หลังจากที่หลินหยุนกลับมาถึงประเทศจีนแล้ว
ก็ได้กลับไปยังชางฉองกรุ๊ปทันที
เมื่อเห็นหลินหยุนกลับมาอย่างปลอดภัย ฉินหลันที่หวาดผวามาโดยตลอดก็รู้สึกวางใจลงได้เสียที
หลินหยุนมองดูฉินหลัน รู้สึกว่าควรจะให้เธอได้รับรู้เรื่องทั้งหมดจะดีกว่า
หลี่เอนห้าวตายแล้ว!
ฉินหลันอึ้งไปเล็กน้อย สายตาแสดงออกถึงความโศกเศร้า แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในเมื่อหลินหยุนฆ่าเขาตาย งั้นก็แสดงว่าเขาจะต้องทำอะไรที่เกินเลยไปอีกอย่างแน่นอน
ฉินหลันพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า ความจริงแล้วคุณไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับฉันก็ได้ ประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ ฉันก็ถือซะว่าเป็นความฝันไปก็แล้วกัน!
ฉันก็ยังคงเป็นลูกกำพร้าคนนั้นเหมือนเดิม ก็ถือซะว่าไม่เคยรู้จักกับพวกเขามาก่อนก็แล้วกัน!
หลินหยุนพูดด้วยเสียงอบอุ่นว่า ไม่นะพี่ฉินหลัน คุณไม่ใช่ลูกกำพร้า ที่นี่ก็คือบ้านของคุณ ฉันก็คือน้องชายแท้ๆของคุณไง!
ขอบตาของฉินหลันชุ่มไปด้วยน้ำตา พยักหน้าแล้วพูดว่า ถูกต้อง คุณพูดถูกแล้ว ฉันไม่ใช่ลูกกำพร้า ฉันยังมีบ้าน!
หวางซูเฟินมองดูหลินหยุนด้วยความอุ่นใจ พยักหน้าแล้วพูดว่า เจ้าเด็กบ้า ในที่สุดแกก็พูดจาถูกต้องสักเรื่องมั่งแล้ว!
ฉินหลัน ต่อไปนี้ที่นี่ก็คือครอบครัวของคุณ ฉันก็คือแม่ของคุณ!
สำหรับเจ้าเด็กบ้านั่น คุณคิดอยากจะให้เขาเป็นน้องชาย หรืออาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้ งั้นก็แล้วแต่ความคิดของคุณก็แล้วกัน เพียงแค่คุณตัดสินใจแล้วบอกฉันมา ฉันจะให้เจ้าเด็กบ้านี่ทำตามทุกอย่างเลย!
ความหมายในคำพูดของหวางซูเฟินนั้น ก็ชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว
ฉินหลังฟังแล้วใบหน้าแดงก่ำไปหมด
ท่านประธานคะ ฉันยังมีธุระบางอย่าง ขอตัวกลับไปจัดการก่อนนะคะ
หวางซูเฟินหัวเราะแล้วพูดว่า ยังไงเหรอ เขินหรือยังไง?
ได้ ไปเถอะ! พอดีฉันก็ยังมีเรื่องที่จะคุยกับเจ้าเด็กบ้านี้อีก?
หลินหยุนมองดูหวางซูเฟินด้วยสีหน้าจนปัญญา ครั้งแรกที่เขาพบว่าคุณแม่ถึงกับมีพรสวรรค์ในการเป็นแม่สื่ออีกด้วย
ท่านจะพูดอะไรกับผมเหรอครับ? ท่านแม่ครับ! หลินหยุนถามด้วยรอยยิ้ม
จู่ๆสีหน้าของหวางซูเฟินก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที มองดูหลินหยุนแล้วพูดว่า แกตามฉันมาหน่อย!
ในใจหลินหยุนก็รู้สึกสงสัย ดูจากท่าทีของคุณแม่แล้ว จะต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอนเลย!
หวางซูเฟินพาหลินหยุนไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือของชางฉองกรุ๊ป
ท่านประธาน!
พนักงานโรงแรมที่เห็นหวางซูเฟินจู่ๆก็มาถึง ต่างก็ตกใจกันไปหมด
หวางซูเฟินพูดว่า ไม่ต้องมากพิธี พวกคุณทำงานไปเถอะ!
หลังจากนั้น ก็พาหลินหยุนไปยังห้องสูทห้องหนึ่ง
หวางซูเฟินเคาะประตูห้อง โหย่วหรง ฉันเอง!
โหย่วหรง? หลินหยุนขมวดคิ้ว หรือว่าจะเป็นสาวงามที่สุดในเมืองหลวงนิ่งโหย่วหรงคนนั้น?
ในไม่ช้า ประตูห้องก็เปิดออก นิ่งโหย่วหรงดวงตาทั้งคู่แดงก่ำยืนอยู่หน้าประตู สิ่งที่ทำให้หลินหยุนตกใจก็คือ เธอถึงกับใส่ชุดไว้ทุกข์ทั้งตัว
คำโบราณกล่าวไว้ว่าหญิงสาวจะดูงดงาม เมื่อใส่ชุดขาว!
ความงามของนิ่งโหย่วหรงในขณะนี้สวยแบบเศร้าๆอย่างหนึ่ง ทำให้คนรู้สึกหัวใจสลาย
น้าหวาง เชิญเข้ามาค่ะ! นิ่งโหย่วหรงพูด
หวางซูเฟินมองดูหลินหยุนแวบหนึ่ง สายตาแสดงการแจ้งเตือนบางอย่าง แล้วพูดว่า เข้าไปกันเถอะ!
หลินหยุนไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณแม่ แต่ว่าก็ยังแปลกใจเรื่องที่นิ่งโหย่วหรงใส่ชุดไว้ทุกข์ในตอนนี้
ตระกูลนิ่งเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง ถึงแม้จะสู้สี่ตระกูลใหญ่ไม่ได้ก็จริง แต่ว่าถ้าเทียบกับมณฑลอื่นๆในประเทศจีนละก็ ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ระดับแนวหน้าทีเดียว
นิ่งโหย่วหรงไว้ทุกข์ให้ใครเหรอ?
หลินหยุนจำได้ว่า คราวที่แล้วตอนที่เขาไปรักษาโรคให้กับนายท่านนิ่งนั้น ร่างกายของพ่อนิ่งโหย่วหรงก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ส่วนนายท่านหลังจากที่เขารักษาให้หายดีแล้ว อย่างน้อยก็น่ามีอายุยืนยาวถึงสิบกว่าปีได้
ตระกูลนิ่งมีใครตายกันแน่?
น้าหวางเชิญนั่งค่ะ ฉันจะไปริมน้ำชาให้ท่าน! นิ่งโหย่วหรงพูด
หวางซูเฟินรีบห้ามไว้ โหย่วหรงไม่ต้องหรอก ฉันพาหลินหยุนมาแล้ว พวกเราคุยเรื่องสำคัญเลยดีกว่านะ!
หลินหยุนในใจนึกสงสัย หรือว่าเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเขาเองด้วย?
ดวงตาที่สะสวยของนิ่งโหย่วหรงมองดูหลินหยุน ใบหน้าอันเลอโฉมบวกกับสีหน้าท่าทางที่น่าสงสารจากการสวมชุดไว้ทุกข์นั้น แม้แต่หลินหยุนเองมองดูแล้วก็ยังรู้สึกตกตะลึงในความงามเลย!
ทันใดนั้น นิ่งโหย่วหรงก็คุกเข่าลงตรงหน้าหลินหยุน พูดด้วยเสียงมุ่งมั่นว่า ขอให้ปรมาจารย์หลินรับฉันเป็นลูกศิษย์ด้วยค่ะ!
มันเรื่องอะไรกันแน่!
หลินหยุนก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องอึ้งไปสักพัก
นิ่งโหย่วหรงจะขอให้เขาเป็นอาจารย์เธอเหรอ?
หวางซูเฟินก็พูดอธิบายว่า เสี่ยงหยุน ตระกูลนิ่งประสบภัยพิบัติ ถูกสำนักชิงชางแห่งโลกบู๊โบราณฆ่าล้างโคตรไปแล้ว คุณลุงนิ่งและนายท่านนิ่งก็ตายไปด้วย มีแต่โหย่วหรงกับโหย่วฉายสองคนพี่น้องเพราะว่าอยู่ข้างนอก จึงรอดพ้นจากภัยครั้งนี้มาได้!
โหย่วหรงคิดอยากจะแก้แค้น จึงจะมาขอให้ลูกเป็นอาจารย์ของเธอ หวังจะให้ลูกช่วยสอนวิชาให้เธอบ้าง
คุณลุงนิ่งของลูกมีบุญคุณกับตระกูลพวกเรา ฉันหวังว่าลูกคงจะยอมตกลงนะ
หลินหยุนถามด้วยความสงสัยว่า สำนักชิงชางเป็นสำนักในโลกบู๊โบราณ ทำไมถึงคิดจะฆ่าล้างโคตรตระกูลนิ่งล่ะ?
อีกอย่างเมืองหลวงเป็นสถานที่สำคัญขนาดนั้น ทางการรัฐบาลจีนทำไมถึงนิ่งดูดายไม่ทำอะไรเลยล่ะ?
นิ่งโหย่วหรงพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานฉันบังเอิญได้พบกับเจ้าสำนักน้อยชิงชางหลอหยวนป้า เขาเกิดชอบพอฉัน จะให้ฉันตามเขาไปอยู่โลกบู๊โบราณด้วย
ฉันปฏิเสธเขาไป แต่คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับวิปริตบ้าคลั่งถึงขั้นนี้ได้!
เพราะว่าหลอหยวนป้าแอบทำเอง ทางการรัฐบาลจีนก็ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร ที่หลอหยวนป้าทำเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะให้ฉันไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จากนั้นจะได้ตามเขาไปอยู่โลกบู๊โบราณได้!
พอดีวันนั้นฉันกับโหย่วฉายไม่อยู่บ้าน เลยโชคดีที่หลบรอดพ้นออกมาได้
ฉันเคยเห็นฝีมือของคุณแล้ว จึงคิดอยากจะสมัครเป็นลูกศิษย์ของคุณ เพื่อล้างแค้นให้กับคนในตระกูล!
ในขณะที่พูดเรื่องนี้ สีหน้าของนิ่งโหย่วหรงเงียบสงบอย่างผิดปกติ ดูเหมือนกำลังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนอื่นอยู่
นี่คงเป็นเพราะเคียดแค้นจนถึงที่สุดแล้ว!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนเย่อหยิ่งอย่างเธอ ถึงขนาดคุกเข่าลงเพื่อขอให้เขาเป็นอาจารย์ได้
แต่ว่า ด้วยสภาพของนิ่งโหย่วหรงตอนนี้แล้ว ถ้าหลินหยุนถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้กับเธอละก็ จะเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
ความแค้นที่สุมในอยู่ใจจะทำให้เธอรีบเร่งให้ถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด จนถึงขั้นบ้าคลั่งก็ได้ สุดท้ายแล้วกลับเป็นการทำร้ายตัวเอง
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า ฉันยังไม่คิดที่จะรับผิดลูกศิษย์ทั้งนั้น คุณไปหาคนอื่นเถอะ!
นิ่งโหย่วหรงสีหน้ามืดมน ดูราวกับว่าอ่อนแรงไปหมดทั้งตัว จนนั่งแผ่ลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ
หวางซูเฟินทนดูต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จึงดึงหูของหลินหยุนไว้แล้วตะคอกใส่ว่า เจ้าเด็กบ้า แกจงใจใช่หรือเปล่า?
ตระกูลนิ่งเป็นถึงขนาดนี้แล้ว แกถึงกับยังใจแข็งปฏิเสธคำขอร้องของโหย่วหรงอีก แกยังมีจิตเมตตาสงสารอยู่บ้างหรือเปล่า?
คุณลุงนิ่งของแกตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้ช่วยเหลือตระกูลพวกเราไม่ใช่น้อยเลย ยังไงวันนี้แกจะต้องยอมตกลงให้ได้!
ถ้าแกยังไม่ยอมตกลงละก็ งั้นฉันจะเป็นฝ่ายจัดการให้แกแต่งงานกับโหย่วหรงเลย!
จะยอมรับเป็นลูกศิษย์หรือว่าจะยอมแต่งเมีย แกเลือกเอาเองแล้วกัน!
อยู่ต่อหน้าคุณแม่ที่เอาแต่ใจแล้ว หลินหยุนทำอะไรไม่ถูก
หวางซูเฟินกลับไม่รู้ว่า การที่หลินหยุนปฏิเสธนั้น แท้จริงแล้วก็เพราะหวังดีต่อนิ่งโหย่วหรงนั่นเอง
แต่ว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลินหยุนจะไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว
คุณแม่ปล่อยมือก่อน ผมตกลงก็แล้วกัน
หวางซูเฟินทำตาค้อนใส่เขาหนึ่งที ค่อยยังชั่วหน่อย
โหย่วหรง คุณไม่ต้องกังวลนะ เจ้าเด็กนี่ชอบให้ใช้ไม้แข็ง ทีหลังถ้าเขากล้ารังแกคุณอีก คุณก็บอกฉันได้เลย ฉันจะช่วยคุณจัดการเขาเอง!
นิ่งโหย่วหรงรีบลุกขึ้นมาโค้งคำนับ ขอบคุณน้าหวางมากค่ะ!
……
รัฐสภาสหรัฐ
หลังจากข่าวคราวที่หลินหยุนบุกเข้าไปถล่มฐานทัพทหารอเมริกาประจำเกาหลีได้แพร่ออกไปแล้ว สมาชิกรัฐสภาทั้งหลายในรัฐสภาสหรัฐก็เริ่มถกเถียงกันอย่างไม่หยุดหย่อน
มีสมาชิกหลายคนเสนอให้ประกาศทำสงครามกับประเทศจีนทันที ให้พวกเขาส่งตัวผู้ร้ายหลินชางฉองออกมา แล้วชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาลให้กับอเมริกาด้วย
แต่ว่าก็มีสมาชิกหลายคนที่คัดค้านการกระทำเช่นนี้ อย่างน้อยประเทศจีนไม่เหมือนประเทศเล็กๆอื่นที่สามารถให้อเมริการังแกตามอำเภอใจได้ คิดจะเปิดศึกกับประเทศจีน เกรงว่าจะทำให้อเมริกาล่มจมได้
อเมริกาต้องการแสวงอำนาจครอบครองประเทศทั่วโลก ถ้าเปิดศึกกับประเทศจีนโดยตรง ก็ไม่ใช่เป้าหมายผลประโยชน์ของอเมริกา
หลังจากนั้น ทั้งสองพรรคก็เริ่มเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างดุเดือดเกี่ยวกับปัญหาจะเปิดศึกหรือไม่
โต้เถียงกันตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย แม้แต่อาหารเที่ยงก็ยังต้องสั่งให้ส่งเข้ามา หลังจากนั้นก็ถกเถียงกันต่อไป
จากนั้นก็โต้เถียงกันต่อจนถึงกลางคืน อีกทั้งดูเหมือนจะไม่มีวี่แววที่จะยุติลงได้เลย
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ประธานาธิบดีอเมริกาก็รีบชิงหลบหนีออกไปก่อน และทิ้งท้ายไว้ว่า พวกคุณถกเถียงกันต่อไปเถอะ ใครชนะฉันก็ฟังคนนั้นแหละ!
คราวนี้นับว่าเป็นการจุดชนวนระเบิดขึ้น สมาชิกรัฐสภาพวกนี้ก็เกิดความสามัคคีขึ้นมาทันที แล้วพุ่งเป้าไปยังประธานาธิบดีพูท
แต่ว่าพูทดูเหมือนจะคาดเดาออกแล้วว่าพวกเขาจะต้องทำเช่นนี้ ดังนั้นจึงรีบเผ่นหนีไปก่อน
แม้แต่ประธานาธิบดีก็ยังไม่อยู่แล้ว มองดูสภาพอาหารมื้อเย็นที่ยังไม่รู้ผลสรุปเลย ผู้สูงวัยสมาชิกรัฐสภาพวกนี้จึงต้องเลิกรากันไปก่อน แล้วนัดให้มาเปิดศึกโต้เถียงกันใหม่ในพรุ่งนี้