ด้านหลังของจางเฮยหู่ ยังมีผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินตามมาด้วย เพียงแต่ว่า ผู้อาวุโสคนนั้นยืนอยู่ด้าน
หลังในระยะไกลออกไป เหมือนกับว่าจงใจที่จะรักษาระยะห่างกับจางเฮยหู่
จางเฮยหู่มองไปที่หลินซื่อเฉิง ยิ้มอย่างเย็นชา พร้อมกับแสดงใบหน้าที่เหยียดหยาม: “ฉันว่าคนแก่
อย่างนายนี้ ครั้งก่อนได้เคยไว้ชีวิตนายไปแล้วครั้งหนึ่ง นายยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ แต่กลับที่จะมา
รนหาที่ตาย หรือว่าเบื่อหน่ายกับการมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? ”
หลินซื่อเฉิงส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา: “อย่าได้ทำเป็นพูดดีแบบนั้นเลย ครั้งก่อนฉันได้เคยบอกกับนาย
ไปแล้วว่า เพียงแค่มาประลองฝีมือ แต่นายกลับลงมือที่จะฆ่าฉัน ครั้งนี้ ฉันมาเพื่อแก้แค้นนาย
โดยเฉพาะ! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ”
ได้ยินดังนั้น จางเฮยหู่ก็เงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งในเสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
จากนั้น เขาก็หยุดหัวเราะลงทันที แล้วมองไปที่หลินซื่อเฉิงอย่างเหยียดหยาม ส่งเสียงฮึอย่าง
เย็นชาและพูดขึ้นว่า: “ความสามารถแค่นั้นของนาย ยังคิดที่จะมาแก้แค้นฉันอีก กลับไปฝึกฝน อีกสักสิบปีก่อนเถอะ! ”
หลินซื่อเฉิงเกิดความหงุดหงิดใจขึ้นบ้าง ครั้งก่อนตอนที่ต่อสู้กับจางเฮยหู่นั้น กำลังความสามารถ
ที่แข็งแกร่งของจางเฮยหู่ หลินซื่อเฉิงยังคงมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง
แม้ว่าครั้งนี้ความสามารถของเขาจะก้าวหน้าขึ้น แต่ว่า จากที่เขาคาดการณ์ ก็ยังคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้
ของจางเฮยหู่อยู่ดี
อดใจไม่ไหว หลินซื่อเฉิงมองไปที่หลินหยุนที่อยู่ด้านข้าง สายตาแสดงท่าทางสอบถามขึ้น
หลินหยุนพยักหน้า ยิ้มและพูดว่า: “วางใจเถอะ ไปต่อสู้กับเขาตามที่ฉันได้สอนคุณ แล้วจะสามารถ
เอาชนะได้อย่างแน่นอน”
หลินซื่อเฉิงมีความมั่นใจต่อหลินหยุนอย่างที่สุด เมื่อได้ยินที่พูดแล้วก็พยักหน้า: “ตกลง ฉันจะ ลองดู”
หลินซื่อเฉิงยืดอกขึ้น แล้วเดินไปด้านหน้า
“มาเลย ครั้งนี้ ฉันจะลบล้างความอับอายที่เกิดขึ้นทั้งหมด! ”
จางเฮยหู่ยิ้มเยาะ: “ฉันว่านายกำลังรนหาที่ตาย! ”
“เตรียมรับมือ! ”
จางเฮยหู่ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง ลงมือออกอาวุธทันที
หลังจากการต่อสู้กันในครั้งก่อน เขาไม่ได้เห็นหลินซื่อเฉิงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
สำหรับหลินหยุน ก็เห็นว่าหลินหยุนยังคงเป็นเพียงเด็กหนุ่ม จางเฮยหู่จึงยิ่งไม่เห็นอยู่ในสายตา
เห็นจางเฮยหู่ปล่อยหมัดออกมาอย่างรวดเร็ว หลินซื่อเฉิงถึงกับตกใจขึ้นเล็กน้อย
เวลานี้ เสียงของหลินหยุนดังขึ้นมาจากด้านหลัง เมื่อได้ยินเสียงนั้นแล้ว ทำให้จิตใจของหลินซื่อเฉิง
สงบลงทันที
“สยบเขา! ”
หลินซื่อเฉิงสีหน้าท่าทางหนักแน่น ตะโกนเสียงดัง แล้วก็ชกหมัดออกไปอย่างรวดเร็ว
พลังหมัดนั้น ดุดันทรงพลัง พุ่งทะลวงไปข้างหน้าอย่างรุนแรง ก็เหมือนกับยักษ์ผู้บุกเบิกโลกที่ได้ สาบานไว้ว่า จะทำลายกวาดล้างทุกสิ่งกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้า
นี่คือวิชาต่อสู้ที่หลินหยุนได้สอนให้กับหลินซื่อเฉิงในชั่วข้ามคืน โดยได้ผ่านการดัดแปลงมาจากวิชา
สิบแปดท่าต้าเต๋า จากเดิมที่ซับซ้อนให้ง่ายดายลง เพื่อง่ายสำหรับผู้บำเพ็ญเซียนหน้าใหม่ฝึกฝน
วิชาสิบแปดท่าต้าเต๋าที่ผ่านการดัดแปลงให้ง่ายลงนั้น แม้ว่าพลังอานุภาพจะลดลงไปอย่างมาก แต่ว่าเมื่อเทียบกับวิชาต่อสู้เหล่านั้นในโลกบู๊แล้ว ก็ยังคงมีความแข็งแกร่งกว่าหลายร้อยเท่า
ครั้งก่อนที่หลินซื่อเฉิงพ่ายแพ้ให้กับจางเฮยหู่นั้น อย่างแรกก็เป็นเพราะระดับขั้นของจางเฮยหู่
เหนือกว่าหลินซื่อเฉิง
อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นเพราะหลินซื่อเฉิงไม่มีวิชาต่อสู้ มีเพียงแค่พลังการบำเพ็ญ
แบบนี้ พลังความสามารถที่หลินซื่อเฉิงได้แสดงออกมานั้น ก็ลดอานุภาพลงไปมากเลยทีเดียว ซึ่งก็
ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจางเฮยหู่อย่างแน่นอน
แต่ว่า ตอนนี้หลังจากที่หลินหยุนได้สอนวิชาต่อสู้ให้กับหลินซื่อเฉิงแล้ว ก็สามารถที่จะทำให้ระดับ
พลังบำเพ็ญในร่างกายของหลินซื่อเฉิง ปลดปล่อยออกมามากขึ้นเป็นสองร้อยเท่าเลย
บวกกับการที่หลินซื่อเฉิงหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว พลังความสามารถก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หลินซื่อเฉิงในเวลานี้ เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ตอนที่ประลองกับจางเฮยหู่แล้ว แข็งแกร่ง
ทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
เห็นอานุภาพพลังหมัดที่หลินซื่อเฉิงปล่อยออกมานั้น จางเฮยหู่ก็แอบสะพรึงกลัวอยูในใจ
แต่ จางเฮยหู่ไม่เชื่อว่า ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วัน พลังความสามารถของหลินซื่อเฉิงจะพัฒนา
ก้าวกระโดดขึ้นได้อย่างมาก
“ฉันไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด! ”
จางเฮยหู่กัดฟัน ปลดปล่อยพลังบำเพ็ญออกมาทั้งหมด เพื่อพุ่งปะทะเข้าใส่ รับมือกับพลังหมัด
นั้นของหลินซื่อเฉิง
โครม!
สองพลังหมัดปะทะกัน จากนั้น เรื่องที่ทำให้ลูกศิษย์ของสำนักพยัคฆ์ต้องตกตะลึงก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
เดิมทีพวกลูกศิษย์ที่คิดว่าพลังหมัดเดียวก็สามารถชกหลินซื่อเฉิงให้กระเด็นลอยไปไกลได้นั้น กลับพากันอ้าปากค้างขึ้น
พวกเขาพบว่า จางเฮยหู่เจ้าสำนักของตน กลับกลายเป็นเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ พุ่งกระเด็น
ออกไปอย่างรุนแรง
ส่วนหลินซื่อเฉิงเพียงแค่ถอยหลังไปไม่กี่ก้าว แล้วก็ยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
พวกลูกศิษย์ทั้งหลายต่างก็ตะลึงกันไปทั้งหมด
เพียงแค่ไม่กี่วันที่ไม่ได้เจอกัน คิดไม่ถึงว่าไอ้แก่นี้จะแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้ได้!
จิตใจของจางเฮยหู่ยิ่งรู้สึกหวาดผวาปั่นป่วนมากขึ้น ยืนอยู่ที่ตรงนั้น พร้อมกับแอบยับยั้งเลือดลม
ที่เดือดพล่านในร่างกายลง แล้วมองไปที่หลินซื่อเฉิง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
และที่ยังเหลือเชื่อเหมือนกันนั้นก็คือตัวของนายท่านหลินเอง
เวลานี้ เขากำลังยืนอยู่กับที่อย่างงุนงง แล้วมองไปที่มือสองข้างของตนเองอย่างตกตะลึง เหมือนกับไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเป็นคนปล่อยหมัดนั้นออกไป
จางเฮยหู่ไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น กัดฟัน แล้วพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
“มากันอีกยก! ”
ครั้งนี้ จางเฮยหู่ได้นำพลังวิชาสุดยอดของตนเอง แสดงออกมาเลย
“พยัคฆ์ดำพิกัติหินผา! ”
พลังหมัดของจางเฮยหู่ ได้ถูกปกคลุมด้วยชี่แท้สีดำ และกลายร่างเป็นหัวพยัคฆ์
นี่ก็คือพลังขั้นสูงสุด การผันร่างชี่แท้
พลังหมัดนี้ของจางเฮยหู่ ราวกับเสือที่หิวโซกำลังลงมาจากภูเขา แยกเขี้ยวยิงฟันและพุ่งจู่โจม
เข้าใส่หลินซื่อเฉิง
แม้ว่าการจู่โจมของหลินซื่อเฉิงก่อนหน้านี้นั้นจะกุมความได้เปรียบ แต่ตอนนี้เห็นถึงการโจมตีอัน
ทรงพลังขนาดนี้ของจางเฮยหู่แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดผวาขึ้นบ้าง
เวลานี้ เสียงของหลินหยุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง: “แยกน้ำ! ”
แววตาของหลินซื่อเฉิง มั่นคงเด็ดเดี่ยวขึ้นมาทันที ก้าวเท้าออกไปข้างหน้า แล้วก็ชกหมัดเข้าใส่
ท่าแยกน้ำ แบ่งแยกทุกสิ่งที่กีดขวาง พุ่งตรงจู่โจมเป้าหมาย
พลังหมัดนี้ของหลินซื่อเฉิง ราวกับกระบี่ที่แหลมคม เผชิญหน้ากับพยัคฆ์ที่ดุร้ายจากการผันร่าง
ของจางเฮยหู่ แล้วก็พุ่งตรงเข้าแทงอย่างรวดเร็ว
กระบี่แหลมคมราวกับมีดที่หั่นเต้าหู้อย่างไรอย่างนั้น พุ่งทะลุผ่านพยัคฆ์ที่ดุร้าย จากนั้น ก็ทิ่มแทงไปยังหน้าอกของจางเฮยหู่
ฟุบ!
จางเฮยหู่ได้ถูกชกกระเด็นลอยออกไปอีกครั้ง แล้วก็ร่วงตกลงมาสู่พื้นอย่างแรง
ครั้งนี้หลินซื่อเฉิง ไม่ได้ตกตะลึงอีกแล้ว แต่กลับเงยหน้า หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้น ด้วยเสียงหัวเราะ
ที่ห้าวหาญ
จางเฮยหู่มีสีหน้าท่าทางที่อกสั่นขวัญหาย มองไปยังหลินซื่อเฉิงที่ดีอกดีใจ โดยที่จิตใจของเขากับ
หลินซื่อเฉิงนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร? ”
“เพียงแค่ผ่านไปไม่กี่วันเท่านั้นเอง พลังความสามารถของเขากลับแข็งแกร่งมากถึงขนาดที่แม้แต่
พลังหมัดของฉันยังต้านทานเอาไว้ไม่ได้! ”
พวกลูกศิษย์ของสำนักพยัคฆ์ ต่างก็ตกตะลึงจนถึงกับอ้าปากค้าง
พวกเขาเห็นว่า เจ้าสำนักที่องอาจเกรียงไกรมาโดยตลอดนั้น กลับถูกคนแก่ชราผู้หนึ่งโจมตีจน
ไม่สามารถที่จะตอบโต้กลับได้เลย
อีกทั้งคนแก่ชราผู้นี้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันยังคงเป็นเพียงแค่ผู้พ่ายแพ้ให้กับเจ้าสำนักของพวกเขา!
หลินซื่อเฉิงมองไปที่หลินหยุนด้วยความตื่นเต้นดีใจ ทอดถอนหายใจและพูดขึ้นว่า: “เสี่ยวหยุน วิชาที่นายได้สอนให้กับฉัน มันช่างเยี่ยมยอดมากทีเดียว! ”
“ฉันสามารถเอาชนะเขาได้แล้ว ไม่กล้าที่จะจินตนาการเลยจริง ๆ! ”
ได้ยินคำพูดของหลินซื่อเฉิง จางเฮยหู่และพวกคนในสำนัก ก็มองไปที่หลินหยุน ด้วยสีหน้าที่
เปลี่ยนไป
“ที่จริงแล้ว ผู้ที่ปรับเปลี่ยนสภาพการณ์ต่อสู้นี้จริง ๆ แล้ว ก็คือเขา! ”
“ไอ้หนุ่มนี้เป็นใครกัน? ชี้แนะเพียงแค่ไม่กี่วัน นึกไม่ถึงว่าจะทำให้พลังความสามารถของผู้อาวุโสนี้ ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด! ”
ทุกคน ต่างก็มองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง
ตอนนี้ พวกเขารู้แล้วว่า หลินหยุนต่างหากที่เป็นยอดฝีมือที่ปกปิดตัวตนเอาไว้
ด้านหลังของจางเฮยหู่ ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ห่าง ๆ คนนั้น ในที่สุดก็ได้เอ่ยปากขึ้นแล้ว
เขายิ้มเยาะและพูดว่า: “จางเฮยหู่ ถ้าหากนายตกลงยอมรับในเงื่อนไขของฉัน ฉันสามารถลงมือ
ช่วยเหลือนายสังหารพวกเขาได้! ”
จางเฮยหู่หันหลังกลับไป มองที่ผู้อาวุโสคนนั้น แล้วก็ขมวดคิ้วขึ้น
ผู้อาวุโสคนนั้นพูดต่อว่า: “จางเฮยหู่ นายคิดให้ดี ๆ ตอนนี้แดนเทพได้ออกมากันแล้ว โลกบู๊โบราณ
ใกล้ที่จะปรากฏขึ้นบนโลก ถ้าหากนายยังคงกระทำการเพียงลำพัง ไม่แน่ว่าวันไหนก็อาจจะถูก
กำจัดลงได้”
“แต่ ถ้าหากนายหันมาพึ่งพิงตระกูลเซินของฉัน สามารถรับรองได้ว่าต่อไปนายจะไม่ต้องเป็นกังวล
และเมื่อโลกบู๊โบราณฟื้นฟูกลับคืนมาแล้ว ฉันยังจะแบ่งผลประโยชน์ให้กับสำนักพยัคฆ์อีกด้วย”
จางเฮยหู่ลังเลชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปมองหลินซื่อเฉิงกับหลินหยุน
กัดฟัน และตอบว่า: “ตกลง ถ้าหากนายช่วยฉันสังหารสองคนนี้ได้ ฉันก็ตกลงเงื่อนไขของนาย! ”
“ตกลง! ” ผู้อาวุโสคนนั้นตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะให้นายเห็นว่า ระหว่างสำนักพยัคฆ์ของพวกนายกับตระกูลเซินของฉันนั้น มีความแตกต่าง
กันมากขนาดไหน! ”
“ก็เพียงแค่ไอ้กระจอกสองคนของโลกบู๊ปลอม สังหารพวกเขาก็ง่ายดายเหมือนกับการฆ่าไก่อย่างไร
อย่างนั้น! ”