The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ – ตอนที่ 131 เสริมพลังพระพุทธรูป

ตอนที่ 131 เสริมพลังพระพุทธรูป

ทว่าเสียวหมี่ลี่ไม่เข้าใจ คิดว่ากระรอกน้อยมาเล่นกับเธอเลยหัวเราะจนปากปิดไม่ลง

ตอนนี้เองหมาป่าเดียวดายกลับมาด้วยความขี้เกียจ เสียวหมี่ลี่ตาเปล่งประกาย ชี้หมาป่าเดียวดายพลางถามฟางเจิ้ง  หัวโล้นใหญ่ นั่นหมาเหรอคะ? 

 อืม…คิดซะว่าเป็นบรรพบุรุษของหมาแล้วกัน เธออย่าดูแค่มันตัวใหญ่ จริงๆ มันอ่อนโยนนะ  ฟางเจิ้งหัวเราะให้เสียวหมี่ลี่

หมาป่าเดียวดายได้ยินดังนั้นจึงเชิดหน้าขึ้นสูง มองเมล็ดสนในมือเสียวหมี่ลี่กับกระรอกบนบ่า พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เมล็ดสนของเจ้าตัวหวงของอยู่ในมือเด็กน้อย จะต้องไม่ใช่เรื่องดี! ดังนั้นเจ้านี่จึงยกขาบิดก้นเตรียมจะหนีไป!

แต่ว่า…

ฟางเจิ้งลากมันกลับมา แล้ววางเสียวหมี่ลี่ลงบนหลังมัน ภายใต้การข่มขู่และหลอกล่อ ในที่สุดหมาป่าเดียวดายก็กลายเป็นเพื่อนเล่นตัวที่สองของเสียวหมี่ลี่อย่างขมขื่น พาเสียวหมี่ลี่ไปนอกวัด วิ่งเล่นไปทั่ว

มีหมาป่าเดียวดายกับกระรอกดูเสียวหมี่ลี่ ฟางเจิ้งเลยไม่กังวล เจ้าสองตัวนี้มีสติปัญญาสูงขึ้นเรื่อยๆ เขามักรู้สึกว่าพวกมันใกล้จะเปิดภูมิปัญญาได้แล้ว

ขณะเดียวกันมีเสียงสะอื้นไห้ดังแว่วมาจากในอุโบสถ!

ฟางเจิ้งมาถึงหน้าประตูอุโบสถ มองไปข้างในก็เห็นหลู่ซวงซวงคุกเข่าบนพื้น ร้องไห้หนักมาก

ฟางเจิ้งงงเล็กน้อย ในพุทธคัมภีร์ที่เขาเคยอ่านไม่ได้สอนว่าจะปลอบผู้หญิงร้องไห้ยังไง เข้าไป? หรือไม่เข้าไป?

ฟางเจิ้งลูบหัวโล้น ไม่มีความคิดอะไรเลย

 ติ๊ง! ต้องการความช่วยเหลือไหม?  ระบบถาม

 นายว่าไงล่ะ? ถ้าฉันมีผม ตอนนี้คงดึงจนหมดหัวไปแล้ว…ผู้หญิงร้องไห้น่ากลัวมาก แต่เธอก็เสียใจมากจริงๆ เหมือนกับ…เหมือนกับฉันตอนที่หลวงตาหนึ่งนิ้วมรณภาพ ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในใจเธอ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะปลอบยังไง  ฟางเจิ้งตอบในใจ

 พระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรคือการขอพรสำหรับคนอื่น แต่สำหรับนายแล้วเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่ดีที่สุด บางทีนายควรจะขอให้เธอช่วย  ระบบกล่าว

ฟางเจิ้งงง  ขอให้พระโพธิสัตว์กวนอิมช่วย? ดะ…ได้เหรอ? 

ถึงระบบจะมหัศจรรย์ แต่ขอให้พระโพธิสัตว์ช่วย ฟางเจิ้งงงกับเรื่องนี้เล็กน้อย…นี่เป็นไปได้เหรอ?

 ไม่ใช่ขอร้องพระโพธิสัตว์ แต่เป็นความสามารถที่มากับภาพพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรบนป้ายอุโบสถหมื่นพุทธต่างหาก ก็เหมือนกับพระแม่กวนอิมปางประทานบุตรที่ให้นายให้ลูกคนอื่นได้ นี่เป็นเพียงการเหนี่ยวนำอภินิหารแบบพิเศษ  ระบบตอบ

 แล้วจะใช้ยังไง?  ฟางเจิ้งไม่รู้อะไรเลย

 ขอแค่นายอยู่ในวัดก็จะยืมพลังของภาพวาดมาทำเรื่องที่นายทำไม่ได้ให้สำเร็จได้ บางทีอาจเสริมความแกร่งของอภินิหารบางชนิดของนายก็ได้ อย่างเช่นการช่วยคนตั้งครรภ์ เนตรสวรรค์เป็นต้น แต่ของพวกนี้ต้องให้นายเป็นตัวหลัก พลังของภาพวัดเพียงแค่ช่วยเท่านั้น ใช้อภินิหารความฝันยามต้มข้าวฟ่างของนายดูเดี๋ยวจะเข้าใจเอง…  ระบบว่า

ฟางเจิ้งพยักหน้า มองหลู่ซวงซวงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ประนมสองมือ  อมิตาพุทธ! 

ตั้งแต่ที่หลู่ซวงซวงเข้ามาในอุโบสถก็คุกเข่าไม่ยอมขยับ ตอนแรกเธอคิดว่าทุกอย่างเป็นเหมือนที่เธอคิด เป็นแค่การหลอกตัวเอง หรือไม่ก็ได้แอบร้องไห้ระบายสักครั้งเท่านั้น

จากนั้นตอนที่เธอคุกเข่าบนเบาะนั่งและเอ่ยถึงความฉงนและเจ็บปวดในใจนั้น ป้ายหมื่นพุทธตรงหน้าพลันเปล่งแสงทอง แสงทองอ่อนมาก วูบเดียวก็หายไปราวกับภาพหลอน

หลู่ซวงซวงคิดว่ามันเป็นภาพหลอน แต่ตอนที่เหลือบไปมองป้ายหมื่นพุทธ ดวงตาพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรเหมือนขยับ แววตาน่าสงสารและน่าเศร้าทำให้เธอใจสั่นไหว! พลันเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าพระแม่กวนอิมบนป้ายหมื่นพุทธยังคงเดิม ไม่เคยขยับ

 จะต้องเป็นภาพหลอนแน่ๆ  หลู่ซวงซวงถอนหายใจ ตอนนี้เองเสียงสวดดังมาจากข้างหลัง  อมิตาพุทธ! 

หลู่ซวงซวงหันไปมองตามจิตใต้สำนึก พบว่าฟางเจิ้งกับเสียวหมี่ลี่หายไป ที่แปลกกว่านั้นคือต้นโพธิ์ในวัดออกดอก! หิมะละลาย ต่อมาดอกบัวเบ่งบานในวัด บนสันกำแพง ในลาน มีแต่ดอกบัวจำนวนมาก!

 นี่…  หลู่ซวงซวงมีสีหน้าตื่นตกใจ รีบวิ่งออกจากอุโบสถ ย่ำน้ำดังจั๊กๆ

เธอก้มหน้ามอง ใต้เท้าไม่ใช่ดิน แต่เป็นน้ำ! เงยหน้าอีกครั้งวัดหายไปแล้ว เหลือเพียงต้นโพธิ์ที่เบ่งบานอย่างยิ่ง!

หันไปมองอุโบสถก็หายไปเหมือนกัน! เหลือเพียงสระดอกบัวมองไปสุดลูกหูลูกตา…

 ฉันอยู่ที่ไหน?  หลู่ซวงซวงมองไปรอบๆ ถามขึ้นด้วยความสับสนซึ่งแฝงด้วยความเครียดและหวาดกลัวหลายส่วน

ทว่ารอบๆ มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครตอบ หลู่ซวงซวงหวาดกลัวกว่าเดิม…

ตอนนี้เองเสียงน้ำไหลดังขึ้น ต่อมาเส้นทางลอยขึ้นมาจากใต้เท้าเธอ เส้นทางยาวเหยียดไปยังส่วนลึกของสระบัว และเพราะมีดอกบัวบังอยู่เลยมองไม่เห็นของข้างใน

หลู่ซวงซวงเดินหน้าไปอย่างกล้าหาญ แหวกว่ายดอกบัวเดินไปเรื่อยๆ ทิวทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไป…ดอกบัวเริ่มน้อยลง ข้างหน้าเหมือนมีคนกำลังคุยกัน

 มีคน!  หลู่ซวงซวงจะเดินหน้าไป พลันปรากฏเณรหัวโล้นอยู่ข้างหน้า สวมจีวรขาวสะอาด ทั่วร่างแผ่กระจายความสะอาดเชื่อมหาถึงกันหมด มองปราดเดียวจิตใจที่กลัดกลุ้มและหวาดกลัวสงบลง

 ไต้ซือฟางเจิ้ง?  หลู่ซวงซวงถาม

ฟางเจิ้งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พยักหน้าและก็ส่ายหน้า ก่อนเงยหน้ามองฟ้า

หลู่ซวงซวงเงยหน้ามองฟ้าตามฟางเจิ้งแล้วก็ตาค้าง!

เห็นว่าบนบัลลังก์ดอกบัวสีทองบนฟ้ามีนักบวชชุดคลุมขาวนั่งอยู่รูปหนึ่ง ข้างหลังมีมือพันมือทำปางมือต่างกัน ถือของล้ำค่าต่างกัน มีความเป็นธรรมะปะปนความน่าเกรงขาม ซ้ำยังมีความเมตตา! คนนี้ใหญ่ยักษ์ยิ่ง ปกคลุมไปครึ่งฟ้า!

 พระโพธิสัตว์กวนอิม?!  หลู่ซวงซวงถามอย่างเหลือเชื่อ

 อมิตาพุทธ อาตมาเอง หลู่ซวงซวง โยมเข้ามาที่วัดเอกดรรชนี ไหว้อาตมาด้วยความเคารพ บูชาด้วยธูป ในใจมีคำร้องขอ อาตมาย่อมช่วยโยม แต่ว่าปมในใจโยมต้องแก้ด้วยตัวเอง  พระโพธิสัตว์กวนอิมกล่าว

หลู่ซวงซวงเงยหน้ามองฟ้า ไม่ได้เห็นเลยว่าฟางเจิ้งข้างล่างกำลังขบคิดอย่างหนัก คิดว่าจะพูดยังไงต่อดี

ทุกอย่างเป็นภาพที่เขาสร้างขึ้นโดยการใช้พระพุทธรูปเหนี่ยวนำจริงๆ กระทั่งเขาเองยังไม่รู้เลยว่าควรทำยังไง แต่การเหนี่ยวนำของพระพุทธรูปเลือนรางมาก มีหลายอย่างที่เขาต้องคิดขึ้นเอง ตรึกตรองเอง ตระหนักรู้เองถึงจะสำเร็จ

พระพุทธรูปบนฟ้าไม่ใช่มายา แต่เป็นร่างแยกที่แสดงออกมาจากเงาสะท้อนพระพุทธรูปพระแม่กวนอิมของจริง ไม่มีจิตสำนึกของพระโพธิสัตว์ ฟางเจิ้งต้องควบคุมด้วยตัวเอง และร่างแยกนี้ไม่ใช่แค่เหนี่ยวนำมาได้ แต่ยังมีกลิ่นอายของพระโพธิสัตว์ด้วย มีผลให้คนจิตใจสงบลง

หลู่ซวงซวงมองพระโพธิสัตว์กวนอิมบนฟ้า รู้สึกถึงกลิ่นอายเมตตาที่แผ่มาจากพระโพธิสัตว์ เหมือนว่าได้เข้าใกล้ความอบอุ่นและจิตสงบตรงข้อพับแขนของหานเซี่ยวกั๋ว ราวกับหาอ่าวท่าเรือไว้หลบพายุพบ

หลู่ซวงซวงประนมสองมือแสดงความเคารพ  ได้โปรดพระโพธิสัตว์ช่วยฉันด้วย 

 คนที่โยมจะได้พบอยู่ข้างหน้า ไปเถอะ…  พระโพธิสัตว์กวนอิมชี้ไปข้างหน้า

หลู่ซวงซวงพยักหน้าแล้วเดินไป ผ่านหย่อมดอกบัวแน่นขนัด เธออึ้ง! ไม่มีสระดอกบัว แต่เป็นเมืองรุ่งเรืองอยู่ข้างหน้า!

……………………………….

 

The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

The Monk that wanted to renounce asceticism บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

Status: Ongoing

เรื่อง : บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ (老衲要还俗) ผู้เขียน : อีเมิ่งหวงเหลียง (一梦黄粱) ผู้แปล : Zonore (ม้าเฉียว) บนภูเขาเอกดรรชนีในเขตภูเขาอันไกลโพ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีวัดเล็กแห่งหนึ่งนามว่าเอกดรรชนี แต่กลับประหลาดอย่างยิ่ง ในวัดมีข้าว ส่งกลิ่นหอมโชยสิบลี้ ในวัดมีน้ำ หวานสดชื่นอย่างยิ่ง เลิศล้ำกว่าสุราชั้นดี ในวัดมีพระพุทธ หากจริงใจจะสัมฤทธิ์ผล วัดไม่ใหญ่แต่กลับมีทุกสิ่ง วัดไม่ใหญ่แต่ความคึกคักของเพลิงเทียนกลับเหนือกว่าวัดทุกแห่งหน และดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนจากภายนอกให้อดหลับอดนอนเรียงหน้ากันเข้ามา… ในวัดนี้มีหลวงจีนรูปหนึ่ง แม้ใจอยากสึก แต่กลับถูกระบบพุทธองค์ชั่วช้าจับตัวไว้ จำต้องอยู่ต่อไปเพื่อบรรลุอรหันต์ ได้แต่คอยพูดงึมงำอยู่ทุกวันว่า “อาตมาจะสึก จะหาภรรยาที่ไม่ต้องสวยมาก มีลูกน้อยด้วยกัน แล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท