จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 655 มาหาคุณหนูรองอีกแล้ว

บทที่ 655 มาหาคุณหนูรองอีกแล้ว

หลังจากที่เงียบสงบลงไปชั่วครู่ ทุกคนในสถานที่แห่งนี้ก็เกิดการวิพากษณ์วิจารณ์กันขึ้นอย่างโกลาหล

โดยคนกลุ่มแรกที่ตื่นตะลึงก็คือคนของตระกูลหลิน

หลินเห้าถามขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนก: “พี่เสี่ยวหยู ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม! เขาต้องการที่จะหาหลินโร่สุ่ยไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนั้น! ”

หลินเสี่ยวหยูก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึงด้วยเช่นกัน: “แกไม่ได้ฟังผิดหรอก ฉันก็ได้ยินเหมือนกัน เขาพูดสองรอบแล้ว ต้องการหาคุณหนูรองหลิน หลินโร่สุ่ย! ”

พวกผู้อาวุโสตระกูลหลินเหล่านั้น ก็จ้องมองหน้าซี่งกันและกัน

“ตงเย่ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าประธานเหรินคนนี้ต้องการที่จะมาหาโร่สุ่ยลูกสาวของนายอย่างนั้นหรอกเหรอ? ”

เวลานี้หลินตงเย่วก็มีสีหน้าท่าทางที่สงสัยเช่นกัน: “เป็นไปไม่ได้ ไอ้เด็กที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนั้นจะไปรู้จักกับประธานบริษัทเกนเนอร์ได้อย่างไรกันล่ะ! ”

“บางทีประธานเหรินผู้นี้อาจจะพูดผิดไปก็เป็นได้”

มาดามหลินพูดขึ้นด้วยความสงสัย: “เขาพูดชื่ออย่างชัดเจนว่าต้องการหาโร่สุ่ยแล้ว คงจะไม่ผิดหรอก! ”

หลินตงเย่วไม่อยากจะเชื่อ และยืนหยัดพูดอีกทีว่า: “ต่อให้พูดชื่อขึ้น บางทีอาจจะแค่สอบถามก็เป็นได้ ลูกสาวคนรองที่ไม่ได้เรื่องได้ราวคนนั้น จะสามารถเชิญให้ประธานบริษัทเกนเนอร์ที่เป็นหนึ่งในสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนมาร่วมงานพิธีเปิดบริษัทของเธอได้อย่างไรกัน! ”

คนของตระกูลหลินจ้องมองหน้าซึ่งกันและกัน พวกเขาต่างก็ทราบกันดีถึงความสามารถของหลินโร่สุ่ย ไม่ว่าจะอย่างไรหลินโร่สุ่ยก็คงจะไม่สามารถเชิญประธานบริษัทเกนเนอร์ให้มาร่วมงานได้!

ทุกคนในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็กระซิบพูดคุยกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ต่างก็กำลังรอฟังอยู่ว่า คุณหนูรองหลินผู้นั้นคือใคร

จากนั้น หลินโร่สุ่ยที่อยู่ในมุมห้อง ก็กลายเป็นเป้าหมายสายตาของทุกคนไปโดยทันที

เมื่อเห็นงานพิธีเปิดบริษัทของหลินโร่สุ่ย ที่มีความต๊อกต่อยขนาดนั้น ทุกคนต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง

“ใช่จริง ๆ เหรอเนี่ย ฉันคิดว่านั่นเป็นงานที่จัดขึ้นเล่น ๆ? คิดไม่ถึงว่านั่นจะเป็นพิธีเปิดบริษัทของคุณหนูรองหลิน! ”

“นั่นน่ะสิ ทั้งหมดมีเพียงแค่สามโต๊ะ เวทีก็มีขนาดเล็กนิดเดียว ลองมาดูพื้นที่จัดงานของคุณหนูหลินคนโตสิ ช่างเปรียบเทียบกันไม่ได้อย่างสิ้นเชิง”

“ประธานเหรินคงไม่ได้มาร่วมงานพิธีเปิดบริษัทของคุณหนูรองหลินจริง ๆ ใช่ไหม? คุณหนูรองหลินนี้ มองดูแล้วไม่น่าจะใช่ผู้ที่สามารถเชิญประธานเหรินผู้ยิ่งใหญ่ระดับนี้ให้มาร่วมงานได้! ”

“ใครจะไปทราบได้ว่าภายในนี้เกิดอะไรขึ้น ไม่แน่วันนี้อาจจะมีเรื่องราวที่น่าสนุกให้ได้ติดตามกัน”

หลังจากที่หลินโร่หลันตะลึงไปแล้วชั่วครู่นั้น ก็พูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มอีกครั้งว่า: “ประธานเหริน ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้พูดเล่นตลกกับฉัน? ท่านรู้จักน้องสาวของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ท่านแน่ใจนะว่ามาร่วมงานพิธีเปิดบริษัทของเธอ? ”

ประธานเหรินพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “คุณหลิน นั่นคือน้องสาวของคุณ ขอให้คุณอย่าได้ปฏิบัติกับเธอด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้อีก! ”

พูดจบ ประธานเหรินก็หันหน้าไปทางมุมห้อง แล้วก็เดินตรงไปหาหลินโร่สุ่ยบริเวณที่โต๊ะสามตัวตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวนั้น

เมื่อครู่ ตามสายตาของทุกคนที่มองไปนั้น ประธานเหรินก็พบเห็นตำแหน่งที่อยู่ของหลินโร่สุ่ย รวมถึงอักษรขนาดเล็กหนึ่งแถวที่ช่างดูต๊อกต๋อยยิ่งนัก

“พิธีเปิดบริษัท โร่สุ่ย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด”

ใบหน้าที่งดงามของหลินโร่หลัน แสดงออกทั้งอาการโมโหและหงุดหงิดซึ่งดูย่ำแย่อย่างที่สุด

มองไปที่แผ่นหลังของประธานเหรินด้วยความไม่พึงพอใจ กำหมัดสองข้างขึ้นอย่างแน่น: “ทำไม! โร่สุ่ยไปรู้จักประธานเหรินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! นี่มันเป็นไปได้อย่างไร! ”

ผู้คนจำนวนมากในสถานที่จัดงานต่างก็มองไปที่ประธานเหริน เห็นเขาเดินมาถึงเบื้องหน้าของ หลินโร่สุ่ย แล้วก็ได้นำของขวัญที่ได้เตรียมไว้มอบให้กับหลินโร่สุ่ย

“คุณหนูรองหลิน ฉันขอให้กิจการของคุณเจริญรุ่งเรือง! ต่อไปหากมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วยเหลือ ก็ขอให้คุณหนูรองหลินเอ่ยปากมาได้เลย! ”

หลินโร่สุ่ยหน้าตาแข็งทื่อโดยมองไปยังประธานเหรินที่กำลังโค้งคำนับให้กับตนเอง แล้วก็ตกตะลึงอย่างที่สุด

นี่เป็นถึงประธานบริษัทเกนเนอร์เลยทีเดียว!

นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาร่วมงานพิธีเปิดบริษัทของตนเอง!

นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? ฉันไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่!

ผ่านไปสักพักใหญ่หลินโร่สุ่ยก็ยังคงตั้งสติกลับคืนมาไม่ได้ โดยที่ประธานเหรินได้กระซิบเตือนเธอขึ้นว่า: “คุณหนูรองหลินไม่ต้องตื่นตะลึงไป ฉันได้รับคำสั่งจากคุณหลินให้มาอวยพรแสดงความยินดีต่อคุณหนูรองหลิน! ”

หลินโร่สุ่ยพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า: “คุณหลิน? คุณหลินคนไหนเหรอ? ฉันไปรู้จักบุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! ”

ประธานเหรินยิ้มอย่างขมขื่นและพูดขึ้นว่า: “คุณหนูรองหลิน คุณรับของขวัญของฉันก่อนได้ไหม แล้วพวกเราค่อยมาพูดคุยกัน”

“อ้ออ้อ ฉันลืมไปเลย ขอโทษจริง ๆ! ” หลินโร่สุ่ยหน้าตาแดงก่ำ แล้วก็รีบรับของขวัญจากมือของประธานเหริน พร้อมพูดว่า: “ประธานเหริน เชิญนั่งลงก่อน! ”

หลินโร่หลันมองไปยังประธานเหรินที่มีท่าทางสุภาพและเคารพ ในใจยิ่งตะลึงมากขึ้นไปอีก:“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน! ประธานเหรินปฏิบัติต่อโร่สุ่ยด้วยความนอบน้อมขนาดนี้! ต่อให้เป็นเพราะสถานะของตระกูลหลิน ก็คงไม่ถึงกับต้องให้ประธานเหรินปฏิบัติถึงขนาดนี้! ”

“นี่มัน ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”

ไม่เพียงแค่หลินโร่หลันที่ตกตะลึง ผู้คนเหล่านั้นที่มาแสดงความยินดีต่อหลินโร่หลัน ต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึงเช่นเดียวกัน

บุคคลผู้ยิ่งใหญ่อย่างประธานเหริน ทำไมถึงได้ปฏิบัติต่อหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งของตระกูลหลินด้วยท่าทางนอบน้อมขนาดนี้ด้วย?

หรือว่าหญิงสาวผู้นั้นเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นนั้นเหรอ?

หวางเหวินหย่วนค่อย ๆ เดินเข้ามา แล้วกุมมือที่เย็นยะเยือกของหลินโร่หลันเอาไว้ พร้อมกับพูดด้วยเสียงอันอบอุ่น: “อย่ากังวลใจไปเลย ก็แค่ประธานเหรินเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อสถานการณ์โดยรวม ซึ่งอย่าลืมไปว่า พวกเรายังมีประธานสือแห่งบริษัทหลงสือที่ยังมาไม่ถึง! ”

หลินโร่หลันเบาใจลงได้บ้าง ใช่แล้ว ยังมีประธานสือแห่งบริษัทหลงสือที่ยังไม่มา

บริษัทหลงสือ ก็เหมือนกันกับบริษัทเกนเนอร์ ที่เป็นหนึ่งในสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนเช่นกัน

สถานะของประธานสือ แน่นอนว่ามีความทัดเทียมเท่ากับประธานเหริน

ขณะที่กำลังคิด เด็กหนุ่มที่เฝ้าประตูด้านนอกก็ได้วิ่งเข้ามาอีกครั้ง และรายงานต่อหวางเหวินหย่วนว่า: “คุณชายหวาง ประธานสือแห่งบริษัทหลงสือมาถึงแล้ว! ”

หวางเหวินหย่วนยิ้มและมองไปที่หลินโร่หลัน: “ประธานสือมาถึงแล้ว ฉันจะไปต้อนรับด้วยตนเอง! ”

หลินโร่หลันเผยรอยยิ้มที่จริงใจออกมา และมองไปที่หวางเหวินหย่วนอย่างซาบซึ้ง เมื่อครู่กำลังพูดถึงว่าเจ้านายใหญ่ของบริษัทหลงสือยังไม่มา ซึ่งตอนนี้ก็ได้มาถึงแล้ว

“เหวินหย่วน ฉันจะไปต้อนรับประธานสือพร้อมกันกับคุณ! ” หลินโร่หลันจึงรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว

“อืม! ” หวางเหวินหย่วนยิ้มและพยักหน้า ทั้งสองคนก็เดินไปยังที่ประตูพร้อมกัน

ประธานสือของบริษัทหลงสือ มีอายุเพียงสี่สิบกว่าปี รูปร่างค่อนข้างเล็กเตี้ย แต่กลับมีคู่ดวงตาที่เฉียบแหลมเป็นอย่างมาก

เมื่อเดินเข้ามา สายตาของประธานสือ ก็รีบจับจ้องไปที่ตัวของหวางเหวินหย่วนในทันที โดยได้หัวเราะและยกมือแสดงความเคารพพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “คุณชายหวาง พบกันอีกครั้งแล้ว! ”

หวางเหวินหย่วนยกมือแสดงความเคารพตอบ ยิ้มและพูดว่า: “ประธานสือสามารถมาร่วมงานได้ ถือเป็นเกียรติต่อผู้น้อยอย่างมาก! ”

หลินโร่หลันคำนับแสดงความเคารพ: “สวัสดีประธานสือ! ”

ประธานสือหัวเราะเหอะเหอะแล้วพูดขึ้นว่า: “คุณหนูหลินคนโตมีกิริยาท่าทางที่โดดเด่นเป็นสง่า มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม คุณชายหวางช่างตาถึงจริง ๆ! ”

หลินโร่หลันยื่นมือออกมาเพื่อทำท่าทางเชิญ: “ประธานสือ เชิญนั่ง! ”

คาดไม่ถึงว่า ประธานสือส่ายมือไปมาและพูดขึ้นว่า: “คุณชายหวาง คุณหนูหลินคนโต ต้องขอโทษด้วย อันที่จริงที่ฉันมาในวันนี้ ก็เพื่อมาร่วมงานพิธีเปิดบริษัทของคุณหนูรองหลินโดยเฉพาะ! ”

พูดจบ ไม่ทันรอให้คุณชายหวางกับหลินโร่หลันตั้งสติกลับคืนมา ประธานสือก็ยกมือทำความเคารพและพูดว่า: “ขอตัวก่อน! ”

พูดจบ ก็เดินไปยังงานพิธีเปิดบริษัทของหลินโร่สุ่ยที่อยู่ในมุมห้อง

หลินโร่หลันร่างกายแข็งทื่อไปในทันที

หวางเหวินหย่วนก็ขมวดคิ้วขึ้น ตกตะลึงไปพอสมควร

ทุกคนของตระกูลหลิน ยิ่งเต็มไปด้วยความตกตะลึง

หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้าทั้งสองคนใบหน้าแสดงอาการตื่นตระหนกมากที่สุด: “นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร! ประธานสือแห่งบริษัทหลงสือ ก็ไปร่วมงานพิธีเปิดบริษัทของหลินโร่สุ่ย! ”

“นี่ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่! ”

ผู้อาวุโสตระกูลหลินหลายท่าน มองไปที่หลินตงเย่วอย่างมีเลศนัย หัวเราะเหอะเหอะแล้วพูดว่า: “ตงเย่ว นายปกปิดได้อย่างลึกลับมากเลยทีเดียว! นายเรียกอยู่ตลอดว่าไอ้เด็กไม่ได้เรื่องได้ราว แต่ไอ้เด็กไม่ได้เรื่องได้ราวของนายคนนี้ กลับเชิญประธานของบริษัทหลงสือและบริษัทเกนเนอร์ให้มาร่วมงานได้! ”

“นายคิดพยายามที่จะทำให้ใครอับอายขายหน้าล่ะ? ”

หลินตงเย่วรีบพูดอธิบายขึ้น: “ทุกท่านอย่าได้เข้าใจผิดไป เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าไอ้เด็กไม่ได้เรื่องได้ราวคนนั้นได้ไปรู้จักกับประธานของบริษัทหลงสือและบริษัทเกนเนอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! ”

“โร่หลัน นี่ตกลงว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ” หลินตงเย่วทำได้เพียงสอบถามหลินโร่หลัน

หลินโร่หันก็กำลังมีสีหน้าที่ย่ำแย่ และเมื่อได้ยินหลินตงเย่วถามขึ้น ก็ตอบกลับด้วยความเย็นชา: “ฉันก็กำลังอยากที่จะถามอยู่เหมือนกันว่า น้องสาวโร่สุ่ยไปรู้จักกับประธานของบริษัทหลงสือและบริษัทเกนเนอร์ได้อย่างไร! ”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท