เมื่อฉินชิงถงได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายทันที จากนั้นเธอก็พูดอย่างดูถูก มันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้หลินหยุนอาจจะแข็งแกร่งก็จริง แต่เขาก็มีแค่นี้เท่านั้น
คนอวดดีเย่อหยิ่งอย่างเขา ไม่มองใครอยู่ในสายตาเลย ฉันคิดว่าเขาเป็นคนอย่างนี้แหละ อนาคตของเขาคงไม่สามารถประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน!
คนอย่างเขา ไม่สามารถเทียบฉู่เทียนได้เลย
ฉินเหมยส่ายหัวอย่างจำใจ ชิงถง เธอน่าจะเข้าใจยอดฝีมือแดนยาทองผิดไปหรือเปล่า? คุณรู้ไหมว่ายอดฝีมือแดนยาทองคนหนึ่งนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน?
ฉินชิงถงพูดอย่างเย็นชา ฉันรู้อยู่แล้ว! แต่คุณแม่ก็ไม่ต้องพูดโอเวอร์ขนาดนั้น ระหว่างแดนยาทองด้วยกัน ความแข็งแกร่งมันก็ห่างกันราวฟ้ากับดินเหมือนกัน!
และหลินหยุนคนนั้นก็ไม่ได้เป็นยอดฝีมือแดนยาทองจริงๆ!
เขาจะสามารถเข้าสู่แดนยาทองได้หรือเปล่า มันยังเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้!
แต่ฉู่เทียนนั้นไม่เหมือนกัน!
ถ้าเขาเข้าสู่สำนักสุริยันและกลายเป็นศิษย์สายใน เขาจะฝึกฝนถึงแดนยาทอง มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว!
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินชิงถง ทำให้ฉินเหมยอดไม่ไหวและส่ายหัวทันที
เธอหายใจลึกๆอีกครั้งและพูด ชิงถง ทำไมคุณถึงรังเกียจเสี่ยวหยุนขนาดนี้?
ฉินชิงถงพูดอย่างเย็นชา คุณแม่ เรื่องนี้คุณโทษฉันไม่ได้ ฉันไม่ได้รังเกียจเขาเลย!
แต่ฉันขอพูดตามตรง ถ้าคุณยังหวังว่าพวกเราสองคนจะคบหากัน เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ คุณอย่าเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์เลย!
มีอีกเรื่องหนึ่ง ท่านจินเคยพูดไว้แล้ว เขาจะมาหาเรื่องหลินหยุนอย่างแน่นอน!
ฉันขอเตือนคุณ ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็ให้เขารีบออกจากตระกูลฉินของพวกเราเลย ไม่งั้นปัญหาจะตามมาหาพวกเราอย่างแน่นอน!
เมื่อฉินเหมยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็ขมวดคิ้วและพูด อะไรนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ฉินชิงถงพูดอย่างเย็นชา มันจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ ก็ครั้งนี้ท่านจินเสียเปรียบ ด้วยนิสัยและฐานะของเขา คุณคิดว่าเขาจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆเหรอ?
คุณรู้ไหมว่าตอนนั้นหลินหยุนพูดยังไง?
สายตาของฉินเหมยเปล่งประกายและถามอย่างรวดเร็ว เขาพูดยังไง!
ฉินชิงถงพูดด้วยความดูถูก เขาพูดว่า เขารออยู่! เขายังบอกให้ท่านจินพาคนที่อยู่เบื้องหลังมาด้วย ถ้าไม่จัดการทีเดียวมันจะยุ่งยาก เขาอยากจะจัดการปัญหาทั้งหมดพร้อมกัน!
คุณแม่ คุณลองคิดดู ฉันไม่รู้จริงๆว่าเขาเอาความกล้าแบบนี้มาจากไหน!
ถ้าไม่มียอดฝีมือค่อยช่วยอยู่เบื้องหลัง ท่านจินคงไม่กล้าหักหน้าสำนักสุริยันหรอก?
เขาเป็นคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรเลย!
ฉินเหมยขมวดคิ้วทันที และพูดอย่างเหลือเชื่อ เสี่ยวหยุนพูดแบบนี้จริงๆเหรอ?
ฉินชิงถงพูดอย่างเย็นชา มันเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว? ดังนั้นฉันก็เลยบอกให้คุณแม่อย่าไปสนใจเขาอีก ถ้าให้ดีก็ให้เขาออกจากตระกูลฉินโดยเร็ว ไม่งั้นพวกเราจะมีปัญหาตามมาทีหลัง!
ฉินเหมยหายใจลึกๆและพูด พอแล้ว เธอพักผ่อนเยอะๆ ฉันจะไปหาเสี่ยวหยุน!
การมาถึงของฉินเหมยไม่ได้ทำให้หลินหยุนรู้สึกแปลกใจ
เมื่อฉินชิงถงพูดเรื่องนั้นอย่างโอเวอร์ ฉินเหมยก็ต้องมาหาเขาอย่างแน่นอน
น้าฉิน เชิญนั่งก่อน!
เสี่ยวหยุน เรื่องที่เกิดขึ้นในตึกจุ้ยซิงก่อนหน้านี้ เมื่อสักครู่ชิงถงได้มาเล่าให้ฉันฟังแล้ว!
น้าฉินต้องขอบใจคุณมากๆ ถ้าไม่มีคุณอยู่ที่นั่น ชิงถงคงได้รับอันตรายอย่างแน่นอน!
น้าฉินไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณเลย!
หลินหยุนโบกมือและพูดเบาๆ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเป็นคุณชายและคุณหนูของตระกูลใหญ่ ถึงแม้ฉันไม่ลงมือ ฉันคิดว่าคนแซ่จินคนนั้นคงไม่กล้าทำอะไรพวกเขาอย่างแน่นอน!
ฉินเหมยฝืนยิ้มและส่ายหัวทันที เสี่ยวหยุน คุณไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของท่านจิน! เขากล้าลงมือกับชิงถงและคนอื่นๆอยู่แล้ว! เพราะท่านจินคนนั้นมีฐานะที่ไม่ธรรมดาจริงๆ!
อย่างน้อย เขาก็กล้าต่อกรกับสำนักสุริยัน
หลินหยุนสนใจขึ้นมาทันทีและพูด น้าฉิน คนๆนั้นมีฐานะอะไรกันแน่? ทำให้เขากล้าต่อกรกับสำนักสุริยันที่เป็นหนึ่งในสิบแปดสำนักเต๋า?
สีหน้าของฉินเหมยเคร่งขรึมทันทีและพูด คนที่อยู่เบื้องหลังของท่านจิน เป็นกลุ่มพลังที่ลึกลับมากๆ สำนักของพวกเขาชื่อวิหารวิญญาณ! บางทีก็เรียกว่าวิหารผนึกวิญญาณ
วิหารผนึกวิญญาณนั้นแข็งแกร่งมากๆ!
ได้ข่าวมาว่าพวกเขามีแปดประมุขวิหาร
ตะวันออกและตะวันตกมีสี่ประมุข ส่วนใต้และเหนือก็มีสี่ประมุขเหมือนกัน
ประมุขทุกคนต้องเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้าขึ้นไป
ด้วยพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ทำให้พวกเขากล้าต่อกรกับสำนักสุริยันอยู่แล้ว!
ดวงตาของหลินหยุนเปล่งประกายทันที ยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้าขึ้นไปเหรอ? ยังมีแปดคนด้วย ก็นับได้ว่าแข็งแกร่งจริงๆ!
ฉินเหมยรีบพูดทันที เสี่ยวหยุน ตอนนี้คุณล่วงเกินผิดใจกับท่านจิน คุณให้น้าฉินเป็นผู้ใหญ่ พวกเราเตรียมของล้ำค่าแล้วไปขอโทษและคืนดีกับอีกฝ่ายได้ไหม!
หลินหยุนอึ้งไปเลย จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและพูดเบาๆ น้าฉิน ช่างมันเถอะ! ฉันไม่ได้มีนิสัยชอบไปพูดขอโทษและคืนดีกับคนอื่น!
ผ่านไปชั่วครู่ หลินหยุนก็พูดอีกครั้ง น้าฉิน ฉันคิดว่าตัวเองไม่ควรพักในตระกูลฉินอีกแล้ว! ไม่อย่างงั้น อาจจะทำให้ตระกูลฉินเดือดร้อนก็ได้!
เมื่อฉินเหมยได้ยินคำพูดนี้ เธอก็รีบพูดทันที เสี่ยวหยุน คุณอย่าพูดแบบนี้เลย คุณมาที่เมืองมี่หยุนก็เพื่อมาหาน้าฉินไม่ใช่เหรอ
คุณต้องเจอปัญหาแบบนี้เพราะลูกสาวของน้าฉิน น้าฉินจะไล่คุณออกจากตระกูลฉินได้ยังไง?
มันไม่สมเหตุสมผลเลย?
หลินหยุนอยากจะเอ่ยปากพูด แต่ก็โดนฉินเหมยพูดขัดจังหวะทันที เสี่ยวหยุน ไม่ต้องพูดแล้ว น้าฉินไม่เห็นด้วยที่คุณจะออกจากตระกูลฉิน!
เมื่อได้ยินฉินเหมยพูดถึงขนาดนี้แล้ว หลินหยุนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ในเมื่อเธออยากให้ตัวเองอยู่ที่นี่ ถ้างั้นก็อยู่ที่นี่ละกัน!
สำหรับเขาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
ฉินเหมยมองหน้าหลินหยุน แต่สายตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและพูด เสี่ยวหยุน คุณฟังที่น้าฉินพูดได้ไหม พวกเราไปขอโทษท่านจินกันเถอะ?
คุณน้าวางใจ สำหรับขอขวัญ น้าฉินจะเป็นคนเตรียมให้เอง!
หลินหยุนส่ายหัวเบาๆและพูด น้าฉิน พวกเราไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้! ถ้าเขาแน่จริง ก็ให้เขามาหาฉันได้เลย!
ฉินเหมยยังอยากจะพูดเกลี้ยกล่อมหลินหยุนอีก
แต่เมื่อเห็นความแน่วแน่ของหลินหยุน ทำให้เธอไม่รู้จะพูดอะไรอีก
จากสีหน้าและสายตาของหลินหยุน เธอสัมผัสไม่ได้ถึงความรู้สึกหวาดกลัวจากเขาเลย
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมหลินหยุนถึงได้มั่นใจขนาดนี้
บางทีอาจจะเป็นเพราะสำนักหยุนเยว่?
แต่เมืองมี่หยุนห่างจากสำนักหยุนเยว่มากๆ
ดังคำพูดที่ว่า น้ำที่อยู่ไกลออกไป ช่วยดับไฟตรงนี้ไม่ได้
เมื่อถึงเวลานั้น ถึงแม้จะเอ่ยชื่อสำนักหยุนเยว่ออกมา อีกฝ่ายก็คงไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว
ฉินเหมยสูดลมหายใจลึกๆอีกครั้ง เธอพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เสี่ยวหยุน น้าฉินจำเป็นต้องเตือนคุณ ถึงแม้คุณจะเอ่ยชื่อสำนักหยุนเยว่ออกมา เมื่อถึงเวลานั้น อีกฝ่ายก็คงไม่เกรงกลัวและอาจจะลงมือเหมือนเดิม!
หลินหยุนพูดเบาๆ น้าฉิน ฉันไม่เคยอาศัยชื่อเสียงและบารมีของสำนักหยุนเยว่เลย! ฉันอาศัยแค่ตัวเองเท่านั้น!
สายตาของฉินเหมยเปล่งประกายมันที เธออดไม่ไหวและถาม เสี่ยวหยุน คุณบอกกับน้าฉินมาตามตรง พลังของคุณในตอนนี้ ฝึกฝนถึงขั้นไหนแล้ว? คุณ……ยังฝึกฝนไม่ถึงแดนยาทองใช่ไหม?
หลินหยุนพยักหน้าและพูด ยังไม่มีครับ
หลินหยุนไม่ได้พูดออกมา ประเภทยาทองของท่านจิน เขาไม่อยากได้ยาทองประเภทนี้อยู่แล้ว!
ในสายตาของเขา ยาทองประเภทนั้น มันอ่อนแอเหมือนกับมดตัวเล็กๆ
ถึงแม้ตอนนี้เขายังไม่ได้ฝึกฝนแดนยาทองสำเร็จ แต่ก็สามารถฆ่าเขาด้วยกระบวนท่าเดียว!
ถ้าอีกฝ่ายไม่มาหาเรื่องเขาอีก เขาก็ไม่อยากสนใจเรื่องนี้แล้ว!
ถ้าอีกฝ่ายกล้ามาจริงๆ……
ก็อย่าหาว่าตัวเองรังแกเขาละกัน!
เมื่อฉินเหมยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็ตกตะลึงมากๆ สีหน้าของเธอดูแย่ลงทันที