จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1119 การตัดสินใจเลือกข้างของตระกูลหวาง

บทที่ 1119 การตัดสินใจเลือกข้างของตระกูลหวาง

อึ้งไปสักครู่หนึ่ง ประธานาธิบดีจึงเอ่ยปากพูดอีกครั้งว่า  ส่งคนไปจับตาดูต่อไป ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รีบมารายงานด่วนด้วย! 

 อีกอย่าง รีบติดต่อกับหลินหยุนต่อไป! 

 เมื่อไหร่ที่เขาสิ้นสุดการเก็บตัวแล้ว! 

 ก็รีบบอกเรื่องนี้ให้เขาฟังโดยด่วนเลย! 

ท่านหงก็รับคำสั่งแล้วจากไป

ส่วนตระกูลหวางในขณะนี้ ก็กำลังเปิดประชุมของตระกูลอย่างเร่งด่วนเช่นกัน

ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของตระกูลหวางตอนนี้ แม้แต่บางคนที่ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ต่างก็รีบกลับมาเข้าร่วมประชุมด้วย

หวางโส่วหลี่พูดว่า  วันนี้เชิญทุกคนกลับมาร่วมประชุมของตระกูล เรื่องที่จะประชุมนั้น ทุกคนต่างก็รู้กันแล้ว! 

 สำนักฉีเทียนจู่ๆก็ได้แจ้งเกิดขึ้นมา! 

 หลังจากที่ได้สังหารเจียงร่อโจ๋เทพแห่งสงคราม แล้วก็ยังทำลายหน่วยรบเมคารุ่นที่สองที่น่าสะพรึงกลัวของอเมริกาอีกด้วย! 

 ไม่เพียงแต่เท่านี้ ก็ยังสังหารยอดฝีมือแดนเทพของโลกบู๊อีกจำนวนมากด้วย! 

 ดูจากท่าทีการแสดงออกที่ก้าวร้าวของเจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนแล้ว! 

 พลังฝึกฝนของทั้งสองคนนั้น เกรงว่าแม้แต่หลินหยุน ก็ยังไม่มีทางที่จะสู้รบชนะได้เลย! 

 ตอนนี้ ก็ยังมีตระกูลจำนวนไม่น้อยต่างก็เลือกไปสวามิภักดิ์ต่อสำนักฉีเทียนแล้ว! 

 นี่ก็เป็นโอกาสครั้งหนึ่งของตระกูลหวางเรา! 

 ขอเพียงให้ตระกูลหวางเราสามารถเกาะติดที่พึ่งพิงที่แข็งแกร่งอย่างสำนักฉีเทียนเช่นนี้ไว้ได้ละก็ เช่นนั้นแล้วไม่ว่าหลินหยุนจะเป็นยังไงก็ตาม ตระกูลหวางเราก็จะต้องสามารถฟื้นฟูความรุ่งเรืองขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างแน่นอน! 

 ดังนั้นพวกเราก็ได้จัดประชุมเล็กๆขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว ได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์แล้วว่าจะเลือกไปสวามิภักดิ์ต่อสำนักฉีเทียนแล้ว! 

 ตอนนี้ ขอให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาบ้าง! 

พอสิ้นเสียงของหวางโส่วหลี่แล้ว ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งรีบเอ่ยปากพูดขึ้นว่า  เจ้าบ้านครับ ผมเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้! 

 เพียงแต่ว่าตอนนี้มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง! 

 สำนักฉีเทียนนั้นตอนนี้เหิมเกริมยโสโอหังมาก! 

 แล้วจะยอมรับการสวามิภักดิ์ของพวกเราตระกูลหวาง อย่างที่พวกเราหวังไว้เหรอ? 

หวางเจ๋อที่อยู่ข้างๆหวางโส่วหลี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า  อาชายโส่วเย่ ประเด็นนี้สามารถวางใจได้เลย! 

 เจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนนั้น เป็นผู้บำเพ็ญเซียน งั้นก็ย่อมต้องการแหล่งเงินทุนจำนวนมากอย่างแน่นอน! 

 พวกเขาไม่สามารถที่จะออกไปหาด้วยตัวเองได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ลูกน้องไปทำงานด้านต่างๆจำนวนมากมาย! 

 ตระกูลหวางเรามีเงื่อนไขเพียบพร้อมทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการแล้ว! 

 ดังนั้น คาดว่าประเด็นนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาเลย! 

เมื่อได้ยินหวางเจ๋อพูดเช่นนั้นแล้ว ทุกคนต่างก็พยักหน้า

ชายชราคนหนึ่งเอ่ยปากพูดว่า  เรื่องนี้ สำหรับพวกเราตระกูลหวางแล้ว มีแต่ผลดีไม่มีผลเสียเลยแม้แต่นิดเดียว! 

 แต่ฉันเป็นห่วงว่า ได้ข่าวว่าสำนักฉีเทียนได้รับลักพาตัวหวางซูเฟินและฉินหลันไปแล้ว! 

 เมื่อไหร่ที่หลินหยุนออกจากการเก็บตัวแล้ว ก็จะต้องมีเกิดการสู้รบกันขึ้นอย่างแน่นอน! 

 ถ้าหากตระกูลหวางเราเลือกข้างตอนนี้แล้ว ถึงเวลานั้นถ้าหากหลินหยุนรบชนะ….. 

หวางเจ๋อทำเสียงฮื่อใส่ พูดอย่างไม่แยแสว่า  คุณปู่รองครับ หลินหยุนเจ้าเดียรัจฉานนั่นคงทำให้ท่านตกใจกลัวจนสติแตกไปแล้วใช่ไหม? 

 เจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนนั้น ก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนเหมือนกัน! 

 อีกอย่างดูจากยอดฝีมือแดนเทพหลายคนที่ไปหาเรื่องแล้ว ยังมีหน่วยรบเมคารุ่นที่สอง ของอเมริกาด้วย! 

 ก็มีแต่จะแข็งแกร่งกว่าเจ้าเดียรัจฉานนั่นเสียอีก! 

 ไม่มีทางที่จะด้อยกว่าเลย! 

 ปู่รองวางใจได้เลย! 

 ถ้าหากพวกเราตอนนี้ไม่ไปสวามิภักดิ์ละก็ ช้าอีกหน่อย คนอื่นเขาก็คงไม่ต้องการพวกเราอีกแล้ว! 

ทุกคนก็ครุ่นคิดอีกครู่หนึ่งแล้วต่างก็พยักหน้าอีกครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม สิ่งที่ผู้คนตระหนักเห็นความสำคัญก็คือ การช่วยเหลือตอนที่ตกทุกข์ได้ยากย่อมต้องดีกว่าคำสรรเสริญเยินยอในขณะที่รุ่งเรืองเสมอ!

ตอนนี้คนที่คิดอยากจะซุกปีกสำนักฉีเทียนก็ย่อมต้องมีจำนวนมากมายเป็นธรรมดา

หากช้าไปก้าวเดียวละก็ รอให้กำลังคนของคนอื่นเต็มไม้เต็มมือแล้วละก็ คนอื่นจะไปสนใจตระกูลหวางเป็นใครมาจากไหนอีกเหรอ?

เมื่อเห็นทุกคนต่างก็พยักหน้า หวาโส่วหลี่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า  ตกลง ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน งั้นก็ตัดสินตามนี้แล้วกัน! 

จากนั้นก็หันไปมองหวางเจ๋อที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า  หวางเจ๋อ เรื่องนี้มอบให้คุณเป็นคนจัดการด้วย! แล้วจะต้องจัดการให้ดีด้วย! 

หวางเจ๋อรีบพูดว่า  เจ้าบ้านโปรดวางใจเถอะ! ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสทุกท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอน! 

พูดจบ ก็รีบเดินออกไปจากห้องประชุมทันที

หลังจากออกจากห้องประชุมแล้ว หวางเจ๋อก็พาลูกน้องกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปยังสำนักฉีเทียนทันที

หลังจากผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว ตระกูลหวางก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะสวามิภักดิ์ต่อสำนักฉีเทียนแล้ว

หวางเจ๋อก็ยังคงอยู่ในสำนักฉีเทียนต่อไป กลายเป็นเด็กรับใช้ของเจ้าสำนักทั้งสอง คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกาย!

เมื่อข่าวคราวนี้แพร่กระจายออกมาก็ทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกช็อกกันไปหมด

เพราะว่าตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงตอนนี้ สำนักฉีเทียนไม่เคยรับลูกศิษย์ชายที่ไหนเลยแม้แต่คนเดียว

ล้วนแต่เป็นสตรีเพศทั้งนั้น!

อีกทั้งยังเป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงามอีกด้วย!

หวางเจ๋อคนนี้ นับว่าเป็นคนแรกเลยทีเดียว!

ชั่วพริบตาเดียว ตระกูลหวางก็กลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจบารมีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

แต่ว่าในเวลานี้เอง ประตูด้านนอกของสำนักฉีเทียนนั้น มีเงาร่างสามคนปรากฏขึ้นมาแล้ว

การปรากฏตัวขึ้นของทั้งสามคนนี้ ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่อยู่นอกสำนักเป็นจำนวนมาก

คนพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นยอดฝีมือขอโลกบู๊ชาวจีนทั้งนั้น

อีกทั้งยังมียอดฝีมือของโลกบู๊โบราณจำนวนไม่น้อยอีกด้วย

พวกเขาต่างก็ชื่นชอบเลื่อมใสในชื่อเสียงของสำนักฉีเทียน แล้วคิดจะสมัครเข้าไปอยู่ในสำนักด้วย แต่กลับถูกขัดขวางให้อยู่นอกประตูทางเข้าสำนัก

แต่คนพวกนี้ต่างก็ยังไม่คิดจะถอดใจเลย ก็ยังคงปักหลักรออยู่ที่นั่น

เมื่อเห็นสามคนนี้จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา ก็มีคนจำฐานะของพวกเขาได้ทันที

 นี่ไม่ใช่ปู่ของหลินหยุน ยังมีลูกน้องอีกสองคนของเขาเหรอ? 

 พวกเขามาทำอะไรที่นี่? 

 ดูจากท่าทีพวกเขาแล้ว ดูเหมือนจะโกรธมากเลย! 

 ก่อนหน้านั้นแกไม่เคยได้ยินเหรอ? หวางซูเฟินแม่ของหลินหยุนนั่น ยังมีฉินหลันที่เป็นผู้หญิงของเขา ยังมีแฟนสาว ก็คืออีหลิงแห่งตระกูลอีในเจียงหนานคนนั้น ต่างก็ถูกเจ้าสำนักเจียงยี่และมู่หงจับตัวกลับมาไว้ที่นี่กันหมดแล้ว! 

 ส่วนหลินหยุนตอนนี้ก็ยังคงเก็บตัวอยู่ ปู่ของเขาและลูกศิษย์ทั้งสองคน ก็ต้องตามมาหาคนถึงที่นี่แหละ! 

 ฮ่าๆๆ คราวนี้ก็มีละครดีๆให้ดูอีกแล้ว! 

 ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า หลินหยุนก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนเหมือนกัน! งั้นปู่ของเขาและลูกน้องทั้งสองคน ก็น่าจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียนเหมือนกันด้วย 

 ทั้งสามคนนี้ตอนนี้ก็มีพลังฝึกฝนที่สามารถสังหารพวกแดนเทพอย่างง่ายดายเหมือนดื่มน้ำแล้วสิ! 

 คราวนี้จะต้องน่าดูชมแล้ว! 

 นี่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าสำนักมู่หงและเจ้าสำนักเจียงยี่แล้วล่ะ! 

 ดูกันไปถอะ นี่จะต้องเป็นการสู้รบระดับมังกรกับพยักอย่างแน่นอน! 

ผู้คนต่างก็ออกความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา

แต่ว่าหลินซื่อเฉิงและซูจื่อเหลียง ซูหนันต่างก็ไม่มองหน้าใครเลย ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เดินลุยเข้าไปประตูสำนักฉีเทียนทันที

แต่กลับถูกลูกศิษย์สาวที่ยืนเฝ้าประตูอยู่สองคนนั้นขัดขวางเอาไว้

ลูกศิษย์สาวหนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า  บังอาจ! รู้ไหมว่านี่คือสถานที่อะไร? ถึงกับกล้าบุกเข้ามา ถ้ากล้าก้าวเท้ามาอีกก้าว ก็จงรอตายอยู่ที่นี่ได้เลย! 

เมื่อเห็นท่าทางยโสของลูกศิษย์สาวนี้แล้ว ซูจื่อเหลียงก็โกรธจัดและกำลังคิดที่จะลงมือ

แต่ถูกหลินซื่อเฉิงขัดขวางเอาไว้

หลินซื่อเฉิงมองไปยังหญิงสาวทั้งสอง แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า  ไปบอกเจ้าสำนักบ้าบออะไรของพวกแกทั้งสองนั้นด้วย รีบปล่อยตัวลูกสะใภ้และเสี่ยวหลันออกมา วันนี้พวกเราทุกคนจะได้อยู่รอดปลอดภัยไร้กังวล! 

 ไม่เช่นนั้นละก็……. 

 วันนี้จะทำให้สำนักฉีเทียนบ้าบออะไรของพวกแก เลือดไหลนองทั่วแผ่นดินเลย! 

หลินซื่อเฉิงพูดพลาง ลมปราณทั่วร่างก็ระเบิดกระจายออกมาทันที

พลังกดดันที่รุนแรงก็กดดันจนสีหน้าหญิงสาวทั้งสองคน ต่างก็ขาวซีดขึ้นมาทันที ร่างของเธอทั้งสองก็สั่นอย่างรุนแรงไปหมดทั้งตัว

ถ้าหากไม่ใช่หลินซื่อเฉิงควบคุมไว้ละก็ หญิงสาวทั้งสองคนก็จะต้องถูกกลิ่นอายพลังกดดันของเขาสังหารจนตาย โดยไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยซ้ำไป!

หญิงสาวทั้งสองคนสีหน้าขาวซีด นัยน์ตาก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

หลินซื่อเฉิงก็เก็บรวบรวมลมปราณทั้งหมดไว้ ทั้งสองคนจึงถอนหายใจเฮือกอย่างแรง หญิงสาวหนึ่งในนั้นก็รีบกลืนน้ำลาย ข่มความกลัวไว้แล้วพูดว่า  ถึงกับกล้ามาก่อความวุ่นวายที่สำนักฉีเทียนเรา พวกแกรออยู่ที่นี่ก่อนเถอะ! 

พอพูดจบ ก็รีบมองไปยังเพื่อนอีกคน จากนั้นก็หันหลังกลับแล้ววิ่งเข้าไปในสำนัก

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท