จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1121 การเปลี่ยนแปลงในเขาคุนชาง

บทที่ 1121 การเปลี่ยนแปลงในเขาคุนชาง

หลินซื่อเฉิงตกใจ จากนั้นก็คำรามขึ้นอีกครั้ง สิบแปดท่าต้าเต๋าสำแดงออกมาอีกครั้ง!

หลังจากที่หลินหยุนกลับมาจากสหรัฐอเมริกา ก่อนที่เขาจะเก็บตัว เขาก็ได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชานี้ให้กับปู่หลินซื่อเฉิง

ตอนนี้ หลินซื่อเฉิงได้วิชามาบ้างแล้ว

 สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าห้ามสิ่งวายชนม์! 

 สิบแปดท่าต้าเต๋า พลิกฟ้าผ่าตะวัน! 

ท่าห้ามสิ่งวายชนม์ ห้ามสิ่งวายชนม์

จากนั้นก็เห็นฝ่ามือพิฆาตขนาดใหญ่นั้นหยุดลงชั่วครู่หนึ่ง

ในเวลานี้เอง พลังอันน่าสะพรึงกลัวฟ้าดินแตกสลายก็ได้พวยพุ่งออกมา!

ใบหน้าของเจียงยี่เคร่งขรึมขึ้นมา แต่ดวงตาของเขากลับเปล่งประกายสว่างขึ้น

แสงสว่างนั้นเกิดขึ้นอย่างโลภมากหาที่สุดมิได้!

 ฮ่าฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่า ศิษย์ของพวกนายจะมีดีขนาดนี้! 

 น่าเสียดายที่พวกนายยังอ่อนแอเกินไป หากให้พวกนายเข้าสู่แดนยาทองได้ เกรงว่าหากมีฉันอีกสิบคนก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้! ฮ่า ฮ่า ฮ่า! 

 โชคดี นี่คือความโชคดีของฉัน! 

 น้ำท่วมใต้หล้า! 

หลังจากเสียงตะโกนของเขา น้ำบนท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ไหลทะลักลงมา และจมหลินซื่อเฉิงลงไปใต้น้ำในทันที!

ร่างกายของซูหนันไหวไปในพริบตาและรีบช่วยหลินซื่อเฉิง

ในเวลานั้นเอง แสงอีกสายหนึ่งก็ปรากฏวูบขึ้น

มู่หงก็ปรากฏตัวในชุดคลุมสีแดง

เขาเองก็รับรู้ได้ถึงพลังของกฎเกณฑ์ต้าเต๋า

เมื่อเห็นมู่หงกำลังมา เจียงยี่ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มเบิกบานอีกครั้ง  น้องมู่ พวกเรามีโชคใหญ่อีกครั้งแล้ว! อีกทั้งยังเป็นโชคใหญ่ที่ส่งมาถึงหน้าประตู! 

มู่หงยังก็ดวงตาเปล่งสีทองและพูดอย่างตื่นเต้นว่า  พี่เจียง สามคนนี้จะตายไม่ได้แล้ว จะต้องให้เค้นเอาวิชาสืบทอดของพวกเขาออกมา! 

พูดจบ ทั้งสองก็ลงมือพร้อมกัน

หลินซื่อเฉิง ซูจื่อเหลียง และซูหนัน สบตากัน จากนั้นก็แสดงกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา

 สิบแปดท่าต้าเต๋า พลิกฟ้าผ่าตะวัน! 

 กระบี่พิชิตฟ้า! 

 มือทัณฑ์สวรรค์! 

หมัดของหลินซื่อเฉิงที่สามารถทำลายดวงดาวปรากฏออกมาอีกครั้ง

กระบี่พิชิตฟ้าของซูจื่อเหลียงเองก็ปล่อยรังสีสังหารที่สั่นสะเทือนแผ่นดินออกมา

มือทัณฑ์สวรรค์ของก็ถูกปล่อยออกมาทันที หมอกสีดำปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา และใช้เนื้อของเขาเปลี่ยนไปเป็นทหารเทพที่ดุร้ายและวาบออกไป

เมื่อเห็นดังนั้น เจียงยี่และมู่หงก็ตะโกนลั่นขึ้นพร้อมกันว่า  มาได้เวลาดี! ทั้งสามวิชาล้วนเป็นเคล็ดวิชาสืบทอดที่ยอดเยี่ยมอย่างหาที่เปรียบมิได้!น้องมู่ทั้งหมดล้วนเป็นของเรา!น้ำท่วมใต้หล้า! 

มู่หงเองก็หัวเราะลั่นและตะโกนด้วยเสียงเข้ม  คาถาภูติป่า! 

ทันใดนั้น น้ำจากสวรรค์ก็พุ่งลงมาอีกครั้ง

เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลออกมาจากพื้นดินอย่างบ้าคลั่ง!

เถาวัลย์นั้นเหนียวแน่นอย่างยิ่งและเข้าไปพันหลินซื่อเฉิง ซูจื่อเหลียง และซูหนันในทันที จนทำให้ทั้งสามไม่สามารถเคลื่อนไหวได้!

ในเวลานี้ น้ำจากสวรรค์เป็นเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเอ่อเข้ามาจมทั้งสามคนลงไป

ทันใดนั้นทั้งสามก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง และพลังทิพย์ทั้งหมดของพวกเขาถูกปิดกั้นเอาไว้

เมื่อมองไปยังคนทั้งสามที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจียงยี่ก็พูดอย่างเย็นชา  บอกมาเถอะ เคล็ดวิชาพวกนี้นายได้รับการสืบทอดมาจากไหน? 

ทั้งสามคนล้วนมีสีหน้ามืดมนอย่างยิ่ง ซูจื่อเหลียงเยาะเย้ย  อยากรู้ว่าพวกเราได้เคล็ดวิชาสืบทอดมาจากไหน? หึหึ สารเลวอย่างพวกนายก็สมควรได้รับมันหรือไง? 

 ปึง! 

เจียงยี่สะบัดแขนครั้งหนึ่งจนซูเหลียงจื่อถึงกับกระเด็นออกไปในทันที

เขาล้มลงกับพื้นอีกครั้งและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

ใบหน้าของเจียงยี่มืดมนและพูดว่า  คิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าพวกนายจริงๆหรือไง? รีบบอกเคล็ดวิชาสืบทอดของพวกนายออกมา! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ! 

เมื่อเห็นว่า หลินซื่อเฉิงและซูหนันยังคงกัดฟันไม่ยอมเอ่ย เขาก็สะบัดมืออีกครั้ง จากนั้นหลินซื่อเฉิงและซูหนันก็กระเด็นไปอย่างแรงเช่นกัน

ดวงตาของมู่หงที่อยู่ด้านหนึ่งเป็นประกายและกล่าวว่า  พี่เจียง อย่าได้ลงมือหนักเกินไป พวกเรายังมีวิธีให้พวกเขาพูดเคล็ดวิชาสืบทอดอยู่! 

เจียงยี่หัวเราะและพูดว่า  ใช่! 

ทันใดนั้น หวางเจ๋อซึ่งอยู่ข้างหลังก็รีบเร่งเข้ามาและพูดด้วยน้ำเสียงเคารพว่า  ท่านเจ้าสำนักทั้งสอง ผมรู้ว่าเคล็ดวิชาสืบทอดของสามคนนี้มาจากไหน! 

เจียงยี่และมู่หงได้ยินดังนั้นก็ตะลึงไป และรู้สึกไม่เชื่ออยู่บ้าง

เจียงยี่พูดอย่างเย็นชา  นาย? นายรู้ได้อย่างไร ถ้ากล้ามาโกหก นายน่าจะรู้ผลที่ตามมา! 

ขาของหวางเจ๋ออ่อนยวบลง หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึก เขาก็รีบกล่าวว่า  ไม่กล้าครับ ท่านเจ้าสำนักทั้งสองคงเคยได้ยินชื่อหลินชางฉองใช่หรือไม่? 

เจียงยี่และมู่หงพยักหน้า จากนั้นก็พูดด้วยความรังเกียจ  เคยได้ยิน ล้วนบอกกันว่าเขาเป็นเทพเจ้าสงครามของจีน หึหึ แต่ฉันไม่เคยเห็นเขา! 

หวางเจ๋อเอ่ย  หนึ่งในสามคนนี้คือปู่ของหลินชางฉอง! 

 ส่วนสองคนที่เหลือเป็นลูกศิษย์ของหลินชางฉอง! 

 วิชาอาคมเทพเซียนและวิชาต้าเต๋าของพวกเขาล้วนได้รับการสั่งสอนจางหลินชางฉอง! 

 ตอนนี้หลินชางฉองกำลังเก็บตัวการปฏิบัติ! 

 นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ผู้เฒ่าทั้งสองนำกลับมาเหล่านั้น ล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินชางฉอง! 

 หวางซูเฟินและฉินหลันของชางฉองกรุ๊ป คนหนึ่งเป็นแม่ของหลินชางฉอง อีกคนเป็นผู้หญิงของเขา อีหลิงของแห่งตระกูลอีเจียงหนานเป็นคนรักของหลินชางฉอง! 

 ดังนั้นท่านเจ้าสำนักทั้งสองจึงไม่ต้องกังวล เมื่อหลินชางฉองออกมาจากการเก็บตัวเมื่อไหร่ เขาจะต้องเป็นฝ่ายมาหาถึงที่เองแน่! 

 ถ้าท่านเจ้าสำนักทั้งสองรอไม่ไหว ก็สามารถไปยังทะเลสาบเยว่หยา และเป็นฝ่ายจับหลินชางฉองที่เก็บตัวอยู่ออกมาได้! 

เจียงยี่และมู่หงเอ่ยด้วยความตื่นตะลึงยินดี  นายแน่ใจ? 

หวางเจ๋อรีบเอ่ย  ผมไม่กล้าโกหกท่านเจ้าสำนักทั้งสองครับ! 

เจียงยี่และมู่หงมองหน้ากัน จากนั้นก็หัวเราะลั่นออกมา

เจียงยี่เอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า  ใครก็ได้ มาเอาตัวคนทั้งสามไป ยังมีอีก จงพาแม่และผู้หญิงของหลินชางฉองไปที่ถ้ำของฉัน ฉันต้องการเพลิดเพลินกับแม่และผู้หญิงของเขาในขณะที่รอการมาถึงของเขา! 

 รอให้ความเพลิดเพลินสิ้นสุดลง หากหลินชางฉองยังไม่มา น้องมู่ พวกเราก็ไปทะเลสาบเยว่หยากันสักหน่อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า! 

มู่หงเองก็เอ่ยขึ้น  ฮ่าฮ่า ได้ พาอีหลิงนั่นไปที่ถ้ำของฉันด้วย! ยังมีนิ่งโย่วหรง! 

หวางเจ๋อและลูกศิษย์หญิงอีกหลายตอบรับทันที

เขาคุนชาง

โม่เฉินพาคนของสำนักโม่เหมินอีกหลายคนมาช่วยรักษาเสถียรภาพของค่ายกลสี่พิทักษ์

ในเวลานี้เอง ลมเย็นพัดเข้ามาในห้องโถงใหญ่ และมีเงาร่างของคนสองคนปรากฏขึ้นมา

เมื่อเห็นคนทั้งสอง ทุกคนก็ขมวดคิ้ว

โม่เฉินเอ่ยปากถาม  ท่านทั้งสอง เป็นผู้ใด? มาที่เขาคุนชางด้วยเหตุใด? 

หญิงชุดดำเหลือบมองโม่เฉินแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า  ง่ายๆเลย มาเพื่อทำลายค่ายกลสี่พิทักษ์ที่พวกนายอยากจะรักษาเสถียรภาพเอาไว้! ฉันจะให้โอกาสพวกนาย หนีไปตั้งแต่ตอนนี้ซะ แล้วฉันจะไม่ลงมือ! 

 คนที่ไม่ไป ก็จะไม่มีวันได้จากไปอีก! 

พูดจบ กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของหญิงชุดดำก็ถูกปลดปล่อยออกมาในทันที

ผู้อาวุโสมากกว่าสิบในเขาคุนชางต่างตกใจหน้าซีดและสูดหายใจหนาวเหน็บพร้อมกัน

หนึ่งในผู้อาวุโสที่เหลือของตระกูลหวางรีบมองไปที่โม่เฉินและกล่าวว่า  คุณโม่เฉิน ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากอยู่ต่อ แต่ตอนนี้สถานการณ์รุนแรง ขออภัยด้วย ผมต้องไปแล้ว! 

พูดจบ คนนับสิบก็มองผู้หญิงชุดดำด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็ลุกขึ้นออกจากห้องโถงไปอย่างโดยเร็ว

โม่เฉินถอนหายใจและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า  แม่นางมีวิชาล้ำลึก เกรงว่าผมก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ว่า จุดประสงค์ของสำนักโม้เหมินเราก็คือการวางแผนสำหรับคนทั่วไปในโลก ในเมื่อแม่นางยืนกรานแบบนี้ อย่างนั้นก็ได้แต่ต้องลงมือแล้ว! 

หญิงชุดดำเยาะเย้ย  อาศัยนายน่ะหรือ? 

เงาร่างไหววูบไป หญิงสาวชุดดำส่งฝ่ามือนุ่มที่ดูเหมือนค่อยๆ ผลักออกไปช้าๆ แต่กลับทำให้โม่เฉินไม่สามารถหลบหลีกได้เลย จากนั้นมันก็กระแทกเข้ากับหน้าอกของเขาดังปัง

โม่เฉินกระเด็นออกไป จากนั้นก็กระแทกลงบนพื้นอย่างแรง เลือดไหลกระอักออกมาเต็มปาก

หญิงชุดดำมองเขาอย่างดูถูกและพูดอย่างเย็นชา  ตอนนี้ นายยังต้องการหยุดฉันไหม? 

โม่เฉินลุกขึ้นจากพื้น เขาหายใจเข้าลึกแล้วพูดอย่างสงบ  นี่คือหน้าที่! ไม่อาจละเว้น! 

จากนั้น เขาก็หันกลับมามองคนที่อยู่ข้างหลัง  ตั้งค่ายกลเถอะ! 

ค่ายกลแห่งกฎเกณฑ์ ของสำนักโม่เหมิน

ยึดตามกฎเกณฑ์!

เมื่อมีกฎอยู่ ล้วนไม่มีใครสามารถทำลายมันได้

คนทั้งหลายลุกยืนขึ้นทันที จากนั้นร่างของพวกเขาก็เคลื่อนไหววาบผ่านไปล้อมรอบหญิงชุดดำเอาไว้ตรงกลาง

กลิ่นอายที่ปราศจากข้อบกพร่องถูกปล่อยออกมา

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท