จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 876 หลินหยุนมาแล้ว

บทที่ 876 หลินหยุนมาแล้ว

คู่ปราบเก่าคนหนึ่งของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป เหยียนชิงหัว เจ้าของบริษัทเหยียนซื่อกรุ๊ปมองดูหวางซูเฟิน ด้วยสีหน้าเหยียดหยามแล้วพูดว่า “หวางซูเฟิน คุณชายหวางมีความหวังดี ฉันขอเตือนคุณอย่าได้ขัดขืนไปเลย”

“บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปตอนนี้มาถึงทางตันแล้ว นี่เป็นเพราะว่าคุณชายหวางและหวางโส่วเหรินเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต จึงได้ให้โอกาสคุณในการแก้ตัวใหม่ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นฉันละก็ วันนี้คงไม่มาพูดเรื่องไร้สาระอยู่ที่นี่หรอก!”

“สำหรับสามีเฮงซวยของคุณคนนั้น ดิ้นรนมาตั้งหลายปีแล้ว ถึงกับยังเป็นแค่ระดับรอง ตำบลเท่านั้นเอง ผู้ชายแบบนี้คุณเอาเขาไว้มีประโยชน์อะไร?”

“ขอเพียงให้คุณกลับไปตระกูลหวาง ด้วยชื่อเสียงของตระกูลหวาง คนที่อยากแต่งงานกับคุณยังมีอีกเยอะแยะมากมาย แม้แต่คุณอยากได้เด็กเอ๊าะๆไว้ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะ!”

“ใช่แล้ว ยังมีลูกชายคนนั้นของคุณ ปรมาจารย์หลินบ้าบออะไรนั่น ชื่อเสียงโด่งดังมากเลยสิ เดิมทียังคิดว่าจะแน่ขนาดไหน ตอนนี้บริษัทของแม่แท้ๆตัวเองกำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลย”

“มีคำพูดอะไรนะที่เขาพูดกัน พ่อเป็นวีรบุรุษลูกก็ย่อมเป็นผู้กล้า พ่อเป็นสุนัขข้างถนนลูกก็ต้องเป็นสุนัขขี้เรื้อน มีผัวเฮงซวยอย่างแก ก็ต้องมีลูกชายใจเสาะอย่างแก!”

หวางซูเฟินสีหน้าขาวซีด โกรธจนหน้ามืดแทบจะเป็นลม

คำพูดของเหยียนชิงหัวนี้มันช่างโหดร้ายจริงๆ

“ต่ำทรามไร้ยางอาย!” ฉินหลันทำตาเขม็งใส่ แล้วตะคอกใส่เหยียนชิงหัวด้วยความโกรธ จากนั้นก็รีบไปพยุงหวางซูเฟินไว้ แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้อำนวยการ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”

หวางซูเฟินส่ายหน้าเล็กน้อย พยายามอดกลั้นความโกรธไว้ แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก!”

หลังจากนั้น หวางซูเฟินจ้องหน้าหวางโส่วเหริน เนื้อตัวสั่นไปหมดแล้วตะคอกเสียงเบาว่า:“นี่ก็คือทางออกที่นายเหลือไว้ให้ฉันเดินสิ!”

หวางโส่วเหรินพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก: “ประธานเหยียนเป็นคนนอก คำพูดการกระทำของเขาฉันไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย นี่อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่ว่า ผู้ชมย่อมจะเห็นความชัดเจนมากกว่าผู้เล่นล่ะมั้ง!”

คำพูดของหวางโส่วเหรินเช่นนี้ มีความหมายชัดเจน ก็คือฉันไม่ก้าวก่ายเขา คนเขาก็พูดถูกต้องแล้ว

“นาย…….” หวางซูเฟินชี้หน้าหวางโส่วเหริน โกรธจนพูดอะไรไม่ออก

ความพ่ายแพ้มันไม่ได้น่ากลัวเลย ต่อให้ไม่เหลืออะไรแล้ว ก็ยังสามารถอยู่กับคนในครอบครัวได้ หวางซูเฟินไม่ถือโทษโกรธใครทั้งนั้น

แต่ว่า ในฐานะตระกูลหวาง ถึงกับปล่อยให้ลูกน้องของตัวเองมาดูถูกหยามเกียรติเธอได้ถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหวางโส่วเหรินกับเธออย่างน้อยก็เคยผูกพันเป็นพี่น้องกันมานานหลายสิบปี ทำให้หวางซูเฟินยากที่จะยอมรับได้จริงๆ

เหยียนชิงหัวก็ย่อมเข้าใจความหมายในคำพูดของหวางโส่วเหรินอย่างแน่นอน นี่เห็นได้ชัดว่ากำลังสนับสนุนเขาอยู่!

คราวนี้ เหยียนชิงหัวก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น

“หวางซูเฟิน คำพูดของฉันก็คงจี้จุดใจดำคุณแล้วสินะ! ดูไปแล้วคุณก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ตัวตัวเองเลยนี่? ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว งั้นก็รีบตกลงเงื่อนไขของคุณหวางดีกว่านะ จะได้ไม่ ทำให้ตัวเองต้องตกต่ำไปกว่านี้!”

“แกหุบปาก!” หวางซูเฟินตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ “ถ้ายังกล้าพูดซี้ซั้วอีก ฉันจะฉีกปากแกให้เละเลย!”

เหยียนชิงหัวหัวเราะเสียงดัง: “ยังไงเหรอ? อับอายจนโกรธแล้ว คิดจะลงมือล่ะสิ!”

“มาๆมาเลย ฉันยอมให้ผู้อำนวยการหวางตบหน้าฉันเลย!”

พูดพลางเหยียนชิงหัวก็เหมือนพวกอันธพาล ยื่นหน้าเข้าไปท้าทายให้หวางซูเฟินลงมือ

หวางซูเฟินโกรธจนหายใจแรงขึ้น แต่กลับได้แต่ถอยหลังไป ถ้าทำร้ายคนก็ผิดกฎหมาย ตระกูลหวางก็ต้องฉวยโอกาสนี้มาโจมตีเธออย่างแน่นอน

เหยียนชิงหัวรู้อยู่แล้วว่าหวางซูเฟินไม่กล้าทำร้ายเขาแน่ ดังนั้นเขาจึงกล้ายื่นหน้าตัวเองเข้าไปให้ตบ

เมื่อเห็นหวางซูเฟินเดินถอยหลังไป เหยียนชิงหัวก็ยิ่งสะใจเหิมเกริมมากขึ้น “ตบเลย ตบฉันเลยสิ ผู้อำนวยการหวาง!”

“คุณแน่จริงก็ตบเลยสิ!”

ทันใดนั้นก็มีเงามืดแวบผ่านเข้ามา

หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงตบดังลั่นหนึ่งที!

เพลี้ย!

เหยียนชิงหัวยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ก็ถูกตบกระเด็นลอยออกไป

ระหว่างนั้น เหยียนชิงหัวก็กระอักเลือดออกมา พร้อมทั้งฟันในปากหลายซี่ก็หลุดกระเด็นปนมากับเลือดด้วย

หลินหยุนในชุดเสื้อดำ มายืนขวางอยู่ตรงหน้าหวางซูเฟินอย่างเงียบๆ จ้องมองหวางโส่วเหรินด้วยสีหน้าเยือกเย็น: “ดูแลสุนัขบ้านพวกคุณให้ดีด้วย!”

“เสี่ยวหยุน!” หวางซูเฟินตะโกนเสียงร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยินดี

ฉินหลันก็ยิ้มออกมา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งอก “เสี่ยวหยุน ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!”

สีหน้าไร้ความรู้สึกของหวางโส่วเหริน ในที่สุดก็ปรากฏความรู้สึกสะทกสะท้านออกมาบ้างแล้ว

เขาหรี่ตาแล้วจ้องมองหลินหยุนอย่างเงียบๆ พูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “แกกล้าทำร้ายคนเหรอ?”

หลินหยุนมองดูเขา ด้วยสายตาเรียบเฉย “ถ้าเขายังกล้ามาลบหลู่แม่ครับของฉันอีกละก็ ฉันก็จะฆ่าเขา”

น้ำเสียงของหลินหยุนเรียบเฉยมาก ก็เหมือนกับการพูดคุยเล่นตามปกติ แต่ว่าเนื้อหาในการพูดเล่น มันค่อนข้างสยดสยองไปหน่อย

แต่ว่ากลับไม่มีใครกล้าสงสัยความจริงเท็จในคำพูดของเขาเลย ทุกคนต่างก็เชื่อว่า ขอเพียงให้เหยียนชิงหัวกล้าลบหลู่หวางซูเฟินอีกคำเดียว หลินหยุนก็จะต้องลงมือฆ่าเขาอย่างแน่นอน

หวางโส่วเหรินนิ่งเงียบไป พอหลินหยุนมาถึง ก็ข่มขวัญฝ่ายของตระกูลหวางทันที

ถึงแม้ว่าหลินหยุนจะตบเหยียนชิงหัวก็จริง แต่ว่า นี่ก็ยังไม่นับว่าเป็นเรื่องอะไรใหญ่โตนัก

ปรมาจารย์นักบู๊คนหนึ่ง ทำร้ายคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง เหตุผลแค่นี้ยังไม่สามารถทำให้ ทางการรัฐบาลจีนยกกองทัพทหารมาถล่มเขาได้อย่างแน่นอน

นอกเสียจากหลินหยุนเข้ามาถึงก็สังหารเหยียนชิงหัวเลย เช่นนี้แล้วก็อาจจะเป็นช่องโหว่พอที่จะให้ตระกูลหวางใช้เป็นข้ออ้างได้

แต่ว่า ขณะที่หลินหยุนลงมือนั้นก็รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา เพียงแค่สั่งสอนเหยียนชิงหัวไปเท่านั้นเอง ไม่ใช่ลงมือสังหารเขาเสียทีเดียว

จะเห็นได้ว่า หลินหยุนก็ไม่ใช่เป็นคนวู่วามไร้มันสมอง ที่ได้แต่อาศัยพละกำลังอย่างเดียวพวกนั้น

ผู้คนทั้งหลายที่ยืนอยู่ข้างหลังหวางโส่วเหริน ซึมซับถึงพลังในตัวของหลินหยุนที่เปล่งออกมา ถึงกับถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว

มีแต่หวางโส่วเหรินและหวางเซิ่งเฉียนสองเท่านั้น ที่ยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน

ขณะนี้เอง จึงปรากฏสถานการณ์อย่างหนึ่งขึ้นมา คือมีแต่หลินหยุนเพียงคนเดียวฝ่ายหนึ่งเผชิญหน้ากับหวางโส่วเหรินและหวางเซิ่งเฉียนอีกฝ่ายหนึ่ง

สีหน้าของหวางโส่วเหรินแลดูน่าเกลียดมาก เขารู้ว่า ถึงแม้ต่างฝ่ายต่างก็เพิ่งมาพบหน้ากันก็ตาม แต่การประลองครั้งแรกนี้ พวกเขาก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว

ลำพังแค่หลินหยุนคนเดียวมายืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม ก็สามารถกดดันให้คนตั้งมากมายของฝ่ายตระกูลหวางเงยหัวไม่ขึ้นแล้ว

เหยียนชิงหัวคลานขึ้นมาจากพื้น ใบหน้าครึ่งซีกก็บวมเป่งขึ้นมาราวกับหัวสุกร

ตอนนี้สมองยังมึนตึ๊บอยู่เลย

เขาเดินเข้าไปด้วยสีหน้าโกรธจัด ชี้หน้าหลินหยุนแล้วด่าตะคอกว่า “ไอ้เด็กเวร แกกล้าตบฉันเหรอ ฉันจะฆ่าแก!”

เพราะว่าฟันของเหยียนชิงหัวหลุดออกไปหลายซี่แล้ว ตอนเวลาพูดก็รั่วลมจึงพูดไม่ชัด

เหยียนชิงหัวยังไม่เคยเห็นหน้าหลินหยุนมาก่อน ไม่รู้ว่าหลินหยุนก็คือปรมาจารย์หลิน จึงชูหมัดขึ้นแล้วพุ่งไปหาหลินหยุน

แต่ว่ากลับถูกหวางโส่วเหรินห้ามไว้ก่อน

เหยียนชิงหัวถามด้วยความสงสัยว่า “คุณหวาง ทำไมคุณถึงมาห้ามฉันไว้ล่ะ? หรือว่าเจ้าเด็กนี่เป็นญาติตระกูลคุณเหรอ?

หวางโส่วเหรินทำตาถลนใส่เขา พูดด้วยเสียงเข้มว่า “เขาก็คือปรมาจารย์หลิน”

เหยียนชิงหัวก็พยายามจะดิ้นรนออกจากแขนของหวางโส่วเหริน แล้วกำลังจะเดินขึ้นไป ในปากก็ด่าด้วยเสียงอู้อี้ว่า “ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์หลินบ้าบออะไร ถ้ากล้ามาตบฉัน ฉันก็จะต้องฆ่าเขาให้ตายคามือไปเลย!”

หวางโส่วเหรินจึงวางแขนตัวเองลง ไม่ไปขัดขวางอีก “ได้ งั้นคุณก็ไปสิ!”

สายตาทุกคนในที่นั้น มองไปยังเหยียนชิงหัว ราวกับว่ากำลังมองดูตัวตลกอยู่

เมื่อได้ยินว่าหวางโส่วเหรินถึงกับยอมให้ตัวเองไปง่ายๆเช่นนี้ เหยียนชิงหัวก็รู้สึกอึ้งไปทันที

“รอเดี๋ยว เมื่อกี้คุณพูดว่าเขาเป็นใครนะ?”

หวางโส่วเหรินมองหน้าเขาอย่างไม่แยแส ขี้เกียจจะไปตอบ

เหยียนชิงหัวพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “คุณบอกว่าเขาก็คือปรมาจารย์หลินเหรอ?”

หวางโส่วเหรินพยักหน้า

เหยียนชิงหัวกลืนกลืนน้ำลายเฮือก ชั่วพริบตาเดียว ทั่วทั้งแผ่นหลังก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แล้ว

หวางโส่วเหรินมองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วถามอย่างเรียบๆว่า “แล้วยังจะฆ่าอีกมั๊ย?”

สายตาที่เหยียนชิงหัวมองดูหลินหยุนนั้น ราวกับว่าเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโบราณที่กินคนเข้าไปทั้งตัวจนไม่เหลือกระดูกเลย

เหยียนชิงหัวถอยหลังไปทีละก้าวทีละก้าว พูดพึมพำกับตัวเองว่า “ไม่ ไม่ฆ่าแล้ว”

หวางโส่วเหรินมองดูเหยียนชิงหัวด้วยสีหน้าเหยียดหยาม สำหรับบทบาทตัวละครเช่นนี้ เดิมทีเขาก็ไม่ได้หวังจะให้ช่วยอะไรมากอยู่แล้ว ก็เพียงแค่ใช้โจมตีหวางซูเฟินเท่านั้นเอง

อย่างน้อย คำพูดของพวกคนไร้ยางอายพวกนี้ ไม่ใช่ว่าใครๆก็จะสามารถทำได้ ทุกคนต่างก็มีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูง ต่างก็กลัวขายหน้ากันทั้งนั้น

หวางโส่วเหรินมองดูหลินหยุน แล้วพูดเยาะเย้ยด้วยสีหน้าดูถูกว่า “แกมาแล้ว จะทำอะไรได้ล่ะ คิดจะฆ่าพวกเราให้ตายหมดเลยเหรอไง?”

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท