ถ้าหากสามารถพบเจอของวิเศษล้ำค่าได้ละก็ นำมาใช้ในการบรรลุถึงแดนยาทองได้พอดีเลย
ต่อให้เทือกเขาทิพย์ไม่มีของวิเศษล้ำค่าก็ตาม ลำพังแค่น้ำพุทิพย์ที่เกิดจากเทือกเขาทิพย์นั้น ก็ทำให้หลินหยุนได้รับผลประโยชน์มหาศาลทีเดียว
หลินหยุนพยายามระงับความตื่นเต้นในใจลง แล้วถามว่า “น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่คุณพูดมา เกิดขึ้นที่ไหนเหรอ?”
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุด ประเทศรัสเซีย
หลินหยุนมองดูคาร์นอตวิลเลียม แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “ในตัวคุณแม้แต่มือถือก็ยังไม่มีเลย แล้วจะรู้ข่าวคราวการเกิดขึ้นของน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไงล่ะ?”
คาร์นอตวิลเลียมหัวเราะแฮะๆ “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีอุปกรณ์สื่อสารก็จริง แต่ว่าพวกเราเผ่าโลหิตก็เป็นถึงราชาแห่งกาฬโลกเลยนะ”
“ข่าวคราวเกี่ยวกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็เผยแพร่มาจากกาฬโลกนั่นเอง”
หลินหยุนถามด้วยความแปลกใจว่า “กาฬโลกฉันก็พอเคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่าในประเทศจีนก็ยังมีแหล่งที่อยู่ของกาฬโลกด้วยเหรอ?”
“แน่นอน ไม่มีที่ไหนที่กาฬโลกไปไม่ถึง ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีกาฬโลก” คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างภูมิใจเล็กน้อย
หลินหยุนยังจำได้ว่าตอนนั้นฉินหลันถูกชาวญี่ปุ่นจับตัวไปนั้น เขาไล่ตามไปประเทศญี่ปุ่นด้วยความเร็วสูงสุด ระหว่างทางนั้นกลับได้พบกับนักฆ่ายอดฝีมือของโลกตะวันตกสองคน
หนึ่งในนั้นรู้สึกจะเป็นมาร์ควิสในตระกูลคาร์นอตวิลเลียม ส่วนอีกคนหนึ่งในตัวยังมีรอยตราประทับพลังหน่อของทูตสว่างสองปีกเผ่าสว่างอีกด้วย
ทั้งสองคนนี้ น่าจะเป็นนักฆ่าในกาฬโลก
“กาฬโลก ฉันไม่อยากจะมีเรื่องด้วย แต่แกกลับมาหาเรื่องฉัน คราวนี้ ก็ให้ฉันได้ประมือกับยอดฝีมือในกาฬโลกบ้าง”
หลินหยุนถามว่า “ตอนนี้ในกาฬโลกนั้นมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งอะไรอยู่บ้าง?”
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ก็มีองค์กรศักดิ์สิทธิ์ องค์กรแม่ม่ายดำ องค์กรM………พวกนี้ก็คือพลังอำนาจระดับS”
“องค์กรเทพมรณะ นั่นก็เหนือกว่าพลังอำนาจระดับS เป็นราชาแห่งกาฬโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ”
หลินหยุนมองดูเขาแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าเผ่าโลหิตเป็นราชาแห่งกาฬโลกไม่ใช่เหรอ?”
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ถึงแม้ว่าพวกเราเผ่าโลหิตจะแข็งแกร่งก็จริง แต่ว่าภายในเกิดการสู้รบกันเองรุนแรงมาก ทำให้พลังอำนาจกระจัดกระจายไป ที่ฉันพูดหมายถึงพลังอำนาจของเผ่าโลหิตรวมกันทั้งหมด”
“ถ้าเทียบเฉพาะลำพังพลังอำนาจอย่างเดียวละก็ องค์กรเทพมรณะก็ย่อมต้องแข็งแกร่งที่สุด เพียงแต่ว่าภายในองค์กรเทพมรณะนั้นมีสมาชิกของเผ่าโลหิตพวกเราอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก”
หลินหยุนเข้าใจความหมายของคาร์นอตวิลเลียมที่พูดว่า พลังอำนาจทั้งหมดของเผาโลหิตแข็งแกร่งที่สุดในกาฬโลกแล้ว แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าใดก็ตามก็ย่อมต้องเกิดการขัดแย้งภายในทั้งนั้น ดังนั้นเผ่าโลหิตจึงไม่ใช่แข็งแกร่งที่สุดในกาฬโลกอีกแล้ว
ก็เหมือนกับประเทศจีนเมื่อหลายร้อยปีก่อน ได้เกิดการต่อสู้ภายในกันเองขึ้นอย่างรุนแรง ถูกชนชาติที่แข็งแกร่งกว่าข่มเหงรังแก แต่ว่าตอนนี้ได้รวมตัวสามัคคีกันแล้ว จึงสามารถยืนตระหง่านอยู่จุดสูงสุดบนโลกใบนี้ได้
“คุณรู้รายละเอียดตำแหน่งที่ตั้งของน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏขึ้นหรือไม่?” หลินหยุนถาม
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “อันนี้ยังไม่แน่ชัด ได้ข่าวว่าอยู่ในหุบเขาน้ำแข็งที่ห่างไกลความเจริญมากแห่งหนึ่ง ค้นพบโดยนักผจญภัยกลุ่มหนึ่ง”
“แต่ว่านักผจญภัยพวกนั้นถูกสัตว์ประหลาดโจมตี ทำให้มีเพียงคนเดียวที่หนีรอดออกมาได้ อีกทั้งยังเสี่ยงตายส่งรูปที่ถ่ายได้กลับมาอีกด้วย”
หลินหยุนถามว่า “ถ้าหากเป็นแค่รูปภาพ คนของกาฬโลกจะตัดสินได้ยังไงว่านั่นคือน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือว่าเป็นน้ำแร่ธรรมดาล่ะ?”
“ลำพังแค่รูปภาพก็ย่อมไม่สามารถจะตัดสินได้ แต่ว่าที่นักผจญภัยคนนั้นสามารถมีชีวิตรอดมาได้ ก็เป็นเพราะสาเหตุที่ว่าได้ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไป”
“ดังนั้น คนของกาฬโลกจึงฟันธงว่า น้ำศักดิ์สิทธิ์ได้เกิดขึ้นบนโลกนี้แล้ว”
หลินหยุนพยักหน้า น้ำพุทิพย์ที่เกิดจากเทือกเขาทิพย์ แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปได้ดื่มกินแล้ว ก็เกิดประสิทธิผลที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว
ด้วยพลังความสามารถของกาฬโลก จะตัดสินว่ามีน้ำศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“งั้นพวกเราออกเดินทางตอนนี้เลยสิ เชื่อว่าตอนนี้จะต้องมียอดฝีมือในกาฬโลกจำนวนมากต่างก็มุ่งไปยังทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดแล้ว” คาร์นอตวิลเลียมพูดเร่งรัด
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “ไม่ต้องรีบ ยังไม่มีตำแหน่งที่แน่นอนเลย พวกเขาคงยังไม่ทันหาพบในเวลาอันสั้นนี้หรอก”
“อีกอย่าง จากนี้ไปทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดเพื่อตามหาน้ำศักดิ์สิทธิ์ จะต้องไปพักอยู่ที่นั่นเป็นเวลาระยะหนึ่งอย่างแน่นอน ฉันจำเป็นจะต้องวางแผนจัดการเรื่องราวที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน”
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “งั้นก็ได้ ฉันกำลังจะไปร่ำลากับอีหลิงอยู่พอดี คุณก็ไปจัดการเรื่องของคุณ จากนั้นพวกเราก็ไปเจอกันที่เมืองหลวง”
“ได้” หลินหยุนพูด
หลังจากที่คาร์นอตวิลเลียมกลับไปแล้ว หลินหยุนก็ไปหาซูจื่อเหลียงที่บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในเมืองจงโจว
พลังฝึกฝนของซูจื่อเหลียงในขณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
ภายในห้องนั้น หลินหยุนมองดูซูจื่อเหลียงที่มีสีหน้านอบน้อม แล้วพูดว่า “ดูจากการฝึกฝนของคุณแล้ว ก็เกือบจะใช้ได้แล้วล่ะ”
“วิชา《ผ่าล้างเก้ากระบี่》เล่มนี้ขอมอบให้คุณ คุณสามารถเริ่มฝึกฝนได้เลย”
“วิชาผ่าล้างเก้ากระบี่นี้ ผู้วิเศษคนหนึ่งเป็นคนค้นพบขึ้น ได้ประกาศไว้ว่ากระบี่หนึ่งเดียวในมือ สามารถทำลายล้างวรยุทธ์ใต้หล้านี้ได้”
ซูจื่อเหลียงดีใจมาก โค้งคำนับขอบคุณ “ขอบคุณครับอาจารย์!”
หลินหยุนพยักหน้า “ช่วงนี้ฉันอาจจะต้องออกจากประเทศจีนระยะหนึ่ง ถ้าหากว่าได้เจอกับภัยอันตรายที่ไม่สามารถจัดการได้ละก็ พวกคุณก็เข้าไปหลบอยู่ในคฤหาสน์ทะเลสาบเยว่หยาก่อน มีค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุคอยปกป้องคุ้มครองอยู่ ต่อให้เป็นอาวุธนิวเคลียร์มาถล่ม ก็สามารถคุ้มครองพวกคุณให้ปลอดภัยได้”
“ครับ!” ซูจื่อเหลียงโค้งคำนับรับคำสั่ง
เมื่อออกจากบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปแล้ว หลินหยุนก็ไปยังตระกูลหลินที่อูซู
เมื่อตรวจดูพลังฝึกฝนของปู่หลินซื่อเฉิงแล้ว หลินหยุนพบว่าไม่ได้เห็นแค่ไม่กี่วัน พละกำลังของหลินซื่อเฉิงก็สูงขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว
แดนเหยียบเทพ!
เมื่อนับเวลาที่หลินซื่อเฉิงเริ่มฝึกฝนบำเพ็ญเพียร มาจนถึงแดนเหยียบเทพตอนนี้แล้ว ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง
ถึงแม้ว่าการฝึกฝนของหลินซื่อเฉิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิชาบําเพ็ญเซียนฉบับดั้งเดิมก็ตาม แต่ว่าพรสวรรค์ในตัวของหลินซื่อเฉิงก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้นด้วย
หลังจากได้ชี้แนะสิ่งที่ควรระวังระหว่างการฝึกฝนให้กับหลินซื่อเฉิงแล้ว หลินหยุนก็ออกจากอูซูแล้วมุ่งไปยังเมืองหลวง เตรียมที่จะไปพบกับคาร์นอตวิลเลียม
แต่ว่า เมื่อหลินหยุนเพิ่งจะมาถึงเมืองหลวงไม่นานนัก ก็มีรถสีดำปักธงแดงคันหนึ่งมาจอดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
หงซานเหอแต่งกายในชุดทะมัดทะแมงสีดำเดินลงมาจากรถ มองไปยังหลินหยุนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณจะไปตามหาน้ำศักดิ์สิทธิ์เหรอ?”
สำหรับข่าวคราวเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่หงซานเหอรู้มานั้น หลินหยุนก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร
ในฐานะที่เป็นคนรับผิดชอบเกี่ยวกับหน่วยรบพิเศษของประเทศจีน สำหรับข่าวคราวเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เหนือธรรมชาติเช่นนี้แล้ว หงซานเหอย่อมต้องรับรู้ไวกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา
อีกอย่างประสิทธิผลของเทือกเขาททิพย์ที่มีต่อนักบู๊ชาวจีน ย่อมต้องสูงกว่าผู้บำเพ็ญพิเศษในโลกตะวันตกพวกนั้นมากทีเดียว
ดังนั้น นักบู๊ชาวจีนก็น่าจะยิ่งสนใจข่าวคราวเกี่ยวกับการปรากฏขึ้นของน้ำศักดิ์สิทธิ์มากกว่า
“ถูกต้อง” หลินหยุนไม่ได้ปิดบังอะไร ในเมื่อหงซานเหอสามารถมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาทันทีที่เขาเพิ่งมาถึงเมืองหลวงเช่นนี้ ก็ย่อมต้องรู้เป้าหมายที่เขามาเมืองหลวงอย่างแน่นอน
แต่ว่า มีอยู่อย่างหนึ่งที่หลินหยุนไม่ค่อยชอบใจก็คือ ทางการรัฐบาลจีนได้แอบสอดแนมเขาตลอดเวลาอย่างเห็นได้ชัด ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถรู้ถึงความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของเขาได้เลย
“ตามฉันมาหน่อยสิ” หงซานเหอพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
“ครับ” หลินหยุนตอบตกลง แล้วเดินเข้าไปนั่งที่เบาะหลังรถ
ระหว่างทางนั้น หงซานเหอก็ไม่ได้พูดอะไรกับหลินหยุนเลย หลินหยุนไม่ได้ถามเช่นกัน
รถไม่ได้แล่นไปคฤหาสน์สภาประเทศ และก็ไม่ได้ไปยังหน่วยงานรัฐบาลจีนพวกนั้นด้วย แต่ขับไปยังเขตชุมชนเล็กๆธรรมดาแห่งหนึ่ง
หงซานเหอก็พาหลินหยุนเข้าไปยังตึกอพาร์ทเม้นท์หนึ่งในนั้น นั่งลิฟต์ขึ้นไปในห้องห้องหนึ่ง
หงซานเหอก็หยิบกุญแจออกมา แล้วไขประตูห้อง
“เชิญครับ ที่นี่เป็นบ้านพักอาศัยของฉันในเมืองหลวง”
หลินหยุนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ด้วยฐานะของหงซานเหอแล้ว ถึงกับอยู่ในเขตชุมชนเล็กๆธรรมดาเช่นนี้
หลินหยุนก็เกิดความรู้สึกนับถืออดีตแม่ทัพที่มักพูดจาไม่ค่อยดีกับเขาคนนี้ขึ้นมาทันที
เมื่อเข้าไปภายในห้องพักของหงซานเหอแล้ว ก็เห็นมีชายหนึ่งหญิงหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก
ผู้ชายแต่งตัวด้วยชุดออกกำลังกายสีดำ ผู้หญิงแต่งกายในชุดออกกำลังกายสีแดง ดูไปแล้วก็เหมือนคนรักคู่หนึ่ง
เมื่อเห็นหงซานเหอกลับมา สายตาของพวกเขาไม่ได้มองหงซานเหอเลย แต่กลับจ้องมองหลินหยุนอย่างไม่ละสายตา
หงซานเหอพูดว่า “ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักหน่อย เธอคือฉูเหอ เขาคือตางอู่ เป็นสมาชิกหน่วยปฏิบัติการพิเศษเล็กๆของประเทศจีน”
“คนนี้ก็คือปรมาจารย์หลินที่พวกคุณอยากพบมาโดยตลอด”