จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1014 แดนเทพขั้นสูงสุด

บทที่ 1014 แดนเทพขั้นสูงสุด

ยอดฝีมือแดนเทพทั้งหกคนโกรธมากๆ

“หึ ไอ้หนุ่ม มันก็แค่ค่ายกลเพ้อฝันเท่านั้น คุณคิดว่ามันจะสามารถหยุดพวกเราได้เหรอ?”

“คุณให้หวางซูเฟินมอบวิชาบำเพ็ญเซียนออกมาซะดีๆ พวกเราจะไว้ชีวิตพวกคุณ!”

ซูหนันไม่พูดอะไรอีก หันหลังเดินไปทันที

“รีบตามไปเร็วๆ!”

ยอดฝีมือทั้งหกคนรีบตามขึ้นไปทันที

ในเวลานี้ พวกเขาได้เข้าไปในค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุแล้ว

เมื่อเดินเข้าไปในค่ายกล ทำให้ค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุทำงานทันที

พลังทิพย์ทั้งหมดของทะเลสาบเยว่หยาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและบ้าคลั่ง พลังทิพย์ทั้งหมดรวมตัวกันที่ค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุ

บรรยากาศที่เยือกเย็นและน่ากลัวได้ปกคลุมยอดฝีมือทั้งหกคนเอาไว้

“ค่ายกลเพ้อฝันแข็งแกร่งขึ้นเหรอ?”มีคนถามด้วยความสงสัย

“จะกลัวอะไร ถึงจะแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นได้แค่ค่ายกลเพ้อฝันเท่านั้น ค่ายกลพวกนี้ทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่แล้ว?”นักพรตพูดด้วยความอวดดี

มีพลังทิพย์รูปร่างกระบี่ ค่อยๆก่อตัวขึ้นกลางท้องฟ้า

ธาตุทอง ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุน้ำ ธาตุดิน มีธาตุทั้งห้าชนิด ค่อยๆก่อตัวเป็นกระบี่ห้าธาตุอยู่กลางท้องฟ้าและลอยอยู่เหนือศีรษะของยอดฝีมือทั้งหกคน

จู่ๆกระบี่ห้าธาตุพวกนี้ ก็เหมือนฝูงม้านับหมื่นที่พุ่งทะยานไปข้างหน้า และตกลงมาเหมือนกับฝน

กระบี่ห้าธาตุทุกเล่ม สามารถมองเห็นรูปร่างได้อย่างชัดเจน มันคมกริบมากๆ

กระบี่ห้าธาตุพวกนี้ ไม่ใช่พลังห้าธาตุธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่กระบี่พวกนี้ยังมีพลังกฎเกณฑ์ห้าธาตุรวมอยู่ด้วย

นี่คือความน่ากลัวที่แท้จริงของค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุ

ค่ายกลกระบี่นี้ได้ชื่อว่าล้างผลาญ เพราะมันเป็นค่ายกลฆ่าคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆในโลกบำเพ็ญเซียน

“แย่แล้ว!”

“ฉันสัมผัสได้ถึงอันตราย!”

สีหน้าของนักพรตแย่มากๆ จู่ๆเขาก็มองท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว

ดวงตาของเขาสะท้อนกระบี่ห้าธาตุที่อยู่บนท้องฟ้าออกมา

“ถอยเร็วๆ!”

นักพรตตะโกนทันที เขาสะบัดกระบี่ยาวอย่างบ้าคลั่ง เพื่อป้องกันตัวเองและถอยกลับ

ยอดฝีมือที่เหลืออีกห้าคน ก็ปล่อยพลังชี่ป้องกันตัวเองออกมา ทางหนึ่งเพื่อป้องกันการโจมตีของกระบี่ห้าธาตุ อีกทางหนึ่งก็พยายามถอยหลังกลับ

“มันคือพลังอะไรกันแน่! มันสามารถทะลุพลังชี่ป้องกันตัวของฉันได้!”มียอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่งพูดด้วยความเหลือเชื่อ

“พวกเราก็เป็นเหมือนกัน!”

นักพรตพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:”ฉันสัมผัสได้ว่าในกระบี่ห้าธาตุนี้ มีพลังบางอย่างที่น่ากลัวมากๆอยู่”

สิ่งที่เขาพูดถึงก็คือพลังกฎเกณฑ์ห้าธาตุที่อยู่ในกระบี่ห้าธาตุ

“ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว รีบถอยกันเถอะ!”

ถึงแม้พวกเขาจะสามารถรับการโจมตีของกระบี่ห้าธาตุได้ แต่พวกเขาเกิดความหวาดกลัวต่อค่ายกลกระบี่แล้ว

ตอนนี้ยังไม่มีใครควบคุมค่ายกลนี้ และค่ายกลก็โจมตีด้วยตัวเอง ถ้าหลินหยุนควบคุมค่ายกลนี้ พลังการโจมตีของค่ายกลจะแข็งแกร่งขึ้นสิบเท่า

ยอดฝีมือทั้งหกคนรีบถอยออกมาทันที พวกเขายืนอยู่ข้างๆทะเลสาบเยว่หยา และมองดูทะเลสาบเยว่หยาที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกอย่างละเอียด

“พวกคุณสังเกตเห็นหรือยัง พลังทิพย์ของที่นี่เยอะมากๆ!”

“พวกเราสัมผัสได้แล้ว!”

“อย่างไรก็ตาม ถ้าถอยออกห่างจากสถานที่แห่งนี้แค่สิบเมตร พลังทิพย์ก็จะน้อยลงมากๆ

“ดูเหมือนว่าหลินชางฉองจะสร้างค่ายกลรวมพลังทิพย์เอาไว้ตรงนี้”

“หลินชางฉองคนนี้เป็นใครกันแน่? เขาสามารถสร้างค่ายกลรวมพลังทิพย์ที่ร้ายกาจแบบนี้ได้ยังไง หรือว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของเซียนจริงๆ?”

คนอื่นๆไม่เข้าใจ แต่พวกเขาเป็นยอดฝีมือแดนเทพและอยู่มาหลายร้อยปี พวกเขาเคยได้ยินคำพูดที่สืบทอดมาแต่โบราณของโลกบู๊

แดนเทพปรากฏ บู๊โบราณเผยตัว ยาทองเสร็จสิ้น ประตูเซียนเปิดออก

“หรือว่าหลินชางฉองเป็นลูกศิษย์ที่ออกมาจากสำนักเซียน?”

“บางทีมันอาจจะเป็นคำเดียวที่สามารถอธิบายได้”

“หลังจากนี้พวกเราควรทำยังไงดี? พวกเราควรทำลายค่ายกลต่อไหม?”

“ฉันได้ส่งข่าวให้พวกเขาแล้ว รอให้บัณฑิตหนุ่มมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

“ค่ายกลของเซียน มันทำลายไม่ได้ง่ายขนาดนั้นอย่างแน่นอน!”

คฤหาสน์ตึกว่างเยว่

หวางซูเฟินที่กังวลมากๆในตอนแรก ตอนนี้เธอโล่งใจมากๆ

ในห้องโถง หวางซูเฟินมองไปที่ซูหนันและถามว่า:”พวกเราปลอดภัยแล้วใช่ไหม?”

ซูหนันพยักหน้า:”มีค่ายกลค่อยปกป้อง ตอนนี้พวกเราปลอดภัยชั่วคราวแล้ว”

ผ่านไปไม่นาน ซูจื่อเหลียงเดินเข้ามาในคฤหาสน์ด้วยความทุลักทุเล

“ท่านประธานปลอดภัยใช่ไหม?”ซูจื่อเหลียงยังไม่ทันเข้ามาในห้อง ก็ตะโกนถามทันที

ซูหนันพูดด้วยสีหน้าปกติ:”เธอปลอดภัยดี”

ซูจื่อเหลียงเดินเข้ามาในห้อง เมื่อมองเห็นหวางซูเฟินปลอดภัย เขาก็โล่งใจทันที

“ฉันหนียอดฝีมือสามคนนั้นและเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งของทะเลสาบเยว่หยา เดิมทีฉันคิดจะใช้พลังของค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุโจมตีพวกมันหนึ่งคนให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ระหว่างหลบหนีครั้งนี้ฉันสูญเสียพลังมากจนเกินไป ฉันก็เลยทำอะไรไม่ได้”

“ฉันขอไปฟื้นฟูพลังทั้งหมดกลับมาก่อน หลังจากนี้จะได้เตรียมตัวรับการโจมตีอันแข็งแกร่งของพวกเขา”

ผ่านไปไม่นาน บัณฑิตหนุ่มก็พายอดฝีมือแดนเทพที่เหลือมาถึงทะเลสาบเยว่หยา

หลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มรวมพลังกันเพื่อทำลายค่ายกล

วิธีทำลายค่ายกลคือใช้พลังของตัวเองโจมตีค่ายกล

เพราะพวกเขาไม่มีใครเข้าใจค่ายกลเลย

ผลลัพธ์สามารถจินตนาการได้ ซูจื่อเหลียงควบคุมค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุ โจมตีจนพวกเขาต้องหนีอย่างทุลักทุเล

ยอดฝีมือแดนเทพทั้งหมดสิบแปดคน ร่วมมือกันโจมตีค่ายกลสามครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็ตัดใจและยอมแพ้

อย่างไรก็ตาม ซูจื่อเหลียงก็ไม่สามารถใช้พลังของค่ายกล ทำให้พวกเขาบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว

เนื่องจากซูจื่อเหลียงพึ่งจะฝึกฝนการควบคุมค่ากลได้ไม่นาน และพลังของเขาก็มีจำกัด

ถึงแม้ยอดฝีมือแดนเทพทั้งสิบแปดคนจะไม่โจมตีค่ายกลอีก แต่พวกเขาไม่ได้ตัดใจเรื่องทำลายค่ายกล

พวกเขาใช้วิธีที่โง่ที่สุดในการทำลายค่ายกล นั้นก็คือเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ

มันคล้ายๆกับชาวนาที่ใช้จอบค่อยๆพลิกดินทั้งภูเขา

พวกเขาค่อยๆทำลายพื้นดินที่เป็นรากฐานของค่ายกล

ซูจื่อเหลียงมองเห็นการกระทำของพวกเขา ทำให้เขาหัวเราะอย่างเย็นชา:”คนเหล่านี้ พวกเขาคิดว่าค่ายกลที่อาจารย์สร้างขึ้นเหมือนกับค่ายกลธรรมดาของโลกบู๊เหรอ?”

“อยากใช้วิธีนี้ทำลายค่ายกล พวกเขาฝันกลางวันอยู่หรือเปล่า!”

“แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เป็นเรื่องดี ใช้ค่ายกลรั้งพวกเขาเอาไว้ พวกเราก็จะมีโอกาสออกไปช่วยเหลือนายท่านหลิน”

ซูจื่อเหลียงกับซูหนันและหวางซูเฟินปรึกษากันแล้ว ให้ซูจื่อเหลียงอยู่ที่คฤหาสน์ตึกว่างเยว่และเฝ้าสถานที่แห่งนี้เอาไว้

ซูหนันรีบไปที่ตระกูลหลินในมณฑลอูซูและช่วยชีวิตนายท่านหลินออกมา

หวางซูเฟินได้โทรศัพท์ไปแจ้งนายท่านหลินก่อน ให้เขาเตรียมตัวให้พร้อม

ตอนนี้ มีเพียงคนเดียวที่น่าเป็นห่วงก็คือหลินตงหัว

ถึงแม้เขาจะเป็นคนของรัฐบาลจีน แต่วิชาบำเพ็ญเซียนได้ทำให้นักบู๊เหล่านั้นบ้าคลั่งไปแล้ว

ถึงแม้พวกเขาจะไม่กล้าฆ่าคน แต่พวกเขาคงทรมานหลินตงหัว บีบบังคับให้เขาพูดวิชาบำเพ็ญเซียนออกมา

บางทีพวกเขาอาจจะใช้หลินตงหัวมาข่มขู่หวางซูเฟิน และให้เธอยอมมอบวิชาบำเพ็ญเซียนออกมา

ถึงแม้เธอจะกังวลมาก แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้

เธอแค่หวังว่ารัฐบาลจีนจะส่งคนไปปกป้องหลินตงหัว

เรื่องนี้หวางซูเฟินนึกได้ คนอื่นๆก็นึกได้ตั้งนานแล้ว

มีนักบู๊ไปหาหลินตงหัวแล้ว แต่ไม่มีนักบู๊คนไหนรอดชีวิตออกมาได้

แม้แต่ปรมาจารย์ระดับสูงสุด เมื่อเข้าหาหลินตงหัวแล้ว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับก้อนหินที่โยนลงไปในทะเล

นักบู๊เหล่านั้นก็เข้าใจได้ทันที

หลินตงหัวต้องมียอดฝีมือค่อยปกป้อง และคนที่ค่อยปกป้องเขาน่าจะเป็นยอดฝีมือแดนเทพ

ยอดฝีมือแดนเทพเหล่านั้นค่อยปกป้องหลินตงหัว แต่ไม่ได้มาช่วยเหลือหวางซูเฟิน

เห็นได้อย่างชัดเจน ยอดฝีมือเหล่านั้นเป็นคนของรัฐบาล

เมื่อรัฐบาลแสดงเจตนารมณ์ออกมา ทำให้นักบู๊เหล่านั้นไม่กล้าไปยุ่งกับหลินตงหัวอีก

ซูหนันไปช่วยหลินซื่อเฉิงและร่วมมือกับหลินซื่อเฉิง แต่พวกเขาก็พ่ายแพ้ให้กับยอดฝีมือลึกลับคนนั้น

ยอดฝีมือคนนั้นไล่ตามซูหนันกับหลินซื่อเฉิงมาจนถึงทะเลสาบเยว่หยา

ถ้าไม่ใช่เพราะมีค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุค่อยช่วยเหลือ ซูหนันกับหลินซื่อเฉิงคงหนีไม่รอดอย่างแน่นอน

ซูหนันกับหลินซื่อเฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ตึกว่างเยว่ พวกเขาก็สลบไปทันที

หลังจากที่พวกเขาสองคนได้สติ ทำให้ซูจื่อเหลียงเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

คนที่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัสคือยอดฝีมือลึกลับคนหนึ่ง จากการคาดเดาของทั้งสองคน คนๆนั้นน่าจะเป็นยอดฝีมือแดนเทพระดับสูงสุด

จากการพูดคุยของเขา ทำให้ทั้งสองคนเดาออกว่าเขามาจากไหน

เขามาจากเขาคุนหลุนแห่งโลกนักบู๊โบราณ

ในเวลานี้ ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดของประเทศรัสเซีย

พื้นดินที่โดนระเบิดจนกลายเป็นหน้ากลอง จู่ๆก็สั่นสะเทือนทันที

มีแสงสีฟ้ามุดออกมาจากใต้ดินส่วนลึก

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท