ทันใดนั้น เบื้องหน้าของวันเตินก็มีเงาดำแวบผ่านไป
เขาตกใจอย่างมาก พร้อมตะโกนขึ้นว่า: “ใคร? ”
“ตอนนี้คือเวลาอะไรแล้ว” เสียงที่เมินเฉยดังขึ้นโดยพลัน
“นายเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่? ” วันเตินตกใจจึงไม่ได้ระมัดระวัง จนทำราดใส่บนกางเกง
เงาร่างของหลินหยุน ราวกับผีสางได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของวันเตินอย่างกะทันหัน
“ตอนนี้ห่างจากตอนที่พวกนายทิ้งพ่อของระเบิดทั้งหมดมานานเท่าไรแล้ว? ” หลินหยุนเปลี่ยน
รูปแบบการถามขึ้น
“ครึ่งปีกว่าแล้ว” วันเตินตอบตามจิตใต้สำนึก
หลินหยุนถามขึ้นอีกว่า: “ตอนนั้นใครเป็นผู้ที่ออกคำสั่งให้ทิ้งพ่อของระเบิดทั้งหมด? ”
วันเตินคิดขึ้นได้ทันทีว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้คือใครแล้ว
“นาย นายคือชางฉอง หลิน! ”
“มานี่ ทุกคนมานี่ ฉันได้พบเจอกับหลินชางฉองแล้ว! ” วันเตินมีความเป็นมืออาชีพที่ถือว่าไม่เลวเลย
แต่ว่า เขากลับลืมไปแล้วว่า ชายเบื้องหน้าผู้นี้ แม้แต่โดนพ่อของระเบิดทั้งหมดก็ยังไม่ตาย ซึ่งการที่เขาได้ตะโกนเรียกออกไปนั้น ก็ยิ่งจะทำให้มีคนมาตายมากขึ้น
ทหารของด่านหน้าที่มีอาวุธปืนและระเบิดครบมือจำนวนสิบกว่าคนก็ได้รีบวิ่งกันออกมา
หลินหยุนส่งเสียงฮึดังขึ้น โดยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร พลังอานุภาพที่แข็งแกร่งก็ได้ปกคลุมไปทั่วพวกทหารเหล่านี้ในทันที
ฟุบฟุบฟุบ!
พวกทหารสิบกว่าคนต่างพากันกระอักเลือดออกมา แล้วก็ล้มตายลงไปที่พื้น
พวกคนธรรมดาเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะทนต่อลมหายใจของหลินหยุนได้แล้ว
วันเตินมองไปยังภาพเหตุการณ์นี้ ตกใจจนถึงกับอ้าปากค้าง ซึ่งพวกอาวุธยังคงแขวนอยู่ด้านนอก ลืมที่จะเก็บกลับมากันแล้ว
“ตอนนี้สามารถตอบคำถามของฉันได้แล้วหรือยัง? ” หลินหยุนถามขึ้นอย่างใจเย็น
วันเตินย่อเข่าลง แล้วคุกเข่าลงไปที่พื้น: “อย่าได้ฆ่าฉันเลย ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพภาคเหนือเป็นผู้ออกคำสั่ง”
หลินหยุนถามขึ้นอีกว่า: “กองบัญชาการใหญ่ของกองทัพภาคเหนืออยู่ที่ไหน? ”
วันเตินตกใจขึ้นอย่างมาก: “เขาคงจะไม่บุกตะลุยไปฆ่าสังหารที่กองบัญชาการใหญ่ของกองทัพภาคเหนือเพียงลำพังคนเดียวหรอกนะ? ”
“มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ที่เมืองวาดอร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสโมก! ”
วันเตินกระพริบตาอีกครั้ง เงาร่างของหลินหยุนที่อยู่เบื้องหน้าก็ได้สูญหายไปแล้ว
เมื่อหลินหยุนจากไป วันเตินก็รีบที่จะอธิษฐานวิงวอนต่อสวรรค์: “เทพแห่งสว่างผู้ยิ่งใหญ่ เขาไม่ได้ฆ่าฉัน นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ฆ่าฉัน! ”
“ใช่แล้ว แจ้งข่าว จะต้องรีบแจ้งข่าวให้กับกองทัพรับทราบโดยเร็วที่สุด! ”
วันเตินไม่มีเวลาที่จะสนใจร่างศพของพวกเพื่อนทหารเหล่านั้น โดยรีบวิ่งไปยังด่านหน้าทันที เพื่อแจ้งข่าวให้กับกองทัพรับทราบ
เวลานี้ ที่กองบัญชาการใหญ่กองทัพภาคเหนือของรัสเซีย
พวกผู้บังคับบัญชาชั้นสูงในกองทัพ ได้ตกตะลึง และโอบล้อมกันอยู่ที่บริเวณโทรศัพท์เครื่องเล็กนั้น
“เขา เขายังคงมีชีวิตอยู่อีกเหรอ! ”
“นอกจากนี้ ยังมุ่งหน้าตรงมาหาพวกเราด้วยแล้ว! ”
ผ่านไปชั่วครู่ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดจึงพูดขึ้นอย่างหวาดวิตก
แม่ทัพทหารหนวดเครายาวคนหนึ่ง ได้ทุบหมัดลงไปบนโต๊ะ พร้อมกับดุด่าขึ้นว่า: “แม่งสิ นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
“แม้แต่พ่อของระเบิดทั้งหมดยังระเบิดเขาไม่ตายเลย นี่มันยังเป็นคนอยู่อีกไหม? ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมองไปที่ทหารหนวดเครายาวผู้นั้นด้วยความโมโห และตวาดใส่ว่า: “กรูท ตอนนั้นนายรับประกันอย่างมั่นอกมั่นใจว่า จะสามารถสังหารทุกคนได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน! ”
“ตอนนี้ ชางฉอง หลินที่น่ากลัวและน่าสยดสยองที่สุด กลับยังไม่ตาย อีกทั้ง เขากำลังมุ่งหน้า
ตรงมาหาพวกเราแล้ว”
“เห็นได้ชัดว่า เขาต้องการที่จะแก้แค้นพวกเราอย่างแน่นอน! นายบอกฉันหน่อยว่า ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี? ”
กรูทผู้หนวดเครายาวเกิดความสับสนขึ้นแล้ว
เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าจะมีผู้ที่สามารถรับมือต้านทานได้แม้แต่พ่อของระเบิดทั้งหมดด้วย!
นี่มันไม่ใช่คนชัด ๆ!
แต่ว่า กรูทไม่ต้องการที่จะให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดขี้ขลาดหวาดกลัวขนาดนั้น
“ผู้บังคับบัญชา แม้ว่าเขาจะรอดชีวิตจากพ่อของระเบิดทั้งหมดได้นั้น ถือว่าเขาโชคดี แต่ว่า เขาไม่กลับไปจีนอย่างเงียบ ๆ กลับที่จะมาแก้แค้นพวกเรา นี่มันช่างไม่รู้จักเจียมตัวเสียบ้างเลย”
“ตอนนี้ฉันจะส่งกรมทหารราบยานยนต์ออกไป เพื่อจัดการฆ่าเขา ในขณะที่เขากำลังเดินทางมา! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดค่อย ๆ ใจเย็นลง มองไปที่กรูท และพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: “ไปเถอะกรูท ถ้าหากนายไม่สามารถสังหารหลินชางฉองได้ นายก็ไม่ต้องกับมาพบเจอฉันอีกแล้ว”
“รับทราบผู้บังคับบัญชา! ” กรูทแสดงความเคารพแบบทหาร แล้วสวมใส่รองเท้าบูตหนัง หันหลังแล้วก็เดินจากไป
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นว่า: “กรมทหารราบยานยนต์ คือกรมทหารที่ 6 ที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยที่สุดของกองทัพภาคเหนือ สามารถที่จะจัดการสังหารหลินชางฉองได้อย่างแน่นอน”
“แต่ว่า เพื่อรับประกันความปลอดภัย จะส่งสองหน่วยเครื่องบินรบไปช่วยเหลือพวกเขาด้วย”
“นี่ยังไม่พอ ฉันจำต้องรายงานให้ท่านประธานาธิบดีรับทราบ เพื่อให้เขาส่งองครักษ์ลับมาด้วย”
“จะให้ดีที่สุดก็ควรจะส่งราชาองครักษ์ลับมาเลย แบบนี้ก็คงจะปลอดภัยแน่นอนแล้ว”
หลินหยุนกับพวกพ้องได้เดินทางมาถึงเมืองคาซา นี่คือเส้นทางที่ใกล้ที่สุดในการเดินทางไปเมืองวาดอร์
“พวกคุณรอฉันอยู่ที่นี่เถอะ ฉันคาดว่าพวกเขาอาจจะใช้อาวุธนิวเคลียร์”
ตางอู่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย: “คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ที่นี่ไม่ใช่ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุด หากพวกเขาใช้อาวุธนิวเคลียร์ จะเป็นการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องได้”
ฉูเหอส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา: “ถ้าหากได้เคยทำร้ายให้พวกเขาเจ็บตัวแล้ว พวกเขาก็สามารถลงมือกระทำได้ทุกอย่าง! ”
“อีกทั้ง รัสเซียก็เป็นสถานที่ที่กว้างขวางแต่มีผู้คนจำนวนน้อย การอพยพประชาชนหนึ่งหรือสองเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายอยู่แล้ว”
คาร์นอตวิลเลียมพูดขึ้นด้วยความเกียจคร้าน: “อย่างนั้นพวกเราก็รอนายอยู่ที่นี่แล้วกัน ฉันไม่อยากที่จะประสบกับการระเบิดครั้งใหญ่อีกครั้งแล้ว”
เหมือนกับว่านึกถึงพลังอานุภาพของพ่อของระเบิดทั้งหมดแล้ว คาร์นอตวิลเลียมเองก็ยังคงมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง
“อย่างนั้นก็ตกลงตามนี้”
หลินหยุนเดินทางออกจากเมืองคาซาโดยมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองวาดอร์อย่างรวดเร็ว
กรูทได้พากรมทหารที่ 6 ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพภาคเหนือของรัสเซีย มาดักรอหลินหยุน
อยู่ที่พื้นที่ราบรกร้างว่างเปล่าด้านหน้าของเมืองคาซา
ที่นี่ คือเส้นทางหลักที่ผ่านไปยังสโมกและเมืองวาดอร์
เรื่องการวางแผนและควบคุมยุทธศาสตร์การรบนั้น กรูทถือได้ว่าเป็นแม่ทัพที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม
“พวกผู้กล้าทั้งหลาย จัดแผนกำลังพลรบ บาซูกา และขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ก็จัดเตรียมให้พร้อม! ”
“กองร้อยรถถัง เตรียมลูกกระสุนปืนใหญ่ของพวกนายให้พร้อม เมื่อหลินชางฉองมาถึงแล้ว ก็ถึง
เวลาที่พวกนายจะได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเต็มที่แล้ว”
กรูทลูบหนวดเคราของเขาเบา ๆ พร้อมกับสั่งการทหารยอดฝีมือของกรมทหารที่ 6 อย่างเป็นระบบ
มองไปที่กรมทหารราบยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพที่อยู่เบื้องหน้า กรูทมีความมั่นอก
มั่นใจเป็นอย่างมาก
“ฮึ หลินชางฉอง พ่อของระเบิดทั้งหมดไม่สามารถระเบิดนายให้ตายได้ และนายกลับยังที่จะมารนหาที่ตายอีก! ”
“ผลงานความดีความชอบในครั้งนี้ ถือว่าเป็นของฉันแล้ว! ”
เดิมทีหลินหยุนสามารถที่จะหลบหลีกกรมทหารที่ 6 ได้ แต่ ในเมื่อพวกเขามารนหาที่ตายเอง หลินหยุนก็จะตอบสนองความต้องการของพวกเขา
ที่นี่เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า มีเพียงถนนเส้นเดียวที่ทอดยาวไปถึงสโมก ที่เหมาะสมเป็นสนามรบ
กรูทเลือกสถานที่ได้เหมาะสมจริง ๆ ซึ่งทั้งสองฝ่ายสามารถเปิดฉากรบเข้าใส่กันได้อย่างเต็มกำลัง
“ผู้บังคับบัญชา มีคนหนึ่งมุ่งหน้าตรงมาทางพวกเราแล้ว! ” รองผู้บังคับบัญชารายงานต่อกรูท
กรูทลูบจับไปที่หนวดเคราเต็มใบหน้าของเขา แสยะยิ้มพร้อมกับพูดว่า: “เขาก็คือหลินชางฉอง! ”
รองผู้บังคับบัญชาขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “ดูเหมือนว่า เขาเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่เห็นมีความพิเศษอะไรเลย ซึ่งไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผู้บังคับบัญชาสูงสุดถึงต้องหวาดกลัวด้วย! ”
กรูทหัวเราฮ่าฮ่าและพูดขึ้นว่า: “นายพูดได้ถูกต้อง เขาไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น”
“อีกทั้ง ยังเป็นคนที่หลงระเริงอย่างมากด้วย ซึ่งคนที่หลงระเริง จะมีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือจะตายเร็ว! ”
รองผู้บังคับบัญชากับพวกทหารหัวเราะฮ่าฮ่า โดยที่เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
พวกทหารเหล่านี้ โดยส่วนมากยังไม่เคยได้ยินถึงเรื่องราวของหลินหยุนมาก่อน ซึ่งพวกเขามองว่า นึกไม่ถึงว่าคนธรรมดาจะกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดที่ใช้ร่างกายของเขามาท้ารบกับกรมทหารราบ
ยานยนต์ที่ยอมเยี่ยมที่สุดของทัพภาคเหนือของรัสเซีย
นี่มันช่างเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอย่างมากเลยทีเดียว
“เฮ่ย เพื่อน ๆ ดูเร็ว เขามาแล้ว เขามาแล้วจริง ๆ! ”
“ฮ่าฮ่า ฉันคิดว่าไอ้เด็กหนุ่มชาวจีนคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว อืม ซึ่งก็เหมือนกับตอนสมัยราชวงศ์ชิง มีกบฏนักมวย อี้เหอถวนที่บอกว่าตัวของพวกเขานั้นยิงแทงไม่เข้า มีพลังทิพย์เวทมนตร์ป้องกันกาย”
“ใช่เลย แต่ในที่สุดก็ถูกพวกเรายิงปืนถล่มเข้าใส่จนย่อยยับ! ”
“แต่ ฉันคิดว่าหลินชางฉองคนนี้คงจะไม่ถูกพวกเรายิงปืนถล่มเข้าใส่จนย่อยยับ เพราะว่า เขาจะถูกพวกเรายิงปืนถล่มเข้าใส่จนไม่เหลือซาก! ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……