จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 896 ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่สิ้นหวัง

บทที่ 896 ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่สิ้นหวัง

“ฉันไม่สนใจอะไรมากแล้ว ขอแค่ชนะคุณได้ ฉันก็จะมีชื่อเสียงทันที”

“เมื่อฉันได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักยาตันในอนาคต มันก็จะดูสมเหตุสมผล และไม่มีใครกล้าคัดค้านอีก”

เมื่อนึกถึงอนาคตที่สดในของตัวเอง ป่ายหลี่หลงเซิ่งยิ้มด้วยความดีใจจนลืมตัว จนเกือบจะควบคุมเปลวไฟไว้ไม่อยู่

“……ห้ามคิดฟุ้งซ่านอีก”

ป่ายหลี่หลงเซิ่งตกใจมากๆ เขารีบรวบรวมสมาธิและเริ่มกลั่นยาต่อ

จนกระทั่งป่ายหลี่หลงเซิ่งใกล้จะกลั่นยาสำเร็จ

จู่ๆหลินหยุนก็ขยับตัวทันที

เขาสะบัดมือ สมุนไพรทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะก็บินวนอยู่กลางอากาศ

จากนั้นเขาก็ยืนมือออกมา ก็มีเปลวไฟพุ่งออกมาและห่อหุ้มสมุนไพรพวกนั้นเอาไว้

“นักกลั่นยาตัวจริง ไม่ต้องใช้เตากลั่นยาอยู่แล้ว!”

เมื่อเขาพูดจบ ยาก็ได้กลั่นสำเร็จแล้ว

มีโอสถเม็ดหนึ่งเปล่งแสงจางๆออกมา กลิ่นหอมของโอสถพุ่งกระจายไปทั่วทิศ และโอสถเม็ดนั้นก็หมุดตัวอยู่กลางอากาศ

ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงทันที

ทั้งสนามแข่งขันเงียบสงัดทันที

ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่กำลังถึงขั้นตอนสุดท้ายของการกลั่นยา และใกล้จะกลั่นยาสำเร็จ จู่ๆเขาก็ได้กลิ่นหอมของยาโอสถ และเขาก็เหลือบมองไปที่หลินหยุนทันที

จากนั้นป่ายหลี่หลงเซิ่งก็อึ้งไปเลย สีหน้าของเขาเขียวจนน่ากลัว

เขาสูญเสียพลังไปมาก จนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะกลั่นยาสำเร็จ ตอนนี้มีเสียงเคร้งดังขึ้นแล้วมันก็ตกลงที่พื้น

ป่ายหลี่หลงเซิ่งกลั่นยาล้มเหลวแล้ว

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาเลย

ผู้ตัดสินทั้งหมดที่อยู่ด้านบน ตอนนี้พวกเขายืนขึ้นมาพร้อมกัน และมองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าตกใจ

ผ่านไปสักพัก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูด

น้ำเสียเบาๆของหลินหยุนค่อยๆดังขึ้น:”ประกาศผลแพ้ชนะได้หรือยัง!”

น้ำเสียงนี้ ทำให้ทุกคนที่ตกตะลึงด้วยความตกใจ ได้สติคืนมาทันที

จากนั้นก็เกิดเสียงวุ่นวายขึ้น

“โอ้พระเจ้า! ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม! เขากลั่นยาได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“โอ้พระเจ้า คุณล้อเล่นกับพวกเราอยู่ใช่ไหม! พี่ชายช่วยหยิกหน้าฉันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตัวเองฝันอยู่หรือเปล่า!”

“ใช่แน่ๆเลย วันนี้ฉันเปิดประตูผิดด้านแน่นอน เดี๋ยวฉันกลับไป จะเปิดประตูใหม่อีกหนึ่งครั้ง!”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง พวกเขาคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่

นอกจากนี้ พวกเขาคิดว่าวิชาการกลั่นยาที่ตัวเองฝึกฝนมาหลายสิบปี แต่วันนี้เมื่อเห็นวิธีกลั่นยาของหลินหยุน พวกเขารู้สึกว่าวิชาการกลั่นยาที่ตัวเองร่ำเรียนมานั้น มันเป็นวิชาการกลั่นยาที่ปลอมมากๆ

เมื่อเทียบกับวิธีกลั่นยาของคนอื่นๆ พวกเขาแต่งต่างกันมากๆ ต่างกันราวฟ้ากับเหว

ร่างกายของผู้ตัดสินแซ่กู่สั่นไหวไปหมด และน้ำเสียงของเขาก็สั่นไปหมด:”สะบัดมือมันก็มาทันที! สะบัดมือก็มาทันที! นี่มันคือสะบัดมือก็มาทันที!”

“แม้แต่นักกลั่นยาระดับเทพที่อยู่ในตำนานก็ทำไม่ได้ คนที่ทำได้ต้องอยู่ระดับสูงกว่านั้นอีก!”

“เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกศิษย์ของใครกันแน่!”

“หุบเขาเทพยาสอนลูกศิษย์ที่เก่งกาจขนาดนี้ได้ยังไง!”

สีหน้าของผู้ตัดสินเหล่านั้นเคร่งขรึมทันที สายตาที่พวกเขามองหลินหยุน ไม่สามารถใช้คำว่าตกตะลึงมาอธิบายได้ ตอนนี้สายตาของพวกเขามีเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความเคารพเท่านั้น

ผู้ตัดสินแซ่กู่หัวเราะด้วยความขมขื่น:”เดิมทีฉันอยากจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ และสอนวิชากลั่นยาทั้งหมดของตัวเองให้เขา และให้เขาเป็นผู้สืบทอดวิชากลั่นยาของฉัน”

“ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันประเมินตัวเองสูงเกินไป วิชากลั่นยาของฉันเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา มันคงไม่มีค่าอะไรเลย!”

เรื่องนี้ทำให้ผู้ตัดสินแซ่กู่กระทบจิตใจมากๆ แต่เขาก็รู้สึกดีใจมากๆเช่นกัน

“อย่างไรก็ตาม การได้เห็นวิชากลั่นยาที่สุดยอดขนาดนี้ ก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ……”

ท่าทางของผู้ตัดสินแซ่กู่ดูบ้าคลั่ง เห็นได้อย่างชัดเจน เขาเป็นคนประเภทเดียวกับโม่จือมิ่ง เขาเป็นนักกลั่นยาที่บ้าคลั่งเรื่องโอสถจริงๆ

สีหน้าของป่ายหลี่เถ่เย็นชาขึ้นมาทันที ถึงแม้สีหน้าของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่จิตใจของเขาสั่นไหวมากๆ และตกตะลึงไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆเลย

ป่ายหลี่เถ่คือนักกลั่นยาที่เก่งกาจที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เป็นเพราะเขาเป็นนักกลั่นยาที่เก่งที่สุด ทำให้ป่ายหลี่เถ่รู้ว่าวิธีกลั่นยาของหลินหยุนนั่นยากแค่ไหน

ในสายตาของเขา วิธีนั้นไม่ใช่ฝีมือที่มนุษย์สามารถทำได้

แต่เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหลินหยุนได้ฝึกฝนถึงขึ้นนั้นแล้วจริงๆ

การกลั่นยานั้นต้องตั้งใจและละเอียดรอบคอบมากๆ และไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย ขั้นตอนการกลั่นยาทุกครั้ง จะต้องระมัดระวังอย่างพิเศษ

สำหรับวิธีการของหลินหยุน แค่สะบัดมือก็สามารถกลั่นยาสำเร็จ มันเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติมากๆ!

ดังนั้นป่ายหลี่เถ่สงสัยมากๆ โอสถที่หลินหยุนกลั่นออกมานั้น มันมีสรรพคุณของยาจริงๆหรือเปล่า?

สีหน้าของป่ายหลี่เถ่เย็นชามากๆ และพูดกับผู้ตัดสินที่ตกตะลึงคนนั้นทันที:”รีบไปตรวจดูสรรพคุณของยาได้แล้ว!”

ผู้ตัดสินคนนั้นได้สติทันที สายตาที่มองหลินหยุนเต็มไปด้วยความเคารพและเกรงกลัว

“เริ่มตรวจสรรพคุณของ……ยา!”ผู้ตัดสินคนนั้นพูดติดๆขัดๆ เรื่องนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน จิตใจของเขานั้นตกตะลึงมากๆ

หลินหยุนสะบัดมือ โอสถเม็ดนั้นก็พุ่งไปอยู่ด้านหน้าของผู้ตัดสินคนนั้นทันที

ผู้ตัดสินคนนั้นรีบเอาโอสถเก็บไว้ในขวดยานัตถุ์หยกที่เตรียมมาทันที จากนั้นก็ส่งไปให้โต๊ะผู้ตัดสิน

ผู้ตัดสินหลายๆคนรีบเดินเข้ามาทันที และตรวจสอบสรรพคุณของยาเม็ดนี้ทันที

“ยาเม็ดนี้เป็นของจริง!”

“มันเป็นของจริง!”

“เขากลั่นยาสำเร็จจริงๆด้วย และยาเม็ดนี้ก็อยู่ในระดับที่ดีอีกด้วย

“ไม่ใช่แค่อยู่ในระดับที่ดี แต่โอสถเม็ดนี้คือยาทิพย์ล้ำเลิศ!”

ยาทิพย์ล้ำเลิศ มันเป็นระดับที่สูงที่สุดของการกลั่นยาในโลกกลั่นยา

โอสถชนิดเดียวกันแบ่งออกเป็น ชั้นล้ำเลิศ ชั้นสูง ชั้นกลาง และชั้นล่าง

ชั้นล่างคือแย่ที่สุด ส่วนชั้นล้ำเลิศคือดีที่สุด

สีหน้าของผู้ตัดสินเหล่านั้นตกตะลึงมากๆและพูด:”เขาแค่สะบัดมือ ก็สามารถกลั่นยาชั้นล้ำเลิศได้เลยเหรอ?”

“ฮ่าๆๆๆ ถ้าฉันไม่ได้ฝันไป หลายสิบปีมานี้พวกเราอยู่อย่างคนไร้ประโยชน์จริงๆ”

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน? ตอนนี้ฉันสงสัยมากๆ วิชากลั่นยาที่พวกเราเรียนมาเป็นของปลอมหรือเปล่า”ผู้ตัดสินอีกคนพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น

แม้แต่ผู้ตัดสินก็มีความคิดแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักกลั่นยาที่อยู่ด้านล่าง

ป่ายหลี่เถ่พูดอย่างจริงจัง:”ตรวจสอบสรรพคุณของยาหรือยัง? รีบประกาศผลการตรวจสอบเลย!”

ผู้ตัดสินเหล่านั้นหยุดการสนทนาทันที

ผู้ตัดสินที่ไว้หนวดเคราคนนั้นเดินไปข้างหน้า เขามองทุกคนที่อยู่ด้านล่างและประกาศด้วยน้ำเสียงที่ดังมากๆ:”ยาที่หลินหยุนกลั่นออกมานั้น คือโอสถชั้นล้ำเลิศ!”

“การประลองระหว่างป่ายหลี่หลงเซิ่งกับหลินหยุนในครั้งนี้ หลินหยุนเป็นฝ่ายชนะ!”

ผู้คนด้านล่างไม่มีใครตะโกนแสดงความดีใจ เพราะไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดออกมาเลย

หลินหยุนเป็นฝ่ายชนะ ทุกคนรู้ดีแก่ใจ ถ้าหลินหยุนไม่ได้รับชัยชนะ มันก็น่าเกลียดเกินไป

แต่หลินหยุนใช้วิชาสะบัดมือมาทันทีในการกลั่นยา ทำให้ทุกคนตกตะลึงอยู่และยังไม่ได้สติกลับมา

“มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากๆ!”

ผ่านไปสักพัก มีชายชราคนหนึ่ง ถอนหายใจออกมาและพูดเบาๆ

“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากๆ!”

“บนโลกนี้ ยังมีวิชาการกลั่นยาที่สุดยอดขนาดนี้อยู่อีกเหรอ!”

“ฮ่าๆๆๆ สงสัยพวกเรามีความรู้เรื่องเหล่านี้น้อยเกินไปจริงๆ!”

“แต่วิชาการกลั่นยาแบบนี้ เป็นของหุบเขาเทพยาจริงๆเหรอ?”

“เป็นไปไม่ได้? หุบเขาเทพยาไม่สามารถปกป้องบันทึกเตากลั่นยาเอาไว้ได้ ถ้าพวกเขามีวิชากลั่นยาที่สุดยอดขนาดนี้ พวกเขาคงใช้มันมาประลองกับสำนักยาตันแล้ว!”

โม่จือมิ่งยืนฟังคนอื่นๆสนทนากันอย่างเงียบๆ แต่เขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย

ในเวลานี้ เขามองหลินหยุนด้วยความตกตะลึง สายตาของเขามีแต่ความเคารพและนับถือเท่านั้น

“สะบัดมือก็มาทันที สะบัดมือก็มาทันที! ฮ่าๆๆๆ พี่ใหญ่ ถ้าวิญญาณของพี่ที่อยู่บนสวรรค์รู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าพี่จะเสียใจที่ไม่ได้เห็นมันหรือเปล่า!”

“ปรมาจารย์หลินที่คุณคิดว่าเขาเป็นศัตรูมาโดยตลอด ตอนนี้เขาเป็นตัวแทนของหุบเขาเทพยาและล้างความอับอายทั้งหมดให้พวกเรา และทำเรื่องที่พวกเราหวังมาตลอดหลายปีจนสำเร็จ

ป่ายหลี่หลงเซิ่งตกตะลึงมากๆและยืนอยู่ที่เดิม เขาบ่นพึมพำออกมา:”เป็นไปได้ยังไง! มันเป็นไปได้ยังไง!”

“คนที่ชนะต้องเป็นฉัน คนที่ควรชนะต้องเป็นฉัน! ทั้งๆที่ฉันใกล้จะเอาชนะได้แล้ว แต่เขากลับไม่ยอมขยับตัวเลย ทำไมฉันถึงแพ้ละ!”

“ทำไม!”

ป่ายหลี่หลงเซิ่งเหมือนคนเป็นบ้า ร่างกายของเขาสั่นไหว และหมุนรอบตัวเองอยู่ที่เดิม

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท