จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 866 แผนการของหวางเซิ่งเฉียน

บทที่ 866 แผนการของหวางเซิ่งเฉียน

พวกคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังของไป๋จ่านถัง ต่างก็แอบสังเกตมองมาที่ไป๋จ่ายถัง คำพูดนี้ของ

อีหยุ่นช่างทำร้ายจิตใจยิ่งนัก ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับไป๋จ่านถังนั้น ถึงขั้นแตกหักกัน

เลยทีเดียว

เดิมทีทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจกันดี แต่ทว่า ตอนนี้กลับต้องมาเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้

ยังดีที่ว่าไป๋จ่านถังมีปฏิภาณไหวพริบ จึงได้หัวเราะเสียงดังขึ้น: “ฮ่าฮ่า อีหยุ่น ใกล้จะตายอยู่แล้ว คุณยังจะมายุแยงตะแคงรั่วอยู่อีกเหรอ? ทุกคนต่างก็ไม่ใช่เด็กกันแล้ว คุณคิดว่าคำพูดของคุณ จะมีคนเชื่อว่าเป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ? ”

“พวกเรารวมตัวอยู่ด้วยกัน ก็เป็นกลุ่มองค์กรที่มีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้ว ฉันไป๋จ่านถังขอพูด

ตรงนี้เลยว่า ต่อไปผลประโยชน์ที่ตระกูลไป๋ของฉันได้รับทั้งหมดนั้น จะแบ่งสรรปันส่วนให้กับ

ทุกท่านที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้อย่างเท่าเทียม! ”

พวกคนที่อยู่ด้านหลังเหล่านั้น ต่างก็พูดยกย่องสรรเสริญขึ้นทันที: “เยี่ยมไปเลย เจ้าบ้านไป๋พูดได้

ดีมาก! ”

“เจ้าบ้านไป๋คืออัจฉริยะตัวจริง จากนี้ต่อไปฉันหลินฉางฝ่าจะติดตามตระกูลไป๋อย่างแน่นอน! ”

“ฉันด้วย! ”

คำพูดของไป๋จ่านถัง ได้ใจของผู้คนไปไม่น้อย

ไป๋จ่านถังมองไปที่อีหยุ่นด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “คุณอี แผนการ ชั่วร้ายของคุณนั้นฉันมองทะลุหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์หรอก ไม่ต้องมาเล่นกลอุบายใด ๆ อีกเลย ฉันจะให้เวลาคุณหนึ่งวันเพื่อพิจารณา ถ้าหากว่าหลังจากผ่านหนึ่งวันนี้ไปแล้ว ยังคงเป็นคำตอบ

เดิมเช่นเคย อย่างนั้นก็อย่าได้กล่าวโทษว่าฉันไม่เกรงใจ! ”

“ทุกท่าน พวกเรากลับไปกันก่อนเถอะ! พรุ่งนี้ค่อยมาพูดคุยกับคุณอีกันอีกครั้ง! ”

“ตกลง! ” ทุกคนตอบรับขึ้นเสียงดัง

ไป๋จ่านถังช่างถือว่ามีพลังอำนาจในการปลุกระดมและชักชวนผู้คนอย่างยิ่ง

หลังจากที่ไป๋จ่านถังจากไปแล้ว อีหยุ่นก็พลันนั่งลงบนเก้าอี้ ด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก

“คุณพ่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ” อีหลิงถามขึ้นอย่างเป็นกังวล

“เจ้าบ้าน เป็นอะไรหรือเปล่า? ” พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นด้วยความกังวล

อีหยุ่นยกมือขึ้น และพูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฉันไม่เป็นอะไร เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าตระกูลหวาง

จะมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้! ผู้คนเกินกว่าครึ่งของมณฑลเจียงหนาน ต่างก็ถูกตระกูลหวาง

ปลุกระดมกันหมดแล้ว! ”

“เจ้าบ้าน หลายบริษัทภายใต้ตระกูลอีของพวกเรา และยังกระจายไปตามแต่ละสาขาอาชีพ ลำพังเพียงแค่ตระกูลหวาง จะสามารถบีบบังคับให้บริษัทของพวกเราหมดสิ้นหนทางได้

ภายในระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้เลย อย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่กล้าที่จะเชื่อเลย ถ้าหากเป็นเช่นนี้ได้จริงล่ะก็ อย่างนั้นก็หมายความว่า ตระกูลหวางมีอิทธิพลยิ่งใหญ่มากเลย

ทีเดียว! ” พ่อบ้านพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง

อีหยุ่นเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่หลังคาของห้องโถง แววตาเผยอาการหวาดกลัวขึ้นอย่างมาก

“ตระกูลหวาง เกรงว่าจะน่ากลัวยิ่งกว่าคำร่ำลือเสียอีก! แผนการเล็กน้อยเท่านี้สำหรับตระกูลหวาง

แล้วนั้น บางทีอาจจะไม่สำคัญอะไรเลย ไม่อย่างนั้น ทำไมวงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ถึงสามารถยืนหยัด

ได้โดยที่ไม่มีใครมาทดแทน! ”

พ่อบ้านสีหน้าท่าทางตกตะลึง: “นึกไม่ถึงว่า จะมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลย? ”

อีหยุ่นพยักหน้า โดยที่ไม่พูดจาอะไรต่ออีก

อีหลิงได้ลองสอบถามขึ้นว่า: “คุณพ่อ หรือว่าพวกเราจะหาหลินหยุนเพื่อขอความช่วยเหลือ? ”

อีหยุ่นมองไปที่อีหลิง สายตาแสดงออกถึงความรักความเมตตา และก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

ขึ้น: “ที่จริงแล้วฉันก็กำลังที่จะพูดเรื่องนี้กับเธอ ตอนนี้ผู้ที่สามารถช่วยเหลือพวกเราได้ ก็คงจะเหลือแค่หลินหยุนแล้ว! ”

“ถ้าหากเป็นไปได้ เธอก็ช่วยโทรศัพท์หาหลินหยุนหน่อย! ”

อีหลิงพยักหน้า: “ตกลง ฉันจะโทรศัพท์หาเขาเดี๋ยวนี้! ”

ช่วงเวลาที่ตระกูลกำลังประสบกับวิกฤตความเป็นความตาย อีหลิงเองก็ไม่ได้ที่จะหลบหลีก

ข้อสงสัยอะไรอีก โดยได้โทรศัพท์ไปหาหลินหยุน ต่อหน้าของอีหยุ่นและทุกคนของตระกูลอี

แต่ว่า โทรอย่างไรก็โทรไม่ติด เพราะตอนนี้หลินหยุน ยังคงเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนอยู่

เห็นอีหลิงวางโทรศัพท์ลงด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่ อีหยุ่นก็เกิดความหนักใจขึ้น: “โทรไม่ติดเหรอ? ”

“อืม โทรศัพท์ปิดเครื่อง! ” อีหลิงพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า: “คุณพ่อ หากติดต่อกับหลินหยุนไม่ได้ แล้วจากนี้ควรจะทำอย่างไรต่อล่ะ? ”

อีหยุ่นไม่รีบร้อนใจ แต่กลับแสดงรอยยิ้มที่ปลดปล่อยออกมา: “ช่างเถอะ บางทีอาจจะเป็น

ชะตาชีวิตของพวกเราที่กำหนดไว้แบบนี้! ”

“รอหน่อย รอถึงวันพรุ่งนี้ แล้วเธอค่อยโทรศัพท์ไปหาหลินหยุนอีกครั้ง ถ้าหากโทรติด ตระกูลอีของพวกเราอาจจะสามารถรอดพ้นชะตากรรมครั้งนี้ไปก็เป็นได้”

อีหลิงถามขึ้นด้วยความกังวล: “ถ้าหากโทรไม่ติดล่ะ? ก็ไม่มีวิธีการอื่นอีกแล้วใช่ไหม? ”

อีหยุ่นหัวเราะเหอะเหอะ โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร ซึ่งก็แสดงออกถึงความหมายได้อย่างชัดเจน

อีหลิงแอบตั้งความหวังอยู่ในใจ: “หลินหยุน ก่อนวันพรุ่งนี้ คุณจะต้องเปิดเครื่องโทรศัพท์นะ! ”

ในขณะเดียวกัน ตระกูลฉินเองก็ประสบกับปัญหาเช่นเดียวกันกับตระกูลอี

กลางห้องโถงในคฤหาสน์ของตระกูลฉิน พ่อของเหยียนเสวเหวินได้พาเหยียนเสวเหวิน รวมถึงพวกผู้มีอิทธิพลชื่อเสียงในพื้นที่ ปิดกั้นอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของตระกูลฉิน

พวกคนที่มากับเหยียนเสวเหวินนั้น ยังมีเถียนชุ่ยชุ่ยและจางเหมิงรวมอยู่ด้วย

ฉินโส่วมองไปที่เหยียนเสวเหวิน และพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “เหยียนเสวเหวิน แกยังจะมีศักดิ์ศรีความเป็นคนอยู่อีกไหม! ในตอนนั้นเห็นว่าทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนนักเรียนกัน ตระกูลของพวกเราจึงได้ปล่อยแกไป ตอนนี้แกกลับที่จะมาก่อเรื่องอีก! ”

“ครั้งนี้ พวกเราไม่มีทางที่จะแสดงความเมตตาเหมือนครั้งก่อนแน่นอน! ”

เหยียนเสวเหวินหัวเราะแหะแหะและพูดว่า: “ฉินโส่ว นายอย่าได้ตื่นเต้นเกินไปหน่อยเลย แม้ว่าในครั้งก่อนตระกูลของพวกเราจะพ่ายแพ้ให้กับตระกูลของพวกนาย แต่นั่นเป็นเพราะ

หลินหยุน ซึ่งถ้าหากเป็นการปะทะกันระหว่างพวกเราสองตระกูลแล้วนั้น ตระกูลฉินของนาย

อาจจะไม่สามารถชนะก็เป็นได้! ”

“แต่ว่านายวางใจได้ ความเมตตาของพวกนายตระกูลฉิน พวกเราตระกูลเหยียนต่างก็จดจำไว้แล้ว ครั้งนี้ เมื่อกิจการทั้งหมดภายใต้ตระกูลฉินตกมาเป็นของพวกเรา ฉันเองก็จะปล่อยตัวนายกับพ่อ

ของนายด้วยเช่นกัน”

ฉินโส่วยิ้มเยาะและพูดว่า: “เหยียนเสวเหวิน นายกำลังพูดเพ้อเจ้ออยู่หรือเปล่า? ครั้งก่อนพวกนายพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ครั้งนี้จะเอาอะไรมาชนะพวกเราตระกูลฉินได้ล่ะ! ”

เหยียนเสวเหวินยิ้มเยาะอย่างประหลาดและพูดว่า: “ฉันได้พูดเอาไว้แล้วว่า ครั้งก่อนเป็นเพราะ

หลินหยุนช่วยเหลือพวกนาย ครั้งนี้อาจจะไม่แน่เสมอไป! ”

ฉินโส่วยิ้มอย่างเย็นชา: “ในเมื่อนายก็รู้ว่าครั้งก่อนคือหลินหยุนที่ช่วยเหลือพวกเรา อย่างนั้น

ครั้งนี้พวกนายยังจะกล้ามาหาเรื่องอีก? หรือว่าพวกนายได้พบเจอกับยอดฝีมือที่สามารถต่อสู้กับ หลินหยุนได้แล้ว? ”

เหยียนเสวเหวินเองก็ยิ้มอย่างเย็นชา: “นายคิดว่าอย่างไรล่ะ? ถ้าหากว่าไม่พบเจอกับยอดฝีมือ

ที่สามารถต่อสู้รับมือกับหลินหยุนได้แล้ว นายคิดว่าพวกเราจะกล้ามาก่อกวนหาเรื่องพวกนาย

ตระกูลฉินอย่างนั้นเหรอ? ”

ฉินโส่วสีหน้าเปลี่ยนไปทันที: “พูดแบบนี้หมายความว่า ครั้งนี้พวกนายได้เตรียมพร้อมมาเป็น

อย่างดีแล้ว”

“แต่ว่า ฉันอยากจะรู้ว่า ต่อให้พวกนายจะสามารถหาผู้ช่วยที่ต่อสู้กับหลินหยุนได้ แต่ลำพังแค่

อิทธิพลอำนาจของพวกนายตระกูลเหยียนในตอนนี้ มีคุณสมบัติอะไรที่จะกล้ามาหาเรื่องจัดการ

กับตระกูลฉินของฉันได้! ”

“นายคิดว่ากิจการภายใต้ตระกูลฉินของฉันเป็นเพียงแค่สิ่งของประดับตกแต่งเท่านั้นเหรอ? ”

เหยียนเสวเหวินหัวเราะเหอะเหอะ และพูดขึ้นด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง: “ฉินโส่ว นายสามารถ

ให้พ่อของนายโทรศัพท์ไปหาพวกบริษัทภายใต้ตระกูลฉินเหล่านั้นและสอบถามดูว่า ตอนนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างแล้ว? ”

พ่อของฉินโส่วสีหน้าเปลี่ยนไปทันที โดยได้ละสายตาจากเหยียนเสวเหวิน เคลื่อนย้ายมองไปที่

พ่อของเหยียนเสวเหวิน: “น้องเหยียน นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ”

พ่อของเหยียนเสวเหวินหัวเราะเหอะเหอะ: “ไม่มีอะไร ก็เพียงแค่ครั้งก่อนพ่ายแพ้ให้กับพี่ฉิน ฉันเองก็ไม่ค่อยจะเต็มใจยินยอมนัก ครั้งนี้มีโอกาสที่จะประลองกับพี่ฉินอีกครั้ง ดังนั้นฉันจึง

ต้องการที่จะใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่และดีที่สุด”

เมื่อพ่อของเหยียนเสวเหวินพูดจบ โทรศัพท์ของพ่อของฉินโส่วก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้น

หลังจากที่รับสายโทรศัพท์แล้ว สีหน้าของพ่อของฉินโส่วก็เปลี่ยนไปดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก

เขามองไปที่พ่อของเหยียนเสวเหวินอย่างเหลือเชื่อ: “นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน! ตกลงว่านายใช้

วิธีการอะไรกันแน่? แล้วนายทำมันสำเร็จได้อย่างไร! ”

ฉินโส่วขมวดคิ้ว โดยที่ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงขนาดทำให้คุณพ่อต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

เช่นนี้: “คุณพ่อ เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ”

พ่อของฉินโส่วมองไปที่ฉินโส่ว และพูดอย่างหนักแน่นว่า: “กิจการทั้งหมดภายใต้ตระกูลฉิน

ของพวกเรา ถูกคนอื่นรุมโจมตีอย่างหนักภายในวันเดียว ทำให้ตอนนี้กำลังประสบกับสภาวะ

วิกฤตอย่างรุนแรง”

หลังจากที่ได้ยินข่าวคราวนี้แล้ว ฉินโส่วยิ่งตื่นตระหนกขึ้นไปอีก: “นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน! ซึ่งเมื่อกวาดสายตามองไปโดยรอบทั่วทั้งประเทศจีน นอกจากวงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่แห่ง

เมืองหลวงแล้ว ยังจะมีผู้ใดที่สามารถมีอิทธิพลกระทำการเช่นนี้ได้อีกล่ะ? ”

พ่อของฉินโส่วพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่: “คือตระกูลหวางผู้ที่เป็นผู้นำของวงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่

เป็นคนลงมือกระทำ”

“……” ฉินโส่วพูดอะไรไม่ออก ผ่านไปสักพัก จึงถามขึ้นอย่างโมโหว่า: “ทำไม? พวกเราไม่มี

ความแค้นเคืองอะไรกับตระกูลหวาง แล้วทำไมเขาถึงต้องช่วยเหลือตระกูลเหยียนเพื่อมาจัดการ

กับพวกเราด้วยล่ะ? ”

พ่อของฉินโส่วถอนหายใจ: “โอ้ บางทีฉันอาจจะคิดออกถึงเหตุผลนี้แล้ว”

พ่อของเหยียนเสวเหวินหัวเราะเหอะเหอะ: “พี่ฉิน ดูเหมือนว่าคุณจะทายได้แล้ว ถูกต้อง ครั้งนี้ พวกคุณได้รับความเดือดร้อนเป็นเพราะผลกระทบจากปรมาจารย์หลิน ตระกูลหวางกำลัง

พยายามทำลายบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในทุกวิถีทาง พวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับปรมาจารย์หลิน ดังนั้นก็ต้องรับมือกับหายนะที่เกิดขึ้นนี้ด้วย”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท