ท่ามกลางความมืดมิดนั้น แสงสีแดงบนร่างของคาร์นอตวิลเลียมยิ่งมายิ่งร้อนแรง ทำให้ความมืดมิดนั้นปกคลุมไปด้วยแสงสีม่วง
ทันใดนั้น เขาลืมตาขึ้นมา มองไปยังฟากฟ้าทางทิศใต้ “หาเจอแล้ว ตามฉันมา!”
หลินหยุนก็เดินตามหลังคาร์นอตวิลเลียม แล้วมุ่งหน้าตรงไปทางทิศใต้
ความเร็วของพวกเขาว่องไวมาก มิหนำซ้ำเมื่อเทียบกับความเร็วของรถไฟฟ้าแล้ว ก็ยังเร็วกว่ามากอีกด้วย
อีกทั้งพวกเขาไม่สามารถที่จะเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆเลย เพราะว่าคาร์นอตวิลเลียมสัมผัสถึงตำแหน่งของอีหลิงได้ก็จริง แต่ก็ยังไม่รู้รายละเอียดของสถานที่ตั้งนั้นเลย
ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้แต่อาศัยพลังฝึกฝนของตัวเอง มุ่งไปยังตำแหน่งตามที่คาร์นอตวิลเลียมรับรู้มา
พรสวรรค์ของเผ่าโลหิต ก็ได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างสมบูรณ์แบบในวินาทีนี้เอง
ทั้งสองคนก็เร่งเดินทางตลอดทั้งคืน ความเร็วกลับไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
พลังความสามารถของคาร์นอตวิลเลียมแม้ว่าจะด้อยกว่าหลินหยุนมากก็ตาม แต่ว่าคนเผ่าโลหิตมีพรสวรรค์พิเศษโดยกำเนิดในด้านความเร็วอยู่แล้ว
สามารถพูดได้ว่า โหมเดินทางมาตลอดทั้งคืนแล้ว พละกำลังของคาร์นอตวิลเลียมไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปเลย
แต่หลินหยุนกลับสูญเสียพลังไปไม่ใช่น้อย
ในที่สุด ขณะที่ขอบฟ้าทางด้านตะวันออกกำลังเริ่มทอแสงรำไร พวกเขาก็ได้มาถึงมณฑลเจียงหนานแล้ว
คาร์นอตวิลเลียมในที่สุดก็รู้สึกโล่งอก จึงพูดว่า “อยู่ไม่ไกลแล้ว”
หลินหยุนมองเห็นเมืองที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้า จึงพูดอย่างเรียบๆว่า “ถึงกับพาอีหลิงมาถึงมณฑลเจียงหนานเชียว”
“คนคนนี้เป็นใครกันแน่? แล้วคิดจะทำอะไร?”
ต้องรู้ว่า เจียงหนานเป็นเขตอิทธิพลของตระกูลอี คนคนนี้พาอีหลิงมาถึงเจียงหนานก็เท่ากับว่าเข้ามาติดกับดักชัดๆ
นอกเสียจากว่า คนคนนี้คิดจะใช้อีหลีมาข่มขู่อีหยุ่น
ดูไปแล้ว ก็มีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้นที่พอจะอธิบายได้
“ไปกันเถอะ! รีบไปช่วยอีหลิงออกมาให้เร็วที่สุด” หลินหยุนพูด
“ได้” คาร์นอตวิลเลียมก็รีบเร่งเดินทางต่อไป
สุดท้ายแล้วทั้งสองคนก็มาถึงหน้าคฤหาสน์ที่อยู่บริเวณชานเมืองหลังหนึ่ง
ตำแหน่งที่ตั้งของคฤหาสน์หลังนี้ค่อนข้างเปลี่ยวมาก แต่ว่าทิวทัศน์ก็ไม่เลวเลย คนที่อาศัยอยู่ในนี้ น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
คฤหาสน์หลังนี้ชื่อว่า สวนแดง
หน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ ก็มีชายหนุ่มสองคนยืนเฝ้ายามอยู่
หลินหยุนทั้งสองคนก็เดินตรงไปข้างหน้า
“มาทำอะไร?” หนึ่งในชายหนุ่มนั้นตะคอกด้วยความระมัดระวัง
ยังไม่ทันรอให้หลินหยุนลงมือเลย เงาร่างของคาร์นอตวิลเลียมก็ราวกับสายลม พัดผ่านทะลุข้างกายของชายหนุ่มทั้งสองคนนั้นไป
ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ค่อยๆล้มลงไปบนพื้น
“จัดการเรียบร้อยแล้ว ไปเถอะ!” คาร์นอตวิลเลียมหันหลังกลับไปพูด แล้วดึงปกเสื้อให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินต่อไปข้างหน้า
ต่อให้อยู่ในความโกรธแค้นยังไงก็ตามแต่ คาร์นอตวิลเลียมก็ยังคงรักษาสภาพความเป็นสุภาพบุรุษที่สง่างามที่สุดของเขาไว้เสมอ
เผ่าโลหิตเป็นชนเผ่าที่ละเอียดงดงามหมดจดจริงๆ
ภายในลานบ้านก็ไม่ซับซ้อน และก็ไม่ใหญ่โตมากด้วย ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินเข้าไปในลานบ้าน ก็มีคนพบเห็นแล้ว
ชายหนุ่มในชุดดำคนหนึ่ง พาชายหนุ่มที่แต่งตัวเหมือนกันอีกสี่คน มายืนขวางอยู่ตรงหน้าของหลินหยุนทั้งสองคน
คาร์นอตวิลเลียมไม่พูดพร่ำทำเพลง กำลังเตรียมจะลงมือแล้ว
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไป มองดูหลินหยุนแล้วตะโกนร้องด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ปรมาจารย์หลิน!”
คาร์นอตวิลเลียมหยุดลง แล้วจ้องไปยังชายหนุ่มคนนั้นอย่างประหลาดใจ “แกรู้จักเขาเหรอ?”
หลินหยุนก็มองดูชายหนุ่มคนนั้น ในความทรงจำของเขาเหมือนไม่เคยเห็นคนนี้มาก่อนเลย
ชายหนุ่มโค้งทำความเคารพหลินหยุนอย่างนอบน้อม จากนั้นก็พูดว่า “เดิมทีผมเป็นสมาชิกสำรองของหน่วยมังกร รับคำสั่งให้มาเฝ้าอยู่ที่สวนแดงนี้!”
“โชคดีเคยได้พบกับปรมาจาร์หลินครั้งหนึ่ง!”
หลินหยุนมองหน้าเขา สีหน้าไร้ความรู้สึก “คนที่พักอยู่ที่นี่เป็นใครกัน?”
ชายหนุ่มก้มหน้าลง ดูเหมือนว่าไม่กล้าพูดถึงเจ้าบ้านที่อยู่ที่นี่
หลินหยุนก็เข้าใจแล้ว สถานะของเจ้าบ้านที่นี่ คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
อย่างน้อย ถึงแม้จะเป็นแค่สมาชิกสำรองของหน่วยมังกรก็ตาม แต่ก็เป็นสุดยอดฝีมือในยอดฝีมือทั้งหลาย สามารถสั่งให้คนพวกนี้มาเฝ้าดูแลลานบ้านเช่นนี้ได้ ฐานะตำแหน่งของคนนี้ คาดว่าเมื่อเทียบกับหงซานเหอแล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
คาร์นอตวิลเลียมตะคอกว่า “พูดมา ไม่งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ!”
ชายหนุ่มดูเหมือนเกรงกลัวหลินหยุนมาก กัดฟันแล้วพูดว่า “ที่นี่เป็นบ้านของนายท่านหงครับ”
“พูดให้ชัดเจนหน่อย” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ
“หงซิงกั๋ว ผู้อาวุโสห้าในคณะรัฐมนตรีจีน!” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
สีหน้าคาร์นอตวิลเลียมเปลี่ยนไปเล็กน้อย
คณะรัฐมนตรีจีน ก็เหมือนกับสภาประเทศอเมริกา มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารบ้านเมือง
ผู้อาวุโสใหญ่ในคณะรัฐมนตรีจีน ก็คือหวางจิงหลงที่เป็นผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศจีน
ที่เหลืออีกสามตระกูลใหญ่ ก็อยู่ในลำดับสามตำแหน่งแรกของสี่ตำแหน่งที่เหลือ
ส่วนคนที่ห้านั้น ก็คือหงซิงกั๋วคนนี้
จะเห็นได้ว่า ในมุมหนึ่งของชานเมืองเจียงหนานที่ไม่โดดเด่นเช่นนี้ ถึงกับมีคนใหญ่คนโตที่เป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของประเทศจีนคนหนึ่งหลบซ่อนอยู่
แต่ว่า สีหน้าหลินหยุนก็ยังคงเรียบเฉย ดูจากสถานะของคนคนนี้แล้ว เขาก็สามารถเดาออกว่าเจ้าของบ้านคนนี้ไม่ธรรมดาทีเดียว
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสห้าหรือผู้อาวุโสใหญ่ ในสายตาของเขาแล้ว ก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“ใครเป็นคนจับเพื่อนฉันมา?” หลินหยุนน้ำเสียงค่อนข้างเย็นชา
สายตาของชายหนุ่มแสดงออกถึงความหวาดผวา พูดอย่างหลบสายตาว่า “ปรมาจารย์หลินหมายความว่ายังไง? ผมไม่ค่อยเข้าใจครับ”
“นายเข้าใจดี” หลินหยุนมองดูเขาอย่างเรียบๆ สายตาที่นิ่งเฉยนั้นดูราวกับว่าสามารถมองทะลุเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจคนได้
ชายหนุ่มคนนั้นรู้สึกเหงื่อไหลทั่วแผ่นหลัง แต่เขาก็ยังอยากจะเสี่ยงพนันดูว่า ปรมาจารย์หลินไม่ใช่เทวดา เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ไปหมดทุกเรื่อง
“ขอโทษครับ ผมไม่เข้าใจปรมาจารย์หลินกำลังพูดถึงอะไรอยู่จริงๆ”
คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความโกรธว่า “อย่าไปพูดไร้สาระกับเขาเลย ฉันสามารถสัมผัสได้ว่า อีหลิงก็อยู่ในห้องข้างบนนั้น”
คาร์นอตวิลเลียมชี้ไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ด้านหน้า แล้วมองไปยังหลินหยุน
สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด สายตาที่มองไปยังคาร์นอตวิลเลียมแสดงออกถึงความแตกตื่นตกใจ
เขาคิดไม่ถึงว่า ที่แท้แล้วคนที่สามารถพามาหาถึงที่นี่ได้ไม่ใช่ปรมาจารย์หลิน แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ไร้รู้ชื่อคนนี้
“รีบปล่อยคนออกมา แล้วจะไว้ชีวิตแก” น้ำเสียงของหลินหยุนเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น
คราวนี้ชายหนุ่มก็ไม่กล้าปิดบังอีก แต่ว่า กลับไม่ได้ทำตามคำพูดของหลินหยุน
“ปรมาจารย์หลินครับ ต้องขอโทษที่ไม่สามารถทำตามได้!”
“ล่วงเกินแล้ว!”
ชายหนุ่มก็โบกมือให้กับคนทั้งสี่ที่อยู่ข้างหลัง ทั้งสี่คนก็ล้อมรอบหลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมไว้
“แกกำลังจะรนหาที่ตาย” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ
“การทำตามคำสั่งเป็นหน้าที่ของผม ต่อให้รู้ว่าจะต้องตายก็ไม่มีทางเลือกอื่น” ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ
“งั้นพวกแกก็ไปตายซะ!” คาร์นอตวิลเลียมรอไม่ไหวอีกแล้ว เงาร่างก็หายวับไปในพริบตา
จากนั้นก็ชกหมัดไปยังชายหนุ่มคนนั้นทันที
พละกำลังของชายหนุ่มคนนั้นก็อยู่ในระดับแดนพรสวรรค์ แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าคาร์นอตวิลเลียมตอนนี้ นับว่ายังห่างไกลกันมาก
เพียงกระบวนท่าเดียว ก็ถูกคาร์นอตวิลเลียมชกจนกระอักเลือดแล้วกระเด็นออกไป
ลูกน้องทั้งสี่คนของเขานั้น ก็ไม่สามารถต้านหมัดของคาร์นอตวิลเลียมได้เลยแม้แต่หมัดเดียวเช่นกัน
“พละกำลังแค่นี้ยังคิดจะมาขวางฉันเหรอ? ใช้สุภาษิตจีนของพวกแกนี่เรียกว่า ไม่รู้จักประมาณตน!”
คาร์นอตวิลเลียมกวาดสายตาไปยังพวกเขาที่นอนอยู่บนพื้น แสยะยิ้มแล้วเดินไปข้างหน้าต่อไป
หลินหยุนตามหลังคาร์นอตวิลเลียมเข้าไปในคฤหาสน์ แล้วขึ้นไปถึงชั้นสองของห้องนอนห้องหนึ่ง
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ฉันสามารถรับรู้ได้ว่า อีหลิงก็อยู่ข้างในนี้”
หลินหยุนก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกไป ค่อยๆกดลงไปบนกลอนประตูหนึ่งที
แก๊ก!
ประตูห้องก็เปิดออกทันที
ภายในห้องนั้น มีเตียงใหญ่หนึ่งเตียง อีหลิงกำลังขดตัวแอบอยู่มุมหนึ่งของเตียงใหญ่นั้น
เมื่อเห็นประตูห้องเปิดออก อีหลิงก็ตกใจจนเอาผ้าห่มคลุมหัวทันที แล้วตะโกนพูดว่า “แกอย่าเข้ามานะ!”
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ในใจหลินหยุนก็รู้สึกเจ็บแป๊บขึ้นมา
ส่วนคาร์นอตวิลเลียมก็ได้แต่แหกปากด่าทอว่า “ไอ้พวกสมควรตาย ฉันไม่สนหรอกว่าตระกูลหงนี้จะมีอำนาจมากมายขนาดไหนในประเทศจีน เขาถึงกับกล้ามารังแกนางฟ้าในดวงใจของฉันเช่นนี้ ฉันจะต้องฆ่าเขาให้ได้ จะได้ระบายความแค้นให้กับอีหลิง!”
“คุณอีหลิงครับ ไม่ต้องกลัว ผมเอง!” น้ำเสียงของคาร์นอตวิลเลียมก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นทันที
อีหลิงค่อยๆดึงผ้าห่มออก เมื่อเห็นหน้าหลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมแล้ว ก็รู้สึกโล่งอก
“หลินหยุน ฉันคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เห็นหน้าคุณอีกแล้ว!”
พอจบพอ หลังจากลดการตั้งการ์ดลงแล้ว อีหลิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตาก็ไหลนองเต็มหน้า