ก่อนออกเดินทางหงซานเหอกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง”เยนหนานเทียนเป็นที่รู้จักในนามเทพกระบี่ เขาเริ่มมีชื่อเสียงเมื่อสามสิบปีที่ก่อนและเขาเป็นอันดับหนึ่งในลำดับรายชื่อปรมาจารย์!”
“เขาโด่งดังมาก่อนเจียงร่อโจ๋เทพเจ้าแห่งสงครามในเมืองหลวงเสียอีก ความแข็งแกร่งของเขาต้องไม่ถูกประเมินค่าต่ำไป”
“คุณต้องระวังอย่างมากในเรื่องนี้!”
หลินหยุนพูดเบาๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “มันต้องตาย”
หงซานเหออยากจะดุหลินหยุนไม่ให้ประเมินศัตรูต่ำเกินไป
แต่เมื่อคิดว่าหลินหยุนต้องรู้สึกแย่ในตอนนี้ หงซานเหอจึงทำได้เพียงกลั้นไว้
“ยังไงก็ระมัดระวังดีๆ !”
“ออกบินได้ พาเขาไปยังที่หมายโดยตรง!” หงซานเหอสั่งการกับนักบิน
“รับทราบครับ!”
ณ เจียงหนาน บนยอดเขาหน้าสุสานของเยนเป่ยเฟยและเยนหมิงหยู่
ภูเขาลูกนี้เป็นของตระกูลเยนซึ่งมีทำเลที่ดีมาก มีฮวงจุ้ยที่ยอดเยี่ยม มันเป็นของเฉี่ยนหลง
สมาชิกในตระกูลเยนส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ที่นี่
เยนเป่ยเฟยและเยนหมิงหยู่ถูกฝังบนยอดเขา ซึ่งเป็นบริเวณที่ดีที่สุดของพื้นที่ในภูเขาทั้งหมด
ในขณะนี้ที่หน้าหลุมฝังศพเพิ่งซ่อมแซมเสร็จทั้งสองหลุม เยนหนานเทียนสวมใส่ชุดขาวยืนสงบนิ่งๆ
ถนนบนภูเขาที่ขรุขระซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร ทุกคนในตระกูลหลินยังคงเดินขึ้นไปอย่างช้าๆ
เวลาสองสามชั่วโมงในการเดินขึ้นภูเขาลูกนี้ ผู้อาวุโสทั้งห้าของตระกูลหลินได้เป็นลมไปหลายครั้งแล้ว แต่ฟื้นขึ้นมาได้เพราะเยนหนานเทียนสาดน้ำใส่
“ลูกเอ๋ย หลานเอ๋ย พวกเจ้าเห็นแล้วใช่ไหม นี่คือครอบครัวของปรมาจารย์หลิน ข้าต้องการให้พวกเขาได้รับความอัปยศอดสู จากนั้นก็ฆ่าพวกเขา!”
“และอีกอย่างข้าจะฆ่าพวกเขาต่อหน้าปรมาจารย์หลิน เพื่อให้ปรมาจารย์หลินทรมานจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป”
สมาชิกของหน่วยมังกรที่อยู่ไม่ไกลเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความโกรธ “มันจะมากเกินไปแล้วนะ! เยนหนานเทียนผู้นี้ไม่คู่ควรกับฉายาเทพกระบี่!”
“คาดไม่ถึงว่าทรมานคนแก่ที่ไร้อาวุธขนาดนี้!”
“ไม่ได้ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันจะต้องหยุดเขา!” หลงสือเล่วลุกขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว เตรียมตัวพุ่งเข้าไปหาเยนหนานเทียน
“หยุด!” หลงสืออีตะโกนด้วยเสียงขรึม “ถ้าไปแล้วจะหยุดเขาได้ไหม?”
“ถ้าทำให้เยนหนานเทียนโกรธ มันจะทำร้ายตระกูลหลินทันที!”
“นายใจเย็นหน่อยสิ!”
“เฮ้อ!” หลงสือเล่วกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด และต่อยลำต้นของต้นไม้ข้างๆ ตัวเขา ทิ้งรอยหมัดลึกเอาไว้
“ฉันหวังว่าปรมาจารย์หลินจะกลับมาโดยเร็ว แล้วสั่งสอนเยนหนานเทียนคนหน้าซื่อใจคดเจ้าเล่ห์คนนี้”
หลงสืออีไม่ได้พูดอะไร เขาแอบกังวลอยู่ในใจ”แม้ว่าปรมาจารย์หลินจะกลับมา แต่เขาอาจจะไม่ชนะเยนหนานเทียน!”
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเครื่องบินขนาดเล็กกำลังบินขึ้นไปบนยอดเขาอย่างช้าๆ
ในที่สุดหลินหยุนก็รีบกลับมา
บินที่ความสูงมากกว่าหนึ่งหมื่นฟุต อาคารด้านล่างเป็นเพียงจุดเล็กๆ คล้ายมด
เป็นคน ไม่สามารถมองเห็นร่างคนได้ชัดแน่ๆ
แต่ ด้วยความสามารถทางสายตาของหลินหยุน จากความสูงมากกว่าหนึ่งหมื่นฟุตเขาสามารถมองเห็นไฝบนใบหน้าของบุคคลนั้นได้อย่างชัดเจน
หลินหยุนมองเห็นสมาชิกตระกูลหลินที่เดินไปตามถนนบนภูเขาด้วยความยากลำบาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นว่าหลินซื่อเฉิงปู่ของเขาและพ่อแม่ของเขากำลังเดินอย่างยากลำบากขึ้นไปบนภูเขา หัวเข่าและข้อศอกของพวกเขามีเลือดซึม
ลมหายใจของหลินหยุนไม่แยแสขึ้นเรื่อยๆ
รังสีแห่งการสังหารที่แพร่จากตัวเขาทำให้นักบินเสี่ยวหลี่ตกใจ
“ปรมาจารย์หลิน ลงจอดตรงไหนดีครับ?” เสี่ยวหลี่ต้องการส่งให้เขาให้เรียบร้อย แล้วรีบออกไปจากตรงนี้เร็วๆ
น่ากลัวมาก น่ากลัวมากจริงๆ !
ตอนอยู่กับเจียงร่อโจ๋เทพเจ้าแห่งสงครามของจีน เขายังไม่เคยรู้สึกถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน
หลินหยุนไม่ตอบในทันที แต่เมื่อเครื่องบินใกล้ถึงยอดเขา เขาก็พูดขึ้นทันทีว่า “ลงจอดได้!”
“ครับ!” เสี่ยวหลี่ตอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลงจอดในทันที
แต่ว่าเสี่ยวหลี่เริ่มนึกอะไรขึ้นได้“ปรมาจารย์หลิน ลงจอดบนยอดเขาด้านล่างไม่ได้ สนามบินที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปยี่สิบกิโลเมตร!”
หลินหยุนพูดเบาๆ “ไม่จำเป็น เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
“รับทราบ!”
เสี่ยวหลี่กำลังจะเปิดประตู แต่ทันใดนั้นก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงถามว่า “ปรมาจารย์หลิน จะเปิดประตูตอนนี้ไปทำไมครับ?”
“คุณมีหน้าที่เปิดก็พอ” หลินหยุนพูดเบาๆ
“รับทราบ!” เสี่ยวหลี่อดทนต่อข้อสงสัยของเขาแล้วเปิดประตูเครื่องบิน
จากนั้นฉากที่ลืมไม่ลงสำหรับเสี่ยวหลี่ก็ปรากฏขึ้น
หลินหยุนดิ่งจากที่สูงลงไปตรงๆ
จากระดับความสูงมากกว่าหนึ่งหมื่นฟุต เขากระโดดลงไปโดยไม่มีร่มชูชีพ
หลังจากได้สติเสี่ยวหลี่ก็ร้องเสียงหลง “ปรมาจารย์หลิน!”
“เคยได้ยินมาว่าปรมาจารย์หลินเคยกระโดดเฮลิคอปเตอร์ต่อหน้าสมาชิกของมังกรฟ้า ตอนแรกฉันไม่เชื่อ ฉันคิดว่าแค่คุยโม้ แต่ปรากฏว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความจริงทั้งหมด!”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสี่ยวหลี่ตกใจ ความสูงของระดับการบินของเฮลิคอปเตอร์นั้นต่ำกว่าเครื่องบินส่วนตัวมาก หลินหยุนกล้าที่จะกระโดดลงจากเครื่องบินส่วนตัว ส่วนเฮลิคอปเตอร์คือเรื่องจิ๊บๆ สำหรับเขา
เยนหนานเทียนที่ยืนอยู่หน้าหลุมศพรู้สึกเอะใจเล็กน้อยจึงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อเห็นจุดดำเล็กๆ นั้นค่อยๆ ดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็เห็นเป็นคนที่ตกลงบนพื้นห่างออกไปสิบเมตรจึงพื้นยุบเป็นหลุมต่อหน้าเขา
“ปรมาจารย์หลิน ในที่สุดท่านก็มา!” เยนหนานเทียนมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
ในตอนนี้ทุกคนในตระกูลหลินก็เดินขึ้นมาถึงบนยอดเขาพอดี
เมื่อหลินตงหัวเห็นหลินหยุนก็ร้องอุทานออกมา”หลินหยุน นั่นคือหลินหยุน เขากลับมาแล้ว!”
หวางซูเฟินขมวดคิ้วพร้อมกับแอบกังวล “ทำไมเด็กคนนี้ถึงรีบกลับมา? เขาจะสามารถเอาชนะเยนหนานเทียนได้เหรอ?”
นายท่านหลินที่ไกล้จะไม่ไหวแล้ว จู่ๆ ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที จับมือหลินตงหัวชี้ไปที่หลินหยุน แล้วพูดด้วยเสียงสั่นว่า “เร็ว รีบทำให้เขาไปเร็ว พวกเราตายอยู่ที่นี่ก็ไม่เป็นไร พวกเราต้องรักษาความหวังในอนาคตของตระกูลหลินเอาไว้!”
หลินตงหัวน้ำตาไหล เขาไม่สามารถช่วยทำตามคำนี้ได้จริงๆ
ยิ่งกว่านั้นตามนิสัยของหลินตงหัวแล้ว เขาไม่อาจละทิ้งคนของตระกูลหลินได้
หานเจียวเจียวและหลินตงเย่วต่างโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นหลินหยุน “มันคือความหายนะของหลินหยุน แต่เขายังใจดีกลับมา ทุกคนปลอดภัยแล้ว!”
หลินตงเย่วรีบมายืนอยู่ข้างๆ นายท่านหลินพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ“พ่อครับ เจ้าเด็กน้อยหลินหยุนกลับมาแล้ว พวกเราไม่เป็นไรแล้วครับ!”
“รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปขอร้องเยนหนานเทียนให้ปล่อยตัวพวกเรากลับบ้าน!”
นายท่านหลินจ้องไปที่เขาแล้วพูดอย่างเย็นชา “แกไม่ต้องยุ่งกับฉัน ฉันไม่มีลูกชายอย่างแก”
หลินตงเย่วขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พ่อครับ สิ่งที่ผมทำคือแผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสมเท่านั้น แถมยังเพื่อปกป้องพวกท่านด้วย
“ลองคิดดู ถ้าเยนหนานเทียนขอให้ใครบางคนคุ้มกันตัวเขา ระหว่างเส้นทางนี้พวกท่านจะทุกข์ทรมานอีกมากแค่ไหน?”
“ฉันยอมแบกรับความอับอายขายหน้าของผู้ทรยศ แสร้งทำเป็นอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเยนหนานเทียนในตอนนี้ ทั้งหมดนี้มันไม่ใช่การทำเพื่อพวกเราเหรอ?!”
ท่านหลินห้าหัวเราะเยาะ “ตงเย่ว สิ่งที่แกพูดเพราะกว่าร้องเพลงเสียอีก แต่ตอนที่แกรับผิดชอบคุ้มกัน แกไม่ได้แสดงความเมตตาต่อพวกเราเลยนะ!”
หลินตงเย่วหน้าแดง “ลุงห้า เยนหนานเทียนกำลังเฝ้าดูอยู่ตลอดทาง ฉันไม่สามารถเปิดเผยได้มากเกินไป มันอาจเป็นผลร้ายต่อพวกท่านได้!”
“เอาล่ะ หยุดทำตัวเจ้าเล่ห์เสียที ถ้าแกยังมีจิตสำนึกก็ไปขอให้เยนหนานเทียนปล่อยตัวพวกเราไป!” ท่านหลินสี่พูดอย่างเย็นชา
หลินตงเย่วเหลือบมองไปทางเยนหนานเทียนและหลินหยุนแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล เมื่อเขาแก้แค้นและฆ่าหลินหยุนเรียบร้อยแล้ว เขาจะปล่อยพวกเราไปเอง!”
“หุบปาก!” นายท่านหลินตะโกนเสียงดัง
“หลินหยุนคือหลานชายของแก แกอยากให้เขาตายเหรอ?”
“ทำไมฉันต้องมีลูกชายอย่างแกด้วย!”
หลินตงเย่วตอบโต้กลับ “ใครทำอะไรไว้ก็รับผลกรรมไป เขาคือคนที่ฆ่าลูกชายและหลานชายของเยนหนานเทียน ทำไมพวกเราต้องมารับผลกรรมแทนเขาด้วย!”
“ถ้าเขามีความสามารถจริงๆ เขาจะไม่ทำให้ตระกูลหลินตกอยู่ในอันตราย!”