เซี่ยเจี้ยนโก๋ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และมองไปที่หลินหยุน
“ลูกเขยที่ดี เพราะมีเธอ!” เซี่ยเจี้ยนโก๋ถอนหายใจ
หลินหยุนไม่ตอบ ใบหน้าไม่แยแส
ข้างๆ เจ้าสามยิ้ม และพูดว่า “พี่ใหญ่ มีธุระอะไร พี่แค่สั่งมา ผมจะไปจัดการให้พี่เอง พี่กับพี่สะใภ้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมก็ไม่รบกวนพี่พักผ่อนแล้วล่ะ”
“อืม” เซี่ยเจี้ยนโก๋พยักหน้า แต่ก่อนเจ้าสามไม่เคยสุภาพกับเขาเช่นนี้
หลังจากที่เจ้าสามจากไปแล้ว ในห้องโถงก็เหลือแต่คนในครอบครัวของเซี่ยเจี้ยนโก๋
หลินหยุนพูดเบาๆ “นับจากนี้ไป พวกคุณอยู่ในตระกูลเซี่ย มีตำแหน่งและจุดยืนของตัวเองแล้ว”
“ผมก็ควรไปแล้ว”
เมื่อได้ฟังว่าหลินหยุนกำลังจะจากไป เซี่ยเจี้ยนโก๋และอีกสองคนก็ตกใจในเวลาเดียวกัน
“อย่าเลย หลินหยุน นี่มันดึกมากแล้ว พักหนึ่งคืนแล้วค่อยไปเถอะ!” เซี่ยเจี้ยนโก๋รีบพูด
เรื่องทั้งหมดในวันนี้ เซี่ยเจี้ยนโก๋รู้สึกราวกับว่ากำลังฝัน ถ้าหลินหยุนไม่อยู่ ที่นี่ เขารู้สึกไม่สบายใจ
แม้ว่าในใจจะรู้ดี หลังจากประสบการณ์ในวันนี้ ในอนาคตทุกคนในตระกูลเซี่ยจะต้องสุภาพกับเขาอย่างแน่นอน แต่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมามีนิสัยไม่มั่นใจจนเคยชิน เมื่อได้ยินว่าหลินหยุนกำลังจะไป เซี่ยเจี้ยนโก๋ก็รู้สึกหวาดกลัว
โจวเฟินก็เกลี้ยกล่อม “ใช่แล้ว เสี่ยวหยุน พรุ่งนี้ค่อยไปเถอะ วันนี้ดึกมากแล้ว อยู่ต่อเถอะ ก็แค่คืนเดียวเอง”
“อีกอย่าง ฉันยังมีเรื่อง อยากจะพูดกับเธอเพียงลำพัง”
เซี่ยหยู่เวยหัวใจหวั่นไหว อดไม่ได้ที่จะมองไปที่โจวเฟิน
โดยบังเอิญ โจวเฟินก็มองเธอ และกลอกตาให้เธอ
ชั่วขณะเซี่ยหยู่เวยรู้ทันที แต่ว่า เธอไม่ได้พูดอะไรมาก เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลินหยุนในปัจจุบันนั้น ถ้าไม่พอใจ ก็จะทำให้หลินหยุนเบื่อหน่ายได้
ดังนั้น วิธีที่สมเหตุสมผลที่สุด คือไม่พูดอะไร ถ้าไม่พูดก็ไม่ทำผิดพลาดได้ง่ายๆ
การเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนของโจวเฟิน ไม่สามารถปิดบังหลินหยุนได้ เขาเข้าใจอย่างชัดเจน โจวเฟินต้องการพูดอะไรกับเขา
“ช่างมันเถอะ ความรักและความเกลียดชังในชาติที่แล้ว ความรักและความแค้นในชาตินี้ ท้ายสุดก็ต้องให้มันสิ้นสุดลง”
“คืนนี้ ให้ทุกอย่างสิ้นสุดลง”
หลินหยุนพูดว่า “โอเค ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมค่อยไป”
เซี่ยเจี้ยนโก๋และโจวเฟินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ดีมาก ตอนนี้ฉันจะไปทำความสะอาดห้องให้เธอ”
โจวเฟินขึ้นไปชั้นบนด้วยความปิติยินดี เพื่อทำความสะอาดห้องให้หลินหยุน
เซี่ยหยู่เวยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอกลัวว่าหลินหยุนจะจากไป ถ้าเป็นเช่นนั้น แผนการของเธอก็ไม่สามารถดำเนินการต่อได้
เซี่ยเจี้ยนโก๋ยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวหยุน นั่งลง หยู่เวย เธอไปชงชามา!”
“ค่ะ” เซี่ยหยู่เวยพยักหน้าเบาๆ และก็ค่อยๆเดินออกไป ดูแล้วเหมือนคนที่มีฐานะสูงส่งและไม่เย่อหยิ่ง ลักษณะท่าทางมาจากตระกูลผู้ดี
หากไม่ใช่คุ้นเคยกับครอบครัวของเซี่ยหยู่เวย คงคิดว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ที่มาจากตระกูลผู้ดีเก่าแก่เป็นร้อยปี
“ไม่ล่ะ ผมอยากพักผ่อนแล้ว”
ระหว่างหลินหยุนกับเซี่ยเจี้ยนโก๋ ไม่มีอะไรจะพูด ซึ่งมีแต่จะเพิ่มความลำบากใจ หลินหยุนไม่ชอบบรรยากาศนี้
“โอเค!” เซี่ยเจี้ยนโก๋รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ดูเหมือนว่า หลินหยุนยังคงมีอคติกับเขา
เซี่ยหยู่เวยที่กำลังชงชา มือขาวเนียนของเธอสั่น หยดน้ำเดือดกระเด็นออกมาหยดลงบนมือขาวเนียนของเธอ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไร และปล่อยให้ผิวบริเวณนั้น จากขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง
รอจนหลินหยุนขึ้นไปชั้นบนแล้ว เซี่ยหยู่เวยก็หันไปมอง และดวงตามีประกายความเร่าร้อน “หลินหยุน คืนนี้ ฉันจะต้องทำให้นายเปลี่ยนใจ”
หลังอาหารมื้อเย็น ในห้องเซี่ยหยู่เวย
โจวเฟินนั่งบนเก้าอี้ และมองเซี่ยหยู่เวย “เธออยากพูดอะไร พูดในห้องฉันไม่ได้เหรอ ต้องลากฉันมาที่ห้องเธอ!”
เซี่ยหยู่เวยแสดงสีหน้าจริงจัง และคุกเข่าต่อหน้าโจวเฟิน ทำให้โจวเฟินตกใจ
“นี่ ลูกคนนี้ นี่กำลังทำอะไร! รีบลุกขึ้น ฉันคือแม่แท้ๆของลูก มีอะไรก็พูดมา จำเป็นต้องทำขนาดนี้เหรอ!”
ขณะที่โจวเฟินพูด ก็ดึงเซี่ยหยู่เวยขึ้น แต่ว่า ดึงไม่ขึ้นเลย
เซี่ยหยู่เวยกลับกดเธอลงบนเก้าอี้ จ้องเธอด้วยใบหน้าที่จริงจัง “แม่ ฟังฉันนะ”
“เรื่องนี้ เกี่ยวโยงกับความสุขทั้งชีวิตของลูก ท่านต้องทุ่มสุดตัว!”
โจวเฟินไม่ได้ดิ้น และนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วมองเซี่ยหยู่เวย และพูดเบาๆ “เธอต้องการให้ฉันช่วยเธอไปเกลี้ยกล่อมเสี่ยวหยุนเหรอ!”
เซี่ยหยู่เวยตกใจเล็กน้อย “แม่ดูออกเหรอค่ะ?”
โจวเฟินทำเสียงเย็นชา “เธอเป็นคนที่ฉันคลอดออกมา ในใจคิดอะไรอยู่ ฉันจะไม่เข้าใจได้ไง?”
“ฉันบอกเธอไปนานแล้ว อย่าทำเกินไป ทำดีกับเสี่ยวหยุนหน่อย แต่เธอไม่ฟัง ตอนนี้รู้ว่าเสียใจแล้วเหรอ?”
เซี่ยหยู่เวยก้มศีรษะลง “แม่ ลูกสำนึกผิดแล้ว”
“ดังนั้น ฉันอยากจะขอให้แม่ออกหน้า และบอกเขาให้โอกาสฉันอีกครั้ง โอกาสแก้ไขตัวเองอีกครั้ง”
โจวเฟินขมวดคิ้ว และถอนหายใจ “มันยาก เพราะว่า ก่อนหน้านี้เธอทำเกินไป”
เซี่ยหยู่เวยพูดอย่างกังวล “คุณแม่ เขาเชื่อฟังคุณแม่มากที่สุด ทุกครั้งที่แม่พูดอะไร เขาไม่เคยปฏิเสธ ขอเพียงแม่ไปขอร้องเขา เขาจะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน”
โจวเฟินส่ายหัว “ถ้าเป็นเรื่องอื่น ก็พูดง่าย เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะไปขอร้องเขา เขาก็อาจจะไม่เห็นด้วย”
“อีกอย่าง เธอรู้ไหมว่าทำไมทัศนคติของเขาที่มีต่อฉันจึงพิเศษมากกว่าคนอื่น?”
“นั่นเป็นเพราะ เสี่ยวหยุนเด็กคนนี้ เป็นเด็กที่มีจิตใต้สำนึกที่ดี เขากำลังตอบแทน ตอบแทนบุญคุณฉันที่ฉันเลี้ยงดูเขาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา”
เซี่ยหยู่เวยพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “คุณแม่ แต่ก่อนฉันเคยทำผิด ฉันรู้แล้วว่าฉันผิดไปแล้วจริงๆ ครั้งเดียว แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว คุณแม่ก็ช่วยฉันแค่ครั้งเดียว!”
“ขอเพียงเขาให้โอกาสฉันสักครั้งก็พอ”
โจวเฟินยืนขึ้น มองไปที่เซี่ยหยู่เวย และพูดอย่างจนปัญญา “ฉันจะไปคุยกับเขา ใครให้เธอเป็นลูกสาวของฉัน!”
“ขอบคุณค่ะแม่!” เซี่ยหยู่เวยยิ้ม
ในห้องนอนของหลินหยุน หลินหยุนที่กำลังนั่งขัดตะหมาดฝึกสมาธิ จู่ๆก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่ประตู
“สิ่งที่ควรมา ในที่สุดก็มาแล้ว”
ปังๆๆ!
เสียงเคาะประตู และเสียงของโจวเฟินก็ดังขึ้น “เสี่ยวหยุน เธออยู่ไหม?”
หลินหยุนลงจากเตียง ก้าวเท้าเดียว ก็มาถึงประตูแล้ว
เมื่อเปิดประตู โจวเฟินกำลังยืนอยู่ที่ประตู มือข้างเดียวยังคงท่าเคาะประตูอยู่
“น้าเฟิน!” หลินหยุนกระซิบเบาๆ และเอนตัวไปด้านข้าง ให้โจวเฟินเดินเข้าไป
โจวเฟินนั่งลงบนเก้าอี้ มองไปที่หลินหยุน ยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวหยุน นานแค่ไหนแล้วที่พวกเรา ไม่ได้นั่งคุยกัน?”
หลินหยุนนั่งลงตรงข้ามกับโจวเฟิน มองโจวเฟิน ยิ้มและพูดว่า “น้าเฟินมีเรื่องพูด ก็พูดออกมาตรงๆได้เลย”
โจวเฟินผงะไปครู่หนึ่ง และหัวเราะออกมาดังๆ
“อืม ไม่มีอะไรสามารถหลบสายตาของเธอได้”
สีหน้าของโจวเฟิน ค่อยๆจริงจังขึ้นเรื่อยๆ จ้องไปที่หลินหยุน และพูดว่า “เสี่ยวหยุน ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เธอเปลี่ยนเป็นเก่งกาจมาก และมีความสามารถมาก”
“แม้ฉันไม่รู้ว่าความสามารถเหล่านี้ของเธอ ฝึกมาตั้งแต่เมื่อใด แต่ว่า ฉันรู้ว่าตอนที่เธอเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ ต้องทนทุกข์ทรมานมาก”
“คนเดียว วันนี้ได้รับเกียรติเพียงใด เบื้องหลัง จะต้องแลกมาด้วยความพยายามอย่างหนักถึงสิบเท่า”
“ตอนที่เธอลำบากที่สุด หยู่เวยเลือกที่จะทิ้งเธอไป เธอก็สูญเสียคุณสมบัติที่จะแบ่งปันความสำเร็จกับเธอ”
“แต่ว่า ฉันเฝ้าดูเธอเติบโต ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ยังหวังว่าเธอทั้งสองจะอยู่ด้วยกันได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น หยู่เวยตอนนี้รู้ตัวว่าผิดแล้ว เสี่ยวหยุนให้โอกาสเธอสักครั้งได้ไหม?”
นอกประตู เซี่ยหยู่เวยฟังอย่างเงียบๆ เธอกำมือไว้แน่น
หลินหยุนมองไปที่โจวเฟิน ด้วยท่าทางนิ่งสงบ
สำหรับวันนี้ เขาคาดการณ์ไว้นานแล้ว และเตรียมคำพูดไว้แล้ว
“น้าเฟิน ผมได้พบพ่อแม่แท้ๆของผมแล้ว อีกอย่าง ผมก็มีคนที่ชอบแล้วด้วย ขอโทษด้วย!”
ตูม!
เซี่ยอยู่เวยที่อยู่นอกประตู ดูเหมือนหัวใจจะแตกสลาย