จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 859 เก้าสร้อยหลุดออกหมด

บทที่ 859 เก้าสร้อยหลุดออกหมด

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เพิ่มความเร็วที่มือมากยิ่งขึ้น

พลังลึกลับระหว่างฟ้าดินนั่นยิ่งแข็งแกร่งและทรงพลังมากยิ่งขึ้น เส้นทางที่มองไม่เห็นได้โผล่ขึ้นอย่างเงียบ ๆ

มือสกัดนภา ตราผนึกทิพย์ เป็นสิ่งที่ค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรไม่สามารถขัดขวางได้

ผนึกที่เป็นเส้นทางมากมายมาประกอบเข้าด้วยกันดูซับซ้อนและลึกลับ ได้ค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมากลางอากาศภายในค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกร

ชิ่งกั๋วถัย เว่ยซิวหมิงและคนอื่น ๆ จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงความกดดันจากพลังชี่ ทำให้ตัวเองรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

พวกเขาพบว่า ชี่แท้ภายในร่างกายเริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่ฟังตัวเอง แม้แต่จิตวิญญาณยังสั่นไหวไม่สงบนิ่ง

ตราผนึกทิพย์ได้สร้างสำเร็จแล้ว สิ่งที่ผนึกไม่ใช่ชี่ทิพย์ระหว่างฟ้าและดิน แต่หลัก ๆ คือผนึกจิตทิพย์

สิ่งที่ผนึกคือจิตทิพย์ที่อยู่ในอาวุธ

แต่ว่า จิตวิญญาณของคนเราเป็นประเภทเดียวกับจิตทิพย์ จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบ

นี่เป็นสถานการณ์ที่หลินหยุนไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พวกเขา ถ้าหากตราผนึกทิพย์มุ่งเป้าไปที่นักบู๊เหล่านั้น คนเหล่านี้คงสติแตกปัญญาอ่อนกันไปหมดแล้ว

ธนูพิฆาตปราณทิพย์ได้รับรู้ถึงอันตรายอันใหญ่หลวง จึงเพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้น แล้วพุ่งเข้าใส่เฉินซีเยว่อย่างแรง

“อ๊ะ!”

เฉินซีเยว่ไม่หลงเหลือความเย่อหยิ่งอีกแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ท่าทีเย่อหยิ่งของเธอช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ความตาย เสมอภาคกับทุกคนเสมอ ไม่ใช่เพราะคุณอยู่สวยแล้วความตายจะปล่อยคุณไป

หานหลิงเอ๋อทนดูศิษย์พี่ตายอย่างอนาถไม่ได้ จึงหลับตาลงทันที

ขณะที่ธนูพิฆาตปราณทิพย์กำลังจะแทงทะลุหน้าอกของเฉินซีเยว่ ตราผนึกทิพย์ที่ลอยอยู่กลางอากาศผืนนั้นก็ขยับทันที

ตราผนึกทิพย์ได้เปล่งแสงเรืองรอง รวดเร็วกว่าธนูพิฆาตปราณทิพย์เป็นสิบเท่า แล้วขวางธนูพิฆาตปราณทิพย์เอาไว้

ธนูพิฆาตปราณทิพย์ส่งเสียงร้องโหยหวน ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ได้ว่ามันโกรธมาก แต่มากกว่าความโกรธคือความหวาดกลัว

ตราผนึกทิพย์ได้เคลื่อนไหวแล้ว พุ่งลงไปหาอาตมันเครื่องรางที่อยู่ในธนูพิฆาตปราณทิพย์ทันที

เฉินซีเยว่ตกใจอ้าปากค้าง ใบหน้าที่สวยงามนั้นซีดเผือด หน้าผากมีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุด ด้านหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ลูกศรความเป็นความตายนั่น ตอนนี้ได้หยุดอยู่ห่างจากหน้าอกเธอเพียงสามนิ้ว ลูกศรสั่นไหวไม่หยุด

หลินหยุนสองมือไขว้หลัง แล้วมองไปที่ธนูพิฆาตปราณทิพย์อย่างเงียบ ๆ

“ยังดิ้นอีกเหรอ”

“แต่ว่า เปลืองแรงเปล่า ๆ”

พูดจบ หลินหยุนได้ใส่พลังทิพย์ลงไปในตราผนึกทิพย์ต่อไป

ตอนนี้ อาตมันเครื่องรางที่อยู่ในธนูพิฆาตปราณทิพย์ได้กำลังต่อสู้อยู่กับตราผนึกทิพย์

ตราผนึกทิพย์แข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้การฝึกบำเพ็ญเซียนของหลินหยุนยังไม่ถึงขั้นระยะยาทอง ฉะนั้น อานุภาพของตราผนึกทิพย์ที่เขาใช้มีพลังลดลงมาก

แต่ว่าอาตมันเครื่องรางของธนูพิฆาตปราณทิพย์ ก็มีพลังลดลงเยอะมากเช่นกัน เพราะไม่มีเจ้านายอยู่ด้วย

ส่วนตราผนึกทิพย์กลับได้รับพลังทิพย์จากหลินหยุนเพิ่มเข้าไปไม่หยุด

อันหนึ่งพลังลดลง ส่วนอีกอันพลังเพิ่มขึ้น ทำให้อาตมันเครื่องรางฝืนทนต่อไปได้ไม่นาน

เฉินซีเยว่มองไปยังธนูพิฆาตปราณทิพย์ที่อยู่ใกล้กับเธอมาก เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รอดพ้นจากความตายแล้ว

เธอเข้าใจดีว่า ในที่สุดก็เป็นหลินหยุนที่ช่วยเธอเอาไว้

และในขณะนั้นเอง ยอดเขาเก้าลูกที่อยู่รอบ ๆ ก็เริ่มขยับกะทันหัน

บนยอดเขาทั้งเก้าลูกนั้น มีโซ่ขนาดใหญ่มหึมาโผล่ออกมาเก้าเส้น แล้วพุ่งเข้าใส่หลินหยุน

เหมือนต้องการจะจับตัวหลินหยุน

หญิงชุดดำและชายชรา ได้เริ่มเคลื่อนไหวค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?” หานหลิงเอ๋อมองไปที่โซ่เส้นใหญ่มหึมาเก้าเส้นนั่น ที่กำลังจะเข้ามามัดตัวหลินหยุดไว้ ทำให้เธอตกใจจนหน้าถอดสี

หลินหยุนหรี่ตาเล็กน้อย แล้วผลักหานหลิงเอ๋อออกไปอย่างรวดเร็ว

พลังที่อ่อนโยนได้ผลักหานหลิงเอ๋อให้ห่างออกไป

จากนั้น โซ่ยักษ์ทั้งเก้าเส้นนั้นได้มัดตัวหลินหยุนเอาไว้ตรงกลาง

โซ่ยักษ์ทั้งเก้าเส้น หนาใหญ่กว่าร่างกายของหลินหยุนเสียอีก

แต่ว่า เมื่อพวกมันมาถึงตัวหลินหยุน ก็ได้กลายสภาพเป็นเชือกสีดำเก้าเส้น มัดตัวหลินหยุนเอาไว้

“หลินหยุน!”

หานหลิงเอ๋อตกใจจนร้องออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะหลินหยุนผลักเธอออกเมื่อครู่นี้ ตอนนี้หานหลิงเอ๋อคงถูกโซ่ล็อกตัวไว้ด้วยเช่นกัน

ด้วยพลังของหลินหยุน เมื่อถูกโซ่พวกนี้มัดตัวไว้จึงไม่ได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ว่า ถ้าหากเป็นหานหลิงเอ๋อถูกโซ่มัดไว้ เกรงว่าคงต้องตายเป็นแน่แท้

เฉินซีเยว่ตกใจด้วยเช่นกัน โชคดีที่เธออยู่ห่างจากหลินหยุนพอสมควร จึงไม่ได้ถูกโซ่มัดตัวไปด้วย

ที่ฐานของค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกร มีหญิงชุดดำและชายชราผู้นั้น ยืนมองหลินหยุนที่ถูกโซ่เก้าเส้นมัดตัวไว้ ด้วยใบหน้าแสยะยิ้มได้ใจ

“เหอะ หลินหยุน ถูกโซ่ค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรมัดเอาไว้ ต่อให้นายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนระยะยาทอง ก็ยากที่จะหลีกหนีได้”

ชายชราเอ่ยถามด้วยความสงสัย : “คุณหนูครับ จากพลังของเขา ค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรไม่สามารถฆ่าเขาให้ตายได้ คุณตั้งใจจะจับเขาไว้ที่นี่ เพราะทรมานเขาไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?”

หญิงชุดดำเผยแววตาที่ดูซับซ้อนออกมา : “ถ้าหากสามารถขังเขาไว้ตลอดชีวิตได้ ก็คงดีมากเลยทีเดียว”

“แต่กลัวว่า ด้วยความสามารถของเขา ไม่นานจะสามารถหลุดพ้นจากค่ายกลนี้ไปได้”

ชายชราหัวเราะอย่างลืมตัว : “คุณหนู คิดมากเกินไปแล้วครับ นี่เป็นค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรเชียวนะ เขาจะหลุดพ้นไปได้ยังไงกัน!”

หญิงชุดดำไม่ได้ตอบคำถาม ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงได้เอ่ยเสียงขรึมว่า : “ทานไปเอาเครื่องรางทิพย์อีกชิ้นมา ถ้าหากเขาหลีกหนีไปจากค่ายกลควัดมังกรได้ จะได้ใช้เครื่องรางทิพย์นั่น”

ชายชราเอ่ยพูดโดยไม่ได้คิดอย่างนั้น : “คุณหนู คุณคิดมากเกินไปจริง ๆ แม้แต่มังกรคบเพลิงยังกักขังไว้ได้ร้อยกว่าปี แล้วเขาจะหลุดพ้นจากค่ายกลนี้ไปได้ยังไง!”

“ไปเอามาเถอะ!” หญิงชุดดำใช้น้ำเสียงออกคำสั่ง

ชายชราพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก : “ก็ได้ครับ ผมจะไปเอาทวนสังหารเทวดามา

หญิงชุดดำเอ่ยพูด : “อย่าเอาทวนสังหารเทวดามา อานุภาพมันร้ายแรงเกินไป เอามุกดูดเลือดมาแทน!”

“ครับ!” ชายชรามองไปที่หญิงชุดดำด้วยความสงสัยเล็กน้อย แล้วหมุนตัวจากไป

“คุณหนูดูเหมือนเกลียดหลินหยุนมาก แต่ทำไมถึงไม่ยอมเอาชีวิตหลินหยุนสักที? น่าแปลกจริง ๆ!” ชายชราพึมพำคนเดียว

ในค่ายกล หลินหยุนถูกโซ่เก้าเส้นมัดตัวไว้ ทำให้ขยับเคลื่อนไหวตัวไม่ได้เลย

เว่ยซิวหมิงและคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านข้างมองดูด้วยความหวาดกลัว

ชิ่งกั๋วถัยเอ่ยพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม : “นี่คืออานุภาพของค่ายกลซั่งกู่เหรอ? น่ากลัวอย่างที่คิดไว้จริง ๆ!”

“แม้แต่พลังระดับเขา ยังไม่สามารถทำอะไรค่ายกลซั่งกู่นี้ได้ ถ้าหากเป็นฉัน คงถูกโซ่นั่นรัดตายไปนานแล้ว!”

หานหลิงเอ๋อวิ่งไปที่ข้าง ๆ หลินหยุนด้วยความร้อนใจ เอ่ยถามอย่างเป็นกังวล : “หลินหยุน นายไหวไหม? ฉันช่วยอะไรนายได้บ้าง?”

หลินหยุนไม่พูดอะไร แล้วค่อย ๆ หลับตาลง ดูท่าทางเหมือนหมดแรงจากการถูกค่ายกลทรมาน

“ผู้อาวุโสเว่ย ผู้อาวุโสชิ่ง และคนอื่น ๆ มาช่วยกันคิดหาทางเร็วเข้า ช่วยหลินหยุนกันเถอะ!”

“ถ้าหากหลินหยุนถูกจับไว้ไม่สามารถหลุดออกมาได้ ก็ไม่มีใครรับมือกับลูกศรนั่นได้แล้ว”

“ทุกคนจะตายเพราะลูกศรนั่นกันหมดนะ!”

สายตาของหานหลิงเอ๋อ กวาดตามองไปที่ทุกคน

เฉินซีเยว่รีบลุกขึ้นมายืนข้างหานหลิงเอ๋อ แล้วเอ่ยพูด : “ศิษย์น้องหลิงเอ๋อพูดถูก มีเพียงหลินหยุนที่สามารถจัดการลูกศรนั่นได้ ถ้าหากเขาถูกค่ายกลนี้ฆ่าตาย งั้นพวกเราก็คงต้องตายเพราะลูกศรนั่นกันหมด”

“ทุกคนร่วมใจกันคิดและลงมือ ช่วยให้หลินหยุนรอดพ้นจากอันตรายเถอะ!”

เว่ยซิวหมิงมองไปที่ชิ่งกั๋วถัย และชายชราอีกสามคนที่เหลือ แล้วมองไปที่ธนูพิฆาตปราณทิพย์ที่ยังคงสั่นไหวไม่หยุด

“หลิงเอ๋อ เธอพูดถูก แต่ว่า ต่อให้พวกเราหลายคนร่วมมือกัน ก็คงไม่สามารถช่วยเขาให้หลุดพ้นได้!”

“นี่เป็นค่ายกลซั่งกู่ เป็นค่ายกลที่ซั่งกู่สร้างเอาไว้ อานุภาพนั้นไม่ใช่พวกเราจะสามารถต้านทานได้”

“นอกจากมีพลังอยู่ในระดับแดนดั่งเทพ ถึงจะสามารถต้านทานค่ายกลซั่งกูได้”

หานหลิงเอ๋อพูดอย่างไม่ยอมแพ้ : “ไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้ยังไง? ทุกคนลองดูกันเถอะ!”

เว่ยซิวหมิงมองไปที่ชิ่งกั๋วถัยและคนอื่น ๆ : “พวกนายคิดว่ายังไง?”

ชิ่งกั๋วถัยมองไปที่ธนูพิฆาตปราณทิพย์ แล้วพยักหน้าพลางเอ่ยพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม : “ลองดูเถอะ!”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท