จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 573 ศึกใหญ่กับโล่อู๋จี๋

บทที่ 573 ศึกใหญ่กับโล่อู๋จี๋

ได้ยินอีหยุ่นนำหลินหยุนมาเปรียบเทียบกับผู้อาวุโสโล่ ปรมาจารย์ป๋ายเห้อก็หัวเราะอย่างเย็นชา: “คุณอี ข้าคิดว่าคุณคงจะถูกปีศาจครอบงำแล้วล่ะ! แม้แต่คุณฉีเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของชายชรา ผู้นี้ หากไอ้หนุ่มน้อยนั่นขึ้นมาประลองต่อสู้ ก็คงจะถูกตบจนตายคาที่! ”

อีหยุ่นทราบว่าปรมาจารย์ป๋ายเห้อมีอคติกับหลินหยุน จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

แต่ว่า แม้แต่อาฉินเองก็ยังไม่กล้ายืนยันว่าปรมาจารย์หลินจะสามารถเอาชนะได้ ดูเหมือนว่าพลังความสามารถของผู้อาวุโสคนนี้ คงจะอยู่ในระดับขั้นที่สูงมากจริง ๆ

เสิ่นเหยียนผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งกว่างหนัน มีสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม โดยมองไปที่ปรมาจารย์ เหยียนที่อยู่ด้านข้าง และถามขึ้นว่า: “ถ้าหากนายขึ้นเวทีประลอง จะมีความมั่นใจมากแค่ไหน? ”

ปรมาจารย์เหยียนส่ายศีรษะ: “ไอ้คนแซ่ฉีสามารถรับมือได้หนึ่งกระบวนท่า ส่วนข้าอย่างมากคงจะรับมือได้สามกระบวนท่า”

เสิ่นเหยียนตกตะลึง: “นึกไม่ถึงว่าชายชราคนนี้จะแข็งแกร่งมากขนาดนี้! ”

ปรมาจารย์เหยียนมองไปที่ผู้อาวุโสโล่ หรี่ตาลงเล็กน้อย: “ข้ารู้สึกว่าเขาคล้ายกับคน ๆ หนึ่ง เทพแห่งทวนในตำนานโลกบู๊แห่งเจียงหนาน โล่อู๋จี๋! ”

“เทพแห่งทวนโล่อู๋จี๋ นั่นเป็นถึงบุคคลระดับเดียวกันกับเทพกระบี่เยนหนานเทียน และเทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋! ” สีหน้าท่าทางที่หยิ่งผยองของเสิ่นมี่ ในที่สุดก็เผยให้เห็นถึงความตกตะลึงออกมา

เสิ่นเหยียนไม่อยากที่จะเชื่อ: “มันคงเป็นไปไม่ได้! เทพแห่งทวนโล่อู๋จี๋ แม้แต่ในโลกบู๊ ก็เป็นถึงบุคคลในตำนาน ตระกูลหูจะสามารถเชิญเขามาได้อย่างไรกัน! ”

“นอกจากนี้ ในเมื่อโล่อู๋จี๋ได้รับการขนานนามว่าเทพแห่งทวน แล้วทวนยาวของเขาไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ? ”

ปรมาจารย์เหยียนมองไปที่ไม้เท้ารูปร่างแปลกประหลาดที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสโล่ และพูดอย่างจริงจังว่า: “ไม้เท้าด้ามนั้น บางทีอาจจะเป็นทวนยาวของเขาก็เป็นได้! ”

เสิ่นเหยียนมองดูเล็กน้อย: “จะว่าไป มันก็เหมือนกับทวนยาวจริง ๆ ด้วย! ”

จนถึงเวลานี้อ้าวฉางคง ยังคงอยู่ในสภาพที่ตกตะลึง ยังไม่ได้สติกลับคืนมา

เขาจินตนาการไม่ออกจริง ๆ โดยคิดไม่ถึงว่าคุณฉีจะถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ภายใต้กระบวนท่าเดียว

อีกทั้ง ยังเป็นไอ้แก่ที่มีอายุแปดเก้าสิบปีแล้วด้วย!

การเชื้อเชิญให้คุณฉีมาเข้าร่วมได้นั้น เขาถึงกับต้องจ่ายเงินไปจำนวนมหาศาล!

“ซี่ไห่ นี่มันเป็นความจริงใช่ไหม? ” อ้าวฉางคงที่ยังคงงงงวยได้ถามลูกชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง

ใบหน้าของอ้าวซี่ไห่ ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเช่นเดียวกัน พยักหน้าแล้วพูดว่า: “พ่อ คุณฉีแพ้แล้ว! ”

อ้าวฉางคงนั่งเซ็งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับสีหน้าท่าทางที่หงอยเหงาเศร้าซึม: “จบกันแล้ว! ”

ผู้อาวุโสโล่อยู่บนเวทีประลอง โดยยังคงสภาพที่แก่หงำเหงือก เหมือนกับคนแก่ที่ใกล้จะตาย

“ยังมีผู้ใดอีก? ” ผู้อาวุโสโล่สีหน้าเฉยชา โดยกวาดสายตามองที่เย็นชาไปยังทุกคน

ไม่มีใครกล้าที่จะพูดขึ้น

อีหยุ่น เสิ่นเหยียน อ้าวฉางคงผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งสามคน ทั้งหมดต่างก็มีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด เก็บเงียบไม่พูดไม่จา

หูเหวยซินหัวเราะอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง: “ปรมาจารย์โล่มีพลังวิชาที่เก่งกาจไม่เป็นสองรองใคร! ”

หลังจากนั้น หูเหวยซินก็มองไปที่อ้าวฉางคงและพูดว่า: “อ้าวฉางคง พวกเรายังมีบัญชีแค้นอีกอย่างที่ยังไม่ได้คิดชำระ! ”

“ส่งคนออกมาเลย! ”

อ้าวฉางคงสีหน้าหม่นหมอง แล้วมองไปยังนักบู๊วัยกลางคนที่อยู่ด้านข้าง นี่เขาก็ต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลในการเชิญมาด้วยเช่นกัน

“คุณหลี่……”

อ้าวฉางคงยังไม่ทันจะพูดจบ นักบู๊วัยกลางคนผู้นั้นก็ได้พูดแย้งเขาขึ้นมาว่า: “คุณอ้าว เงินมัดจำที่คุณได้ชำระให้กับข้า ข้าจะคืนกลับทั้งหมด คนผู้นี้มีพลังความสามารถที่แกร่งกล้ามาก ข้าไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา แม้ว่าจะขึ้นเวทีประลอง ก็เหมือนเป็นการสร้างความอับอายขายหน้าให้กับตนเอง”

อ้าวฉางคงมองไปยังนักบู๊อีกคนหนึ่ง ใบหน้าที่ประหม่าของนักบู๊คนนั้นขาวซีดไปหมดแล้ว

อ้าวฉางคงไม่ได้สอบถามแล้ว ถามไปก็เปล่าประโยชน์ ยอมพ่ายแพ้ไปเลยแล้วกัน

หูเหวยซินหัวเราะอย่างภาคภูมิใจยกใหญ่ จากนั้น ก็มองไปที่เสิ่นเหยียน: “น้องเสิ่น เมืองไห่ติ้งของนายข้าถูกใจกับมันแล้ว ส่งคนขึ้นมาประลองเถอะ! ”

เสิ่นเหยียนมองไปที่คุณเหยียน สายตาบ่งบอกเป็นนัยถึงการสอบถาม

คุณเหยียนพูดว่า: “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ว่า ข้าเต็มใจที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อคุณสักตั้ง เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้! ”

เสิ่นมี่พูดอย่างหนักแน่นว่า: “ไม่ได้ ในเมื่อรู้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ ทำไมจะต้องเอาชีวิตของคุณเหยียนเข้าแลกด้วย! ”

เสิ่นเหยียนพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “เสี่ยวมี่พูดได้ถูกต้อง แพ้ก็คือแพ้ ก็เพียงแค่สูญเสียผลประโยชน์ไปบ้างเล็กน้อย ถ้าหากจะต้องเอาชีวิตของคุณเหยียนเข้าแลก นั่นจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มากกว่า”

คุณเหยียนสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม แล้วทำการคารวะแสดงความเคารพต่อเสิ่นเหยียน: “บุญคุณของคุณเสิ่น ข้าไม่สามารถตอบแทนได้ จากนี้ต่อไปชีวิตนี้ของข้า เป็นของคุณเสิ่น มีอะไรรับสั่ง ข้าจะบุกน้ำลุยไฟ อย่างไม่เกรงกลัวความตาย! ”

“คุณเหยียนเกรงใจกันเกินไปแล้ว รีบลุกขึ้นเถอะ! ” เสิ่นเหยียนรีบประคองคุณเหยียนให้ลุกยืนขึ้น

“หูเหวยซิน คราวนี้นับว่านายแน่มาก ข้ายอมแพ้! ” เสิ่นเหยียนอยู่ฝั่งตรงข้ามของเวที แล้วพูดตะโกนให้กับหูเหวยซิน

บนเวทีประลอง เห็นว่าไม่มีผู้ใดขึ้นมา ผู้อาวุโสโล่ก็พูดเสียงดังขึ้น: “ยังจะมีผู้ใดอีกไหม? ”

“ปรมาจารย์หลินล่ะ? ข้าทราบว่านายอยู่ที่นี่ กล้าที่จะขึ้นมาประลองต่อสู้กับข้าสักยกไหม! ”

อีหยุ่นเบิกตาโพลงขึ้นโดยพลัน แล้วก็มองไปยังอีหลิงที่มีสีหน้าท่าทางตื่นตระหนกเช่นกัน: “ชายชราผู้นี้มาที่นี่เพื่อมุ่งเป้ามาที่ปรมาจารย์หลินโดยเฉพาะ! ”

อีหลิงขมวดคิ้ว พูดขึ้นอย่างสงสัยว่า: “หรือว่าเขาคือ เหล่าจู่ของตระกูลโล่? ”

อ้าวฉางคงกับเสิ่นเหยียนและหูเหวยซินผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งสามคน ต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่สงสัย

ปรมาจารย์หลินคือใคร?

โล่อู๋จี๋ยังคงกวาดสายตามองไปที่ทุกคน พร้อมกับเผยเจตนาสังหารอันเยือกเย็นออกมา: “ปรมาจารย์หลิน หากว่านายยังคงไม่ยอมออกมา ถ้าอย่างนั้นข้าจะฆ่าคนของตระกูลอีทั้งหมด! ”

“ไม่ใช่ว่านายสนใจเป็นห่วงพวกเขามากอย่างนั้นหรอกเหรอ? ”

ขณะที่พูด โล่อู๋จี๋ก็ได้กระโดดขึ้น แล้วพุ่งตรงไปยังอีหลิงเพื่อจับตัวเธอไว้

“แย่แล้ว! ”

คาร์นอตวิลเลียมรีบตะโกนดังขึ้น แล้วไปขวางอยู่ด้านหน้าของอีหลิง โดยความรวดเร็วของเขานั้นไม่มีความแตกต่างอะไรกับโล่อู๋จี๋

โครม!

คาร์นอตวิลเลียมกับโล่อู๋จี๋ปะทะพลังฝ่ามือกันกลางอากาศ

โล่อู๋จี๋หยุดลอยอยู่กลางอากาศ ส่วนคาร์นอตวิลเลียมถูกชกจนร่วงตกลงมากองกับพื้น และมีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก

“ช่างสมควรตาย ไอ้แก่นี้แข็งแกร่งมากเหมือนกันกับเจ้าพระยาแดร็กคิวล่าเลย! ”

“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ” อีหลิงมองไปที่คาร์นอตวิลเลียมด้วยความกังวล

เห็นแววตาที่ห่วงใยของอีหลิง คาร์นอตวิลเลียมก็รีบเผยรอยยิ้มที่หล่อเหลาออกมา: “เจ้าหญิงของฉัน คุณวางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร ฉันเต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อคุณจนถึงวินาทีสุดท้าย จนเลือดหยดสุดท้ายหลั่งไหลหมดสิ้น! ”

“คุณ……เวลานี้แล้ว คุณยังจะมีจิตใจล้อเล่นอยู่อีก! ” อีหลิงหมดหนทางจนถึงกับต้องเหลือบตาขาวใส่

โล่อู๋จี๋มองไปยังคาร์นอตวิลเลียมด้วยความแปลกใจเล็กน้อย: “ไม่เลว คงจะมีพลังความสามารถขั้นปรมาจารย์ระดับเล็กแล้ว! ”

“ดูเหมือนว่าพวกป่าเถื่อนทางตะวันตกเหล่านั้น ก็มีวิชาความสามารถที่แท้จริงอยู่บ้าง! ”

“นายว่าใครเป็นคนป่าเถื่อน! ” คาร์นอตวิลเลียมสีหน้าเคร่งขรึม แล้วลุกขึ้นยืนจากพื้น และแสดงท่าทางที่สง่างามสูงศักดิ์: “ข้าขอประกาศอย่างจริงจังอีกครั้งว่า ข้าคือฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าผู้สูงศักดิ์! ”

“นายดูถูกเหยียดหยามข้า ข้าจะต่อสู้กับนาย! ”

โล่อู๋จี๋ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา: “รนหาที่ตาย! ”

เสียงพูดยังไม่ทันสิ้นสุด ร่างของโล่อู๋จี๋ก็แวบหายไป ชั่วครู่ก็มาถึงเบื้องหน้าของคาร์นอตวิลเลียม แล้วก็ตบเข้าไปที่ขมับของเขาอย่างแรง

ร่างกายของคาร์นอตวิลเลียม บิดไปบิดมา แล้วก็หายสูญไปอย่างน่าแปลกใจ

“โอ้ว! ” โล่อู๋จี๋อุทานขึ้น: “คิดไม่ถึงว่านายจะใช้วิธีการแบบนี้ด้วย! ”

“แต่ว่า ต่อหน้าของข้าแล้ว ไม่ได้ผลอะไรทั้งนั้น! ”

พูดจบ ไม้เท้าในมือของโล่อู๋จี๋ก็ตั้งขึ้นเป็นแนวนอน ขณะนั้น ลำแสงสีเขียวก็พุ่งออกไปยังสี่ทิศทาง

ไม่นาน ร่างกายของคาร์นอตวิลเลียมก็ปรากฏอยู่กลางอากาศด้านหลังของโล่อู๋จี๋

“ตายซะ! ”

โล่อู๋จี๋ไม่แม้แต่มอง และได้ขว้างไม้เท้าตรงไปยังที่ศีรษะของคาร์นอตวิลเลียมในทันที

ด้านหลังของเขา เหมือนกับว่ามีดวงตาหนึ่งคู่อยู่อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งแม่นยำอย่างมาก

คาร์นอตวิลเลียมกรีดร้องขึ้น ร่างกายบิดไปบิดมาอีกครั้ง ชั่วครู่ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศในระยะห่างออกไปหลายเมตร

แต่ว่า คาร์นอตวิลเลียมกลับไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีนี้ได้ อ้าปากกระอักเลือดออกมา

“ไม่ได้แล้วไม่ได้แล้ว ไอ้แก่ที่สมควรตายนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเก่งกาจขนาดนี้! ”

“ไปตายซะ! ” โล่อู๋จี๋ไม่ได้ให้โอกาสคาร์นอตวิลเลียมได้หายใจ โดยได้ขว้างไม้เท้าตรงเข้าใส่คาร์นอตวิลเลียมอีกครั้ง

คาร์นอตวิลเลียมสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด: “แย่แล้ว ช่วงจังหวะได้ถูกล็อคไว้แล้ว หลบหลีกไม่พ้น จะต้องปะทะซึ่ง ๆ หน้าอย่างเดียว! ”

“โอ้ สู้ตาย! ”

คาร์นอตวิลเลียมใช้พละกำลังที่มีเหลืออยู่ทั้งหมด ก้อนลำแสงสีแดงเลือดปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา เบื้องหน้าของเขาค่อย ๆ ปรากฏพระจันทร์เสี้ยวสีแดงขึ้น

“ดาบจันทร์สีคราม!”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท