ผู้หญิงคนนั้นแสยะยิ้มพลางเอ่ย : “นายคิดว่าบนโลกใบนี้มีเพียงนายที่แตกต่างจากคนอื่นงั้นเหรอ?”
“ที่พึ่งพิงของนาย ก็แค่พลังเซียนเล็กน้อยนั่น ตอนนี้ ฉันสามารถบอกให้นายได้รู้ไว้ว่า ที่พึ่งพิงที่ยิ่งใหญ่สุดของนาย ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”
ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ยอมรับตรง ๆ แต่คำพูดเหล่านี้ก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่าเธอเองก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนเช่นกัน
“บนโลกนี้ ยังมีผู้สืบทอดการบำเพ็ญเซียนคนอื่น ๆ อยู่จริงด้วย”
หลินหยุนมองไปที่เธอ แล้วเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉย : “มีหรือไม่มีประโยชน์ ลองดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
ชิ่งกั๋วถัยและคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านข้าง ต่างตกใจและสงสัย
“ผู้บำเพ็ญเซียน?”
“ทำไมถึงเป็นผู้บำเพ็ญเซียน?”
“หรือว่า ที่เขามีพลังแกร่งกล้าขนานั้น เป็นเพราะเขาไม่ใช่นักบู๊ แต่เป็นผู้บำเพ็ญเซียน?”
ทุกคน ต่างแอบคาดเดาอยู่ในใจ ในเรื่องผู้บำเพ็ญเซียน
แต่ว่า เวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะมาครุ่นคิดสงสัยในเรื่องเหล่านี้
ค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกร แม้แต่พวกเขาเองก็ถูกกักขังเอาไว้ด้วย หากค่ายกลทำงานขึ้นมา พวกเขาก็คงหนีไปไม่พ้น
หลินหยุนมองไปที่ยอดเขาเก้าลูกที่อยู่โดยรอบ พลังของค่ายกลนี้แข็งแกร่งมาก เหมือนอย่างที่ผู้หญิงชุดดำคนนั้นได้พูดไว้ ต่อให้มีพลังเหลือเพียงห้าส่วน แต่ก็ไม่ใช่พลังน้อย ๆ เลย
“หรือว่าที่มังกรคบเพลิงอยู่ตรงนี้เป็นเวลานาน ที่จริงเป็นเพราะถูกค่ายกลกักขังเอาไว้”
ตอนนี้ สิ่งที่หลินหยุนสงสัยถือว่าได้รับคำอธิบายแล้ว
หญิงชุดดำแสยะยิ้มอย่างแปลกประหลาดพลางเอ่ยพูด : “หลินหยุน ฉันรู้ว่านายคิดว่าพลังของตัวเองนั้นเก่งกาจมาก แต่นอกจากค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรแล้ว ฉันยังเตรียมของขวัญพิเศษให้นายอีกหนึ่งอย่าง หลังจากที่นายได้เห็นต้องชอบมันแน่นอน”
พูดจบ ชายชราผู้นั้นก็ได้ปรากฏกายขึ้นบนยอดเขาที่อยู่ตรงข้าม ในมือถือลูกศรสีดำอันหนึ่ง
“ทำไมถึงเป็นเขา!” ชิ่งกั๋วถัยและนักบู๊คนอื่น ๆ เห็นชายชราที่อยู่ตรงหน้า ก็ตกใจกันทันที
“หรือว่าที่เขารู้อะไรมากมายขนาดนั้น ที่แท้เป็นเพราะเขาจงใจหลอกล่อให้พวกเรามาที่นี่!”
ชายชราคนนั้นมองไปยังหญิงชุดดำ แล้วเอ่ยถาม : “คุณหนู เริ่มเลยไหมครับ?”
หญิงชุดดำพยักหน้า : “เริ่มเลย!”
ชายชรายื่นมือที่ถือลูกศรนั่นออกมากลางอากาศ แล้วปล่อยพลังทิพย์ออกมา
ลูกศรนั้นมีแสงสีดำและแดงส่องประกายออกมา จากนั้นมีพลังที่น่ากลัวแผ่ซ่านออกมาทันที
ชิ่งกั๋วถัยและนักบู๊คนอื่น ๆ ต่างตกใจกันทันที!
“นั่นคือ อาวุธวิเศษ!”
“อาวุธวิเศษที่ทรงอานุภาพมาก!”
หลินหยุนสีหน้าเปลี่ยนไป นั่นไม่ใช่อาวุธวิเศษ แต่เป็นเครื่องรางทิพย์ที่เหนือชั้นกว่าอาวุธวิเศษ
เครื่องรางทิพย์ ปกติต้องเป็นผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมขึ้นไปถึงจะใช้ได้ อีกอย่าง เครื่องรางทิพย์มีพลังทิพย์ ต่อให้ไม่ได้อยู่กับเจ้าของ ก็สามารถโจมตีได้ด้วยตัวเอง
พูดได้ว่า อาวุธเทพ เป็นสิ่งของที่ไม่มีเจ้าของ ใครได้ไป ก็สามารถใช้ได้ทั้งนั้น หากมีพลังและความสามารถเพียงพอ
แต่เครื่องรางทิพย์ เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกัน
ต่อให้คุณได้เครื่องรางทิพย์มาครอง ถ้าหากมีเจ้าของแล้ว คุณก็ไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากว่าคุณจะสามารถใช้พลังกำจัดรอยประทับวิญญาณที่เจ้าของเครื่องรางทิพย์ทำไว้ออกไป
ในการสืบทอดภายในสำนักบางสำนัก เครื่องรางทิพย์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถึงขนาดที่สามารถใช้เครื่องรางทิพย์ มาคานอำนาจในสำนักได้
ถ้าหากตอนนี้หลินหยุนสามารถฝึกยาทองได้ ต่อให้เจอกับเครื่องรางทิพย์อย่างนี้ หลินหยุนก็สามารถต่อกรได้
แต่ว่า ตอนนี้หลินหยุนเพิ่งเข้าสู่แดนรวมยาขั้นต้น ยังห่างไกลจากระยะยาทองอยู่ไม่น้อยเลย
เครื่องรางทิพย์สำหรับหลินหยุนในตอนนี้ เป็นอันตรายที่หนักหนามาก
ลูกศรสีดำห้อยอยู่กลางอากาศบนหัวของหลินหยุน เปล่งแสงสีดำสีแดงออกมา เหมือนกับงูพิษตัวหนึ่ง ที่กำลังแลบลิ้นออกมา รอคอยจังหวะ ที่จะเอาชีวิตของหลินหยุนได้ทุกเมื่อ
หญิงชุดดำได้แสยะยิ้มอย่างได้ใจพลางเอ่ยพูด : “หลินหยุน เสพสุขกับธนูพิฆาตปราณทิพย์ให้เต็มที่เถอะ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……”
พูดจบ หญิงชุดดำได้หันตัวแล้วเหาะออกไป เหลือเพียงเสียงหัวเราะยาว ๆ อย่างได้ใจลอยมา
ชายชราผู้นั้น ได้เหาะตามหญิงผู้นั้นไปด้วย
หลินหยุนไม่ได้ตามไป เพราะมีค่ายกลเก้าสร้อยตวัดมังกรและธนูพิฆาตปราณทิพย์อยู่ หลินหยุนจึงไม่สามารถตามผู้หญิงคนนั้นไปได้
อีกอย่าง หลินหยุนเชื่อว่า สองคนนั่นไม่มีทางไปไหนไกล น่าจะคอยดูอยู่ในที่ที่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก อีกเดี๋ยวพวกเขาจะต้องกลับมา
ทันใดนั้น ลูกศรสีดำที่ห้อยอยู่กลางอากาศได้เริ่มขยับ
พรึ่บ!
ความเร็วของธนูพิฆาตปราณทิพย์ รวดเร็วชนิดที่หากเป็นคนธรรมดาคงมองไม่เห็น
ถึงขนาดที่ว่า แม้แต่นักบู๊ระดับปรมาจารย์ลงไปยังไม่สามารถมองได้ทัน
มีเพียงชิ่งกั๋วถัย เว่ยซิวหมิงและนักบู๊ระดับปรมาจารย์คนอื่น ๆ เท่านั้น ถึงพอมองเห็นร่องรอยการโจมตีของธนูพิฆาตปราณทิพย์นี้ได้
หลินหยุนเตรียมรับมือไว้นานแล้ว โดยฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย หลินหยุนได้กระแทกหมัดไปยังอากาศด้านหน้ากะทันหัน
ปึก!
ความเร็วของธนูพิฆาตปราณทิพย์ลดช้าลง ทำให้เผยออกมาให้เห็น
หลินหยุนฉวยโอกาสตอนนี้ความเร็วลดช้าลงถอยหนี แต่ว่า ความเร็วของธนูพิฆาตปราณทิพย์ยังคงเร็วกว่าเขา จึงสามารถไล่ตามเขาได้ทันในเสี้ยววินาที
เครื่องรางทิพย์ที่มีพลังทิพย์ เมื่อถูกโจมตี ก็จะโจมตีโดยอัตโนมัติ เมื่อไล่มาถึงเป้าหมายก็จะลงมือสังหารทันที
“เหอะ คิดว่าฉันกำจัดแกไม่ได้ใช่ไหม!”
“ท่าแยกน้ำ!”
หลินหยุนไม่ถอยหนีอีกต่อไป ได้กระแทกหมัดใส่ธนูพิฆาตปราณทิพย์ทันที
ตึง!
หมัดนี้ของหลินหยุน ได้กระแทกเข้ากับปลายลูกศรของธนูพิฆาตปราณทิพย์ ธนูพิฆาตปราณทิพย์จึงอ่อนกำลังลง
หนึ่งหมัดกับหนึ่งลูกศร ได้พุ่งชนกันแล้วค้างอยู่อย่างนั้น
“ถ้าหากมีคนคอยควบคุม ฉันอาจจะถูกแกทำร้ายเข้าจริง ๆ แต่น่าเสียดาย ต่อให้แกมีพลังทิพย์ แต่ก็เป็นแค่อาวุธชิ้นหนึ่งเท่านั้น
“เมื่ออยู่ห่างจากเจ้าของ อานุภาพของแกอย่างมากสุดก็ได้แค่ปล่อยพลังออกมาห้าส่วนเท่านั้น”
ทั้งธนูพิฆาตปราณทิพย์และหลินหยุนต่างชะงักกันอยู่อย่างนั้น ไม่สามารถเดินหน้าโจมตีอีกฝ่ายได้
ผ่านไปหลายนาที จู่ ๆ ธนูพิฆาตปราณทิพย์ก็ได้ถอยห่าง ไม่โจมตีหลินหยุนอีก ได้แต่ลอยอยู่กลางอากาศแล้วจ้องเขม็งอยู่อย่างนั้น
หลินหยุนก็ไม่ได้โจมตีแล้วเช่นกัน ถึงแม้ธนูพิฆาตปราณทิพย์จะต่อกรได้ยาก แต่ด้านนอกยังมีค่ายกลซั่งกู่อยู่อีกหนึ่งอย่าง เขาจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน
ธนูพิฆาตปราณทิพย์ลอยอยู่กลางอากาศอีกครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขยับขึ้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันไม่ได้ลอยไปทางหลินหยุนแล้ว แต่ลอยไปทางบรรดานักบู๊เหล่านั้นแทน
“แย่แล้ว!”
“มันจะโจมตีพวกเรา!”
บรรดานักบู๊ที่ตั้งสติได้ ต่างร้องตกใจเสียงดัง
และในขณะนั้นเอง นักบู๊สองคนได้ถูกธนูพิฆาตปราณทิพย์แทงทะลุหน้าอก ตายอย่างอนาถ
“อ๊ะ!”
หานหลิงเอ๋อตกใจจนหน้าถอดสี ร้องเสียงหลง แล้วรีบถอยหนี
นักบู๊คนอื่นที่เหลือ ต่างวิ่งหนีกันอุตลุด
แต่ว่า ความเร็วของธนูพิฆาตปราณทิพย์นั้นเร็วมาก เพียงครู่เดียวก็ได้แทงทะลหน้าอกนักบู๊ไปอีกสองคน
ไม่มีอะไรต่อต้านพลังของมันได้เลย
“รีบหนีเร็ว!”
นักบู๊คนอื่น ๆ ที่เหลือต่างตื่นตระหนกตกใจ เร่งฝีเท้ามากขึ้น ใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อหนี
แต่พวกเขาวิ่งไปได้ไม่ถึงไหน ยอดเขาลูกหนึ่งที่อยู่ใกล้กับพวกเขามากที่สุด ก็ได้เปล่งแสงออกมาทันที แล้วโซ่เส้นใหญ่มหึมาเส้นหนึ่ง ได้โผล่มาขวางหน้าพวกเขากะทันหัน
โซ่เส้นนั้นหนายิ่งกว่าถังน้ำเสียอีก ลอยอยู่กลางอากาศ ทำให้ผู้คนต่างตกใจกันเป็นอย่างมาก
ถ้าหากมีเพียงแค่โซ่เส้นหนึ่ง คงไม่สามารถขัดขวางบรรดานักบู๊ที่เหาะเหินเดินอากาศได้หรอก
แต่รอบ ๆ โซ่เส้นนี้ ดูเหมือนมีตาข่ายล่องหนป้องกันไว้อยู่ บรรดานักบู๊เหล่านั้นพุ่งเข้าใส่ ก็ถูกขวางกั้นเอาไว้
ธนูพิฆาตปราณทิพย์ยังคงไล่ฆ่าเหล่านักบู๊ทั้งหลาย อีกทั้ง ธนูพิฆาตปราณทิพย์ไม่ได้ไล่ฆ่าอย่างไร้เป้าหมาย แต่มันฆ่าพวกนักบู๊ที่ค่อนข้างอ่อนแอก่อน
หลังจากฆ่านักบู๊พวกนั้นไปแล้ว พลังชี่ของธนูพิฆาตปราณทิพย์ ก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย : “ที่แท้กำลังดูดพลังชี่แท้ของเหล่านักบู๊นี่เอง”
“ต้องหยุดมันให้ได้!”
หลินหยุนเคลื่อนไหวแล้ว รีบไปตรงหน้านักบู๊แดนพรสวรรค์คนหนึ่งที่ธนูพิฆาตปราณทิพย์กำลังฆ่า เพื่อขัดขวางมันไว้
แต่ว่า ธนูพิฆาตปราณทิพย์ไม่ได้ต่อสู้กับหลินหยุน มันได้เปลี่ยนทิศทาง แล้วพุ่งไปโจมตีนักบู๊คนอื่นแทน
ฉึบ!
นักบู๊คนนั้นถูกธนูพิฆาตปราณทิพย์แทงทะลุหน้าอก พลังชี่ของธนูพิฆาตปราณทิพย์ ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ถึงแม้แข็งแกร่งขึ้นน้อยมาก แต่ถ้าหากมันฆ่านักบู๊ทั้งหมดนี้ได้ พลังของธนูพิฆาตปราณทิพย์ อย่างน้อยก็จะเพิ่มขึ้นถึงสามส่วน
แบบนั้น หากหลินหยุนคิดจะต่อกรกับมัน คงต้องสูญเสียอะไรมากขึ้น
หลินหยุนขมวดคิ้วอีกครั้ง ดูเหมือนธนูพิฆาตปราณทิพย์จะเจ้าเล่ห์กว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะเลย
และที่น่าเกลียดแค้นไปมากกว่านั้นคือ ธนูพิฆาตปราณทิพย์ลอยอยู่กลางอากาศ แล้วส่ายไปมาต่อหน้าหลินหยุน เหมือนกับกำลังหัวเราะเยาะหลินหยุน