จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 830 ค่ายกลความเป็นตายหยินหยาง

บทที่ 830 ค่ายกลความเป็นตายหยินหยาง

ฮิโระชิ ทาเคดายิ้มเย็นชาและมองหลินหยุนด้วยท่าทางน่ากลัว “ปรมาจารย์หลินแข็งแกร่งอย่างยิ่งจริงๆ ฉันคิดว่าการปลอมตัวของตัวเองไม่มีที่ติแล้ว ไม่รู้ว่าคุณพบมันได้อย่างไร?”

หลินหยุนชี้ไปที่ชายหนุ่มในรถซึ่งยังอยู่บนที่นั่งคนขับและพูดว่า “บนตัวเขา ไม่มีลมหายใจคนเป็นอยู่ นายสามารถปกปิดมันจากคนอื่นได้ แต่ไม่สามารถซ่อนมันจากฉันได้”

ฮิโระชิ ทาเคดาพยักหน้า “ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง!”

“ฉันคิดว่าตัวเองปลอมตัวได้ดีแล้ว แต่กลับละเลยเขาไป!”

หลินหยุนถามอย่างเย็นชา “นายเป็นใคร”

ฮิโระชิ ทาเคดาเอ่ยขึ้น “ฉันเป็นราชครูแห่งญี่ปุ่น ฮิโระชิ ทาเคดา เรื่องนี้ฉันไม่ได้โกหกคุณ”

“แต่ ที่ฉันมารับคุณ ไม่ใช่เพื่อพาคุณไปหาประธานาธิบดีของเรา แต่เพื่อส่งคุณไปสู่ยมโลกต่างหาก”

หลินหยุนเอ่ยเสียงเรียบ “ดูเหมือนว่า ความแข็งแกร่งของกองทหาร คงยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นรู้สึกเจ็บตัวสินะ พวกเขาถึงได้ยังไม่ยอมแพ้”

“อย่างนั้นก็ฆ่าราชครูแห่งญี่ปุ่นอย่างนาย แล้วลองดูสักหน่อยว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นจะปวดใจบ้างหรือไม่”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” จู่ๆฮิโระชิ ทาเคดาก็เงยหน้าขึ้นและหัวเราะในทันที “ปรมาจารย์หลิน ฉันยอมรับว่าถ้าฉันต่อสู้กับคุณคนเดียว ฉันคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณอย่างแน่นอน”

“แต่ว่า คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันพาคุณมาที่นี่?”

ฮิโระชิ ทาเคดามีสีหน้าได้ใจ “เป็นเพราะที่ใต้เท้าของคุณ ผมได้จัดเตรียมค่ายกลขนาดใหญ่เอาไว้ล่วงหน้า!”

“วันนี้ คุณจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

ฮิโระชิ ทาเคดาหยิบลูกปัดสีแดงเลือดออกมา เขากำมันจนแตกออกแล้วตะโกนว่า “เปิดค่ายกลเถอะ ฉันใช้เวลากว่าสิบปีในการจัดตั้งค่ายกลความเป็นตายหยินหยาง!”

ระหว่างสวรรค์และโลก จู่ๆทันใดนั้นก็มีลมหยินหวีดร้องคำรามขึ้นมา ในหูมีเสียงร้องที่แหลมคมและน่าสยดสยองเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าวิญญาณอาฆาตชั่วร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนจู่ๆก็ถูกปลดผนึกออกมาอย่างกะทันหัน

ลูกปัดนี้เรียกว่าลูกแก้วผนึกวิญญาณ ซึ่งปิดผนึกวิญญาณอาฆาตเอาไว้หลายหมื่นดวง

ยิ่งกว่านั้น วิญญาณอาฆาตเหล่านั้น ไม่ใช่ฮิโระชิ ทาเคดาเป็นคนรวบรวมมา แต่กลับเป็นเหล่ากองทัพทหารของมัตซุยเมื่อครู่นี้

ฮิโระชิ ทาเคดาที่อยู่เป็นจุดศูนย์กลาง ได้มีลมหยินปกคลุมไปทั่วพื้นที่เป็นกิโลเมตร จนกลายเป็นความมืดมิดราวกับนรก

หลินหยุนและฉินหลันดูราวกับกำลังอยู่กลางขุมนรก มีเสียงร้องที่น่าสยดสยองของวิญญาณที่โหยหวนถึงความอยุติธรรมดังขึ้นในหู จนลำคอถึงกับเยียบเย็นแทงทะลุเข้ากระดูก

เงาร่างของฮิโระชิ ทาเคดาได้หายไปแล้ว แต่เสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดและน่ากลัวของเขากลับมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง

“ปรมาจารย์หลิน ลองลิ้มรสค่ายกลความเป็นตายหยินหยางดูสักหน่อยเป็นไง!”

ใบหน้าของหลินหยุนยังคงไม่แสดงอารมณ์ เขากุมมือฉินหลันเอาไว้และมองไปรอบ ๆ อย่างสงบ

บนพื้น จู่ๆก็มีบางอย่างนูนขึ้นมาลูกแล้วลูกเลา ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังผุดทะลุออกมาจากดิน

ในที่สุด สสิ่งเหล่านั้นก็ออกมา และมันก็คือโครงกระดูกโคงแล้วโครงเล่า

จากนั้น โครงกระดูกเหล่านั้นก็ใช้แขนทั้งสองยันพื้นดินและกระโดดออกมา

ฉินหลันตกใจจนร้องเสียงหลง “นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดอะไรกัน!”

โครงกระดูกทหารยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนราวกับกลุ่มมดที่เข้าล้อมรอบหลินหยุนและฉินหลันเอาไว้

ชริ้ง!

เสียงดาบดังขึ้น ดาบเฮ่าเทียนส่งประกายแสงสีแดงออกมาและวนไปอยู่สามฟุตข้างหน้าหลินหยุน

ทหารโครงกระดูกใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลินหยุนคิดเล็กน้อยและพูดอย่างเรียบเฉย “ไปเถอะ!”

ดาบเฮ่าเทียนราวกับรับคำสั่งในทันทีและพุ่งไปที่ทหารโครงกระดูกเหล่านั้น

เคร้งเคร้ง!

ที่ที่ดาบเฮ่าเทียนตวัดผ่านไป ทหารโครงกระดูกเหล่านั้นก็ไร้ทางต่อสู้ ทั้งหมดล้วนถูกฟันจนกระดูกขาดจากเอว กระจัดกระจายเป็นกองโครงกระดูก จากนั้นจึงกลายเป็นก๊าซสีดำและมุดลงไปที่พื้น

ทหารโครงกระดูกเหล่านั้นมีจำนวนหนาแน่นหลายหมื่น และล้อมรอบหลินหยุนกับฉินหลันเอาไว้จนแน่นสนิท

แต่หลินหยุนกลับไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งหมดล้วนอาศัยเพียงดาบเฮ่าเทียนเท่านั้นก็สามารถทำให้ทหารโครงกระดูกเหล่านั้นไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้ภายในห้าเมตร

อย่างไรก็ตาม หลินหยุนฆ่าอย่างรวดเร็วก็จริง แต่ทหารโครงกระดูกเหล่านั้นก็ผุดออกจากพื้นดินอย่างรวดเร็วเช่นกัน

หลินหยุนฆ่าไปเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งผุดออกมาเท่านั้น ราวกับว่ามันไม่มีที่สิ้นสุด

ฉินหลันเป็นกังวลอยู่บ้าง “เสี่ยวหยุน สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด นายฆ่าไปหนึ่ง พวกมันก็จะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งจากพื้นทันที นี่เท่ากับไม่สามารถฆ่ามันให้หมดได้เลย!”

หลินหยุนเองก็ย่อมค้นพบเรื่องนี้เช่นกัน แต่ว่า เขายังไม่ได้คิดหาวิธีที่ดีไม่เจอ ดังนั้นจึงได้แต่หยุดการคืบคลานเข้ามาของทหารโครงกระดูกเอาไว้ชั่วคราวเท่านั้น

เสียงหัวเราะแปลกๆของฮิโระชิ ทาเคดาดังขึ้นอีกครั้ง “ฮ่าฮ่า ปรมาจารย์หลิน คุณฆ่าไม่หมดหรอก!”

“อ่อใช่ คุณรู้ตัวตนของทหารโครงกระดูกเหล่านี้หรือไม่”

“พวกเขาคือทหารราบของมัตซุยที่คุณเพิ่งสังหารพวกนั้น”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…ต่อให้เป็นผี พวกเขาก็จะไม่ปล่อยคุณไป”

หลินหยุนเอ่ยอย่างเย็นชา “นายน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่น ซึ่งเตรียมแนวป้องกันที่สองเอาไว้สินะ!”

“ดูเหมือนว่า นายปล่อยให้กองทหารมัตซุยเสียสละทั้งหมด ก็เพื่อรั้งฉันเอาไว้ และซื้อเวลาสำหรับการปล่อยขีปนาวุธ”

“อันที่จริง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะเสียสละทั้งกองทหารของมัตซุยเอาไว้ก่อนแล้ว”

“จุดประสงค์ก็เพื่อส่งมอบวิญญาณอาฆาตและทหารผีนับหมื่นให้กับนาย”

“เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นโหดร้ายจริงๆด้วย”

ฮิโระชิ ทาเคดาหัวเราะลั่นและพูดว่า “ถูกคุณมองออกเสียแล้ว แต่ว่า แล้วยังไงกัน?”

“การเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งของพวกเขาในฐานะทหาร!”

“ยิ่งไปกว่านั้น อย่าว่าแต่การเสียสละหนึ่งกองทหารของมัตซุย เลย แม้ว่าจะต้องใช้กองทหารของมัตซุยอีกสองกอง มันก็คุ้มค่าที่จะฆ่าคุณ!”

หลินหยุนเยาะเย้ย “คิดไม่ถึงเลยว่า ในใจของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่น ฉันจะมีน้ำหนักมากขนาดนี้ นี่ฉันควรจะรู้สึกเป็นเกียรติซะแล้ว”

ฮิโระชิ ทาเคดาพูดพร้อมกับเยาะเย้ย “คุณสมควรได้รับเกียรตินี้ คุณเป็นคนแรกที่ได้เผชิญกับค่ายกลความเป็นตายหยินหยาที่ฉันทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างมันมากว่าสิบปี ได้ตายในค่ายกลแบบนี้ คุณสมควรที่จะรู้สึกถึงความเป็นเกียรติไม่ใช่หรือไง?”

ทั้งสองพูดคุยกันแต่ดาบเฮ่าเทียนของหลินหยุนก็ยังไม่หยุดลงและยังคงเดินหน้าตวัดไปมาท่ามกลางกองทัพโครงกระดูก

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงประน้ำน้อยแพ้ไฟ ยิ่งหลินหยุนฆ่าไปมากเท่าไหร่ ทหารโครงกระดูกก็ยิ่งโผล่ออกมามากเท่านั้น

ฮิโระชิ ทาเคดาหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “หึหึ ไม่มีประโยชน์ คุณไม่ต้องลงแรงไปอย่างเสียเปล่าแล้ว คุณไม่มีวันฆ่าทหารโครงกระดูกพวกนี้ได้จนหมดหรอก!”

“ในค่ายกลความเป็นตายหยินหยาง พวกเขาเป็นอมตะ!”

หลินหยุนกระพริบตา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำและขาว และเผยแววเย่อหยิ่งออกมาให้เห็น

ต่อให้เป็นค่ายกล ก็ย่อมมีศูนย์ค่ายกลของมันอยู่

แม้ว่าหลินหยุนจะมองไม่เห็นว่าศูนย์ค่ายกลความเป็นตายหยินหยางนั้นอยู่ที่ไหน แต่ว่า ภายใต้พลังดวงตาทำลายล้าง ทุกสิ่งล้วนกระจ่างชัดเจน

ทุกฉากในดวงตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเส้นใยสีดำ

อย่างไรก็ตาม ใต้พื้นดิน กลับมีเส้นใยสีดำที่แตกต่างจากที่อื่นมาก

ราวกับว่าในกลุ่มเส้นใยสีดำจู่ๆก็มีเส้นใยสีขาวปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน และสามารถมองเห็นถึงปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

“นี่น่าจะเป็นศูนย์ค่ายกลของค่ายกลความเป็นตายหยินหยาง”

“ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่โครงกระดูกทหารเหล่าถูกตัดขาด พวกเขาทั้งหมดจะกลายเป็นก๊าซสีดำแล้วมุดกลับลงไปที่พื้น จากนั้นก็มีทหารโครงกระดูกตัวใหม่ออกมาจากพื้นดินอีกครั้ง”

“หยินและหยาง ชีวิตและความตาย…ฉันเข้าใจแล้ว!”

ท้องฟ้าและผืนดิน หยินตายและหยางเป็น

อย่างไรก็ตาม ค่ายกลความเป็นตายหยินหยางนี้กลับเป็นไปตรงกันข้าม ใต้ดินถึงเป็นชีวิต ในขณะที่บนดินคือความตาย

หลินหยุนกล่าวอย่างเย็นชา “มองดูฉันทำลายค่ายกลซะ!”

เมื่อยื่นมือออกไป ดาบเฮ่าเทียนก็บินกลับเข้าไปในมือของเขา

“กระบี่ทะลุสวรรค์แห่งเก้ากระบี่ต้าเต๋า!”

เงายักษ์ใหญ่ยืนอยู่บนท้องฟ้าอันมืดมิด

ในมือของเขาเกิดดาบแสงสีแดงขนาดใหญ่และฟันมันลงไปยังพื้นดิน!

ใต้พื้นโลก แก่นพลังของทหารโครงกระดูกถูกทำลายลงไปด้วยดาบ

ดาบเดียวแยกชีวิตและความตายให้ออกจากกัน

ไม่มีทหารโครงกระดูกออกมาจากพื้นดินอีกต่อไป

ส่วนทหารโครงกระดูกที่กำลังเตรียมมุดลงไปใต้ดินก็กลายเป็นอากาศสีดำ แต่กลับไม่สามารถมุดลงไปที่พื้นได้ และได้แต่ลอยอยู่กลางอากาศ

จากนั้น ดาบเฮ่าเทียนก็พุ่งผ่านหมู่ทหารโครงกระดูกไปอย่างรวดเร็ว และทหารโครงกระดูกจำนวนมากก็ถูกฟันออกเป็นชิ้น ๆ

จำนวนทหารโครงกระดูกเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ และในไม่ช้าหลินหยุนก็กำจัดไปจนหมด

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท