอเมริกา
เด็กสาวรีบพูดขึ้นมาว่า “คุณหมอ นี่มันเกิดอะไรขึ้น! เมื่อกี้อาการของปู่หนูยังถือว่าปกติอยู่เลย ทำไมจู่ๆถึงกระตุกขึ้นมาแบบนี้ล่ะ?”
ใบหน้าของหมอจากสหรัฐอเมริกาเผยความตกใจออกมาแวบหนึ่ง แต่ว่าเขาก็สงบสติได้อย่างรวดเร็ว
“อย่าร้อนรน จะต้องเป็นเพราะผลจากเข็มเย็บผ้าทั้งสามเล่มเมื่อกี้ เมื่อกี้เพิ่งดึงเข็มออกมา ร่างกายของคนไข้จึงยังปรับตัวไม่ทัน ตอนนี้ฉันจะรักษาคนไข้เดี๋ยวนี้”
หมอจากสหรัฐอเมริการีบรักษาอาการเบื้องต้นของโรคหลอดเลือดสมองให้กับคนไข้ในทันที
หลินหยุนยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เขาหน้าขาวซีด ร่างกายกระตุก ไม่ได้สติและหายใจหอบหืด แกคิดว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองงั้นเหรอ?”
หมอจากสหรัฐอเมริกาพูดด้วยเสียงเย็นชา “เจ้าเด็กน้อย ฉันเป็นหมอหรือว่าแกเป็นหมอกันแน่? ถ้าเกิดไม่ใช่โรคหลอดเลือดสมอง งั้นแกว่าเป็นโรคอะไร!”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “โรคหัวใจ”
“เหลวไหล อาการของโรคหัวใจไม่ใช่แบบนี้ แกมีใบรับรองคุณสมบัติของแพทย์หรือเปล่า? ถึงได้กล้าพูดจาใหญ่โตแบบนี้!” หมอจากสหรัฐอเมริกาพูดเสียงแข็ง
หลินหยุนไม่ได้สนใจเขา มองไปยังเด็กสาวคนนั้น แล้วถามว่า “เธอลองดูกระเป๋าของปู่เธอดูสิ ดูว่าข้างในมียารักษาโรคหัวใจหรือเปล่า”
เด็กสาวรีบค้นหากระเป๋าของชายชรา จากนั้นก็เจอพวกขวดยาที่ใช้รักษาอาการของโรคหัวใจ ยาที่ใช้รักษาอาการของโรคหัวใจโดยเฉพาะ
“คุณปู่เป็นโรคหัวใจจริงๆด้วย! ทำไมปู่ถึงต้องปิดปังพวกเรามาโดยตลอด!” เด็กสาวมองชายชราที่ไม่ได้สติด้วยใบหน้าสงสัย
“พี่ชาย ขอร้องพี่ล่ะ ช่วยปู่ของหนูด้วย!” เด็กสาวเองก็ไม่สนใจหมอจากสหรัฐอเมริกาคนนั้น หันกลับไปขอความช่วยเหลือจากหลินหยุน
สีหน้าของหมอจากสหรัฐอเมริกาแย่มาก ความจริงเขาต่างหากที่เป็นหมอปลอมที่ไม่มีทักษะอะไรเลย เขาเสียเงินไปมากมายเพื่อไปสหรัฐอเมริกา ก็เพื่อที่จะสร้างชื่อเสียง
เพราะว่าคนของประเทศจีน ขอแค่เป็นของที่มาจากต่างประเทศ ต่อให้เป็นขยะอะไร ในสายตาของคนในประเทศ ก็ล้วนเป็นของดีทั้งนั้น
นี่เป็นปัญหาที่มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ยังไงซะหลายร้อยปีที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์ของประเทศจีนเคยมีช่วงเวลาที่ตกต่ำ ประเทศจีนคุกเข่ามานานมากแล้ว ถ้าอยากจะยืนขึ้นมา ยังต้องใช้เวลาอีกนาน