ครุ่นคิดเล็กน้อย
ดวงตาที่งดงามของหยุนหลานก็ได้เคลื่อนไหวไปมา และรีบนำขวดหยกออกมาเพิ่มอีกสองใบ โดยที่ได้นำยาข้ามอุปสรรคทั้งสามเม็ดนั้นแบ่งแยกบรรจุลงไปในแต่ละขวด
จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ตลาดทันที
เธอไม่ได้ไปที่หอไป่เต้า
เพราะว่ายาข้ามอุปสรรคนั้นหอไป่เต้าเป็นผู้คิดค้นขึ้น
ถ้าหากจำหน่ายที่หอไป่เต้าสักหนึ่งเม็ด ก็ถือว่ากำลังพอดี
แต่หากสามเม็ดก็มากเกินไปแล้ว!
ไม่พูดถึงว่าหอไป่เต้าจะทานหรือไม่ แต่คงจะเกิดความสงสัยขึ้นอย่างแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นสถานะนักกลั่นยาของหลินหยุนอาจจะปกปิดเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
โดยจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง ก็ไม่อาจทราบได้
แต่คงจะสร้างปัญหาความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นมาให้กับหลินหยุนอย่างแน่นอน
จากลักษณะนิสัยของหลินหยุนแล้ว เขาเองคงจะไม่พอใจ
คิดถึงตรงนี้ หยุนหลานจึงไปที่หอชุนยี่ก่อน
แล้วก็ไปที่หอมี่หยุน
ตลาดสองแห่งนี้ แม้ว่าจะมีภูมิหลังที่ไม่ดีเท่ากับหอไป่เต้า แต่ก็ยังถือว่ามีศักยภาพพอใช้ได้!
เมื่อหยุนหลานนำยาข้ามอุปสรรคออกมา ก็กลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากขึ้นทันที
โอสถชนิดนี้ คือสิ่งล้ำค่าที่มีความต้องการสูงมากอย่างแน่นอน
หอชุนยี่ได้เสนอให้ที่ราคาน้ำชี่ทิพย์สามพันแปดร้อยหยด
หอมี่หยุนยิ่งใจกว้างมากกว่า ให้ที่ราคาสี่พันหยด
สุดท้ายก็มาถึงที่หอไป่เต้า ซึ่งราคานั้นก็ค่อนข้างต่ำเล็กน้อย โดยเสนอให้ที่ราคาน้ำชี่ทิพย์สามพัน
ห้าร้อยหยด
หยุนหลานก็ตกลงแล้ว
ยาข้ามอุปสรรคสามเม็ด ได้น้ำชี่ทิพย์มาหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสามร้อยหยด
นี่ถือว่าเป็นตัวเลขที่มีมูลค่าสูงมากทีเดียว
ต่อให้พวกเธอตระกูลหยุน หากตอนนี้คิดจะนำน้ำชี่ทิพย์จำนวนมากขนาดนี้ออกมา ก็คงเป็นเรื่องยาก
เมื่อได้น้ำชี่ทิพย์แล้ว หยุนหลานก็รีบกลับไปยังโรงกลั่นยาทันที
และพูดกับหลินหยุนว่า ยาข้ามอุปสรรคสามเม็ด ได้น้ำชี่ทิพย์มาหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสามร้อยหยด ซึ่งฉันได้นำสามร้อยหยดที่นำไปซื้อสมุนไพรออกมาแล้ว ส่วนที่เหลือก็อยู่ตรงนี้ทั้งหมดแล้ว!
หลินหยุนเคลื่อนสายตาเล็กน้อย แล้วก็นำน้ำชี่ทิพย์หนึ่งหมื่นหนึ่งพันหยดแบ่งครึ่งออกเป็นสองส่วน
ฉันพูดเอาไว้แล้วว่า พวกเราแบ่งกันคนละครึ่ง!
ส่วนครึ่งนี้ เป็นของเธอ!
ได้ยินที่หลินหยุนพูดแล้ว แม้ว่าหยุนหลานจะเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังคงสูดหายใจลึก
ตกตะลึงกับความใจกว้างของหลินหยุนอย่างมาก
นี่คือน้ำชี่ทิพย์จำนวนห้าพันห้าร้อยหยดเลยทีเดียว!
ซึ่งไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย!
หยุนหลานรีบส่ายศีรษะและพูดว่า ไม่ได้ ฉันไม่สามารถรับมันไว้ได้!
หลินหยุนก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า ทำไมล่ะ?
หยุนหลานสูดหายใจลึก และพูดว่า น้ำชี่ทิพย์เหล่านี้มันมากเกินไป!
อีกอย่าง ฉันเองก็แค่ช่วยคุณไปซื้อสมุนไพรเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ออกแรงช่วยอะไรเท่าไร!
ข้อสาม ฉันถือว่าคุณเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉัน และยังเป็นเพื่อนฉันด้วย แล้วฉันจะรับมันไว้ได้
อย่างไรล่ะ?
สมเหตุสมผล
เพราะคิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
หลินหยุนได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า งั้นก็ตกลง แต่อย่างไรก็ต้องรับเอาไว้บ้าง
ขณะที่พูด ก็ได้แบ่งน้ำชี่ทิพย์สองพันหยดให้กับหยุนหลาน
คราวนี้หยุนหลานก็ไม่ได้ทำการปฏิเสธใด ๆ แล้วก็รับมันเอาไว้
หลินหยุนเองก็เก็บน้ำชี่ทิพย์จำนวนเก้าพันหยดขึ้น
หยุนหลานพูดขึ้นว่า ตอนนี้ยังคงมีเวลาอยู่ พวกเราไปทานอะไรกันก่อน หลังจากนั้นก็ไปที่หอไป่เต้าเพื่อเข้าร่วมงานประมูล!
หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วก็พยักหน้าตกลง
ทั้งสองคนออกมาจากโรงกลั่นยา
หลังจากที่ไปทานอะไรกันเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไปที่หอไป่เต้า
คืนนี้ที่หอไป่เต้า คึกคักรื่นเริงเป็นพิเศษ
รถเมฆหรูหราทีละคันทีละคันขับมาจอดที่หน้าประตู
โดยมีคนลงมาจากรถและได้รับการต้อนรับเข้าสู่ภายในหอเป็นระยะ ๆ
หยุนหลานได้พาหลินหยุนมาถึงที่หน้าประตู
โดยที่ทั้งสองคนได้หยุดยืนอยู่ในระยะไกลออกไป
หลินหยุนถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า ตระกูลหยุนของพวกเธอคงจะมีคนอื่นมาร่วมงานนี้ด้วยล่ะสิ? โดยตระกูลระดับตระกูลหยุนของพวกเธอ คงจะได้รับโควตาจำนวนคนเข้างานค่อนข้างเยอะใช่ไหม?
หยุนหลานพูดว่า แต่ละตระกูลจะมีโควตาเข้าร่วมงานสามคน ในครั้งนี้พวกเราตระกูลหยุนไม่เข้า
ร่วมงานประมูล ดังนั้นโควตาผู้เข้างานจึงถูกฉันนำมาหมดแล้ว!
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า งานประมูลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ตระกูลหยุนทำไมถึงไม่เข้าร่วมงานล่ะ?
หยุนหลานได้ยินดังนั้นก็ถึงกับเงียบลงเล็กน้อย และพูดขึ้นเบา ๆ ว่า ตระกูลหยุนมีอุปสรรคปัญหา
อยู่บ้าง ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้!
หลินหยุนพยักหน้า โดยที่ไม่ถามต่อไปอีก
ทั้งสองคนเดินตรงไปที่หน้าประตู
ยื่นบัตรเชิญ แล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าไปด้านใน
สถานที่จัดงานประมูลมีขนาดใหญ่และกว้างขวางอย่างมาก
แบ่งออกเป็นสองชั้นโดยมีชั้นบนและชั้นล่าง
และยังมีห้องเดี่ยวส่วนตัวด้วย
เตรียมไว้ใช้สำหรับรองรับพวกแขกผู้มีเกียรติระดับสูง
หลินหยุนกับหยุนหลานถือบัตรเชิญธรรมดา ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปในห้องเดี่ยวส่วนตัวได้
ดังนั้นจึงหาที่นั่งในมุมหนึ่งของห้องโถงแล้วก็นั่งลง
ไม่นานก็มีคนพบเห็นว่าเขามาร่วมงาน
จึงได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เบา ๆ กันขึ้น
ตอนนี้ ทั่วทั้งเมืองมี่หยุน หากจะพูดว่าชื่อของใครที่ถูกกล่าวขานกันมากที่สุดนั้น ก็คงจะคือหลินหยุนอย่างแน่นอนแล้ว
ไอ้หนุ่มนี้ทำไมถึงได้มาร่วมงานประมูลด้วย?
ดูเหมือนว่า จะมาด้วยกันกับคุณหนูตระกูลหยุน?
ไอ้หนุ่มนี้เพิ่งจะออกมาจากตระกูลฉิน ก็ไปผูกมิตรกับคุณหนูของตระกูลหยุนแล้ว?
ช่างเยี่ยมยอดเสียจริง!
จะเป็นอะไรไป ไอ้หนุ่มนี้มีวิชาบำเพ็ญที่แข็งแกร่ง หากว่าไปที่ตระกูลของนาย นายจะไม่เต็มใจ
ยอมรับเหรอ?
ฉันไม่เต็มใจเด็ดขาด!
ท่านจินหลบหนีไปแล้ว เมื่อหากคำนวณตามเวลาแล้ว คนของวิหารผนึกวิญญาณเกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะมาถึง ไอ้หนุ่มนี้คงต้องพบกับความโชคร้ายอย่างแน่นอน!
ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ไอ้หนุ่มนี้ก็ช่างโอ้อวดเสียจริง ยังจะกล้าอยู่ที่เมืองมี่หยุนโดยไม่หลบหนีไปอีก!
เหอะเหอะ นี่ก็คือการที่ไม่รู้จักความเป็นความตายล่ะสิ!
นี่คือความโง่เขลาต่างหาก!
แม้แต่วิหารผนึกวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา อีกไม่นานก็คงจะต้องตายลงอย่างน่าอเนจอนาถ!
แม้ว่าความโอ้อวดกำเริบเสิบสานของหลินหยุนนั้น จะทำให้ทุกคนต่างพากันเหยียดหยามเป็น
อย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาหาเรื่องสร้างความวุ่นวาย
เพราะว่าหลินหยุนมีพลังความสามารถที่น่าเกรงกลัวอย่างที่สุด
ในขณะนี้เอง ก็มีคนเดินเข้ามา
ทุกคนล้วนหันไปมอง
ซึ่งก็คือฉู่เทียนกับฉินชิงถง
สองคนนี้ โดยเฉพาะฉู่เทียนแล้ว หลังจากที่สำนักสุริยันได้รับเข้าเป็นศิษย์สายในที่สำคัญแล้ว ก็มีสถานะที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไม่มีใครกล้ามองข้ามอีก
เวลานี้ได้พาฉินชิงถงมาด้วย ทั้งสองคนคือชายหล่อหญิงสวย เติมเต็มซึ่งกันและกัน เมื่อเดินเข้ามาก็ได้รับการชื่นชมจากผู้คนจำนวนไม่น้อย
เมื่อหลินหยุนเห็นสองคนนี้แล้วก็เก็บสายตากลับทันที
หยุนหลานที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วก็อดหัวเราะเหอะเหอะไม่ได้ และพูดขึ้นเบา ๆ ว่า ทำไมเหรอ เห็นหญิงสาวที่เกือบจะกลายเป็นคู่ฝึกฝนของตนเอง อยู่ด้านข้างของผู้ชายอีกคนหนึ่ง จึงไม่มีความสุขแล้วล่ะสิ?
หลินหยุนมองไปที่หยุนหลาน และพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า หล่อนคิดที่จะเป็นผู้หญิงของฉันน่ะเหรอ? ยังไม่คู่ควร!
หยุนหลานเหลือบตาขาวใส่
คนอะไรเนี่ยะ?
ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!
และก็ไม่รู้ว่าคนผู้นี้ผุดออกมาจากที่ไหนกัน!
แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลินหยุนนั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน!
ที่สำคัญก็คือ แม้แต่ยาข้ามอุปสรรคยังสามารถกลั่นได้ และยังใช้มือกลั่นอีกด้วย!
หยุนหลานถึงขั้นเกิดความสงสัยขึ้นว่า เป็นไปได้ที่หลินหยุนจะมีความสัมพันธ์กับหอไป่เต้าอยู่บ้าง
แต่ก็ยังไม่แน่ใจ
เพราะว่าระดับชั้นของยาข้ามอุปสรรคที่หลินหยุนกลั่นขึ้นนั้น ดีกว่ายาข้ามอุปสรรคของหอไป่เต้าอย่างชัดเจน
หลังจากที่ฉู่เทียนกับฉินชิงถงได้ทำการทักทายกับผู้คนบ้างแล้ว ก็นั่งลงที่นั่งบริเวณแถวหน้าสุด
โดยทั้งสองคนได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนไปแล้ว
แน่นอนว่า ก็ทำให้บางคนเกิดความไม่พอใจขึ้น โดยเฉพาะพวกนักพรตบางคนที่ไม่ได้อยู่ในเมือง
มี่หยุน
แต่ก็ไม่ได้มีการพูดจาอะไร
ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่ไว้หนวดสองข้าง ก็ได้เดินเข้ามา
เห็นคนนี้แล้ว สายตาของทุกคนต่างก็จ้องมองกันไปทั้งหมด และตกตะลึงขึ้นอย่างที่สุด
เพราะว่าชายวัยกลางคนผู้นี้มีลมหายใจที่แข็งแกร่งดุดันเป็นอย่างมาก
คนผู้นี้คือใคร?
ช่างมีลมหายใจที่แข็งแกร่งดุดันมากขนาดนี้!
ไม่ใช่คนในเมืองมี่หยุนของพวกเรา น่าจะเป็นคนที่มาจากต่างพื้นที่!
ออกห่างเอาไว้สักหน่อยดีกว่า เพราะดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร!