จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1061 ชาติกำเนิดของฉินหลัน

บทที่ 1061 ชาติกำเนิดของฉินหลัน

ประเทศจีน ชางฉองกรุ๊ป

ในขณะที่หลินหยุนกับคาร์นอตวิลเลียมเดินทางไปตะวันตกเพื่อหายาทิพย์ ชางฉองกรุ๊ปมีแขกสำคัญคนหนึ่งมาเยือน

คนๆนี้คือหลี่หมิ่นจู เธอคือคนที่หลินหยุนได้พบระหว่างทาง ตอนที่เขาเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น

อันที่จริงหลี่หมิ่นจูคือองค์หญิงใหญ่ของบริษัทซานซัมกรุ๊ปจากประเทศเกาหลี

เนื่องจากชีวิตสมรสไม่ค่อยมีความสุข ทำให้ประธานของบริษัทซานซัมกรุ๊ปไม่ค่อยให้การสนับสนุนกับเธอมากนัก

ตอนนี้เธอกำลังดำเนินคดีเรื่องฟ้องหย่า ทำให้หลี่หมิ่นจูท่องเที่ยวไปทั่ว เพื่อผ่อนคลายสภาพจิตใจตัวเอง

แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมาเจอฉินหลัน และมองเห็นสร้อยคอดวงดาวที่ห้อยอยู่บนคอของฉินหลัน

คนที่เดินทางมาพร้อมกับหลี่หมิ่นจูก็คือประธานของบริษัทซานซัมกรุ๊ป เขามีชื่อว่าหลี่เอนห้าว

บริษัทซานซัมกรุ๊ปในประเทศเกาหลีเป็นบริษัทร่ำรวยอันดับต้นๆของโลก เมื่อเทียบกับชางฉองกรุ๊ปที่หลินหยุนพึ่งสร้างขึ้นในตอนนี้ พวกเขาร่ำรวยด้านเงินทองเยอะกว่านิดหน่อย

โดยปกติ ถ้าประธานของบริษัทซานซัมกรุ๊ปเดินทางมาด้วยตัวเอง หวางซูเฟินคงต้องต้อนรับพวกเขาอย่างสมเกียรติ

แต่หลี่เอนห้าวไม่อยากทำให้เป็นเรื่องเอิกเกริก เขาอยากจะพบหน้าหวางซูเฟินอย่างเงียบๆและพูดจุดประสงค์ที่เขามาในครั้งนี้

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดว่าต้องการพบฉินหลัน ทำให้หวางซูเฟินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

แต่ประธานของบริษัทซานซัมกรุ๊ปเดินทางมาด้วยตัวเอง ทำให้หวางซูเฟินไม่มีเหตุผลที่จะพูดปฏิเสธ

ด้านในห้องประชุมของชางฉองกรุ๊ป

หลี่เอนห้าวที่ใส่ชุดสูทสีดำและข้างๆยังมีองค์หญิงใหญ่หลี่หมิ่นจูที่สวมใส่ชุดเดรสสีแดง พวกเขานั่งลงที่โซฟาทันที

พวกเขานั่งรอฉินหลันอย่างเงียบๆ

เมื่อฉินหลันถึงแล้ว เธอมองเห็นในห้องประชุมมีพวกเขาเพียงแค่สามคนเท่านั้น

 ท่านประธาน คุณต้องการเจอฉันเหรอ? ฉินหลันถาม

หวางซูเฟินมองไปที่หลี่เอนห้าวและพูด  คนๆนี้คือประธานของบริษัทซานซัมกรุ๊ป เขาชื่อหลี่เอนห้าว อันที่จริงเขาเป็นคนที่ต้องการเจอคุณต่างหาก 

ฉินหลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเธอเคยได้ยินชื่อเสียงของบริษัทซานซัมกรุ๊ปมาแล้ว แต่เธอไม่ได้รู้จักพวกเขาเลย

แต่เมื่อเธอมองเห็นหลี่หมิ่นจูแล้ว ทำให้เธอจำหลี่หมิ่นจูได้ทันที

 เป็นคุณได้ยังไง! ฉินหลันถามด้วยความประหลาดใจ

หลี่หมิ่นจูพูดด้วยรอยยิ้ม  คุณฉินหลัน ต้องขอโทษจริงๆ ก่อนหน้านี้ฉันปกปิดฐานะของตัวเอง อันที่จริงฉันเป็นองค์หญิงใหญ่ของบริษัทซานซัมกรุ๊ป ฉันชื่อหลี่หมิ่นจู 

ฉินหลันพูดด้วยรอยยิ้ม  ถึงแม้ฉันจะเดาไม่ออกว่าคุณเป็นองค์หญิงใหญ่ของบริษัทซานซัมกรุ๊ป แต่ฉันก็พอเดาออกว่าฐานะที่แท้จริงของคุณต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน 

วันนี้ฉินหลันใส่ชุดสูทสีขาว ทำให้เธอดูสุขุมและสง่างามมากๆ

เธอไม่ได้สวมใส่สร้อยคอดวงดาว แต่เธอสวมใส่ยันต์หยกคุ้มกายตัวใหม่ที่หลินหยุนมอบให้เธอ

หลี่เอนห้าวมองไม่เห็นสร้อยคอดวงดาว ทำให้เขามองไปที่หลี่หมิ่นจูด้วยความไม่พอใจ

หลี่หมิ่นจูไม่ได้รีบร้อน แต่เธอมองไปที่ฉินหลันและพูดด้วยรอยยิ้ม  คุณฉินหลัน ฉันจำได้ว่าตอนที่คุณอยู่ประเทศญี่ปุ่น คุณเคยสวมใส่สร้อยคอดวงดาว ฉันอยากทราบว่าสร้อยคอเส้นนั้นยังอยู่ที่คุณหรือเปล่า? 

ฉินหลันมองเห็นหลี่เอนห้าวที่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ทำให้เธอเข้าใจอะไรบางอย่างทันที

 ฉันเก็บเอาไว้ แต่วันนี้ฉันไม่ได้สวมใส่ ฉินหลันตอบกลับทันที

หลี่เอนห้าวทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามด้วยความประหม่า  คุณฉินหลัน คุณสามารถเอาสร้อยคอเส้นนั้นออกมาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม? 

ฉินหลันไม่รู้ว่าสร้อยคอเส้นนั้นมีประวัติอะไรกันแน่ แต่ถ้ามีคนรู้เรื่องและอธิบายให้ฟัง เธอก็พร้อมจะฟังอย่างเต็มใจ

 คุณหลี่ โปรดรอสักครู่ ฉันจะไปหยิบเดี๋ยวนี้ 

 ได้ ได้ครับ หลี่เอนห้าวพยักหน้าทันที ท่าทางของเขาไม่เหมือนประธานของบริษัทซานซัมกรุ๊ปเลย สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เขาให้ความสำคัญกับสร้อยคอเส้นนี้มากๆ

ผ่านไปชั่วครู่ ฉินหลันก็เดินกลับมาห้องประชุมอีกครั้ง

ที่คอของเธอ มีสร้อยคอเพิ่มขึ้นเส้นหนึ่ง

สร้อยคอนั้นดูธรรมดามากๆ ดูแล้วไม่ค่อยมีมูลค่าเลย แต่ด้านหลังของกลุ่มดาวเล็กๆ มีดาวใหญ่ๆหนึ่งดวง วัสดุของดาวใหญ่ๆนั้นเป็นของที่มีมูลค่าและหายากมากๆ

หลี่เอนห้าวยืนขึ้นทันที เขาเดินมาอยู่ด้านหน้าของฉินหลันและมองดูสร้อยคอเส้นนั้นอย่างละเอียด

 คุณฉินหลัน คุณสามารถถอดสร้อยเส้นนั้นออกมาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม? 

 ได้ ฉินหลันถอยสร้อยออกมาทันทีและยื่นให้หลี่เอนห้าว

หลี่เอนห้าวหยิบสร้อยเอามาไว้ในมือตัวเองและมองดูอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูด  ใช่แล้ว มันเป็นของจริง 

 คุณฉินหลัน ฉันขอถามหน่อย คุณได้สร้อยคอเส้นนี้มาจากไหน? หลี่เอนห้าวถาม

ฉินหลันพูด  ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันใส่สร้อยเส้นนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว 

หวางซูเฟินพูด  ฉันเคยได้ยินผู้อำนวยการของสถานสงเคราะห์พูดไว้ สร้อยคอเส้นนี้เกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของฉินหลัน 

 คุณหลี่รู้จักประวัติของสร้อยคอเส้นนี้เหรอ? 

หลี่หมิ่นจูพูด  คุณพ่อ ถ้าสร้อยคอเส้นนี้เป็นของจริง และเธอก็นามสกุลฉิน ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง 

หลี่เอนห้าวพยักหน้า แต่เขาก็มองฉินหลันและถามว่า  คุณรู้ไหมว่าแม่ของคุณชื่ออะไร? 

ฉินหลันส่ายหัว  ฉันจำไม่ได้ 

หลี่เอนห้าวพูด  แม่ของเธอน่าจะชื่อฉินซิ่วจื้อ 

 และคุณก็คือลูกสาวของฉันที่พลัดพรากและหายตัวไปหลายสิบปี 

ฉินหลันอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็หัวเราะและพูด  คุณหลี่ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า มันจะเป็นไปได้ยังไง! 

หวางซูเฟินก็รู้สึกเหลือเชื่อเหมือนกัน  ฉินหลันเป็นชาวจีน แม่ของเธอก็น่าจะเป็นชาวจีน คำพูดของคุณหลี่มันเหลือเชื่อเกินไป 

หลี่เอนห้าวพยักหน้าและพูด  เรื่องนี้ พวกคุณไม่เชื่อก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพวกคุณฟังฉันเล่าเรื่องจนจบ พวกคุณก็จะเข้าใจเอง 

หวางซูเฟินพูด  เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของฉินหลัน ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน 

หลี่เอนห้าวนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง เขามองไปที่ฉินหลันและพูด  คุณก็นั่งลงเลยครับ 

 ได้ ฉินหลันพยักหน้าและนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของหลี่เอนห้าว

ตอนนี้หลี่เอนห้าวก็พูดออกมาทันที  สมัยนั้นฉันทำเพื่อธุรกิจของตระกูล ฉันอาสามาที่ประเทศจีนเพื่อตรวจตลาดด้วยตัวเอง แต่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ อาจจะเป็นเพราะฉันไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศของประเทศจีน ทำให้ฉันล้มป่วยทันที 

 ฉันเดินทางมาต่างประเทศด้วยตัวคนเดียว ฉันไม่มีญาติหรือคนรู้จักเลย เมื่อฉันล้มป่วยลง ทำให้ฉันอยากกลับประเทศทันที แต่เมื่อฉันนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูล ทำให้ฉันกัดฟันและอยู่ต่อ 

 ในขณะที่อาการป่วยของฉันรุนแรงขึ้น มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าฉัน 

 เธอสวย อ่อนโยนและเป็นกุลสตรีมากๆ เธอก็คือแม่ของฉินหลัน เธอชื่อฉินซิ่วจื้อ 

 ด้วยความดูแลเอาใจใส่ของเธอ ทำให้ฉันค่อยๆหายดี จากนั้นฉันก็ได้รับความช่วยเหลือจากเธอ ช่วยฉันทำเรื่องได้สำเร็จ 

 พวกเราอยู่ด้วยกันสองปี สองปีที่อยู่ด้วยกัน ทำให้ฉันตกหลุมรักเธอ 

 ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า พวกเราสัญญาว่าจะแต่งงานกัน ฉันก็เลยเอาสร้อยคอดวงดาวของฉันมอบให้เธอเพื่อเป็นสิ่งของแทนใจ 

 จากนั้น ฉันก็กลับไปที่ประเทศเกาหลี เมื่อฉันรายงานเรื่องนี้กับผู้อาวุโสในตระกูลแล้ว ฉันก็จะกลับไปรับเธอมาที่เกาหลี 

 ไม่มีใครคาดคิด จู่ๆตระกูลก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ผู้นำตระกูลเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อจัดการงานศพของผู้นำตระกูลแล้ว ในตระกูลก็มีการเลือกผู้นำตระกูลคนใหม่ 

 ฉันก็ได้รับเลือกเป็นผู้ชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลด้วย 

 เพราะเรื่องนี้ ทำให้เรื่องที่จะมารับซิ่วจื้อกลับไปเกาหลีเกิดความล่าช้า 

 หลังจากนั้น ฉันก็โดนผู้อาวุโสในตระกูลจับตาดูตลอดเวลา ฉันเรียนอย่างหนัก ในช่วงเวลานั้น ฉันก็เคยพูดเรื่องของซิ่วจื้อกับพ่อแม่ของฉัน ฉันอยากจะรับซิ่วจื้อไปอยู่ด้วย 

 แต่กลับโดนพ่อแม่ตอบปฏิเสธ เรื่องแต่งงานของผู้นำตระกูล มีเพียงผู้อาวุโสของตระกูลตัดสินใจเรื่องนี้ได้เท่านั้น และต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่อยู่ในตระกูลระดับเดียวกันด้วย 

 ซิ่วจื้อเป็นแค่ผู้หญิงชาวจีนธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนั้นเธอแต่งเข้าตระกูลหลี่ไม่ได้อยู่แล้ว ถึงแม้ฉันจะเคยต่อสู้เพื่อเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย 

 หลังจากที่ฉันได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว ฉันเคยส่งคนมาหาซิ่วจื้อตั้งหลายครั้ง แต่ก็หาเธอไม่เจอ 

 ฉันได้ข่าวมาว่าซิ่วจื้อท้องก่อนแต่ง ทำให้เธอขายหน้ามากๆและไม่กล้าอยู่ที่เดิม เธอก็เลยย้ายบ้าน 

 ตอนนั้นฉันก็รู้ทันที ฉันน่าจะมีลูกสาวคนหนึ่งอยู่ที่ประเทศจีน 

 ดังนั้น ฉันก็เลยบอกเรื่องนี้กับผู้บริหารระดับสูงของตระกูล ให้พวกเขาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย 

 ความพยายามของฉันไม่สูญเปล่า ในที่สุดก็ทำให้หมิ่นจูพบเจอเธอ 

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท